3 ร้ายกาจ
"พะ..พี่ครามเคยเป็นแฟนของมีน แต่เรื่องของเรามันจบไปแล้วค่ะ เราเลิกกันแล้ว" แต่ละถ้อยคำร้ายกาจที่สงครามพ่นออกมาทำเอาหัวใจดวงน้อยของคนฟังเต้นไม่เป็นส่ำ เธอยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้มลวกๆ เหนื่อยล้าจนไม่อยากต่อปากต่อคำกับเขาต่อ
"งั้นเหรอ?" ชายหนุ่มแค่นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยันพลางดันลิ้นกับกระพุ้งแก้มเบาๆ ทำเอาจัสมินเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น "แล้วเป็นแฟนเก่ามีสิทธิ์เอาเธออีกไหม?"
"..."
"ไม่เจอกันตั้งนานไม่คิดถึงฉันเหรอ" ใบหน้าหวานเบือนหลบด้วยความหวาดกลัวในตอนที่สงครามยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้มแดงระเรื่อ "คิดถึงตอนที่นอนอ้าขาให้ฉันไหม"
"มะ..มีนไม่อยากให้เราเป็นแบบนี้..อึก"
"..."
"มีนไม่ได้อยากเลิกกับพี่คะ..."
ปึก!
จัสมินสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆ สงครามก็ปล่อยหมัดหนักๆ ใส่ประตูรถเต็มแรงก่อนที่เธอจะพูดจบประโยค แล้วเป็นฝ่ายผละตัวออกไป แววตาที่จ้องมองเธอเต็มไปด้วยความโกรธเคือง
"คิดจะเล่นบทนางเอกนิยายแสนดีไปถึงเมื่อไหร่ เห็นแล้วมันน่าสมเพช"
"อึก"
"ไม่กระดากปากตัวเองบ้างเหรอที่พูดแบบนั้น" หญิงสาวสบตากับสงครามด้วยแววตาสั่นระริก ก่อนจะเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนีอีกครั้ง
"มะ..มีนแค่อยากให้เราต่างคนต่างอยู่"
"บางทีที่ที่เธอควรอยู่อาจจะเป็นใต้ร่างของฉันนะ" เขากล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน ก่อนจะหันหลังเดินออกไป ทำเอาจัสมินทรุดเข่าลงบนพื้นอย่างหมดแรง เธอยกมือขึ้นมาปิดหน้าเพื่อกลั้นน้ำตาที่กำลังจะรินไหลออกมาอีกครั้ง จากนั้นจึงหยัดกายลุกขึ้น เดินออกมาจากตรงนั้น สมองยังนึกถึงเรื่องของสงครามซ้ำไปซ้ำมา การที่เธอกับเขามาเจอกันแบบนี้คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
สงครามคงขับรถตามมาตั้งแต่เธอออกมาจากผับแล้ว
จัสมินเอนกายเข้าหาผนังกระจกทันทีที่ก้าวเข้ามาอยู่ในลิฟต์คนเดียว เธอหลับตาลงช้าๆ และใช้มือเช็ดคราบน้ำตาเกรอะกรังออกจากพวงแก้ม ไม่อยากเชื่อว่าจะได้เจอกับสงครามอีกครั้งตั้งแต่วันแรกที่กลับมาจากต่างประเทศ
ถ้าเป็นไปได้เธอไม่อยากเจอกับเขาอีกเลย
@วันต่อมา
ก๊อก~ ก๊อก~
เสียงเคาะประตูห้องพักดังขึ้นในช่วงเย็นของวัน ทำให้จัสมินที่ยังนอนหลับอยู่บนเตียงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย เธอยกมือขึ้นมาขยี้ตาเบาๆ พลางหาวหวอดๆ ก่อนจะก้าวลงจากเตียง เดินสะลึมสะลือออกไปเปิดประตู เพราะรู้ว่าคนที่ยืนรออยู่หน้าประตูคือเพื่อนของตัวเอง
"คนมันจะสวยขนาดตอนตื่นนอนยังสวยเลยนะ" ลูกปัดเอ่ยชมแกมกระแนะกระแหน พร้อมกับเดินเข้ามาในห้องโดยไม่ต้องให้จัสมินเชื้อเชิญ
"มันเหนื่อยสะสมเลยนอนทั้งวันเลย"
"ยังดีนะที่แกบอกลุงยามหน้าคอนโดไว้ก่อนว่าฉันเป็นเพื่อน ไม่งั้นฉันคงเข้ามาไม่ได้"
"ฉันเพิ่งย้ายเข้ามาเมื่อวานเลยไม่มีของกินเลย แกจะสั่งอะไรมากินก่อนไหม"
"ไม่ต้องเป็นห่วงกระเพาะของฉันหรอก ถ้าเหนื่อยก็ไปนอนพักเถอะ" ลูกปัดหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น พร้อมทั้งใช้สายตาสำรวจไปรอบๆ ห้องพักหรูหราที่ประดับตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีขาวสบายตา แต่ก็ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อหันกลับมาเห็นรอยแผลบนริมฝีปากของจัสมินที่นั่งสะลึมสะลืออยู่ฝั่งตรงข้าม "เมื่อคืนฉันไม่ได้สังเกตว่าปากแกเป็นแผล ไปโดนอะไรมา"
"..." คำถามของเพื่อนรักทำเอาจัสมินหายจากอาการงัวเงียในทันที เธอยกมือขึ้นมาแตะบาดแผลบนริมฝีปากเบาๆ มันเป็นรอยแผลที่สงครามฝากไว้เมื่อคืนนี้ "มะ..เมื่อคืนแวะซื้อของกินก่อนกลับห้อง แล้วเผลอกัดปากตัวเอง"
"ฮะ? คนเรามันเผลอกัดปากตัวเองจนเป็นแผลใหญ่แบบนั้นได้ด้วยเหรอ"
"..."
"แกเพิ่งกลับมาจากอเมริกาได้ไม่กี่ชั่วโมงเองนะ โกหกฉันเหรอว่าไม่ได้หิ้วหนุ่มที่นั่นกลับมาด้วย แกไปจูบกับใครมา"
"เปล่า..." ลูกปัดหรี่ตามองเพื่อนอย่างจับผิด ในขณะที่จัสมินแสร้งเสมองไปทางอื่น
"ช่างเถอะ ถึงเค้นถามไปแกก็คงไม่บอกหรอก เพราะแกมันชอบมีความลับกับฉันอยู่แล้ว"
"ตัดพ้อเหมือนเด็กขี้น้อยใจเลย"
"งั้นก็รู้ไว้ซะว่าฉันขี้น้อยใจ ว่าแต่แกจะกลับมาเรียนต่อวันไหน"
"อาทิตย์หน้า"
"พ่อแกนี่น่ารักจังเลยนะ จัดการทุกอย่างให้แกหมดเลย ลูกสาวแทบไม่ต้องทำอะไร แถมพ่อแกคงเส้นใหญ่น่าดูเลยนะ"
"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ความจริงฉันไม่ค่อยอยากรบกวนพ่อเท่าไรด้วย"
"ฉันดีใจนะที่แกยอมกลับมาเรียนต่อที่นี่ เพราะฉันเหงาแล้วก็คิดถึงแกมาก แต่ตอนนี้แกไปนอนพักก่อนเถอะ ค่อยมาคุยกัน เดี๋ยวฉันช่วยจัดของระหว่างที่แกนอนหลับ"
"ไม่เป็นไร ค่อยนอนคืนนี้ก็ได้"
"เลิกเกรงใจฉันแล้วไปนอนค่ะ" ลูกปัดทำเสียงแข็งใส่
"งั้นฉันขอนอนต่ออีกสักชั่วโมงนะ เดี๋ยวตื่นมาแล้วค่อยออกไปหาอะไรกินกัน" จัสมินเอ่ยบอก ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นเดินเข้าห้องนอนไป ในขณะที่ลูกปัดเดินแยกไปอีกฝั่งหนึ่งเพื่อช่วยจัดของให้ระหว่างที่เจ้าของห้องหนีไปพักผ่อน
