ตอนที่9 ดินแดนลับแล(1)
ณ ใจกลางกรุงเทพมหานครฯ ตึกขนาดใหญ่ที่สูงกว่า 200 ชั้น
ตัวหนังสือขนาดใหญ่เขียนอยู่บริเวณทางเข้าหน้าตึกว่า THE NEW WORLD ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเกมโซลเวิลด์และผลิตอุปกรณ์อันทันสมัยมากมาย ผู้คนเดินเข้าออกตึกแห่งนี้แทบจะตลอดเวลา ทำให้เห็นได้ว่าบริษัทแห่งนี้เป็นศูนย์รวมของนักธุรกิจที่แท้จริง
“ท่านครับเอายังไงดีครับมีผู้เล่น 3 คน สามารถเข้าไปยังดินแดนลับแลได้แล้วครับ”
GM หนุ่มคนหนึ่งพูดในขณะที่มือของเขากำลังเคาะแป้นคีย์บอร์ดอย่างรวดเร็ว ภายในห้องมีพนักงาน GM กว่า 100 ชีวิตที่กำลังวุ่นวายกับอะไรบางอย่าง ผู้เป็นหัวหน้ายืนมองจอมอนิเตอร์ขนาดยักษ์ที่อยู่ด้านหน้าเพื่อประเมินสถานการณ์
“มีแค่ 3 คนใช่ไหมที่อยู่ในดินแดนนั้น?”
หัวหน้า GM ในมาดเข้มและดูมีวินัยพูดถามขึ้น
“ครับท่าน..พวกเขาบังเอิญเข้าไปได้ด้วยเส้นทางลับครับ..”
“เป็นไปได้ยังไง! เส้นทางลับในเกาะเริ่มต้นมันมีสัตว์อสูรพิเศษที่เราใส่ไว้เพื่อปกป้องเส้นทางไม่ใช่หรอ?”
หัวหน้า GM ถามด้วยความสงสัย
“ใช่ครับ..แต่เมื่อสักครู่มีหนึ่งในผู้เล่นกลุ่มนี้ ใช้อุปกรณ์ประดิษฐ์ที่ชื่อว่ากับดักใยสายฟ้า โดยถ้าเทียบระดับอาวุธคงเป็นไอเทมระดับ 4-5 พลังโจมตีเลยสูงสักหน่อยไอเทมนี้ถูกสร้างโดยผู้เล่นที่ชื่อโอเกอร์ เป็นไอเทมที่มีสถานะไม่เสถียร แล้วด้วยความบังเอิญไอเทมชิ้นนี้ดันไปโดนสัตว์อสูรราชากอลิล่าขนทองที่กำลังจำศีล ทับรอยแยกแล้วพรางตัวอยู่บนเส้นทางลับ แต่โดยปกติแล้วการโจมตีของผู้เล่นปกติจะไม่ทำให้การจำศีลถูกยกเลิก แต่มันเป็นเพราะความผิดพลาดของไอเทม จึงทำให้สัตว์อสูรถูกปลุกครับท่าน..”
GMหนุ่มรายงานอย่างละเอียด
“เราควรทำยังไงดีคะท่าน ทางเราจะต้องมอบรางวัลให้ผู้ค้นพบดินแดนลับแลเป็นกลุ่มแรกตามที่กฎได้เขียนไว้รึเปล่าคะ?”
GMหญิงอีกคนโผลงถามขึ้นมา
“ยังไงเราก็ต้องให้รางวัลแก่พวกเขา..”
หัวหน้าGM นิ่งคิดสักพักก่อนจะพูดต่อ
“พวกเขาระดับเท่าไหร่กัน?”
“ผู้เล่นที่เข้าไปได้ มี 2 คนที่ระดับ 20 แล้วส่วนอีกคนที่เหลือยังอยู่แค่ระดับ 14 ค่ะ”
GM หญิงตอบ
“พวกเขาทั้งสามจะได้รับรางวัลตามกฎทั้งหมดในดินแดนลับแล เราใส่กฎเคลียร์พื้นที่ไว้ว่าถ้าเป็นผู้เล่นระดับที่เกิน 20 ไปแล้วจะถือว่าไม่เป็นผู้เล่นหน้าใหม่จะได้รับรางวัลเป็นเงิน คนละ 5 ล้านยูนิต และได้ไอเทมพิเศษอีกคนละ 1 ชิ้นแต่ถ้าเป็นผู้เล่นที่มีระดับไม่เกิน 20 จะได้รางวัลที่ค่อนข้างมีมูลค่าสูงสินะ..”
หัวหน้าGMกล่าวถามลอยๆขึ้นมา
“ใช่ครับท่าน..ผู้เล่นที่มีระดับไม่เกิน 20 จะได้รับอภิสิทธิ์ในดินแดนลับแลทั้งหมด โดยไม่จำเป็นต้องทำเควสอะไร รวมถึงได้เงินมูลค่า 20 ล้านยูนิตและมีสิทธิ์ในการรับอาวุธจากช่างตีเหล็กในดินแดนลับแล รวมถึงได้ไอเทมพิเศษบางอย่างจากสิ่งมีชีวิตในดินแดนนั้นด้วยครับ”
GMหนุ่มพูด
“ให้ทุกอย่างที่พวกเขาควรจะได้ซะ!! แล้วใส่ข้อมูลผู้เล่นกลุ่มนี้ลงบันทึกด้วย!!”
หัวหน้าGM สั่งการเสียงดังก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ณ ดินแดนลับแลบนพื้นหญ้าโล่งกว้างหน้าหมู่บ้าน ฟูเหลาที่นอนตัวขดอยู่ยังคงดิ้นไปดิ้นมาอยู่บนพื้น
“อู้ยย...ผมขอโทษจริงๆครับลุงตุ่น ผมไม่ได้ตั้งใจเรียกลุงว่าตัวตุ่นจริงๆนะครับ..”
ฟูเหลาเอ่ยขอโทษพร้อมกับทำหน้าจุกๆ มือของเขากุมเป้ากางเกงด้วยความเจ็บปวด
“พวกเจ้าต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตที่นี่ให้ดี!! จำไว้พวกเราที่นี่เท่าเทียมกันเวลาพูดคุยพวกเจ้าต้องให้เกียรติทุกคน!!”
ลุงตุ่นพูดสอนเสียงดัง
“เอาล่ะ!!ก่อนอื่นข้าชื่อวอร์เนีย เป็นหัวหน้าเผ่าพันธุ์ตุ่นดำดิน มาๆตามข้ามาได้แล้ว!!”
พูดจบตุ่นนามวอร์เนียก็มุดลงดินและขุดนำทางฟูเหลาและเพื่อนๆเข้าไปยังหมู่บ้าน
ดินแดนลับแลเป็นพื้นที่ที่เรียกได้ว่างดงามมากๆ ที่นี่มีหมู่บ้านเพียงแห่งเดียวเท่านั้นเป็นหมู่บ้านที่สร้างแบบย้อนยุคใช้แค่หิน ไม้และอิฐเท่านั้นในการสร้าง ทุ่งหญ้าสีเขียวอ่อนสวยงามกว้างสุดลูกหูลูกตา ไกลห่างออกไปจากหมู่บ้านมีป่าทึบเพียงป่าเดียวที่มีป้ายขนาดใหญ่เขียนว่าห้ามเข้า ในหมู่บ้านมีการทำไร่ทำสวนที่ปลูกเป็นแปลงอย่างมีระเบียบ ชาวบ้านต่างสนิทสนมกัน แม้จะมีเผ่าพันธุ์ที่ต่างกัน สายลมอ่อนๆและเสียงนกทำให้บรรยากาศในดินแดนแห่งนี้ช่างดูอบอุ่นและสวยงาม
“ที่นี่สวยมากเลยนะครับคุณวอร์เนีย”
เทพอัศนีพูดขึ้น
“ฮ่าๆ แน่นอนเจ้าหนู มันคือความภาคภูมิใจของพวกเราที่ช่วยกันสร้างดินแดนแห่งนี้ขึ้นมา..”
ตุ่นวอร์เนียนำทางจนมาถึงลานน้ำพุกลางหมู่บ้าน ซึ่งมีชาวบ้านต่างสายพันธุ์ยืนรออยู่
“เอาละพวกเจ้า..นี่คือผู้อาศัยในดินแดนแห่งนี้ทั้งหมดพวกเราเป็นกลุ่มหัวหน้ารุ่นก่อนของแต่ละเผ่าพันธุ์ ซึ่งในโลกภายนอกดินแดนลับแลแห่งนี้ปัจจุบันก็เป็นไปตามที่พวกเจ้าเห็น แต่ละเผ่าพันธุ์ต่างแตกแยกกัน แต่พวกเราในที่แห่งนี้คืออดีตผู้นำของเจ้าพวกบ้าอำนาจพวกนั้น เมื่อราวๆ 500 ปีก่อนเห็นจะได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกเผ่าพันธุ์ในปัจจุบันนี้จะตีกันนะ บางเผ่าพันธุ์ก็ยังรักใคร่และเป็นพันธมิตรกันอยู่ เช่นเผ่าสัตว์แบบเราๆคือพวกตุ่น กระต่าย กวาง กับพวกเอลฟ์อะไรทำนองนี้”
ตุ่นวอร์เนียกล่าวขึ้น
“ใช่แล้ว..ตามที่วอร์เนียบอก พวกเราเป็นเพียงชนรุ่นอดีตกาลเท่านั้น ไม่ได้มีบทบาทต่อโลกภายนอกอีกต่อไป เพราะฉะนั้นเรื่องที่พวกเจ้าพบดินแดนแห่งนี้ จงเก็บเป็นความลับให้ดี ไม่เช่นนั้นภัยอันตรายจากภายนอกจะทำลายบ้านของพวกเราอย่างแน่นอน จงให้สัญญากับพวกเรา..”
มังกรอาวุโสพูดด้วยความเกรงขาม
“ครับพวกเราให้สัญญา..”
ทั้งสามตอบพร้อมกัน
“เอาละข้าจะแนะนำทุกคนให้เจ้ารู้จักเอง” ชายชราคนหนึ่งเดินออกมาจากกลางวงสนทนาของเหล่าเพื่อนต่างเผ่าพันธุ์
“ข้าชื่อว่าอาร์เทอร์ข้าเคยเป็นผู้นำของเหล่ามนุษย์”
“กษัตริย์อาร์เทอร์?”
เทพคันศรพูดขึ้นเสียงเบาๆด้วยความตกใจ
“ใช่ๆๆๆ พวกเจ้าคงเคยได้ยินชื่อข้าจากโลกภายนอกดินแดนลับแลนี้กันมาบ้างแล้ว..เอาละมาๆๆ ข้าจะแนะนำเผ่าพันธุ์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าทั้งหมดตอนนี้ละนะ”
พูดจบชายชราก็หันหน้าและชี้เรียงตามสิ่งที่ตัวเองพูดทันที
“นั่นเผ่าพันธุ์มังกร นั่นเผ่าพันธุ์ตุ่นและเผ่าพันธุ์กระต่ายหรือพวกนั้นเผ่าพันธุ์ที่เป็นสัตว์ต่างๆอาทินก หนู แมว กวางอะไรก็ตามเราจะนับเป็นเผ่าพันธุ์สัตว์ทั้งหมด แต่พวกเขาจะเรียกชื่อเผ่าพันธุ์ย่อยกันเองเวลาติดต่อกันเพื่อจะได้ไม่งง นั่นเผ่าพันธุ์คนยักษ์ นั่นเอลฟ์ นั่นดาร์คเอลฟ์ นั่นมนุษย์หมาป่า ส่วนนั่นแวมไพร์ ตรงสระน้ำตรงนู้น..นั่นเผ่าเงือก แล้วก็ตัวเล็กๆที่บินกันอยู่นั่นเป็นเผ่าภูติ แล้วก็สุดท้ายที่ยืนเท่ๆนั่นเผ่าสฟิงค์หรือเราเรียกเขาว่าเผ่าโบราณจำเอาไว้ละ..”
“ยินดีที่ได้รู้จักทุกท่านนะครับพวกเราเป็นเผ่ามนุษย์ธรรมดาๆผมชื่อฟูเหลา สองคนนี้คือเทพอัศนีและเทพคันศรครับ”
ชายหนุ่มแนะนำตัวด้วยรอยยิ้ม
“อยู่ที่นี่พวกเจ้าก็พักผ่อนเสมือนเป็นบ้านได้เลยนะ..”
กระต่ายตัวหนึ่งพูด
“ขอบคุณมากครับ..”
ทั้งสามทำท่าโค้งคำนับ
เมื่อแนะนำตัวกันเสร็จ ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำงานของตน เหลือเพียงชายชราอดีตผู้นำของเหล่ามนุษย์ที่ยืนยิ้มด้วยใบหน้าอบอุ่นอยู่เพียงคนเดียว เขามองไปยังชายหนุ่มทั้งสามก่อนจะค่อยๆเดินไปหาอย่างช้าๆ มือขวาถือไม้เท้าเพื่อพยุงร่างกายอันแก่ชราของตน
“เอาละพวกเจ้าทุกคน..ไหนๆพวกเจ้าก็ต้องอยู่ที่นี่ตั้ง 1 เดือน พวกเจ้าก็มาพักที่บ้านของข้าละกัน แล้วช่วงเย็นๆพวกเราจะจัดงานต้อนรับให้พวกเจ้า..ใช้เวลาที่อยู่ที่นี่ให้คุ้มค่าซะล่ะ ที่นี่ไม่ได้เปิดต้อนรับใครง่ายๆหรอกนะพวกเจ้ามันเฮง ฮ่า ฮ่า ฮ่าๆ”
ชายชราพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแล้วหัวเราะออกมา เขาเดินไปกอดคอฟูเหลาและเทพอัศนีก่อนจะพาเดินไปยังที่พักของเขา ฟูเหลาหันไปมองหน้าเพื่อนทั้งสองก่อนจะยกไหล่ขึ้น
“คงทำอะไรไม่ได้มีเวลา 1 เดือนดูเหมือนที่นี่จะเป็นพื้นที่ลับซะด้วย ยังไงก็เก็บเกี่ยวอะไรออกไปจากที่นี่ให้ได้มากๆละกัน ที่นี่อาจทำให้พวกเราเก่งขึ้นเมื่อออกไปข้างนอก..”
ฟูเหลาออกความเห็น
