ตอนที่11 ดินแดนลับแล(3)
“โฮ๊กกก!!!!!”
ยักษ์ไจโทสคำรามเสียงดังด้วยความเกรี้ยวกราด พลังงานสีดำทำลักออกมาจากร่างกายของเขาก่อนที่เถาวัลย์ที่พันธนาการร่างกายอยู่จะถูกเงาประหลาดนั้นกลืนกินจนเป็นเถาวัลย์สีดำ แล้วแปลเปลี่ยนเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของไจโทส เถาวัลย์ที่รัดค่อยๆคลายออกแล้วเชื่อมต่อกับส่วนหลังของไจโทสเหมือนหนวดของปลาหมึก
“สัตว์อสูรยักษ์คิเมร่า ระดับ 60 เตรียมโจมตี!!”
เสียงจากระบบดังขึ้น ฟูเหลา เทพอัศนีและเทพคันศรที่พึ่งมาถึงจุดเกิดเหตุได้แต่ตะลึงกับเสียงประกาศและสถานการณ์ตรงหน้าจนทำอะไรไม่ถูก
“เกมนี้มันบ้าไปแล้ว!! ไอ้ลิงนั่นระดับ 50 พวกเรายังหนีตายกันแทบจะไม่รอด..แต่นี่ระดับ 60 เลยนะเว้ยจะไปรอดได้ยังไง!!”
เทพอัศนีบ่นด้วยใบหน้าเหม่อลอย
“พื้นที่นี้เป็นพื้นที่พิเศษ ทางที่เชื่อมกับเกาะเริ่มต้นก็แค่เส้นทางหนึ่งเท่านั้น แสดงว่ายังมีหลายเส้นทางที่น่าจะเชื่อมกับทวีปหลัก ไม่แปลกหรอกที่จะมีสัตว์อสูรระดับบอสๆแบบนี้โผล่มาบ้าง..”
เทพคันศรอธิบาย
“ไอ้หนูถอยไป!! พวกเราจัดการเอง!!”
มังกรฮาคุตะโกนด้วยเสียงก้องกังวานก่อนจะบินขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับอ้าปากเพื่อชาร์ตพลังงานสีเขียวมรกต
“เทพมังกรหยกฮาคุระดับ 120 เตรียมโจมตี!!”
สิ้นเสียงประกาศ ชายหนุ่มทั้งสามอ้าปากค้างด้วยความทึ่ง
“ระดับ120!!”
เทพอัศนีทำตาโต
“พวกเจ้านี่ตลกจังนะ..พวกข้าอยู่มากว่า 500 ปีแล้ว ระดับของพวกข้าแต่ละตนล้วนสูงกว่า 70 ทั้งนั้น ยกเว้นลูกหลานที่พึ่งเกิดใหม่ที่นี่แหละที่จะระดับต่ำกว่า 70”
จู่ๆตุ่นวอร์เนียร์ก็ขุดดินขึ้นมาแล้วพูดทำท่าทางใหญ่โต
“เทพมังกรริวกิวระดับ 120 เตียมโจมตี!! ราชามนุษย์เงือกลูคัส ระดับ 110 เตรียมโจมตี!! ราชามนุษย์หมาป่าเอ็กซ์ ระดับ 100 เตรียมโจมตี!! ราชาแวมไพร์แห่งรัตติการณ์ลองค์จอร์น ระดับ 100 เตรียมโจมตี!!”
เสียงแจ้งเตือนจากระบบดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสงสีต่างๆจากทักษะที่เหล่าผู้นำเผ่าพันธุ์กำลังใช้สว่างจ้าขึ้น ฟูเหลา เทพอัศนีและเทพคันศรได้แต่ยืนนิ่ง จนกระทั่งจู่ๆฟูเหลาเริ่มเอะใจอะไรบางอย่างได้ เขามองไปยังไจโทสผู้ที่ถูกเงาประหลาดทำให้กลายเป็นสัตว์อสูรยักษ์คิเมร่า
“น่าแปลก..ทำไมถึงต้องระดมกำลังระดับนี้เข้าจัดการกับคุณไจโทสที่ระดับแค่ 60 ด้วยล่ะครับ?”
ฟูเหลาถามด้วยความประหลาดใจ
“ยิ่งนานเข้าเงาที่ยึดร่างจะยิ่งมอบพลังให้กับผู้ถูกยึดร่าง..ระดับพลังมันจะเพิ่มขึ้นจนหยุดไม่ได้..ก่อนหน้านี้เราเคยมีประสบการณ์แบบนั้นมาก่อน จนเราไม่สามารถช่วยเขาได้และเขาต้องตายด้วยน้ำมือของพวกเรา..”
ตุ่นวอร์เนียร์ทำหน้าเศร้า
ฟูเหลามองไปยังการต่อสู้เบื้องหน้า ทักษะถูกปลดปล่อยออกมาเพื่อโจมตีสัตว์อสูรยักษ์คิเมร่าอย่างพร้อมเพรียงกัน ทุกทักษะล้วนเป็นทักษะที่ใช้ในการตรึงร่างทั้งสิ้นเพราะทุกคนในที่นั้นไม่ต้องการปลิดชีวิตใคร ร่างกายของไจโทสถูกตรึงไว้ได้ราว 5 นาที แต่แล้วออร่าสีดำก็ยิ่งพลั่งพลูออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาสีเหลืองเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดง ไจโทสที่ถูกเงาปริศนาควบคุมเริ่มพยายามดูดซับทักษะที่กำลังตรึงร่างเฉกเช่นเดียวกับที่เขาดูดทักษะของภูติและเอลฟ์ก่อนหน้านี้มาผสานเข้ากับร่างกาย
“ท่าไม่ดีซะแล้ว..”
ฟูเหลาเริ่มรู้สึกวิตกกังวล
“หึหึหึ..”
ไจโทสแสยะยิ้ม..ทักษะต่างๆค่อยๆถูกดูดเข้าไปในร่างกายของไจโทสจนหมดสิ้น เงาปริศนาเริ่มผสานร่างกับไจโทสและด้วยพลังจากทักษะที่มากมายมหาสารของเทพอสูรมังกรทั้งสองและ ราชาทั้งสี่ที่มีระดับมากกว่า 100 จึงทำให้ร่างกายของคิเมร่ายักษ์ไจโทสที่ดูดกลืนพลังงานเข้าไปเริ่มพัฒนาร่างขึ้น
ผิวสีเนื้อเริ่มคล้ำขึ้นจนกลายเป็นสีม่วงเข้ม ดวงตาสีแดง เถาวัลย์หนามที่งอกออกจากกลางหลังเหมือนหนวดปลาหมึกขยายใหญ่ขึ้น มัดกล้ามเนื้อก็ค่อยๆใหญ่ขึ้นเช่นเดียวกัน
โฮ๊กกกกกกก!!!!
“สัตว์อสูรคิเมร่ายักษ์ ระดับ 90 เตรียมโจมตี!!”
ลุงอาร์เทอร์เดินก้าวขึ้นมาด้านหน้าชายหนุ่มทั้งสาม ก่อนจะหยิบดาบที่สะพายอยู่บนหลังขึ้นมา เขาค่อยๆชักดาบออกจากฝัก ดาบของอาร์เทอร์เป็นดาบยุโรปที่มีคมทั้งสองด้าน ตัวดาบเป็นสีเงินเงางาม กลางใบดาบมีสัญลักษณ์รูปตัว x สลักลากยาวลงไปถึงด้ามจับ และบริเวณปลายด้ามจับมีรูปสลักรูปสิงโตสีทองซึ่งพอดูโดยรวมแล้วช่างเป็นดาบที่น่าเกรงขามมากๆ
“ไม่!!อาร์เทอร์!! เจ้าจะใช้ดาบนั่นไม่ได้!!”
มังกรฮาคุตะโกนลงมาจากฟากฟ้าเมื่อเห็นมุษย์ชรากำลังทำอะไรบางอย่าง
“ข้าว่าข้าจำเป็นต้องใช้นะฮาคุ..กางเขนแสงพิพากษา!!”
ชายชราขานชื่อทักษะออกมา ใบดาบเรืองแสงสีทอง เขาฟันไปด้านหน้าสองทีเป็นรูปกากบาท ลำแสงสีทองพุ่งไปด้านหน้าเป็นรูปกางเขนอย่างรุนแรง เมื่อไม้กางเขนพิพากษาสัมผัสและทะลุร่างกายของไจโทส ร่างกายของเขาก็ถูกตรงไว้ที่ไม้กางเขนทันที แสงศักดิ์สิทธิ์ตรึงร่างไจโทสและเงาปริศนา เขาร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด แสงสีทองเป็นแสงแห่งความศักดิ์สิทธ์ที่สามารถปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายได้
มังกรฮาคุและมังกรริวกิวไม่รอช้า เมื่อเห็นโอกาสทั้งคู่ก็รีบปล่อยทักษะตรึงร่างออกมา ฟุบๆๆ รากไม้สีเขียวเรือนแสงงอกออกมาจากพื้นด้วยทักษะของเหล่าภูติ เหตุการณ์ดำเนินต่อไปจนถึงช่วงเช้าของอีกวัน ไจโทสจึงค่อยๆอ่อนล้าและล้มลงพร้อมกับเงาปริศนาที่สลายไป..
ฟูเหลาเดินเข้าไปยังจุดที่ไจโทสถูกตรึงร่างไว้ เขามองไปยังพื้นดินที่มีรอยประหลาดสีดำคล้ายรอยไหม้ ก่อนจะก้มตัวลงไปแล้วใช้กล่องรักษาสภาพ ใส่ดินสีดำบริเวณนี้ไปแทนที่ซาลาเปาที่อยู่ในกล่อง เหตุการณ์ครั้งนี้กินเวลาไปจนถึงช่วงเช้ามืดของวันถัดมา ชาวบ้านต่างทะยอยกลับไปบ้านของตัวเองหลังจากเหตุการณ์สงบลงเพื่อเตรียมตัวสู่วันใหม่
‘ทักษะที่พวกคุณฮาคุใช้เมื่อกี้ไม่มีอะไรที่สามารถทำให้ดินเปลี่ยนสภาพเป็นเหมือนผงถ่านเป็นแบบนี้ได้เลย..จะว่าเป็นผลจากกางเขนแสงของลุงอาร์เทอร์ก็ไม่น่าจะใช่’
เขามองเข้าไปในกล่อง ไอพลังสีดำที่อยู่ภายในดินลอยขึ้นมาช้าๆแล้วสลายไป
“เราเก็บเอาไว้ ท่าจะดีกว่า เผื่อมันเป็นไอเทมหรืออะไรบางอย่างที่ขายให้พวกกิลด์ใต้ดินได้ แต่ก่อนอื่นเราก็ควรจะศึกษามันเอาไว้เหมือนกัน..”
เด็กหนุ่มพูดกับตัวเองก่อนจะเก็บกล่องใส่ลงกระเป๋าแล้วนำซาลาเปาเข้าปากไปสองลูก เทพคันศรและเทพอัศนียืนคุยกับมังกรฮาคุอย่างออกรสชาติ
“เห้!! ฟูเหลา!! ฉันคุยกับท่านฮาคุแล้ว ท่านฮาคุจะสอนทักษะให้ฉันกับเทพคันศร นายสนใจไหมเพื่อน..ทักษะโหดๆระดับนี้ไม่ได้หามาได้ง่ายๆนะเฟ้ย!!”
เทพอัศนีพูดพร้อมกับเดินไปกอดคอแล้วลากฟูเหลาไปใกล้ๆ
“ไหนพวกนายบอกจะให้ลุงอาร์เทอร์ฝึกไม่ใช่หรอ?”
ชายหนุ่มพูด
“ท่านฮาคุบอกว่าจะเป็นคนไปบอกลุงอาร์เทอร์ ให้มาช่วยฝึกด้วยกันแถมยังจะเรียกคนอื่นมาช่วยด้วย..”
เทพคันศรตอบ
“อีกอย่างลุงอาร์เทอร์ต้องพักผ่อนด้วย การใช้ทักษะเมื่อสักครู่จากดาบเล่มนั้น มันดูดพลังชีวิตเป็นการแลกเปลี่ยนทักษะ..”
เทพอัศนีพูดเบาๆ
“พวกนายไปฝึกกันก่อนเลยเดี๋ยวฉันเสร็จธุระแล้วจะตามไป..ฉันว่าจะไปเดินดูพวกวัตถุดิบก่อนไหนๆตอนนี้ก็สว่างแล้วชาวบ้านเขาคงใช้เวลาเตรียมขายของไม่นานมากหรอกมั้ง..”
ฟูเหลาพูดยิ้มๆ
เมื่อตกลงกันได้ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำธุระของแต่ละคน เทพคันศรกับเทพอัศนี ขี่หลังมังกรฮาคุไปยังทุ่งหญ้ากว้างนอกหมู่บ้าน ฟูเหลายืนมองดูเพื่อนๆสักพักก็เดินชมหมู่บ้านต่อ เขามองทิวทัศน์ มองร้านค้าต่างๆ ที่นี่มีร้านขายวัตถุดิบเยอะมากทั้งๆที่เป็นเสมือนดินแดนที่มีพื้นที่จำกัด เมื่อเห็นว่าสถานการณ์มันสงบลงจริงๆแล้วและร้านค้าต่างๆเริ่มเปิดตามปกติ ฟูเหลาจึงเลือกเข้าไปยังร้านขายผักสมุนไพรเป็นร้านแลกเพื่อพูดคุยกับกระต่ายนามว่านัวร์ เธออายุราวๆ 50 ปีหรือก็คือเป็นรุ่นใหม่ที่เกิดขึ้นที่ดินแดนแห่งนี้แต่ความรู้ของเธอเกี่ยวกับสมุนไพรต่างๆเยอะมากจนน่าตกใจ
“พ่อหนุ่มสนใจเรื่องสมุนไพรมากจริงๆเลยนะจ้ะเนี่ย..”
นัวร์พูดด้วยรอยยิ้มอบอุ่น เมื่อเห็นว่าฟูเหลาเข้ามาถามไถ่อะไรจากเธอหลายๆอย่าง
“ผมอยากเป็นพ่อค้าหน่ะครับคุณป้า..เลยอยากเรียนรู้ทั้งเรื่องสมุนไพร เรื่องวัตถุดิบต่างๆ เรื่องแร่ต่างๆ หรือเรื่องการทำการผลิตอะไรอย่างงี้หน่ะครับ..”
ฟูเฟลายิ้มตอบ
“โอ้เป็นเด็กหนุ่มที่มีไฟจริงๆ..เอาล่ะป้ามีหนังสืออยู่เล่มหนึ่งเกี่ยวกับสมุนไพรในโซลเวิลด์ บรรพบุรุษป้าเป็นคนเขียนขึ้นส่งต่อมารุ่นสู่รุ่น ป้าเขียนคัดลอกมันไว้ตั้งแต่เด็กๆแล้วป้าจะให้ฟูเหลาเก็บไว้อ่านนะจ้ะ..”
พูดจบกระต่ายนัวร์ก็เดินไปหยิบหนังสือที่ตัวเองคัดในตอนเด็กออกมาจากลิ้นชักโต๊ะใกล้ๆแล้วยื่นให้ฟูเหลา ชายหนุ่มเปิดอ่านทีละหน้าอย่างช้าๆ มันมีวิธีสังเกตวิธีดูพืชสมุนไพรต่างๆอย่างระเอียดข้อมูลต่างๆของสมุนไพร ฟูเหลายิ้มขึ้นก่อนจะหันไปขอบคุณกระต่ายนัวร์
“ขอบคุณๆป้ามากนะครับหนังสือเล่มนี้ผมจะเก็บไว้เป็นอย่างดีเลย..”
“โฮ๊ะๆๆ ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ..พ่อหนุ่มฟูเหลาน่าจะลองไปหาลูคัสนะลูคัสน่าจะช่วยอะไรพ่อหนุ่มได้เยอะเลย..”
กระต่ายนัวร์แนะนำพร้อมกับรินน้ำชาให้ฟูเหลา
“ครับคุณป้า ผมก็คิดว่าจะไปหาคุณลูคัสเหมือนกันครับ”
ฟูเหลายกชาที่กระต่ายนัวร์รินให้ขึ้นมาดื่มช้าๆ
“แต่ระวังตัวหน่อยล่ะ..ลูคัสออกจะเป็นคนดุๆแล้วก็เจ้าอารมณ์หน่อยนะ โฮ๊ะๆ”
กระต่ายชรายิ้มเล็กน้อย
"งั้นผมคงต้องขอตัวไปนอนพักสักหน่อยเพื่อเตรียมรับศึกซะแล้วละครับ ฮ่าๆ"
ฟูเหลาพูดหยอกกระต่ายนัวร์ก่อนจะขอตัวออกไปสำรวจร้านค้าอื่นๆแล้วกลับที่พักเพื่อไปพักผ่อน
