บทที่ 4 เปลวเพลิงแห่งการต่อสู้
เสียงคำรามของมังกรดำดังกึกก้องราวกับท้องฟ้าที่ถูกฉีกขาด เปลวเพลิงพวยพุ่งออกจากปากของมัน ร้อนแรงจนสามารถหลอมละลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า หมอกหนาทึบที่เคยปกคลุมอยู่บัดนี้กลับถูกเปลวเพลิงผลักดันให้จางหายไปอย่างรวดเร็ว
หลี่เหยียนจับดาบของนางแน่น สายตาของนางจับจ้องไปที่มังกรดำที่โกรธเกรี้ยว ดวงตาสีแดงเข้มของมันเปล่งประกายราวกับอัญมณีแห่งความเกลียดชัง
“เจ้าต้องการให้ข้าล่อมันใช่หรือไม่?” หลี่เหยียนตะโกนบอกเซียวหาน
“ใช่ ข้าจะหาทางเข้าไปในสุสาน” เซียวหานตอบกลับ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
หลี่เหยียนพุ่งตัวไปข้างหน้า ดาบในมือฟาดฟันไปที่ร่างของมังกรดำ แต่การโจมตีของนางกลับถูกปัดป้องด้วยกรงเล็บที่แข็งแกร่งราวกับเหล็กกล้า
เสียงโซ่ที่พันธนาการมังกรดำยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่มันพยายามดิ้นรนเพื่อปลดปล่อยตัวเอง เสียงนั้นราวกับเสียงร้องคร่ำครวญของผู้ที่ถูกจองจำอย่างไร้ที่สิ้นสุด
“เจ้าไม่ใช่สัตว์อสูรธรรมดา...” หลี่เหยียนกระซิบเบา ๆ ขณะถอยหลังเพื่อหลบหลีกการโจมตีของมังกรดำ “เจ้าเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องสถานที่นี้”
เซียวหานใช้โอกาสนั้นลอบเข้าไปทางด้านหลังของมังกรดำ พยายามหลีกเลี่ยงการปะทะกับมันโดยตรง เขารู้ดีว่าการเผชิญหน้ากับผู้พิทักษ์เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
“หลี่เหยียน ระวังตัวด้วย” เสียงของเซียวหานดังขึ้นจากที่ไกล ๆ แต่หลี่เหยียนไม่ได้สนใจคำเตือนนั้น นางตั้งใจที่จะทำหน้าที่ของตนให้สำเร็จ
มังกรดำพุ่งตัวเข้ามาหานางด้วยความรวดเร็ว ร่างกายขนาดใหญ่ของมันเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วเกินกว่าที่คาดคิด
“ต้องการจะข้าพิทักษ์สถานที่นี้ไว้ใช่หรือไม่?” หลี่เหยียนเอ่ยถามด้วยเสียงที่ดังก้อง “แต่ข้าเองก็จะไม่ยอมแพ้เช่นกัน!”
นางพุ่งตัวเข้าไปพร้อมกับดาบในมือ สะบัดมันไปที่ร่างของมังกรดำอย่างไม่ลดละ การต่อสู้ที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นและความเสี่ยงกำลังจะเริ่มขึ้นอย่างแท้จริง...
เสียงการปะทะกันระหว่างดาบกับกรงเล็บของมังกรดำดังก้องขึ้นหลายครั้ง ทุกครั้งที่หลี่เหยียนโจมตี การปัดป้องของมังกรดำก็รุนแรงขึ้นตามไปด้วย
“มันมีความคิดเหมือนมนุษย์...” หลี่เหยียนพึมพำกับตัวเอง “การเคลื่อนไหวของมันไม่ได้เป็นเพียงสัตว์ป่า แต่มันฉลาดและคาดเดาการโจมตีของข้าได้...”
เซียวหานซึ่งลอบเข้าไปด้านหลังของมังกรดำมองเห็นช่องทางหนึ่งที่อาจพาเขาเข้าไปยังสุสานที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังกำแพงหินหนา
“ข้าจะต้องใช้โอกาสนี้...” เซียวหานคิดในใจ ก่อนจะก้าวเข้าไปในช่องทางแคบ ๆ ที่ถูกซ่อนอยู่ท่ามกลางเงามืด
ขณะที่เซียวหานพยายามฝ่าทางเข้าไป หลี่เหยียนกลับต้องเผชิญหน้ากับมังกรดำเพียงลำพัง การโจมตีของมันเริ่มรุนแรงขึ้น เปลวเพลิงที่พวยพุ่งออกมาจากปากของมันราวกับต้องการจะเผาผลาญทุกสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า
“ข้าไม่อาจถอยกลับได้...” หลี่เหยียนกล่าวกับตัวเอง น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “ถ้าข้าถอยกลับ สิ่งที่ข้าต่อสู้มาก็จะสูญเปล่า”
นางพยายามหลบหลีกการโจมตีของมังกรดำด้วยความคล่องแคล่ว แต่พลังของมันก็เกินกว่าที่นางจะต้านทานได้อย่างสมบูรณ์
“เซียวหาน...” หลี่เหยียนเอ่ยชื่อเขาในใจ “ข้าหวังว่าเจ้าจะทำสำเร็จ”
การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด ความหวังที่หลี่เหยียนพยายามยึดมั่นกำลังถูกทดสอบด้วยพลังอันแข็งแกร่งของผู้พิทักษ์มังกรดำ
เบื้องหลังการต่อสู้ เซียวหานได้พบกับประตูหินที่มีลวดลายสลักเป็นรูปมังกรโบราณ มันถูกซ่อนอยู่ในเงามืดอย่างดี
“นี่คือทางเข้า...” เซียวหานกระซิบเบา ๆ ก่อนจะใช้แรงทั้งหมดของเขาเพื่อดันประตูให้เปิดออก
เสียงหินเคลื่อนที่ดังขึ้นอย่างช้า ๆ ขณะที่ประตูถูกผลักออก เผยให้เห็นทางเดินที่นำไปสู่สุสานที่ถูกซ่อนอยู่เบื้องลึกของภูเขา
“ข้าเข้ามาได้แล้ว...” เซียวหานกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ผสมผสานระหว่างความโล่งอกและความระมัดระวัง “แต่ข้าจะต้องรีบหาให้เจอ...”
เบื้องหน้าของเขาคือทางเดินที่ทอดยาวและมืดมิด ราวกับเขากำลังเดินเข้าสู่เงามืดที่ไม่มีที่สิ้นสุด
