บทที่ 18 เริ่มต้นลงทุน
เหล่าผู้เล่นที่ได้ยินเสียงตะโกนต่างวิ่งกรูเข้ามาทางฟูเหลาและเพื่อนๆ และเมื่อเห็นว่าตรงหน้าของพวกเขาคือตัวทำบรรลัยที่พวกเขากำลังตามหากันอยู่ จึงเริ่มฮึกเหิมขึ้นมาทันที
“ล้อมพวกมันไว้!!”
เสียงผู้เล่นเผ่ามนุษย์หมาป่าชายคนหนึ่ง ตะโกนเรียกกองกำลังเฉพาะกิจที่ตั้งใจมาล้างแค้นโดยเฉพาะ ให้เข้ามาล้อมรอบฟูเหลาและเพื่อนทั้งสองไว้
“ชิพผายแล้ว!!”
เทพอัศนีตกใจกับจำนวนผู้เล่นที่วิ่งกรูเข้ามาล้อมตัวเอง
“เอาไงดีว่ะเนี่ย!!”
เทพคันศรผยองเล็กน้อย มือของเขายกคันธนูขึ้นมากระชับไว้แต่ฟูเหลาได้ยกมือขึ้นห้าม ชายหนุ่มมองไปรอบด้านที่กำลังมีผู้เล่นกว่าร้อยคนล้อมรอบไว้ ฟูเหลายิ้มขึ้นก่อนจะเดินออกไปด้านหน้าเพื่อนๆทั้งสอง
“พวกคุณทุกคนทำไมถึงต้องมาไล่ฆ่าเราด้วย?”
ฟูเหลาถามเสียงดัง
“เพราะพวกแกกิลด์ของเราถึงต้องสูญเสียผู้เล่นไปมาก!!ยังไงวันนี้ขอตัดหัวแกไว้เสียบประจานเล่นสักหน่อยเหอะว่ะ!”
ผู้เล่นเผ่าออร์คคำรามเสียงดัง และเสียงอีกมากมายที่ตะโกนตามมาอย่างบ้าคลั่ง ฟูเหลาถอยหายใจด้วยความเบื่อหน่ายก่อนจะมองไปยังผู้เล่นรอบๆอีกครั้ง
“จริงๆแล้วมันไม่ใช่ความผิดของพวกเราเลยด้วยซ้ำ..พวกคุณส่งคนเข้ามาเพื่อโจมตีสัตว์อสูรตัวนั้นด้วยตัวเอง แล้วทำไมพอความชิพหายมาเยือนพวกคุณถึงโยนความผิดมาให้พวกเรา..แล้วเอาผู้เล่นจำนวนมากขนาดนี้มารุมเราอีก!!”
ฟูเหลาตะโกนเสียงดังด้วยโทสะ
“ใจเย็นๆดิพวก..”
เทพอัศนีพูดเสียงเบาๆ เพราะกลัวจะโดนกระทืบ
“ทำไมต้องแคร์ด้วย!!เป็นถึงกิลด์ใหญ่ๆกันทั้งนั้นไม่ละอายใจกันบ้างหรอที่ส่งคนมารุมพวกเรา!!”
ฟูเหลายังคงพูดต่อ
“อย่ามาปากดีนะเว้ยไอ้พวกเด็กเหลือขอ!!”
ผู้เล่นชายเผ่ากอลิล่าคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาก่อนจะใช้ค้อนในมือทุบพื้นตรงหน้าเสียงดัง ตึ่ม!!!
“อย่าไปสนปากเน่าๆของพวกมันเลย เอาหัวพวกมันมาประจานเล่นดีกว่า โทษฐานทำให้พวกเราเสียกำลังคนไปเยอะ!!”
เสียงผู้เล่นคนหนึ่งตะโกนแทรกขึ้นมา หลังจากนั้นกลุ่มผู้เล่นกว่าร้อยคนก็ชูมือตะโกนร้องเฮกันเสียงดังด้วยความสะใจ
“เฮ้!!!!”
ชายหนุ่มยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์เขาหักคอของตัวเองไปมา กร๊อบ!! กร๊อบ!! ก่อนจะหันไปกระซิบอะไรบางอย่างให้เพื่อนทั้งสองฟัง
“นาย..”
เทพอัศนีละเทพคันศรทำหน้าอึ้งๆ
“หัวโครตแหลม!!เอ้ย!! โครตหัวแหลม!!”
เทพอัศนีพูดยกยอขึ้น ฟูเหลายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์อีกครั้งก่อนจะทำสีหน้าเยือกเย็นแล้วมองไปที่กลุ่มผู้เล่นตรงหน้า
“หยุดกระซิบกันได้แล้วเตรียมตัวตาย!!”
“พวกนายทุกคนไม่คิดบ้างหรอ..ถ้าผู้เล่นทั่วโซลเวิลด์รู้ว่ากิลด์พวกนายส่งคนมารุมฆ่าผู้เล่นที่ไม่มีทางสู้จะเป็นยังไง..”
ฟูเหลาพูดเกริ่นขึ้นมา
“ฮ่า ฮ่าๆ คิดว่าคำขู่จะช่วยให้พวกแกรอดหรอ!!”
ผู้เล่นเผ่ากอลิล่าคนเดิมหัวเราะเสียงดัง
“พวกเราในนี้เป็นกิลด์ระดับกลาง แล้วก็รู้จักกันเองเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว..ไม่มีใครเอาเรื่องที่เราจะทำไปประกาศให้โลกรู้หรอกไอ้พวกกระจอก!!”
“ใช่ๆ!! แล้วถึงพวกแกจะไปเที่ยวประกาศพูดว่าพวกข้าส่งคนไปรุม ยังไงก็ไม่มีใครเชื่อหรอกเว้ย!!”
เสียงของผู้เล่นตะโกนขึ้น เมื่อชายหนุ่มได้ฟังเช่นนั้นเขาก็กลั้นรอยยิ้มต่ไปอีกไม่ไหวจนสุดท้ายต้องระเบิดเสียงหัวเราะออกมาจนทำให้ผู้เล่นนับร้อยถึงกับนิ่งไปพักหนึ่ง
“ฮ่าๆๆ ว๊า ฮ่าๆๆ!!! โอ้ย!! ขำๆๆ”
ฟูเหลาตีท้องตัวเองพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง เพื่อนทั้งสองเองก็อดขำไม่ได้ถึงแผนการของเพื่อนตัวแสบที่ทำเอาไว้
“แล้ว..ถ้ามีไอ้นี่ล่ะ!!”
ฟูเหลาเปิดหน้าต่างจากระบบขึ้นมาโชว์ให้ทุกคนได้เห็น ภาพฉากการปะทะคารมณ์กันเมื่อสักครู่ถูกอัดไว้ได้ครบทุกคำพูดและการกระทำ ผู้เล่นที่ยืนล้อมตัวฟูเหลาอยู่ถึงกับอึ้งตาค้างทำอะไรไม่ถูก
“ไอ้บัดซบแก!!”
ความอดทนได้หมดสิ้นไป ผู้เล่นเผ่ากอลิล่ากระโดดขึ้นไปในอากาศพร้อมค้อนยักษ์ที่ยกขึ้นเหนือศีรษะ
ฟูเหลาปั้นหน้านิ่ง
“พวกเราลุยเข้าไปเลยแล้วจับตัวมันเอาไว้!!”
ผู้เล่นคนหนึ่งตะโกนขึ้นเพื่อเรียกสติทุกคน พอได้สติผู้เล่นเผ่าหมีและเผ่าออร์คอีกสามคนก็วิ่งเข้าไปหาฟูเหลาและพรรคพวกทั้งสองของฟูเหลา
ชายหนุ่มหลับตาลง ก่อนจะยืนในท่าตัวตรงมือทั้งสองวาดลงจากระดับไหล่ลงมาระดับเอวช้าๆ เขากำมือแบบหลวมๆแล้วพ่นลมหายใจออกมาทางปาก ฟู่!!!
“ปราณมังกรหยก..”
ฟูเหลาเรียกใช้ทักษะเสียงเรียบ ลูกไฟสีเขียวก่อตัวเป็นรูปหัวมังกรห่อหุ้มมือทั้งสองของฟูเหลาช้าๆ เทพอัศนีและเทพคันศรหันมามองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ เนื่องจากทั้งคู่ยังไม่รู้เรื่องที่ฟูเหลาเองก็มีสัญลักษณ์ของเผ่าพันธุ์อื่นแล้วเช่นเดียวกัน ก่อนจะไปสังเกตสัญลักษณ์ทั้ง 5 ของฟูเหลาที่อยู่บนหัวไหล่ข้างซ้าย
“ไม่จริงหน่า!”
เทพอัศนีอึ้งเล็กน้อย
“กระสุนคลื่นกระแทก!!”
สิ้นคำพูด ชายหนุ่มลืมตาขึ้นช้าๆก่อนจะเคลื่อนฝ่ามือไปรอบทิศอย่างรวดเร็วปราณมังกรหยกถูกปล่อยออกจากฝ่ามือไปยังทิศทางที่ผู้เล่นทั้งสีพุ่งเข้ามา บึม บึม บึม บึม!! ผู้เล่นทักสี่กระเด็นถอยหลังไปหลายเมตร
“ระดับแค่ประมาณ 35 สินะ!!”
ฟูเหลาพูดลอยๆขึ้นมา ก่อนจะทะยานร่างออกไป ในตอนที่เขาอยู่ในดินแดนลับแลช่วงเวลาในตอนกลางคืนที่เขาทุ่มเทไปกับการฝึกและการจัดการกับสัตว์อสูรในดินแดนลับแลทำให้ตอนนี้ระดับของเขาขึ้นมาจนระดับ 26 ด้วยความช่วยเหลือของทอร์นนั่นเอง พลังโจมตีของเขาบวกกับอาวุธระดับ 6 จึงถือว่าสูงในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ผู้เล่นในระดับที่ไม่ห่างกันเกิน 10 ระดับจึงไม่คณามือเขาสักเท่าไหร่แน่นอน
“ฮึบ!!”
ชายหนุ่มปล่อยหมัดใส่ผู้เล่นเผ่ากอลิล่าจนร่างลงไปกระแทกกับพื้นเสียงดัง ตึ่ม!!! ก่อนที่จะกระโดดถอยหลังกลับไปยืนจุดเดิม
“เห็นกันแล้วใช่รึเปล่า..พวกเราไม่ได้หมูขนาดให้พวกนายทั้งร้อยกว่าคนรุมพวกเราได้หรอกนะ พวกนายบางคนทักษะพิเศษยังไม่มีกันเลยด้วยซ้ำ!! ถ้าพวกเราคิดจะหนีละก็ไม่ยากเกินไปสำหรับเราหรอก!!”
ฟูเหลาตะโกนเสียงดัง เทพอัศนีและเทพคันศรเข้าใจทันทีว่าสิ่งที่ฟูเหลาทำไปเมื่อสักครู่คือการแสดงให้เห็นว่าพวกเขาจะสามารถหนีไปได้อย่างแน่นอนถ้าต้องการจะทำ ผู้เล่นหลายคนเมื่อเห็นทักษะพิเศษของฟูเหลาก็เริ่มเปลี่ยนความคิดกันเล็กน้อย
“เอาไงดีว่ะพวก..จากที่ดูแล้วทักษะของมันก็ใช่ย่อย แถมมีตั้งสองทักษะแล้วถ้าอีกสองคนมีทักษะอีกละก็พวกเราจะสูญเสียทรัพยากรกันอีกนะ..พวกเราส่วนใหญ่ที่มาที่นี่ก็ไม่ได้มีทักษะพิเศษโหดๆอะไรด้วย..”
ผู้เล่นเผ่าภูติคนหนึ่งเริ่มออกความคิดเห็น
“นั่นดิ..เอาไงดีว่ะพวกเราจำนวนคนเยอะก็จริงแต่ทักษะพิเศษก็ไม่ได้มากมายอะไร..”
ฟูเหลาเริ่มเห็นหลายคนวิตกกังวล จึงรีบใช้โอกาสนั้นแสดงพลังของตัวออกมาขู่ผู้เล่นตรงหน้าอีกครั้ง เขาเค้าปราณมังกรหยกสุดแรงจนลูกไฟสีเขียวลุกโชคช่วงน่าเกรงขาม ผู้เล่นหลายคนเริ่มตื่นกลัวเล็กน้อย
“อย่าไปกลัว!!อีกสองคนมันไม่มีทักษะหรอกเรารุมมันเราก็ชนะแล้ว!”
ผู้เล่นเผ่าหมีที่โดนฟูเหลาซัดกระเด็นพูดออกมา เทพอัศนีเห็นท่าไม่ดีจึงใช้ทักษะของเขาทันที
“ปลุกกำลังใจ ย๊ากกก!!!”
เทพอัศนีคำรามเสียงดัง..ผลของทักษะทำให้เสียงตำโกนของเทพอัศนีก้องกังวานเสมือนเสียงของมังกรที่กู่ร้อง ผู้เล่นกว่าร้อยคนถูกผลของทักษะจนทำให้พลังโจมตีและพลังป้องกันลดลงกว่า 40% ส่วนฟูเหลา เทพอัศนีและเทพคันศรได้รับพลังโจมตีเพิ่มขึ้นกว่า +1,000
“อะไรว่ะเนี่ย!!ทักษะสายส่งเสริมนี่หว่า!!”
“เอาไงดีว่ะพวกเรา!!”
ผู้เล่นทุกคนเริ่มกังวลไม่ใช่น้อย ในตอนแรกพวกเขาคิดว่าจำนวนของพวกเขาที่มีร้อยกว่าคนจะสามารถรุมชายทั้งสามคนตรงหน้าได้อย่างง่ายๆแน่นอน แต่บัดนี้เมื่อเห็นทักษะของฟูเหลาก็รับรู้ได้ทันทีว่าชายทั้งสามไม่ได้หมูอย่างที่พวกเขาคิดและถ้าเผลือพลาดท่าเข้า ได้เกิดการสูญเสียเพิ่มมากขึ้นแน่นอน
“บัดซบทำไมผู้เล่นคนอื่นมันหายไปไหนกันหมดว่ะ!! มากันตั้งเกือบพันคน เหลือกันแค่ร้อยกว่าคนเนี่ยนั!!”
ผู้เล่นเผ่ากอลิล่าสบถคำพูดออกมาด้วยความโกรธ
“เอาล่ะทุกท่าน..ตอนนี้เรามาทำข้อแลกเปลี่ยนกันดีกว่าว่าไหม?”
ฟูเหลายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“พวกแกต้องการอะไรว่ามา!! ถ้าพวกเรายอมรับได้พวกเราจะปล่อยพวกแกไป!!”
ผู้เล่นคนหนึ่งเดินก้าวขึ้นมาด้านหน้าเพื่อฟังข้อเสนอของฟูเหลา ตอนนี้ทางเลือกของเขามีไม่มากนักยังไงการฟังข้อเสนอของคนตรงหน้าก็คงไม่เสียหายอะไร
“คิคิ ดีมากนึกว่าในสมองจะมีแต่กล้ามเนื้อซะแล้ว”
ฟูเหลาแกล้งพูดเหน็บ
“แก!!”
“ฉันต้องการให้พวกแกลงทุนลงแรงอะไรเล็กๆน้อยๆแลกกับฉันจะไม่ปากโป้งไปบอกใครเรื่องที่พวกแกทำไว้ที่นี่..”
เด็กหนุ่มหยุดพูดแค่นั้นก่อนจะล้วงมือไปหยิบของอย่างหนึ่งออกมาจากกระเป๋า เทพอัศนีและเทพคันศรมองไอเทมในมือตาเป็นมัน
“เอาจริงดิ!!”
ทั้งสองพูดพร้อมกัน ฟูเหลาหันมายิ้มก่อนจะพูดต่อ
“แครอทสวรรค์ 1 หัว จะถูกจัดการประมูลขึ้นกลางเมืองเริ่มต้นอีก 4 วันต่อจากนี้พวกแกทุกคนมีหน้าที่หาคนเข้างานประมูลของฉันให้ได้ 10,000 คน ถ้าพวกแกหามาให้ฉันไม่ได้ละก็..”
ฟูเหลายิ้มเหี้ยม
“หึหึ..ไม่ต้องบอกนะว่าจะเกิดอะไรขึ้น!!”
