บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

“ว่าอะไรนะ” เสียงตบโต๊ะทำงานฉาดใหญ่ดังก้องขึ้น บ่งบอกอารมณ์ของวิชญ์ได้เป็นอย่างดี นั่นทำให้ลูกน้องที่คลาดกับพศินซึ่งกำลังยืนรายงานความคืบหน้าเรื่องแก้วกาญสะดุ้งพร้อมก้มหน้าก้มตามองพื้น ไม่มีใครกล้าสบตาเจ้านายแม้แต่คนเดียว

“ผมเจอคุณแก้วครับ เธอแวะมาที่บ้าน”

“แล้วยังไง” น้ำเสียงห้วนๆ ของวิชญ์ตะคอกถามกลับไป เพราะเขาไม่ได้ต้องการแค่ข่าว เขาต้องการตัว แก้วกาญกับพศินมากกว่า

“พวกผมสะกดรอยตามไป แต่ก็คลาดกัน”

“บัดซบ” วิชญ์สบถออกมา สีหน้าดูไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ กระทั่งในหัวผุดใบหน้าของใครบางคนขึ้นมา พร้อมกับความคิดบางอย่าง จึงหันมองไปยังภูมิ

“นายไปเอาตัวน้องสาวแก้วมา ฉันจะเป็นคนถามเองว่าพี่สาวเธอหนีไปมุดหัวอยู่ที่ไหน” เมื่อรักมากก็ย่อมแค้นมากยามถูกหักหลัง และวิชญ์ก็กำลังระบายความแค้นนั้นกับคนใกล้ตัวแก้วกาญอย่างไม่ไว้หน้า

“ครับเจ้านาย” ภูมิเอ่ยรับแล้วออกไปจัดการตามคำสั่งของวิชญ์ทันที แม้บางครั้งความคิดของเขาจะสวนทางกับผู้เป็นนาย แต่ภูมิก็ไม่ได้อยู่ในสถานะเสนอความคิดเห็นอะไรได้ นอกจากทำตามคำสั่งเท่านั้น

“ดูสิว่าเธอจะปากแข็งได้สักกี่น้ำ” เมื่อนึกถึงมารีญาวิชญ์ก็ยิ้มเหยียดออกมา เพราะเดาไว้แล้วว่าแก้วกาญต้องกลับไปหามารีญาที่บ้าน และเธอก็คงรู้ว่าเขาเองก็คงส่งคนไปคอยดักซุ่มอยู่แถวๆ นั้นเหมือนกัน แต่ก็ยอมรับว่าพศินเก่งที่ยังพาแก้วกาญรอดจากคนของเขาไปได้ ซึ่งขอให้เก่งแบบนี้ไปตลอด

คนของวิชญ์ บุกไปจับตัวมารีญาถึงที่บ้านอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายด้วยซ้ำโดยมีภูมิตามไปด้วย ระหว่างทางแม้มารีญาจะถามชายหนุ่มสักเท่าไหร่ว่าเขาจะพาเธอไปไหน แต่ภูมิกลับนั่งนิ่งไม่ได้เอ่ยตอบอะไรมาแม้แต่ประโยคเดียว ซึ่งเธอก็พอจะเดาได้ว่าทั้งหมดทำตามคำสั่งของใคร

และการกระทำของวิชญ์ก็ยิ่งทำให้เธอเกิดอคติกับเขามากขึ้น ไม่ว่ายังไงก็มองชายหนุ่มในแง่ร้ายไม่ยอมญาติดีด้วย หรือเพราะเขาชอบทำตัวร้ายๆ แบบนี้พี่สาวเธอถึงได้หนีไปแบบนั้น

ภูมิพามารีญาไปยังเพนต์เฮาส์ส่วนตัวของวิชญ์ ที่นี่มีระบบรักษาความปลอดภัยระดับดีเยี่ยม ใครจะเข้าหรือออกย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งมารีญาก็พยายามมองหาทางหนีที่ไล่ตลอดเวลา ด้วยการใช้ชีวิตธรรมดาๆ แบบเธอจึงไม่เคยรู้ว่ามีคอนโดมิเนียมหรือเพนต์เฮาส์หรูหราแบบนี้ด้วย

“ฉันจะแจ้งความที่คุณจับตัวฉันมา” ทันทีที่เผชิญหน้ากับวิชญ์มารีญาก็เอ่ยบอกขึ้นอย่างไม่พอใจ ในขณะที่วิชญ์ซึ่งนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาสีดำภายในห้องรับแขก แล้วมองตรงมาที่เธอกลับไหวไหล่อย่างไม่สะเทือนกับคำขู่นั้น

“เอาสิ นั่นไงโทรศัพท์ โทรได้เลย” วิชญ์หันไปมองโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ใกล้ตัวมารีญา แต่ทว่าทันทีที่เธอเอื้อมมือจะไปคว้าโทรศัพท์เครื่องที่ว่ามาถือไว้ เขากลับพูดต่อ

“แต่ถ้าเธอโทรไป ฉันก็ยิ่งไม่รับรองความปลอดภัยของพี่สาวเธอ”

“คุณ...” คำพูดของวิชญ์ทำให้มารีญาถึงกับชะงัก แล้วยืนจ้องหน้าเขากลับอย่างไม่นึกกลัว ทั้งๆ ที่นี่วิชญ์ใหญ่สุดก็ตาม

“ตอบฉันมาว่าตอนนี้แก้วอยู่ที่ไหน” น้ำเสียงห้วนๆ บ่งบอกความไม่เป็นมิตรของวิชญ์ดังขึ้น พร้อมจับจ้องมาที่มารีญาอย่างจับผิด

“ฉันไม่รู้”

“แน่ใจเหรอว่าไม่รู้”

“ค่ะ...ไม่รู้” มารีญายังคงยืนกระต่ายขาเดียวปฏิเสธ นั่นเพราะเธอไม่รู้จริงๆ ว่าแก้วกาญจะหนีไปอยู่ที่ไหน แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่เชื่อ

“แล้ววันนี้ใครไปหาเธอที่บ้าน”

“ไม่มีค่ะ”

“เลิกโกหกได้แล้ว ฉันรู้ว่าวันนี้แก้วแวะไปหาเธอที่บ้าน” เสียงตบโต๊ะที่ดังขึ้นทำให้มารีญาสะดุ้ง ในขณะที่วิชญ์ซึ่งระบายอารมณ์โกรธกับโต๊ะไปเมื่อครู่กลับไม่ได้รู้สึกเจ็บที่มือเพราะความเจ็บมันรวมกันอยู่ที่ใจหมดแล้วนั่นเอง เจ็บจนแค้นก็คงไม่ผิด เพราะไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าหักหลังเขาแบบที่แก้วกาญเคยทำมาก่อน

“นี่คุณกำลังละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของฉันอยู่นะคะ” แม้จะตกใจแต่มารีญาก็ยังคงใจดีสู้เสือเข้าไว้ เพราะคนแบบวิชญ์การใช้ไม้แข็งกับเขาในตอนนี้ อาจจะยิ่งส่งผลร้ายไปถึงพี่สาวเธอ

“แล้วไง บอกไว้ก่อน กฎหมายอ่อนๆ บางอย่างมันก็ใช้กับคนแบบฉันไม่ได้หรอก ฉันขอถามเธออีกครั้งว่าวันนี้มีใครไปหาเธอที่บ้าน” แววตาของวิชญ์ที่ส่งมายังมารีญานั้นดูเย็นชาและน่ากลัว

“คุณก็รู้คำตอบอยู่แล้ว ยังจะถามซ้ำอีกทำไม”

“ปากดี”

“ต่อให้คุณจะถามฉันอีกสักกี่ร้อยกี่พันครั้งคำตอบของฉันก็ยังคงเหมือนเดิมคือ...ไม่รู้” คำตอบของมารีญาทำให้วิชญ์อยากเข้ามาบีบคอเล็กๆ นั่นของเธอนัก

ผู้หญิงตัวเล็กๆ มองมุมไหนก็แทบไม่มีเสน่ห์อะไรดึงดูดสายตา ไม่มีคนรู้จักใหญ่โตที่พอจะขอความช่วยเหลือหรือเป็นแบคให้ด้วยซ้ำ แต่กลับกล้าต่อปากต่อคำกับเขาได้ถึงขนาดนี้ ที่รู้แบบนั้นเพราะเขาให้ภูมิตามสืบประวัติของมารีญามาจนหมดแล้วนั่นเอง

“ภูมิเข้ามานี่หน่อย” วิชญ์กลับตะโกนเรียกภูมิด้วยเสียงดุดันเพื่อข่มขวัญมารีญา

“ครับเจ้านาย”

“ไปค้นทุกซอกทุกมุมในบ้านเธอ แล้วเอาข้าวของเครื่องใช้ของเธอมาให้หมดด้วย” รับคำสั่งเสร็จภูมิก็ออกไปจัดการทันที

“คุณจะทำอะไร” มารีญาเอ่ยถามอย่างกังวลและกลัวอยู่ในที เพราะเดาใจวิชญ์ไม่ออกว่าต่อจากนี้เขาคิดจะทำอะไรกันแน่

“ก็แค่จะเอาเธอมาเป็นตัวประกัน”

“ว่าอะไรนะ”

“คอยดูว่าฉันหรือพี่สาวเธอที่จะชนะ”

“คุณมันบ้าไปแล้ว คิดว่าตัวเองอยู่เหนือกฎหมายหรือไง” น้ำเสียงไม่พอใจของมารีญาดังขึ้น แต่วิชญ์กลับไม่สะทกสะท้าน

“ใช่...ถ้าเธอไม่อยากให้พี่สาวตายแบบศพไร้ญาติละก็ จงอยู่ที่นี่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว อย่าริสร้างปัญหาให้ฉันต้องจับเธอโยนลงไปในหลุมฝังศพพร้อมพี่สาวเธอ” คำขู่ของวิชญ์ดังก้องอยู่ในหัวของมารีญา และมั่นใจว่าเขาทำตามที่พูดได้ทุกคำ

“เพราะคุณเป็นคนแบบนี้ใช่ไหม พี่สาวฉันถึงได้หนีไป”

“คนแบบนี้ แบบไหน” เสียงห้วนๆ เอ่ยถามขึ้น พร้อมจ้องมองมาที่มารีญาเพื่อรอฟังคำตอบ

“ปากร้าย ใจร้าย สั่งฆ่าคนได้ราวกับชีวิตคนอื่นเป็นผักเป็นปลา ต่อให้พี่สาวฉันจะบอกว่าคุณไม่เคยทำร้ายร่างกาย แต่ฉันไม่มีวันเชื่อเด็ดขาด”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel