บทที่ 6
“งั้นก็ลองมาเป็นเมียฉันดู จะได้รู้ว่าฉันทำร้ายเธอไหม” คำพูดแบบหน้าด้านๆ ของวิชญ์ทำให้มารีญาควันออกหู
“พูดออกมาได้ไม่อายปาก ทุเรศ”
“เธอก็แค่ตัวรับกรรมจากการกระทำโง่ๆ ของพี่สาวตัวเองแค่นั้น ถ้าอยากเป็นอิสระก็แค่หุปปากแล้วอยู่ให้เป็น” เอ่ยบอกเสร็จวิชญ์ก็เดินจากไป ปล่อยให้มารีญายืนอึ้งเนื่องจากทำตัวไม่ถูก และไม่รู้จะต้องเดินไปทางไหนเช่นเดียวกัน
เธอทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นอย่างคนหมดแรง ไม่รู้ว่าต้องขอความช่วยเหลือใครเพราะรอบข้างก็แทบไม่มีญาติให้หันหน้าไปพึ่งพิง จะแจ้งตำรวจก็กลัวชีวิตของแก้วกาญจะยิ่งไม่ปลอดภัย
ระหว่างนั้นภูมิก็กลับมารื้อค้นของในบ้านมารีญา และพบเงินสดปึกใหญ่ที่แก้วกาญเอามาให้ ซึ่งมารีญาก็ไม่ได้ซ่อนมันให้มิดชิดแต่อย่างใด จากนั้นภูมิก็เก็บของใช้ส่วนตัวรวมถึงเสื้อผ้าใส่กระเป๋าให้มารีญาแบบลวกๆ ไม่ได้เลือกอย่างพิถีพิถันแต่อย่างใด
จากนั้นก็กลับออกไปทันที โดยไม่ลืมล็อคบ้านให้มารีญาโดยใช้กุญแจอันใหม่ เพราะตอนเข้ามาพวกเขาเลือกวิธีถีบประตูไม้อันเก่าจนพัง และทันทีที่ภูมิกลับมาที่เพนต์เฮาส์ ชายหนุ่มก็ตรงเข้าไปหาวิชญ์ที่เวลานี้นั่งรออยู่ในห้องทำงานแล้ววางเงินสดที่รื้อค้นได้จากบ้านของ มารีญาลงบนโต๊ะทำงานเจ้านาย
วิชญ์ยิ้มเหยียดออกมา แล้วเดินถือเงินปึกนั้นเข้าไปหามารีญาที่จนถึงตอนนี้เธอก็ยังคงนั่งอยู่บนพื้นในห้องรับแขก โดยแทบไม่ได้ลุกไปไหน
“ใจดีจริงๆ นะ ถึงกับแบ่งเงินที่ขโมยไปให้น้องสาวใช้” เอ่ยจบวิชญ์ก็โยนเงินปึกนั้นลงไปตรงหน้ามารีญา ทำให้เธอถึงกับสะดุ้ง
“พี่แก้วบอกว่าเงินกับของพวกนั้นเป็นของพี่แก้ว”
“บางส่วน อยากได้เงินหรือเครื่องเพชรที่ฉันซื้อให้ก็เอาไปสิ ไม่ใช่แอบเป็นชู้กับคนของฉันอยู่นานสองนาน”
“ว่าอะไรนะคะ” สิ่งที่ได้รู้ทำเอามารีญาถึงกับช็อคไปชั่วขณะ
“พี่สาวเธอคงคิดว่าฉันโง่มากมั้ง แต่ฉันก็ยอมโง่จริงๆ เพราะคิดว่าพี่สาวเธอจะกลับใจได้สักวัน แต่เปล่าเลย ยิ่งฉันทำเป็นหูหนวกตาบอดพี่สาวเธอกลับยิ่งเผยธาตุแท้ออกมา ผู้หญิงน่ารังเกียจแบบนั้นฉันไม่มีวันเอาไว้แน่” วิชญ์กัดฟันแน่นจนขึ้นเป็นสันบนใบหน้า เพราะยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น
“คุณพูดฝ่ายเดียวจะพูดใส่ความพี่สาวฉันยังไงก็ได้”
“คนแบบฉันนี่เหรอจะมีเวลาว่างถึงขนาดมานั่งใส่ความพี่สาวเธอ”
“ค่ะ” มารีญาเอ่ยรับอย่างอึนๆ สมองกำลังประมวลผลกับสิ่งที่ได้ยินไป นั่นเพราะเธอไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนนั่นเอง
วิชญ์หันไปมองภูมิ ซึ่งลูกน้องคนสนิทก็เดาใจเจ้านายออกว่าต้องการให้ทำอะไร ไม่นานภูมิก็หยิบโทรศัพท์มาเปิดรูปรวมถึงคลิปของแก้วกาญกับพศินที่ถ่ายเอาไว้ได้มายื่นให้มารีญาดู ซึ่งที่ได้เห็นทำให้มารีญาถึงกับตกใจจนเผลอทำโทรศัพท์หล่นพื้น
“แบบนี้ยังจะหาว่าฉันใส่ความพี่สาวที่แสนดีของเธออยู่อีกไหม”
“ทะ...ถ้าคุณตามตัวพี่แก้วเจอ คุณจะฆ่าพี่แก้วจริงๆ นะเหรอ” วิชญ์ไม่ตอบคำถามนั้นของมารีญา แต่แววตาเย็นชาและดูน่ากลัวที่เขาส่งมาให้เธอก็คือคำตอบในตัวเอง ว่าหากเขาตามจนพบตัวแก้วกาญเมื่อไหร่คงทำตามที่เธอพูดอย่างไม่ลังเล
“ถ้าคุณรับปากว่าจะไม่ทำร้ายหรือฆ่าพี่สาวฉัน ฉันก็จะยอมอยู่ที่นี่เพื่อชดใช้แทนพี่แก้ว” นี่คือทางออกเดียวที่มารีญาพอจะคิดได้ในตอนนี้ ยังไงเธอก็ไม่ยอมให้วิชญ์ฆ่าพี่สาวได้แน่
“ชดใช้อย่างนั้นเหรอ” คนฟังยิ้มเหยียดออกมา เพราะยังมองไม่ออกว่ามารีญาจะชดใช้แทนสิ่งที่แก้วกาญก่อไว้ได้ยังไง
“ใช่”
“ทุกๆ อย่างด้วยใช่ไหม” วิชญ์เลิกคิ้วสูง สีหน้าแววตานั้นดูเจ้าเล่ห์อย่างเห็นได้ชัด
“ค่ะ...ทุกอย่าง” มารีญาเอ่ยรับอย่างกล้ำกลืน
“แม้กระทั่งขึ้นเตียงกับฉัน” ประโยคที่ได้ยินครั้งนี้ทำเอามารีญาอึ้งไปทันที เพราะในสมองเธอไม่ได้คิดถึงเรื่องพวกนี้เลยนั่นเอง
“ขะ...ขึ้นเตียงด้วยหรือคะ” น้ำเสียงของมารีญาดูสั่นๆ เพราะกำลังตื่นตกใจ ในขณะที่วิชญ์กลับยังคงดูสบายๆ
“เธอเข้าใจความหมายของคำว่าขึ้นเตียงยังไง ไหนลองพูดมาให้ฉันฟังหน่อยสิ”
“เซ็กซ์” มารีญาตอบเพียงคำเดียวแต่มันก็อธิบายได้อย่างชัดเจนจนไม่ต้องถามซ้ำหรือขอคำอธิบายใดๆ เพิ่มเติม ซึ่งคำตอบจากเธอก็ได้รับคำชมไปจากวิชญ์
“ฉลาดดี”
“แล้วถ้าฉันขอไม่ขึ้นเตียงกับคุณละคะ”
“จะกลืนน้ำลายตัวเองตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มเลยหรือไง อย่าลืมสิว่าเธอเป็นคนพูดเองว่าจะอยู่ที่นี่เพื่อชดทุกอย่างใช้ให้พี่สาว ซึ่งแก้วอยู่กับฉันแบบผัวเมีย เธอก็ต้องรับหน้าที่นั้นไปด้วย” คำพูดของวิชญ์ทำให้มารีญาเกิดอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก น้ำตามันเอ่อเพราะรู้สึกน้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง ที่ไม่อาจขัดขืนหรือต่อต้านอะไรวิชญ์ได้เลย
“ค่ะ” มารีญาเอ่ยรับอย่างจำนนในโชคชะตาอันผิดเพี้ยนของตัวเอง ในขณะที่วิชญ์ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรเช่นกัน ชายหนุ่มทำเพียงยิ้มมุมปากให้เธอแล้วก็เดินจากไป ปล่อยให้มารีญานั่งก้มหน้ามองพื้นห้อง ไม่คิดจริงๆ ว่าวันหนึ่งเธอต้องตกอยู่ในสภาพอย่างตอนนี้ รวมถึงยังคงช็อคกับเรื่องของแก้วกาญจนตั้งตัวแทบไม่ทัน
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ปล่อยให้วิชญ์ทำร้ายหรือฆ่าแก้วกาญไม่ได้แน่ ยังไงก็ต้องช่วยให้ถึงที่สุดและทางเดียวที่เธอพอจะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ก็คือการอยู่ที่นี่กับวิชญ์ อยู่เป็นตัวประกันหรือตัวแทนจนกว่าเขาจะหายโกรธแล้วปล่อยเธอรวมถึงพี่สาวไปอย่างปลอดภัย
ซึ่งมารีญาภาวนาขอให้วันนั้นมาถึงโดยเร็ว รวมถึงภาวนาให้ทุกอย่างไม่เลวร้ายไปกว่านี้
