ตอนที่ 5
ศรุชายืนนิ่งมองเสื้อผ้ากองโตพร้อมด้วยสมบัติอื่นๆ ของตนที่ถูกเทออกจากกระเป๋าเดินทางกระจัดกระจายเต็มพื้น รู้สึกเหมือนดูละครดราม่าหลังข่าวเรื่องหนึ่ง ผิดแต่ว่าตัวเองเป็นหนึ่งในตัวละครที่ต้องร่วมแสดงไปตามบทบาท และคราวนี้เธอกำลังสวมบทภรรยาหลวงผู้น่าสงสารที่กำลังถูกสามีและชู้รักสวมเขาร่วมมือกันเฉดหัวออกจากบ้านอย่างโหดร้าย
แม้ในใจจะเดือดปุดๆ หากทว่าดวงหน้าสวยหวานนั้นกลับ นิ่งเฉยเหมือนไม่แยแสต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
ดีเท่าไหร่แล้วที่คนเอามากองยังปรานีไม่ทุบทำลายข้าวของพวกนั้นให้พังพินาศย่อยยับไปเสียด้วย หาไม่คงน่าเสียดายเพราะของบางชิ้นนั้นเธอสู้เก็บรักษาทะนุถนอมเป็นอย่างดี โดยเฉพาะสิ่งที่พ่อแม่ตัวเองและพ่อแม่สามีให้มาด้วยความรักใคร่เอ็นดู
“เจอของที่ต้องการไหมคะ” เจ้าของสมบัติถามด้วยโทนเสียงเรียบนุ่มนวลที่ใครๆ ในบ้านชินหู ‘คุณน้ำชา’ ของทุกคนนั้นเป็นคนเรียบร้อยอ่อนโยน ไม่เคยสักครั้งที่จะขึ้นเสียงตวาดกระโชกโฮกฮาก หรือพูดจาหยาบระคายหู แม้แต่กับคนงานหรือคนสวน คุณผู้หญิงคนเล็กของบ้านก็จะพูดด้วยอย่างสุภาพให้เกียรติเสมอ ผิดกับคนที่เพิ่งมารับตำแหน่งคุณผู้หญิงคนล่าสุดหมาดๆ ที่มักจะจิกหัวใช้งานคนในบ้านอย่างไม่เห็นหัวใคร ยกเว้นเมื่อยามอยู่ต่อหน้าลูกชายเจ้าของบ้าน ฝ่ายนั้นจึงยอมเก็บปากเก็บคำรักษามาดผู้ดีกันบ้าง
จนใครต่อใครมักสงสัย กฤตภาคย์นั้นเห็นอะไรในตัวผู้หญิงคนนี้ที่ดีกว่าภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขาถึงรักได้รักดี บางคนที่เจอฤทธิ์เดชมธุรสาจึงแอบมาเม้าท์สนุกปาก
‘ลีลาบนเตียง’ ของเจ้าหล่อนคงเด็ดดวงน่าดู หรือไม่คุณกฤตก็คงโดนของ ว่าไปนู้น...
จนมาถึงวันนี้ที่เจ้าหล่อนได้สิทธิ์ชอบธรรมในฐานะภรรยาใหม่ของเจ้าของบ้านหนุ่มกลับมา จึงเริ่มเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาบ้าง
“จริงสิ แหวนล่ะ แหวนเพชรนพเก้าของคุณแม่ที่เธอได้จาก กฤตตอนหมั้น แหวนนั่นอยู่ไหน” ปากถามว่าอยู่ไหน แต่นัยน์ตาจ้องนิ้วนางข้างซ้ายของศรุชาตาเป็นมัน
แหวนเพชรน้ำงามล้อมอัญมณีนพเก้าประจำต้นตระกูลที่คุณวไลพรมอบให้ลูกชายหมั้นหมายเจ้าสาวคนโปรดไว้ ราคาแพงลิบเพราะเป็นของเก่าแก่ ศรุชาใส่ติดนิ้วไว้เสมอจนชิน เพราะตระหนักดีว่ามันเป็นของรักของคุณป้าผู้มีพระคุณของเธอ มาวันนี้ลูกสะใภ้คนใหม่กลับขอทวงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของคืน
ถ้ามีเงินเธอก็อยากจะซื้อต่อเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกถึงเจ้าของแหวนคนเก่า แต่มูลค่าแหวนนั้นสูงเกินกำลัง
“เอาคืนมาด้วย”
