๔ ไร้ค่า (๔)
สิ่งนั้นเองที่ทำให้คุณทัศนียาถึงกับเคียดแค้นที่โดนลูกเลี้ยงต้มจนเปื่อย คิดว่าเรียนไม่จบเสียอีก ที่ไหนได้จบถึงปริญญาโทแล้วได้ทำงานบริษัทต่างประเทศก่อนกลับไทย ไม่น่าเล่าทำไมจึงได้ตำแหน่งรองประธานบริษัทอย่างง่ายดาย
“ไอ้ฉายมันจะแต่งงานกับลูกสาวคุณโกศล คนที่แม่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะให้แต่งงานกับแก...มันได้ของดีไปตลอด!” ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโหเพราะไม่อาจขัดขวางการแต่งงานครั้งนี้ได้แล้ว เข้ามาคุยกับบุตรชายที่ไม่มีท่าทางทุกข์ร้อนก็ยิ่งเพิ่มความโมโหมากกว่าเดิม
“ไม่เสมอไปหรอกครับ”
“หมายความว่ายังไง” หันมาสนใจสิรภัทรที่ยังคงส่องกระจกแล้วจัดทรงผมให้หล่อเหลาเพราะในวันหยุดนี้เขามีธุระต้องออกไปข้างนอก
“แม่คิดว่าผมออกไปทำงานทุกวันจริงเหรอ...ผมก็แค่กำลังสร้างเรื่องบังเอิญกับคุณวิกานดาต่างหากล่ะ” พอคิดย้อนไปก็จริงตามนั้น ช่วงหลังบุตรชายอยู่ไม่ติดบ้านแล้วบอกว่าจะไปทำงานเสมอจนนึกหงุดหงิดที่สิรภัทรไม่ยอมหาสะใภ้ที่เพียบพร้อมให้ตนบ้างเลย
พอวันนี้รู้ความจริงก็ตาลุกวาว เดินเข้ามายืนข้างคนตัวสูงพลางชื่นชมไม่ขาดปาก ไม่เสียแรงที่อุตส่าห์ปลุกปั้นมาอย่างดี
ลูกชายของนางก็มีความคิดกับเขานี่น่า
“ภัทร...แกฉลาดเป็นกับเขาเหมือนกันนี่”
“แม่...” ถึงกับหันมาทำหน้าเนือยใส่ท่าน เห็นลูกชายไม่เอาถ่านขนาดนั้นเลยเหรอ เขาก็มีแผนเหมือนไม่
ใครจะอยากเห็นคนที่เกลียดได้ดีกว่าตัวเองกันล่ะ!
“ดีแล้ว แย่งผู้หญิงของมันมาให้ได้เข้าใจไหม อย่าให้ไอ้ฉายมันได้ทุกอย่าง เราต้องชนะมัน!” สอนลูกชายซึ่งเขาก็พยักหน้ารับคำเป็นมั่นเหมาะ อย่างไรก็ไม่มีทางยอมให้ตะวันฉายอยู่เหนือกว่าตนไปทุกทางเป็นอันขาด
“ครับ”
ตอบรับคำของท่านก่อนจะเดินลงมาข้างล่างเมื่อถึงเวลาต้องออกไปข้างนอก ผ่านห้องนั่งเล่นที่มีพี่ชายต่างสายเลือดนอนดูโทรทัศน์อย่างสบายอุรา คงคิดว่าได้ครอบครองทุกอย่างหมดแล้วจึงไม่สนใจจะไขว่คว้าสิ่งใด เห็นอย่างนั้นก็นึกสนุกถ้าวันงานเจ้าสาวหายตัวไป
เจ้าบ่าวจะทำอย่างไรนะ...
“พี่ฉายไม่ออกไปไหนเหรอครับ ผมนึกว่าจะไปหาว่าที่เจ้าสาวซะอีก” จากที่คิดจะก้าวเท้าออกจากบ้าน ก็เปลี่ยนทิศทางมายังห้องนั่งเล่น
ท่านรองฯ รูปหล่อเพียงแค่เหลือบมองสิรภัทรแล้วหยิบขนมเข้าปาก ส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่ายเพราะตัวเองไม่ได้ออกไปไหน ความจริงจะไปตีกอล์ฟกับกลุ่มผู้บริหารก็ได้ เพียงแต่คุณอาทิตย์ไปด้วยตนจึงไม่อยากตามไปสมทบ กลัวต่อปากต่อคำกับพ่อต่อหน้าคนอื่นแล้วเรื่องจะไปกันใหญ่
“วิไม่ว่างน่ะสิ เห็นบอกต้องไปธุระกับครอบครัว ฉันเลยต้องนั่งแกร่วอยู่บ้านคนเดียวไง นายจะออกไปไหนล่ะแต่งตัวซะดีเชียว นัดสาวไว้เหรอ”
มองอีกฝ่ายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ทั้งยังน้ำหอมกลิ่นฟุ้งไปทั่วห้องอีก ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคงไปออกเดท
“ครับ นัดเอาไว้...ถ้ายังงั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” เจ้าตัวพยักหน้าแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ โดยที่ตะวันฉายก็ไม่ทันได้คิดว่ากำลังจะถูกแย่งเจ้าสาว จึงพยักหน้าไปตามเรื่องแล้วหันกลับมามองหน้าจอโทรทัศน์อีกครั้ง
“ไปสิ ฉันไม่ได้ดึงขานายเอาไว้สักหน่อย”
หัวหน้าแผนกจัดซื้อเดินออกมาก็เหลียวมองคนที่นอนเหยียดกายบนโซฟา ทำได้เพียงพึมพำกับตัวเองอย่างเคียดแค้น
“ไอ้บ้าเอ๊ย กวนประสาทเข้าไปเถอะ ถึงงานแต่งเมื่อไหร่แกได้น้ำตาเช็ดหัวเข่าแน่”
หมายมั่นเอาไว้แล้วว่าอย่างไรก็ต้องล่มงานแต่งครั้งนี้ให้ได้!
