ตัวแทนสถานะเมีย

50.0K · จบแล้ว
วรนิษฐา
32
บท
22.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เธอก็แค่ตัวแทน ที่ถูกเขายกมาวางในตำแหน่ง...เมีย

นิยายรักโรแมนติกสัญญาทางรักพระเอกเก่งจีบเมียเก่าแต่งงานก่อนรักเลือดร้อนเศรษฐีรักหวานๆ

บทที่ 1

ความรัก มักจะก่อให้เกิดความสุข ความยินดี หากรักนั้นได้เจอคนดีๆ ที่ศีลเสมอกัน คอยเกื้อกูลกัน แต่บางครั้งความรักที่อยู่บนพื้นฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจกลับได้รับสิ่งตอบแทนเป็นความเจ็บปวด จนเปลี่ยนความรักให้เป็นความโกรธเกรี้ยว ความอาฆาตที่ถูกคนรักแทงข้างหลัง

สิ่งเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นกับมนุษย์เสมอๆ ไม่ว่าจะยากดีมีจนต่างก็ต้องเจอกับบททดสอบเหล่านี้ หนึ่งในนั้นคือนักธุรกิจหนุ่มที่ชื่อว่าวิชญ์ ในโลกของธุรกิจเขาไม่มีคำว่าแพ้ แต่เมื่อหลายวันก่อนเขากลับต้องมาแพ้ให้กับผู้หญิงใกล้ตัว ทั้งๆ ที่เขาพยายามให้โอกาสหวังว่าเธอจะปรับปรุงตัว แต่ทว่าผลที่ได้มากลับยิ่งเลวร้าย

การถูกหักหลังจากผู้หญิงที่เขามั่นใจว่ารักจนวาดฝันอนาคตไว้ร่วมกัน คนที่เขาได้มอบความรักให้เธอและดูแลเธออย่างดีมาตลอด อยากได้อะไรแค่เอ่ยปากเขาก็หามาให้ แต่สุดท้ายเธอกลับเปลี่ยนความรักที่เขามีเป็นความแค้นที่ไม่มีวันให้อภัย จึงเจ็บเสียยิ่งกว่าเจ็บ

“งานที่สั่งไปถึงไหนแล้ว” น้ำเสียงห้วนๆ ของวิชญ์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานแต่ทว่าหันหลังให้ลูกน้อง เอ่ยถามความคืบหน้าในงานที่เขาได้สั่งออกไปเมื่อหลายวันก่อน วันที่เขาพบเจอกับเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดกับตัวเอง วันที่เขาถูกคนใกล้ตัวหักหลัง

“ยังไม่ได้ข่าวครับ”

“อีกกี่วัน” น้ำเสียงของวิชญ์ยังคงติดห้วนเช่นเดิม

“เอ่อ...” ลูกน้องที่รับงานนี้ไปถึงกับอึกอัก นั่นเพราะพวกเขาต่างทุ่มเทให้กับงานชิ้นนี้เป็นอย่างมาก แต่ทว่ากลับยังคว้าน้ำเหลว ได้แต่ยืนบีบมืออย่างรู้สึกผิดและความกลัวต่อผู้เป็นเจ้านาย ซึ่งความรู้สึกอย่างหลังดูเหมือนจะมีมากกว่า

วิชญ์หมุนเก้าอี้กลับมาเผชิญหน้ากับกมล สีหน้าและแววาตาของเขาที่ส่งมายังลูกน้องนั้น ช่างดูเย็นชาเสียจนทำให้ผู้ชายตัวสูงใหญ่อย่างกมลเกิดอาการเสียวสันหลังขึ้นมาทันที

“ฉันถามว่าอีกกี่วันถึงจะได้ข่าวสองคนนั้น ตอบมากมล”

“ผมขอเวลาอีกหนึ่งอาทิตย์ครับเจ้านาย” กมลรีบตอบจนเสียงเริ่มสั่น

“โอเค ฉันให้เวลานายตามที่ขอ แต่ถ้าหนึ่งอาทิตย์ต่อจากนี้ฉันยังไม่ได้ข่าวจากนายหรือได้ข่าวที่มันไม่คุ้มค่ากับเวลาที่ฉันต้องรอ นายรู้ใช่ไหมจะเกิดอะไรขึ้น” วิชญ์เอ่ยคาดโทษ เพราะเวลาของเขาก็สำคัญเช่นกัน

“ครับ”

“กลับไปทำงานของนายได้แล้ว”

“ครับเจ้านาย” กมลโค้งคำนับ แต่จังหวะที่กำลังจะหมุนตัวกลับออกไปจากห้องทำงานของผู้เป็นเจ้านั้น วิชญ์ก็เอ่ยขึ้น

“เรียกภูมิเข้ามาหาฉันด้วย”

“ครับ” เอ่ยรับเสร็จกมลก็กลับออกไป ซึ่งทันทีที่ก้าวออกมาจากห้องทำงานของวิชญ์ได้ ก็เจอเข้ากับคนที่เจ้านายอยากพบตัวพอดี

“หน้าถอดสีมาขนาดนี้ อารมณ์เจ้านายติดลบแน่ใช่ไหม” ภูมิมือขวาของวิชญ์เอ่ยถามขึ้น เขากับกมลนั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน และเป็นคนเอ่ยปากชวนให้กมลมาทำงานกับวิชญ์

“ใช่สิพี่ เพราะตอนนี้ผมยังสืบไม่ได้เลยว่าสองคนนั้นไปอยู่กันที่ไหน อ้อ...เจ้านายถามหาพี่ด้วย”

“แล้วทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้เล่า” เอ่ยจบภูมิก็ก้าวยาวๆ เข้าไปในห้องทำงานของวิชญ์ทันที ส่วนคนที่ไม่ได้ตั้งใจจะบอกช้าอย่างกมลก็รีบกลับไปทำงานของตัวเองเช่นเดียวกัน

งานตามหาคนมันไม่ยากสำหรับอดีตนักสืบอย่างเขา แต่ที่มันยากคือเรื่องเวลาที่กระชั้นชิดมาก ที่สำคัญอีกฝ่ายก็คงเก็บตัวเพื่อไม่ให้รู้ที่อยู่อย่างดีเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นกมลก็ไม่มีทางถอดใจง่ายๆ แน่ ยิ่งสืบยากเขากลับยิ่งรู้สึกว่าท้าทาย

“เจ้านายเรียกผมหรือครับ”

“ใช่...ถ้าจำไม่ผิด แก้วเคยไหว้วานให้นายเอาของไปส่งที่บ้านเธอใช่ไหม”

“ครับ” ภูมิเอ่ยรับพร้อมกับพยายามเดาความคิดของเจ้านายไปด้วย แต่บางครั้งวิชญ์ก็ยากจะเดาใจได้ออก

“ที่ไหนนะ ฉันลืมไปแล้ว”

“รังสิตครับ”

“พาฉันไปหน่อย” คำสั่งของวิชญ์ทำให้ภูมิต้องเอ่ยถามขึ้น

“จะไม่เสียเวลาหรือครับ เพราะเราให้คนไปดักสุ่มอยู่แถวๆ นั้นก็ยังไม่พบตัวคุณแก้ว” วิชญ์ยิ้มให้กับคำถามของลูกน้องคนสนิทที่เป็นผู้ช่วยมือหนึ่งของเขามาตลอดหลายปี

“ใครบอกว่าฉันอยากเจอแก้ว” วิชญ์ยิ้มเหยียดออกมานิดหน่อย เขาไม่ใช่ผู้ชายใจถึงขนาดลืมอะไรได้เร็วขนาดนั้น ต่อให้เจอตัวแก้วกาญหรือไม่เจอเขาก็ไม่มีวันอภัยให้ผู้หญิงแพศยาเลี้ยงไม่เชื่องอย่างเธอแน่นอน

ในเมื่อเธอกล้าหักหลังเขาได้ถึงขนาดนี้ เธอก็ควรได้อะไรตอบแทนกลับไปบ้าง รวมถึงความรู้สึกผิดเสียใจรวมถึงเสียดายที่กล้าตัดสินใจทำแบบนี้ลงไป

“แล้วเจ้านายอยากเจอใครครับ หรือว่า...”

“สั่งคนเตรียมรถ อีกห้านาทีฉันลงไป”

“ครับเจ้านาย” ภูมิเอ่ยรับ แล้วกลับออกไปสั่งให้คนเตรียมรถไว้รอวิชญ์ทันที ชายหนุ่มพอจะเดาใจเจ้านายออก แต่ก็ยอมรับว่าไม่ทั้งหมดแน่

รถยุโรปคันหรูขับออกจากเพนต์เฮาส์ใจกลางเมืองแล้วมุ่งหน้าไปยังบ้านของแก้วกาญ ที่วิชญ์ยังไม่มีโอกาสได้แวะไปเลยสักครั้ง แม้เขากับเธอจะคบหากันมาเกือบหนึ่งปีแล้วก็ตามที นั่นเพราะทุกครั้งที่ขอไปแก้วกาญมักจะปฏิเสธเสมอ

โดยระหว่างทางวิชญ์ก็นั่งทำงานไปด้วย เพราะไม่อยากให้เรื่องส่วนตัวกระทบกับงานแม้แต่น้อยนิด ยิ่งโปรเจกต์ใหญ่ที่พึ่งคว้ามาไว้ในมือได้หมาดๆ ก็อยากทำให้มันออกมาดีทุกอย่าง

“ถึงแล้วครับเจ้านาย”

“ที่นี่น่ะเหรอ“

“ครับ” ภูมิเอ่ยรับ ในขณะที่วิชญ์ลดกระจกรถลงเพื่อจะมองบ้านหลังตรงหน้าให้ชัด ถ้าเขาจำไม่ผิดเมื่อปีก่อนแก้วกาญเคยขอเงินจากเขาก้อนหนึ่ง โดยเธอบอกว่าจะเอาเงินก้อนนั้นมาซ่อมบ้านที่ทรุดโทรมให้น้องสาวที่ใกล้จะเรียนจบแล้วได้อยู่อย่างสะดวกสบายขึ้น ซึ่งเขาก็เซ็นเช็คเงินสดให้เธอไปหนึ่งล้าน

แต่พอได้มาเห็นบ้านหลังที่ว่ากับตาตัวเอง ดูเหมือนเงินหนึ่งล้านมันจะล่องหน เพราะบ้านก็ยังคงดูทรุดโทรม ไม่มีร่องรอยของการซ่อมแซมเลยแม้แต่น้อย ชายหนุ่มยิ้มเหยียดให้กับความโง่ของตัวเอง ที่เลือกไว้ใจคนใกล้ตัวผิดไปถึงสองคน ซึ่งเรื่องนี้วิชญ์สั่งเก็บเป็นความลับ หากเรื่องหลุดถึงหูนักข่าวหรือคนอื่นคงได้พูดกันอย่างสนุกปาก และหากใครกล้าขัดคำสั่งเขาโทษของคนนั้นคือ...ความตายเท่านั้น