บทที่ 27 ปะทะ
“รีบพาผู้คุมเข้ามาในห้องนี้ก่อนแล้วปิดประตูให้เหมือนเดิมซะ..นายจะต้องเป็นคนไปบอกนักโทษทุกคนตามแผน..”
ฟูเหลารีบพูดเตือนยาจกซูหลินที่ทำท่าทางงงๆอยู่ หลังจากจัดการผุ้คุมได้แล้ว
ชายหนุ่มรีบลากตัวผู้คุมเข้ามายังห้องขังแล้วปิดประตู ก่อนที่จะรีบไปห้องขังอื่น เพื่อแจ้งข่าวตามที่ได้คุยกันเอาไว้เรื่องการแหกคุก โอเกอร์ยังคงยืนดูการต่อสู้ระหว่างกลุ่มโจรสลัดด้านนอก กับสัตว์อสูรวาฬหมึกที่ตอนนี้ฝั่งโจรสลัดกำลังได้เปรียบด้านจำนวนคน และดูเหมือนว่า สัตว์อสูรวาฬหมึกจะเริ่มล่าถอยกลับลงทะเลไปแล้ว
“มีเวลาไม่มาก..หมอนั่นต้องรีบหน่อยแล้ว ไม่งั้นพวกมันเจอเขาแน่..”
ฟูเหลารีบพูด เพราะดูจากสถานการ หากช้ากว่านี้ ความวุ่นวานข้างนอกก็จะจบลง พวกเขาก็จะไม่มีโอกาสได้หนีอีกต่อไป
“ไม่!!เรารอเขาไม่ได้แล้ว!!”
โอเกอร์รีบวิเคราะห์ก่อนจะตัดสินใจหยิบเกราะระดับสูงและอาวุธคู่ใจของเขาขึ้นมา
“พวกนายรีบเตรียมตัวซ่ะ!! เราต้องเปลี่ยนแผนตอนนี้!!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นทุกคนต่างรีบเปลี่ยนอุปกรณ์และชุดที่สวมเป็นไอเทมระดับสูงที่มีทั้งหมดทันที ฟูเหลาในชุดผ้าคลุมสีขาวอ่านข้อมูลและทักษะของถุงมือคู่ใหม่ที่ได้โดยละเอียดเพื่อเตรียมใช้งาน แผนการในครั้งนี้ค่อนข้างสุ่มเสี่ยงเป็นอย่างมาก พลาดก็คือจบ เพราะฉะนั้นเขาไม่สามารถประมาทใช้อาวุธที่ตัวเองยังไม่ได้ศึกษาได้
“เอาล่ะ..เราจะทำลายกำแพงตรงช่องลมนี่แล้วออกไปข้างนอกกัน..ลุงลูก้าช่วยรออยู่ที่นี่แล้วแจ้งให้ทุกคนรู้หลังจากยาจกซูหลินกลับมาหน่อยนะครับ”
โอเกอร์รีบพูด
“ได้เลย..ข้าจะบอกให้เขารีบไปสมทบกับพวกเจ้าข้างบน…”
ลูก้าพูด
“พวกเราเหอะจะเอายังไง? ออกไปก็รอดยากนะ..”
เทพอัศนีพูดเตือนขึ้นอีกครั้ง โอเกอร์ทำท่าทางลำบากใจเพราะเขาเองก็ไม่คิดว่าการแหกคุกนี้ออกไปข้างนอก เพื่อไปเจอผู้เล่นกว่าหลายสิบคนที่มีระดับไม่ต่ำกว่า 40 จะเป็นความคิดที่ดีมากนัก เพียงแต่ถ้าไม่ใช้โอกาสช่วงชุลมุนนี้จะไม่มีโอกาสให้หนีไปได้อีกครั้งอย่างแน่นอน
“ไม่จำเป็นต้องปะทะ..”
จู่ๆฟูเหลาก็พูดขึ้นพร้อมกับชะโงศีรษะไปยังช่องลม
“พวกนายออกไปแล้วช่วยป่วนพวกมันที ฉันจะไปเตรียมเรือหลบหนีเอง..”
ชายหนุ่มพูดเสนอขึ้น
“นายจะบ้าหรอ!! คนเต็มห้องขัง 10 ห้อง นายจะพาไปยังไงหมด..”
เทพอัศนีพูดแย่ง เพราะตัวเขาเองยังไม่คิดเลยด้วยซ้ำว่าออกไป 4 คนจะชิงเรือเพื่อช่วยคนทั้งหมดได้
“งั้นเราคงต้องยึดเรือรำนี้..”
ฟูเหลาพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ตอนนี้สมองของเล่นแล่นเร็วยิ่งก่ารถไฟความเร็วสูงซะอีก ชายหนุ่มลองนิ่งคำนวนความเป็นไปได้สักพักก่อนจะพยักหน้ากับตัวเอง
“มีแผนอะไรฟูเหลา?”
โอเกอร์เอ่ยถามขึ้นเพื่อความแน่ใจ
“เราไม่สามารถยึดเรือนี้ได้ทั้งหมดอยู่แล้ว..แต่ถ้าเรายึดส่วนที่จะสามารถขับเคลื่อนเรือได้เราก็จะเปลี่ยนทิศทางไม่ให้ไปฟรานด์ได้..”
ฟูเหลาเริ่มอธิบายแผนการ ในระหว่างที่กำลังอธิบายอยู่นั้นยาจกซูหลินก็กลับเข้ามายังห้องขังเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับแจ้งข่าวว่าทุกคนพร้อมจะรอจังหวะหลบหนี ซึ่งทำให้ทุกคนในห้องต่างใจชื้นขึ้นเล็กน้อย
“ที่นี่มีห้องเครื่องซึ่งอยู่ข้างบน..ก่อนอื่นเราต้องแยกเป็นสองทีม..คือทีมที่จะแอบเข้าไปห้องเครื่องข้างบนและทีมที่จะสร้างความปั่นป่วนนอกห้องขังนี้..ในช่วงที่มันเผลอเราจะให้ทุกคนแหกคุกออกมาพร้อมกันและทำลายมิติห้องเรือห้องนี้ซะ แล้วพอพวกมันแห่กันมา เราจะให้ทุกคนวิ่งเข้ามาในห้องนี้แล้วล็อคไม่ให้พวกมันเข้าแล้วค่อยหนีออกทางกำแพงที่เราระเบิดทิ้งไว้เพื่อขึ้นไปสมทบบนเรือ..”
ฟูเหลาใช้นิ้ววาดรูปแผนการบนพื้น
“อย่างงี้ถ้ามันพังประตูห้องขังเข้ามามันก็ออกทางผนังที่เราทำลายได้เหมือนกันนะแถมมันจะออกทางประตูที่เข้าก็ยังได้..”
ยาจกซูหลินออกความคิดเห็น
“ไม่!! ถ้ามันปีนขึ้นมาจากกำแพงที่เราทำลายแล้วขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือ เราจะให้คนอื่นๆช่วยสอยมันตกทะเลไป ไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกนะที่ปีนไปด้วยแล้วสู้ไปด้วยได้..ส่วนในด้านทางเข้าก็เหมือนกันเราจะให้คนบางส่วนประจำอยู่ตำแหน่งนั้น แล้วช่วยกันเอาไว้จนกว่าเราจะเตรียมเรือเล็กเสร็จแล้วหนีด้วยเรือเล็กแทนถ้ามีโอกาส เพราะถ้าเรายึดเรือลำนี้ฉันคิดว่าคงเป็นไปได้ยากแต่ถ้าถ่วงเวลาให้พวกเราเป็นคนควบคุมเรือคงพอจะทำได้บ้าง และเราจะต้องช่วยกันพวกมันไม่ให้มันออกมาจากชั้นห้องขังนี้ได้ฉันคิดว่ามันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้...”
ทุกคนพยักหน้ารับคำรวมถึงลูก้าก็เช่นกัน เขาบิดขี้เกียจไปมาก่อนจะมองออกไปยังทะเล
“รีบหน่อยละกันก่อนที่พายุจะมา..และพวกเราจะออกห่างจากเกาะเริ่มต้นไปมากกว่านี้..เราออกจากเกาะเริ่มต้นมาราวๆ 5 ชั่วโมง ซึ่งหมายความว่าออกมาเกือบๆ 50 กิโลเมตรจากชายฝั่งแล้ว...”
ลูก้าพูด
“ยาจกซูหลิน..นายไปบอกทุกคนเลย..แผนการเริ่มแล้ว!!”
ยาจกซุหลินพยักหน้ารับคำก่อนจะใช้ทักษะจำแลงกลายร่างเป็นงูแล้วออกจากห้องขังไป ทุกคนในห้องต่างกระชับอาวุธเพื่อเตรียมความพร้อม ฟูเหลาปลดปล่อยทักษะปราณมังกรหยกออกมาพร้อมๆกับเทพอัศนีและเทพคันศรที่ปล่อยเพลิงมังกรหยกออกมา ทักษะสองทักษะนี้มีความคล้ายคลึงกันมากเพียงแต่ปราณมังกรหยกคือทักษะที่มีพลังโจมตีสูงกว่าไม่เหมือนทักษะเพลิงมังกรหยกที่มีประสิทธิภาพในด้านการเผาผลาญศัตรูแต่ก็มีพลังในการโจมตีเหมือนกัน..
“พวกนาย..มีทักษะแจ๋วๆแบบนี้กันตั้งแต่เมื่อไหร่..?”
โอเกอร์พูดก่อนจะปล่อยทักษะออกมาบ้าง
“ทักษะใจหอก!!”
ปลายหอกของโอเกอร์เปล่งแสงสีฟ้าสว่างจ้า ทุกคนในห้องเงียบสงัดเพื่อรอฟังจังหว่ะจากนักโทษคนอื่นตามแผน ตึ่ม!!! เสียงระเบิดดังขึ้นนอกห้องขังของพวกฟูเหลา..ทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเองในทันที หมัดของฟูเหลาถูกปล่อยออกไปสุดแรงตรงไปที่กำแพงพร้อมๆกับหอก ดาบ และลูกธนูของเพื่อนทั้งสาม บึ้ม!!!!!
แรงระเบิดทะให้เรือถึงกับสั่น..เหล่าโจรสลัดที่ได้ยินเสียงระเบิดต่างแตกตื่นและส่งกำลังคนลงมายังห้องขังชั้นล่างแต่ก็สายไปเสียแล้ว เมื่อพบว่าเหล่านักโทษของพวกเขาต่างแหกออกมาจาคุกพร้อมกับเตรียมบุกโจมตี
“บัดซบ!! มันออกมาได้ยังไงว่ะ!!”
กัปตันหนวดพูดขึ้นอย่างหัวเสีย
“ผมจัดการเองครับ!!”
ลูกน้องคนสนิทรีบออกตัวก่อนจะลงไปใต้เรือเพื่อจัดการกับนักโทษ
“พวกเราลุยเลย!!!”
ยาจกซูหลินตะโกนขึ้น
“เฮ้!!!”
เหล่านักโทษจากหลากหลายเผ่าพันธุ์ต่างกู่ร้องเสียงดัง นักโทษเผ่าภูติใช้ทักษะบางอย่างทำให้กลุ่มพันธมิตรมีกำลังเพิ่มขึ้น ฟูเหลา เทพอัศนี เทพคันศร และโอเกอร์เห็นจังหวะดี จึงรีบชิ่งขึ้นไปบนเรืออย่างรวดเร็ว
“เห้ย!! พวกมันหนีมาทางนี้!!”
หนึ่งในโจรสลัดตะโกนเรียกพักพวกก่อนจะรีบหาเชือกเพื่อโรยตัวลงมาจัดการกับพวกฟูเหลา ฝ่าว.. ฉึก!! ลูกธนูของเทพคันศรพุ่งตัดเชืออย่างแม่นยำ
“อ๊ากกก….”
โจรสลัดคนนั้นตกลงไปในทะเลก่อนที่จะโดนสัตว์อสูรวาฬหมึกกลืนลงไป กร๊วบ!!
“รีบไปเร็วอันตราย!! ”
โอเกอร์ขว้างหอกไปปักข้างเรือสุดแรง ฉึก!! เขากระโดดคว้าหอกที่ปักอยู่ก่อนจะเหวี่ยงตัวเองขึ้นบนเรือไป ฟูเหลาไม่รอช้ากระโดดจับด้ามหอกของโอเกอร์บ้างแล้วเหวี่ยงตัวขึ้นไปบนเรือตามมาด้วยเทพอัศนีและเทพคันศรที่หยิบหอกของโอเกอร์มาคืนก่อนที่ทุกคนจะเริ่มตั้งท่าต่อสู้
“ทักษะอสูรแรงต้านทาน!!”
ฟูเหลาเรียกชื่อหนึ่งในทักษะใหม่ออกมา มือของเขามีคลื่นที่มองไม่เห็นถูกดูดรวมเข้าไปที่ถุงมือก่อนจะทำการชกลงไปที่พื้นแล้วเกิดเป็นคลื่นแรงดันผลักออกไปเป็นวงกว้างสร้างเป็นโดมที่คนภายนอกไม่สามารถเข้ามาในวงได้ และทุกอย่างจะถูกดีดออกเมื่อสัมผัสกับคลื่นโดมรอบๆที่ฟูเหลาปล่อยไว้ป้องกันเขาและเพื่อนๆ ฟึ่ม!!!
“ฆ่ามัน!!”
กัปตันหนวดสั่งการก่อนจะหันไปสั่งกาลูกน้องอีกกลุ่มให้ต้านทานสัตว์อสูรวาฬหมึกไว้ด้วย
“ย๊ากก!!”
ลูกน้องโจรสลัดโง่ 3 คนวิ่งถือดาบเข้ามาหมายจะทำผลงานให้กัปตันหนวดชื่นชม แต่เมื่อสัมผัสกับคลื่นแรงดันโจรสลัดทั้งสามก็ถูกคลื่นดีดอย่างรุนแรง ฟึ่ม ฟึ่ม ฟึ่ม!!! แรงดีดที่ผลักทั้งสามรุนแรงจนทำให้โจรสลัดทั้งสามปลิวกระเด็นออกนอกทะเลห่างจากตัวเรือหลายเมตร..
“พวกเขากำลังเสียเปรียบแล้ว..”
โอเกอร์พูดขึ้น
“เราควรเร่งเช่นกัน วาฬหมึกกำลังจะแพ้พวกมันและฉันคิดว่าหากมันส่งกำลังเสริมลงไปสมทบกับพวกที่อยู่ข้างล่าง ฉันว่าเราไม่รอดแน่..”
ฟูเหลาออกความเห็น
“อีกอย่างทักษะนี้อยู่ได้ 1 นาทีเท่านั้นใช้ได้อีกทีคือ 5 นาทีข้างหน้า..นายคิดจะทำอะไรรีบทำซ่ะไม่งั้นเมื่อทักษะนี้หยุดพวกเราจะตกอยู่ในอันตราย..”
โอเกอร์พยายามมองไปรอบๆเพื่อประเมินสถานการณ์อีกครั้งก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา
“เห้ออ..คงไม่มีทางเลือก..”
ชายหนุ่มล่วงมือหยิบระเบิดประดิษฐ์ที่เป็นระเบิดไฟขึ้นมา
“ต้องใช้มันจริงๆหรอ?”
เทพอัศนีถามด้วยสีหน้ากังวล
“นั่นดิ..มันจะแรงจนเป่าเรือหายไปครึ่งลำป่าวว่ะ..”
เทพคันศรเองก็ระแวงเช่นกันและเมื่อโอเกอร์หันไปหาฟูเหลาๆเองก็ทำท่ากลืนน้ำลายด้วยความวิตก
“เรามีทักษะแจ๋วๆก็จริงแต่ระดับของพวกแกฉันพูดตรงๆคือยังกากมาก!! นี่ดีที่มีทักษะหายากไม่งั้นตอนนี้พวกนายคงโดนพวกมันจับโยนไปให้ไอ้วาฬหมึกนั่นงาบไปแล้ว!!”
โอเกอร์พูด
“เอาว่ะ!! เสี่ยงดู!!”
ฟูเหลาตอบรับก่อนจะหันหน้าไปหาเทพคันศรและเทพอัศนีที่ทำท่าพยักหน้าพร้อมกัน
“ทักษะฉันจะหายไปใน 3.. 2.. 1.. ... 0 เอาเลย!!”
สิ้นคำพูดคลื่นแรงดันก็สลายไป โอเกอร์ขว้างระเบิดในมือสุดแรง โจรสลัดบางคนสังเกตทันว่าสิ่งที่โยนมาคืออะไรจึงรีบกระโจนหนีไปคนละทิศคนละทาง
“ระวัง!!มันขว้างระเบิด!!”
ลูกน้องโจรสลัดคนหนึ่งตะโกนขึ้น กัปตันหนวดถึงกับกระโดดหลบไปหลังเสาเรือ แต่แล้วสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น..ทันทีที่ระเบิดสัมผัสกับพื้น ฟูเหลาและเพื่อนๆต่างก็กระโดดไปคนละทิศเพื่อหาที่หลบ ปัง!!! ฟี้....
ทุกคนบนดาดฟ้าเรือต่างใช้มือกุมศีรษะของตนพร้อมกับหลับตาด้วยความกลัว จนเมื่อเวลาผ่านไปราวๆ 1 นาที ทุกคนบนดาดฟ้าเรือก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างแปลกไป พวกเขาค่อยๆลืมตาขึ้นพร้อมกับมองไปที่ระเบิด ควันจางๆลอยออกมาจากลูกระเบิดพร้อมกับไฟที่ถูกลมพัดจนดับ..พรึ่บ..
‘เวรล่ะ..’
โอเกอร์ปาดเหงื่อ
“พวกเราลุย!! ระเบิดพวกมันด้าน!!!”
เม้นหน่อยย เม้น เม้น เม้น
