๓ ฐานะ (๓)
“ช่วงนี้ไม่เห็นใส่สร้อยที่พี่ให้เลย” ปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากันแน่น
ใช่ว่าจะไม่อยากใส่ เพียงแต่สร้อยเส้นนั้นถูกใครบางคนยึดเอาไปแล้ว ดูท่าว่าจะไม่ยอมคืนเสียด้วย ไม่รู้ว่าเขาจะเอาไปทำไม แถมยังให้กำไลของเขาไว้ดูต่างหน้าอีก
กำไลรูปตะวันบ้าบออะไรเนี่ย...เธอไม่อยากใส่สักนิด!
“กลัวมันดำค่ะ” บอกข้ออ้างที่พอจะคิดออก
พอดีกับที่ประมุขของบ้านเดินเข้ามาในห้องอาหารพร้อมภรรยา ท่านได้กลิ่นหอมของอาหารที่อยากรับประทาน จึงเอ่ยชมแม่ครัวจนเธอหันมายิ้มให้ท่าน พร้อมกับรินน้ำส้มใส่แก้วให้คุณอาทิตย์เช่นเดียวกัน ถึงจะเคยบอกให้ท่านงดน้ำหวานเพราะเกรงน้ำตาลในเลือดจะขึ้น แต่ท่านกลับดื่มจนชินเสียแล้ว
“กลิ่นหอมไปถึงบนบ้านเลย นี่ลุงต้องรีบลงมาเพราะทนท้องร้องไม่ไหว อาหารของหนูพันอร่อยที่หนึ่ง ไปกินข้างนอกก็ไม่อร่อยเหมือนกินข้าวที่บ้าน” ชมหลานสาวสุดที่รักจนภรรยาที่เดินตามมาถึงกับหน้าตึงไม่ค่อยชอบใจ แต่ไม่อยากท้วงให้เสียบรรยากาศ จึงต้องตามน้ำแล้วแอบประชดวรรณวิสาโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวสักนิด
“นั่นสิคะ...สงสัยป้าคงต้องเรียนสูตรอาหารจากหนูพันแล้ว”
ต่างเยินยอฝีมือการทำอาหารของหล่อน เจ้าตัวทำได้เพียงยิ้มอย่างเดียว แล้วค่อยเดินไปรินกาแฟให้สิรภัทร เขาค้อมศีรษะเป็นการขอบคุณ จัดอาหารใส่จานให้คนในบ้านเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงคนเดียวที่ยังไม่ยอมลงมาสักที
“อารมณ์ดีกันแต่เช้าเลยนะครับ” กระทั่งเสียงทุ้มดังขึ้นทำให้ทุกสายตาหันไปมอง
วรรณวิสาถึงกับเบิกตากว้างกว่าเดิมเล็กน้อย น้ำเสียงคือเขาแต่หน้าตากลับหล่อเหลาอย่างกับนายแบบหน้านิตยสาร คิ้วหนากับดวงตาเรียว จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากบางเฉียบราวอิสตรี ผมก็ถูกตัดสั้นถึงจะยังไม่เข้าทรงแต่ก็ดีกว่าเดิมมาก
รูปร่างส่วนสูงเข้ากันเป็นอย่างดี อยู่ในชุดสูทของผู้บริหารยิ่งเสริมบารมีให้เขาน่าเกรงขามมากกว่าเดิม สิรภัทรเห็นเช่นนั้นก็กำมือแน่นเมื่อคนที่ตัวเองเกลียดเหมือนจะเหนือกว่าทุกอย่าง จนมองไม่เห็นทางเอาชนะ
ไม่สิ...อย่างน้อยเขาก็เรียนจบปริญญาตรี
ไม่เหมือนมันที่จบแค่ไฮสคูลเท่านั้น!
“หึ ถอดรูปสักทีนะ” คนเป็นพ่อค่อนแคะเมื่อเห็นว่าตะวันฉายยอมตัดผมโกนหนวดกับเขาสักที
กลับมาไทยไม่กี่วันก็คิดจะไปทำงานแล้ว คราวแรกท่านจะเอ่ยค้านแต่พอให้เลขานุการสืบประวัติการเรียนของบุตรชายก็ทำเอาอึ้ง เพราะนอกจากจะจบปริญญาตรีวิศวกรรมโยธาแล้ว ยังเรียนปริญญาโทบริหารธุรกิจ แถมเคยทำงานที่บริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่ของอเมริกามาแล้ว
โปรไฟล์ขนาดนี้กับอายุเพียงแค่ยี่สิบแปดปีไม่ธรรมดาสักนิด ท่านมองลูกชายผิดไปจริงๆ คิดว่าไม่เอาถ่านเสียอีก
แต่คุณอาทิตย์ก็เลือกจะปิดเงียบเรื่องนี้ไม่ได้บอกภรรยา ยินยอมให้ตะวันฉายเข้าทำงานโดยปิดเรื่องการศึกษาเอาไว้ ให้แสดงผลงานแก่บอร์ดบริหารด้วยตัวเอง
“ผมจะเข้าไปทำงานวันแรกก็ต้องตัดผมโกนหนวดหน่อยสิครับคุณพ่อ นี่ผมสั่งตัดสูทเป็นพิเศษเลยนะ เนื้อผ้าอย่างดีตัดแค่สิบตัวในโลก เอาฤกษ์เอาชัยกับตำแหน่งรองประธานบริษัทสักหน่อย ขนาดเรียนไม่จบยังได้นั่งตำแหน่งสำคัญเลย โชคดีจริงๆ ที่เกิดมารวย ฮ่าๆๆ”
เขาอุตส่าห์สั่งตัดสูทตั้งแต่ยังไม่กลับไทย ได้มาใช้วันนี้วันแรก ก่อนเบนสายตามองแม่เลี้ยงที่นั่งนิ่งไม่แสดงอารมณ์ พร้อมหันมองน้องชายต่างสายเลือดที่กำส้อมเอาไว้แน่น คงจะโมโหเป็นอย่างมากจึงยิ่งมีความสุขมากกว่าเดิม
“ขยับไปสิครับน้องพันลี้ พี่อยากนั่งข้างน้องชายตัวเอง” ขณะที่ร่างบางกำลังเตรียมอาหารเพื่อเสิร์ฟขึ้นโต๊ะให้เขา ชายหนุ่มก็แทรกมานั่งลงที่ว่างข้างสิรภัทรทันที ไม่วายแอบแตะเอวบางเล็กน้อยจนหล่อนมองค้อน
“นายทำงานเป็นหัวหน้าฝ่ายจัดซื้อเหรอ ได้ทำฝ่ายสำคัญเลยนะ จะโกงก็ง่าย...” หันไปพูดคุยกับคนที่เงียบมาตลอด หนุ่มนักบริหารกำลังจะโต้กลับแต่คุณอาทิตย์กลัวเรื่องราวบานปลายจึงรีบขัดคนทั้งสองเสียก่อน
“แกอย่ามาหาเรื่องบนโต๊ะอาหารได้ไหม ช่วยสงบปากสงบคำแล้วกินข้าวอย่างเดียว ฉันไม่อยากปวดหัวเพราะแก”
“ครับ ได้ครับคุณพ่อ” ยิ้มรับโดยดีแล้วไม่ได้พูดอะไรอีก มองร่างบางกำลังรินน้ำส้มให้ตนก็แอบแกล้งเธอด้วยการลูบที่บั้นท้ายงามในขณะที่ทุกคนกำลังเพ่งความสนใจไปยังอาหารตรงหน้า วรรณวิสาเม้มปากแน่นด้วยความโกรธ แล้วใช้จังหวะที่กำลังจะเดินกลับไปที่นั่งของตนหยิกเข้าที่ด้านหลังของชายหนุ่มจนเจ้าตัวสะดุ้งโหยง
“โอ๊ย”
“ตะคริว ตะคริวมากินอะไรตอนนี้...” ยืดกายเล็กน้อยแล้วหาข้ออ้างให้คนร่วมโต๊ะเลิกสนใจ ก่อนส่งสายตาคาดโทษให้เธอ
“สมน้ำหน้า” ร่างบางพึมพำเสียงเบาขณะรับประทานอาหาร มีความสุขกับการได้แก้เผ็ดเขาถึงจะเพียงเล็กน้อยก็ตาม
ต่อจากนี้ตนจะไม่ตกเป็นทาสของตะวันฉายอีกแล้ว!
ข่าวการมาของลูกชายท่านประธานแพร่กระจายไปทั่วบริษัท พนักงานต่างรอต้อนรับเขาไม่เป็นอันทำงาน ยิ่งได้เห็นใบหน้าหล่อราวกับนายแบบเดินออกมาจากปกนิตยสารก็เอามาพร่ำเพ้อกันไม่หยุด น่าเสียดายที่โต๊ะทำงานของเขาอยู่ชั้นบนสุดและไม่ใช่ใครจะขึ้นไปก็ได้ ไม่อย่างนั้นสาวๆ คงได้เดินเข้าออกกันเป็นว่าเล่น
สิรภัทรเดินเข้ามาประจำโต๊ะทำงานก็ได้ยินเสียงพูดคุยเรียกชื่อคนที่แสนเกลียดมาตลอดเส้นทาง ใบหน้าคมบึ้งตึงแสดงถึงความหงุดหงิดอยากหาที่ระบายอารมณ์ ตะวันฉายกลับมาไม่นานก็ได้รับความสนใจล้นหลามทั้งที่เรียนไม่จบ
สงสัยเขาคงต้องแพร่ข่าวเรื่องที่อีกฝ่ายเป็นคนสำมะเลเทเมาให้คนในบริษัททราบหน่อยแล้ว เผื่อจะลดความน่าเชื่อถือลงได้บ้าง ไม่แน่ว่าอาจหลุดจากตำแหน่งรองประธานก็เป็นได้...
“หล่อมาก ท่านรองฯ ที่เพิ่งมาทำงานหล่อลากดินอย่างกับพระเอกละคร เห็นแล้วอยากเสนอตัวให้เลยอ่ะ คุณสิรภัทรที่ว่าหล่อสุดยังชิดซ้ายเลยแก อย่างว่าแหละ...ท่านประธานตอนหนุ่มก็หล่ออย่างกับไอดอล ภรรยาคนก่อนก็สวยหยาดเยิ้ม ไม่แปลกเลยที่ลูกจะออกมาหล่อขนาดนี้” พนักงานในแผนกจัดซื้อจับกลุ่มคุยกันเรื่องของเจ้านายคนใหม่
ความจริงตำแหน่งนี้เป็นของผู้บริหารอีกคน แต่ท่านก็อยากลงจากตำแหน่งตั้งนานแล้วด้วยอายุที่เยอะ ประจวบเหมาะกับหลานชายโทรจากต่างประเทศมาพูดคุยจึงได้ตกลงกันเสร็จสรรพ ท่านยกตำแหน่งรองประธานบริหารให้แก่ตะวันฉาย ก่อนที่คนเป็นพ่อจะทราบเสียอีก
“แล้วเขาเรียนจบอะไร”
“จบ...เห็นบอกว่าไม่จบอะไรสักอย่าง” ยิ้มแหยะเมื่อพูดจบ แหล่งข่าวบอกมาแบบนั้นเธอก็ตอบตามที่ตัวเองทราบ คนในกลุ่มจึงร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ
“ฮะ!”
เรียนไม่จบแต่มาเป็นผู้บริหาร...แบบนี้ก็ได้เหรอ!
ยังไม่ทันที่จะถกกันเรื่องนี้ บุคคลที่กำลังถูกกล่าวถึงก็เดินเข้ามาเสียก่อน ทุกคนจึงเงียบเสียงแล้วหันไปมองเขาเป็นตาเดียว หนุ่มหล่อที่ละลายใจสาวเพียงแค่โปรยยิ้ม คราวนี้เขาเอ่ยทักทายทุกคนพร้อมแจกจ่ายรอยยิ้มให้ครบถ้วน
“สวัสดีครับทุกคน ผมแวะมาทักทายครับ ผมชื่อตะวันฉายยังไงก็ขอฝากตัวด้วยนะครับ”
“ค่ะ/ครับ” คนในแผนกตอบรับเป็นเสียงเดียว
ร่างสูงจึงได้เดินเข้ามาในห้องของน้องชายต่างสายเลือดที่นั่งอ่านเอกสารเพราะไม่อยากเห็นหน้าคนที่ตัวเองเกลียด แต่มีหรือที่ตะวันฉายจะยอมออกไป เขากลับเลื่อนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามมานั่งอย่างหน้าตาเฉย มองรอบห้องที่ค่อนข้างกว้างและมีโซฟาสำหรับรับแขก
ตำแหน่งสูงเสียจริง...
“ว่าไงน้องชาย ไม่ไปกินข้าวเหรอ” มื้อเที่ยงแล้วแต่ไม่เห็นว่าคนตรงหน้าจะออกไปข้างนอก เขาอยู่ในช่วงทักทายหาเสียงและได้เดินทำความรู้จักมาหมดทุกแผนกแล้ว เหลือแค่ฝ่ายของสิรภัทราเท่านั้น
“ไม่ครับ ผมมีงานต้องทำ”
“จะกินก็ให้พอเหมาะหน่อยนะ อย่ากินเยอะนักล่ะ...เดี๋ยวท้องจะป่องจนลุกไม่ขึ้น” เห็นว่าเจ้าตัวไม่ต้อนรับก็ไม่ทู่ซี้อยู่ต่อ พูดจบก็ลุกเดินออกจากห้อง ไม่วายโปรยเสน่ห์ให้พนักงานหญิงหลงกันเป็นแถบ จนหัวหน้าฝ่ายถึงกับกำมือแน่น
“ไอ้ฉาย...กูจะแย่งทุกอย่างไปจากมึง” ประกาศเสียงเข้มแล้วจัดการโทรหาใครบางคนที่เขาหมายตาเอาไว้
“ผมภัทรนะครับ คุณวิว่างหรือเปล่าครับ...”
ผู้หญิงของมัน...เขาจะแย่งมาเอง!
