2 รังควาน
"มองอะไรวะไอ้คราม" น้ำเสียงของเหมันต์ทำให้สงครามที่นั่งดื่มอยู่กับเพื่อนๆ ของตัวเองบนชั้นสองละสายตาจากแผ่นหลังของจัสมินที่กำลังเดินออกจากผับไป เขาหันกลับมากระดกเหล้าเข้าปากอึกใหญ่โดยไม่ตอบคำถาม
"มันเป็นอะไร" ศิลามองท่าทางแปลกๆ ของเพื่อนด้วยความสงสัย แล้วหันไปสบตากับเหมันต์เป็นเชิงคำถาม
"ไม่รู้เหมือนกัน มันไม่ได้บอกอะไร"
"ตอนไปห้องน้ำมีคนกวนตีนมันเหรอ"
"เออ ตอนนั้นกูเห็นเลือดที่มุมปากของมึง มึงไปมีเรื่องกับใครมา" สงครามพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ อย่างเบื่อหน่ายกับคำถามของเพื่อนทั้งสองคน เขาตอบกลับไปอย่างขอไปที พร้อมกับกระแทกแก้วเปล่าลงบนโต๊ะอย่างแรง
"กูบอกว่าไม่มีอะไร"
"มันไม่อยากบอกแล้วพวกมึงจะอยากรู้ไปทำไม" น้ำเสียงราบเรียบของนาวาดังขึ้น ทำให้เหมันต์และศิลาเงียบไป
"กูกลับก่อนนะ มีธุระต้องไปจัดการนิดหน่อย" สงครามกล่าวทิ้งท้าย พร้อมกับหยิบเงินจำนวนหนึ่งในกระเป๋าสตางค์ออกมาวางไว้บนโต๊ะตรงหน้าเพื่อจ่ายค่าเครื่องดื่มของตัวเอง แล้วหยัดกายลุกขึ้นเดินออกไป ท่ามกลางสีหน้าสงสัยของเพื่อนทั้งสามคน
@คอนโดของจัสมิน
ครืด~ ครืด~
จัสมินชะงักไปเล็กน้อยในตอนที่กำลังจะหยิบกระเป๋าสะพายข้างบนเบาะที่นั่งข้างคนขับขึ้นมาคล้องบ่าเมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าดังขึ้น เธอหยิบมันออกมากดรับสายเพราะเห็นเบอร์โทรของลูกปัดโชว์อยู่บนหน้าจอ ก่อนดับเครื่องยนต์
"ฮัลโหล"
(แกถึงห้องรึยัง)
"ถึงแล้ว เพิ่งถึงพอดีเลย" จัสมินตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงแหบพร่า พร้อมทั้งยกมือขึ้นมาแตะริมฝีปากที่เริ่มบวมเป่งเบาๆ
(ฉันเป็นห่วงกลัวว่าแกจะเผลอหลับในตอนขับรถเลยโทรมาถามดู แกถึงห้องปลอดภัยก็ดีแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนเย็นฉันแวะเข้าไปช่วยจัดของนะ ส่งที่อยู่ใหม่ของแกมาให้ด้วย)
"เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าส่งให้นะ คืนนี้ขอนอนพักก่อน"
(แกนอนพักผ่อนเถอะ ดีใจที่แกยอมกลับมานะ รู้ไหมฉันเหงาแค่ไหนตอนแกไม่อยู่)
"แกเพื่อนเยอะ คงไม่เหงาเท่าไรหรอก"
(เอาเถอะ แกไม่เข้าใจฉันหรอก) คนปลายสายพูดตัดพ้ออย่างไม่จริงจังเท่าไร
"ฉันกำลังจะขึ้นห้องแล้ว แค่นี้ก่อนนะ"
(โอเค เจอกันพรุ่งนี้)
"อือ" จัสมินครางตอบในลำคอกลับไป แล้วเก็บโทรศัพท์มือถือไว้ในกระเป๋าสะพายข้างเหมือนเดิม เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วก้าวลงจากรถไป พยายามไม่นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในผับเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน
"ย้ายมาอยู่ที่นี่เหรอ"
"..!!" น้ำเสียงเย้ยหยันที่คุ้นเคยของสงครามจากทางด้านหลังทำเอาร่างกายของเธอแข็งทื่อไป ต่างจากก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายที่กำลังเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งจนแทบผิดจังหวะ จัสมินค่อยๆ หันหลังกลับไปด้วยความหวาดกลัว "พะ..พี่คราม"
"เห็นหน้าฉันแล้วจะร้องไห้อีกเหรอ"
"พะ..พี่ครามอยู่ที่นี่เหรอคะ"
"ฉันยังอยู่ที่เดิม" สงครามแสยะยิ้ม พร้อมกับก้าวเข้าไปประชิดตัวหญิงสาวจนเธอเป็นฝ่ายก้าวถอยหลังไปชนกับรถยุโรปคันหรูของตัวเอง เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นมาวางค้ำไว้บนหลังรถเพื่อกักขังเธอไว้ในอ้อมแขน "หนีฉันไปตั้งหลายเดือน ยังจำที่อยู่เดิมของฉันได้ไหม"
"..." จัสมินเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น ไม่ว่าจะเมื่อก่อนหรือตอนนี้สงครามก็ยังทำให้เธอหวาดกลัวได้เหมือนเดิม
"ครั้งแรกของเธอก็โดนฉันเอาที่นั่นนะ"
"..."
"จะว่าไปก็ไม่ใช่แค่ครั้งแรก เพราะเธอโดนฉันเอามานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว"
"ระ..เรื่องนั้นมันผ่านไปนานแล้ว ตอนนี้พี่ครามเป็นแค่แฟนเก่าของมีน" เธอเงยหน้าขึ้นมาสบตากับอดีตแฟนหนุ่มด้วยแววตาสั่นระริก แต่เขากลับแค่นหัวเราะในลำคอเบาๆ
"เรียกฉันว่าแฟนเก่าทั้งที่โดนฉันเอาจนหลวมแล้วน่ะเหรอ?"
"ยะ..อย่าทำแบบนี้ได้ไหม เราจบกันแล้วนะ" จัสมินตั้งท่าจะขยับตัวออกมา แต่ก็ช้ากว่าสงครามที่ยกมืออีกข้างหนึ่งขึ้นมาขวางเธอไว้
"คิดว่าเธอยังมีสิทธิ์สั่งฉันอยู่เหรอ"
"..." คำถามของชายหนุ่มทำให้จัสมินเป็นฝ่ายก้มหน้าหลบสายตา เธอแค่ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกแล้ว
"ถ้าคิดจะหนีฉันไปเธอก็ไม่ควรกลับมานะ หรือถ้ากลับมาก็ไม่ควรให้ฉันหาเจอ"
"อึก" หยาดน้ำตาที่เพิ่งแห้งเหือดไปเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนค่อยๆ รื้นเอ่อเป็นครั้งที่สองเมื่อโดนบีบปลายคางมนอย่างแรงจนต้องเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง
"พะ..พี่คราม..อึก..มีนเจ็บ"
"ไม่ได้อยู่บนเตียงเธอก็เจ็บเป็นเหมือนกันเหรอ นึกว่าเจ็บตอนโดนฉันกระแทกอย่างเดียว"
"มะ..มีนไม่อยากให้เราเป็นแบบนี้"
"เห็นเธอกลับมาฉันเลยแวะมาทักทายเฉยๆ" สงครามยอมปล่อยมือจากปลายคางมน แล้วก้มลงไปตวัดเลียริมฝีปากสั่นระริกของจัสมินอย่างนุ่มนวล ทำเอาเธอขนลุกซู่จนเผลอยกมือขึ้นมาดันแผงอกแกร่งเบาๆ
เธอเคยอ่อนไหวกับสัมผัสของเขา แต่มันก็แค่เคยเท่านั้น
"ยินดีต้อนรับกลับมา"
"อึก" คำพูดของสงครามทำให้น้ำตาหยดแรกค่อยๆ ไหลกลิ้งลงมาบนพวงแก้มในที่สุด เธอเบือนหน้าหนีก่อนที่เขาจะได้สอดเรียวลิ้นเข้ามา
"ระ..เราเลิกกันแล้ว มีนขอร้อง อย่ายุ่งกับมีนอีกได้ไหม"
"ก่อนจะพูดคำนั้นคิดให้ดีก่อนว่าฉันเป็นแฟนเก่าหรือยังเป็นผัวเธออยู่"
