บทที่ 6: การทดสอบแห่งดาบสลักมังกร
เซียวหานรู้สึกได้ถึงพลังบางอย่างที่ถาโถมเข้ามารอบตัวเขา ดวงตาของเขาพร่ามัวด้วยภาพลวงตาที่ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน ภาพเหล่านั้นไม่ใช่เพียงแค่ภาพธรรมดา แต่มันคืออดีตที่เขาพยายามจะลืมเลือน
“นี่คือการทดสอบของเจ้า...” เสียงทุ้มต่ำดังก้องขึ้นจากเงามืด “ถ้าเจ้าต้องการครอบครองดาบนี้ เจ้าจะต้องเผชิญหน้ากับอดีตของตนเอง”
ภาพของครอบครัวที่เขาสูญเสียไปปรากฏขึ้นตรงหน้า ดวงตาของเซียวหานเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง เขาเห็นภาพบิดามารดาของเขาถูกสังหารอย่างไร้ความปราณี
“ไม่...” เขากระซิบเบา ๆ ราวกับต้องการปฏิเสธสิ่งที่เห็นอยู่เบื้องหน้า
“เจ้าปล่อยให้ความอ่อนแอครอบงำจิตใจของเจ้า...” เงานั้นกล่าวอย่างเย้ยหยัน “และนั่นคือเหตุผลที่เจ้าสูญเสียทุกสิ่ง”
เซียวหานรู้สึกถึงความโกรธที่พุ่งพล่านในใจ ความแค้นที่เกาะกุมอยู่ในจิตใจของเขากำลังพลุ่งพล่านขึ้นมาอีกครั้ง
“ไม่...ข้าไม่ได้อ่อนแอ...” เขากล่าวอย่างหนักแน่น ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่น “ข้าจะไม่ยอมให้ความแค้นควบคุมชีวิตของข้าอีกต่อไป”
เงานั้นนิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะกล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้น จงพิสูจน์ให้ข้าเห็น...”
ภาพลวงตาเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จากภาพแห่งความสูญเสียกลายเป็นภาพของสนามรบที่เต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องและการต่อสู้ที่ดุเดือด
เซียวหานเห็นตัวเขาเองกำลังต่อสู้กับศัตรูอย่างไม่หยุดยั้ง ร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลและความเหนื่อยล้า แต่ดวงตาของเขายังคงเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
“นี่คือเจ้า...” เงานั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น “เจ้าคือผู้ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยความแค้น และไม่มีทางหลุดพ้นจากมันได้”
“ไม่จริง!” เซียวหานตะโกนออกมาอย่างรุนแรง “ข้าได้เรียนรู้แล้วว่า ความแค้นไม่ใช่สิ่งที่จะนำพาข้าไปสู่สิ่งที่ข้าต้องการ”
ภาพลวงตาเริ่มสั่นไหว ราวกับกำลังพยายามต่อต้านความเชื่อมั่นของเซียวหาน แต่เขายังคงยืนหยัดอยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย
“ข้าต้องการปกป้องคนที่ข้ารัก ไม่ใช่เพียงเพื่อแก้แค้น...” เซียวหานกล่าวด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง “ข้าต้องการใช้ดาบนี้เพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้อง”
ภาพลวงตาเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง คราวนี้เป็นภาพของหลี่เหยียนที่กำลังต่อสู้อย่างสุดชีวิตกับมังกรดำ
“หลี่เหยียน...” เซียวหานกระซิบเบา ๆ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใย
“เจ้าจะต้องเลือก...” เงานั้นกล่าว “ระหว่างดาบที่เจ้าปรารถนา หรือผู้ที่เจ้ารัก”
เซียวหานจ้องมองภาพของหลี่เหยียนที่กำลังต่อสู้อย่างกล้าหาญ ดาบในมือนางฟาดฟันไปที่มังกรดำอย่างไม่ย่อท้อ
“ข้าเลือกที่จะปกป้องนาง...” เซียวหานกล่าวอย่างหนักแน่น “ไม่ว่าดาบนี้จะยอมรับข้าหรือไม่ ข้าก็จะไม่ละทิ้งผู้ที่สำคัญต่อข้า”
เงานั้นนิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนที่เสียงหัวเราะเบา ๆ จะดังขึ้น “เจ้าได้ผ่านการทดสอบแล้ว...”
“อะไรนะ?” เซียวหานถามอย่างไม่เชื่อสายตา
“การที่เจ้ายอมสละความปรารถนาของตนเองเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น นั่นคือเครื่องพิสูจน์ว่าเจ้ามีจิตใจที่บริสุทธิ์พอที่จะครอบครองดาบนี้” เงานั้นกล่าวอย่างอ่อนโยน
แสงสว่างที่อาบไล้ทั่วทั้งห้องโถงราวกับแสงแห่งความหวัง เซียวหานรู้สึกได้ถึงพลังบางอย่างที่แผ่ออกมาจากดาบสลักมังกร มันไม่ใช่เพียงแค่อาวุธ แต่มันคือเครื่องมือที่สามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาได้
“เจ้าจงรับดาบนี้...” เงานั้นกล่าวอย่างแผ่วเบา “และใช้มันเพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้อง”
เซียวหานเดินเข้าไปใกล้ดาบสลักมังกร มือของเขาสัมผัสที่ด้ามดาบอย่างระมัดระวัง ความรู้สึกอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากมันทำให้เขารู้ว่าการทดสอบได้สิ้นสุดลงแล้ว
“ข้าจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง...” เซียวหานกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ “และจะไม่ปล่อยให้ความแค้นควบคุมข้าอีกต่อไป”
การทดสอบของเซียวหานสิ้นสุดลงแล้ว แต่เส้นทางที่เขาจะต้องเผชิญหน้ายังคงทอดยาวอยู่เบื้องหน้า...
แสงสว่างที่แผ่ออกมาจากดาบสลักมังกรส่องประกายไปทั่วทั้งห้องโถง เสียงกังวานของพลังที่ปลดปล่อยดังขึ้นราวกับเสียงแห่งความหวังที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง
เซียวหานรับรู้ได้ถึงพลังที่หลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของเขา มันคือพลังที่ไม่ใช่เพียงแค่พลังแห่งดาบเท่านั้น แต่คือพลังแห่งจิตใจที่แข็งแกร่งและมั่นคง
เขารู้ว่าการทดสอบนี้ไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่มันคือการเริ่มต้นใหม่ เส้นทางที่เขาเลือกเดินไปจะต้องเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่เขาพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมัน...
