บท
ตั้งค่า

Chapter 4 ให้มันจบแบบนั้น...น่ะดีแล้ว

“เดินทางคนเดียวนะครับ” เจ้าของรถเอ่ยถาม เธอตอบกลับ แล้วเขาก็รีบบึ่งรถออกไป

เรื่องราวต่างๆ ที่อึดอัดคัดคั่นในหัว พากันค่อยๆ ระบายออกไปกับภาพท้องถนนนอกหน้าต่าง

สายตาคู่เดิมคู่นั้น...ยังคงตราตรึงติดอยู่ที่หัวตา

สายตาอ่านยาก ที่ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วคิดอะไรอยู่ นำพาให้เธอรู้สึกปั่นป่วน

ใช่...เธอไม่เคยรู้อะไร ไม่เคยมั่นใจตลอดระยะเวลาที่อยู่ในความสัมพันธ์

เขาดูใจดี ใจเย็น ไม่มีพิษสงกับใคร แต่ทำไมนะทำไม...เธอถึงรู้สึกว่าสัมผัสตัวตนจริงๆ ของเขาไม่ได้สักที

“เพื่อนตามมาส่งด้วยเหรอครับ” คนขับรถที่เหมือนจะรอบคอบและรักษาความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารโดยสุจริต เอ่ยถามขึ้นจนเธอต้องออกจากภวังค์

เอี้ยวตัวหันไปมองทางด้านหลัง ก็พบว่ารถเก๋งคันสีขาวอันแสนจะคุ้นตา ได้ขับตามมาจริงๆ

“หรือไม่ใช่ครับ?” เมื่อเห็นว่าสีหน้าของเธอได้เผือดลง คนมองกระจกหลังเป็นระยะก็รีบถามทันที

“เอ่อ ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ”

“ให้ผมช่วยอะไร บอกได้นะครับ” หญิงสาวเหลือบไปมองด้านหลังอีกครั้ง

“ออกนอกเส้นทางไม่ได้ด้วยใช่มั้ยคะ?” เธอรู้กฎของการเดินทางดี

“ใช่ครับ แต่ถ้าเขาคือผู้ไม่หวังดี ผมช่วยได้ครับ” คนที่กำลังใจเต้นแรงด้วยความไม่แน่ใจ ว่าเขาจะขับรถตามเธอมาเพื่ออะไร แอบลังเลในอก

“คงไม่มีอะไรหรอกค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”

นี่จะเรียกความ ‘ใจอ่อน’ อย่างหนึ่งรึเปล่า

เปล่า...แค่ไม่อยากจะให้เรื่องมันเอิกเกริกไปกันใหญ่ต่างหาก

‘ยูชอบปากไม่ตรงกับใจ’ เสียงที่แวบขึ้นมาในหัวทำเอาเธอต้องเม้มริมฝีปากเข้า เขาเคยชอบว่า...เวลาที่เธองี่เง่าหรืองอนใส่

“เปล่าซะหน่อย”

“อะไรนะครับ?” พนักงาน Grab มืออาชีพ ผู้ห่วงใยผู้โดยสารรีบถามทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น

“อ๋อเปล่าค่ะ พี่ขับไปตามเส้นทางได้เลยนะคะ ไม่เป็นไร”

“ครับผม” แล้วคนที่พยายามจะสงบจิตสงบใจ ก็ต้องค่อยๆ เหลือบหันไปมอง ‘รถคันนั้น’ ว่ายังขับตามมาอยู่รึเปล่า

ซึ่ง...

ก็ยังขับตามมาอยู่ แบบรักษาระยะห่าง

เธอไม่ได้กลัวหรอกว่าการขับตามมานั้น จะเป็นสิ่งที่ควรจะระวังหรือนั่นคืออันตราย สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือความรู้สึกภายใน ที่อุ่นซ่านขึ้นมาอยู่ในตอนนี้ต่างหาก...

ความรู้สึกปลอดภัย จากการถูกห่วงใย

ใช่...เธอรับรู้ได้ว่าเขากำลังห่วงใย ไม่ได้พูดหรือขอมาส่งแบบตรงๆ แต่เลือกที่จะตามมาดูอยู่ห่างๆ

บ้าไปแล้ว...อย่ามองเขาในแง่ดีขนาดนั้น

‘ยูไม่เคยมองไอในแง่ดีเลยสักครั้งเบ๊บ...ไม่มีเลยสักครั้ง’ เขาเคยพูดแบบนี้กับเธอ ในคราที่เขายอมทะเลาะด้วย

ใช่...ปกติเขาไม่เคยจะยอมทะเลาะด้วย เลือกที่จะเพิกเฉยและปล่อยให้เวลาเยียวยาความไม่เข้าใจมาตลอด

นั่นคือสิ่งที่ทำให้เธอคิดว่า เขากับเธอคงไม่มีวันไปกันรอด

แต่พอเขายอมทะเลาะด้วยทีไร...เรื่องราวมันก็กลับดูจะรุนแรงขึ้น ทุกถ้อยคำที่เขายอมพ่นออกมา มันทำให้เธอรู้สึกแย่

แต่ถ้าเขาไม่พูดเลย เธอก็เก็บไปคิดมากและรู้สึกแย่มากเช่นกัน

ก็ไม่รู้ว่าจะวางตัวอย่างไรดีในความสัมพันธ์ เธอเลยตัดสินใจที่จะเดินออกมา...

อาจจะเพราะความแตกต่างด้านอายุ ชาติพันธ์ วัฒนธรรม หรืออะไรก็ตาม นั่นแหละ... จบแบบนี้น่ะดีแล้ว

“ถึงแล้วครับ” เมื่อจอดรถได้สักพัก แต่ผู้โดยสารยังไม่ยอมขยับ หนุ่มใหญ่วัยน่าจะต่างจากเธอไม่เท่าไหร่ ก็เลยตัดสินใจเอ่ยขึ้น

“อ๋อ ขอบคุณค่ะ...ขอโทษด้วยนะคะ”

บุษบาพักอยู่อพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง ที่ไม่ได้ไกลจากหมู่บ้านของเพื่อนสาวสักเท่าไหร่ พอลงรถได้ก็ยังมิวายเหลือบไปมองยังท้องถนน

รถเก๋งสีขาวคันนั้นจอดนิ่งสนิทอยู่ไม่ไกล ประตูรถไม่มีทีท่าว่าจะเคลื่อนไหว หญิงสาวก็เลยตัดสินใจรีบเดินเข้าไปข้างในตัวอพาร์ทเมนท์ทันที

Aom: ยังไง เงียบไปเลยนะแก เมาสลบไปแล้วหรา!

Bell: เพิ่งอาบน้ำเสร็จ

Aom: รีบเล่ามา

Bell: ก็ไม่มีอะไร ต่างคนต่างแยกย้าย คงไม่ได้เจอกันอีกหรอก

Aom: ไม่เชื่อ! กิริยาเขาเป็นยังไงตอนเห็นหน้าแก เล่ามาให้ละเอียดเลยนะ ฉันจะได้ช่วยวิเคราะห์

หญิงสาวเงียบไปสักพัก...เพราะเธอเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ากิริยาของเขานั้น แท้จริงเป็นเช่นไรกันแน่

Bell: ไม่รู้ว่ะ...ช่างเขาเถอะ เรื่องของฉันกับเขา มันจบไปนานแล้ว

Aom: โอ๊ย ไม่เชื่อ! มันจบเพราะว่าแกบล็อกเขาทุกช่องทางต่างหาก ผู้ชายคนนี้ไม่เคยปล่อยแกไปง่ายๆ มาตลอด เท่าที่ฉันจำได้นะ

Bell: ถ้าไม่ปล่อยจริง ฉันจะออกมาได้ตั้ง 6 เดือนเหรอ?

บุษบาเองก็ตกใจ...ที่ตัวเองพิมพ์ประโยคนั้นออกไป แบบที่ไม่ได้ไตร่ตรองก่อน

Aom: เดี๋ยว?...อย่าบอกนะว่า แกแคร์กับการไม่พยายามติดต่อแกมาเลยของเขา ตลอดระยะเวลา 6 เดือนน่ะ

Bell: ไม่ใช่แบบนั้น ฉันแค่เปรียบให้ฟัง ว่าเขาปล่อยแล้วนี่ไง และไม่มีทางที่ฉันกับเขาจะได้กลับไปคุยอะไรกันอีก

Aom: แล้วถ้าสมมติว่าเขาอยากจะกลับมาล่ะ แบบคิดว่าปล่อยละ แต่พอมาเจอหน้าแก ถ่านไฟเก่ามันก็จะมาคุขึ้นมาอะไรแบบนี้...แกจะเอายังไง

ที่ปรึกษาดีเด่น ทำเอาหญิงสาวเงียบไปพักใหญ่

Bell: ก็ไม่เอายังไง ฉันก็ไม่กลับไป ก็ตามเดิม เขาไม่ได้มีผลอะไรกับฉันนานแล้ว

Aom: สาบาน?

Bell: เออ แค่นี้นะ...จะนอนแล้ว

แล้วในขณะที่เรียวนิ้วได้แตะปุ่มกลับ ออกจากช่องแชทของเพื่อนสาว จิตอันครุ่นคิดก็อดที่จะเลื่อนนิ้วลงไปยังช่องแชทหนึ่ง ที่ไม่เคยกดลบไปได้

Paul: คุณส่งสติกเกอร์แล้ว

รูปโปรไฟล์ของเขายังเป็นรูปเดิม...ใช่ เธอเข้ามาส่องอยู่ทุกๆ วันก่อนนอน กดเข้าไปดูประวัติการสนทนาเก่าๆ ที่ไม่เคยคิดจะลบ

แต่ขึ้นปรากฏว่า ‘Block’

เธอไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าหลังจากบทความบอกลาอันยืดยาวของตัวเอง และสติกเกอร์ที่แสดงว่าตัวเองเสียใจแค่ไหนนั้น

เขาตอบกลับมันมาว่ายังไง

เขามีคำอธิบายหรือคิดที่จะยื้อเธอเอาไว้หรือเปล่า

เขายังเก็บแชทนี้เอาไว้เหมือนเธออยู่หรือไม่

พอแล้ว...! พอได้แล้ว...

เสียงโอดครวญของใจ ทำให้เธอรีบกดออกมาจากพื้นที่ตรงนั้น หมอบร่างกายลงไปกับเตียงนุ่ม...ดึงหมอนเข้ามารองรับน้ำตาที่กำลังจะไหลเอ่อ

“คิดถึงแหละ...แต่อย่าได้วนกลับมาอีกเลย ฮึก...”

“มันไม่รอดหรอก...ฮือ”

นี่ไม่ใช่คืนแรกที่เธอร้องไห้ เธอร้องมาตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ห่างกันไป แม้ตอนออกไปใช้ชีวิตไปทำในสิ่งที่ชอบ เธอจะมีความสุขแค่ไหน

แต่ทุกคืนก่อนนอน เธอจะใช้เวลา 10-20 นาที ในการคิดถึงเขาอย่างนี้ คิดถึงพร้อมกับที่หลับไป...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel