บท
ตั้งค่า

๓ ฐานะ (๒)

“แต่นี่บ้านฉัน เพราะฉะนั้นฉันจะอยู่ห้องไหน เข้าออกห้องไหนก็ได้ แล้วเธอก็ไม่มีสิทธิ์มาออกคำสั่งกับฉัน”

วรรณวิสาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกเพื่อสงบสติอารมณ์ เมื่อเขาปฏิเสธก็คงไม่มีทางเลือกอื่น หล่อนจึงเดินไปทางประตูจนร่างหนาต้องคว้าแขนเรียวเอาไว้แล้วดึงให้เข้ามาใกล้ พลางถามเมื่อเห็นว่าหล่อนกำลังจะเดินออกไปข้างนอก

“จะไปไหน”

“คุณจะอยู่ไม่ใช่เหรอคะ งั้นก็อยู่ไปเดี๋ยวฉันออกเองก็ได้” คำเรียกห่างเหินกับท่าทีแสดงชัดเจนว่าเกลียดทำให้เขานึกโมโห เห็นชัดเจนว่าตอนที่เธออยู่กับสิรภัทรเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุข

ทั้งที่บอกว่าจะอยู่ข้างเขา...

ไหนบอกว่าชอบเขามากกว่า...

คำพูดพวกนั้นของวรรณวิสาเป็นแค่การโกหกอย่างนั้นเหรอ!

“ไม่ให้ออก เธอต้องอยู่กับฉัน...ทำไม กลัวไอ้ภัทรมันรู้เหรอว่าอยู่กับฉันสองคน รักมันมากนักหรือไง ระหว่างที่ฉันไม่อยู่คงมีความสุขกับมันมากสินะ” จับแขนหล่อนเอาไว้แน่นจนใบหน้าหวานเหยเก ยิ่งไม่ชอบเขามากกว่าเดิมอีก

ตอนเด็กยังนึกกลัวชายหนุ่ม แต่บัดนี้ที่เติบโตขึ้นและมีความคิดเป็นของตัวเอง เธอจะไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจของเขาอีกต่อไป หญิงสาวเชิดใบหน้าขึ้นมองดวงหน้าหล่อ ตอบอย่างไม่แยแสว่าทำให้ตัวเองเดือดร้อนในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า

“ใช่ ตอนคุณไม่อยู่ทุกคนมีความสุขมาก คุณจะกลับมาทำไม น่าจะอยู่ที่นั่นไปตลอด อื้อ” คำตอบของเธอทำให้เขาโมโหจนไม่อาจทนได้ นึกว่าจะมีสักคนที่ยินดีต้อนรับตนกลับบ้าน แต่รู้คำตอบวันนี้แล้วว่าแม้แต่วรรณวิสาก็ไม่ต้องการให้ตนกลับมา

มือหนาปล่อยแขนเรียวแล้วคว้าใบหน้าหวานเข้ามาจุมพิตด้วยอารมณ์โกรธแค้นปนน้อยใจ ในขณะที่ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ ทุบที่อกกว้างเพื่อให้ปล่อยตัวเองแต่เขากลับกระแทกจูบจนรู้สึกเจ็บปากไปหมด

“อื้อ อื้อ” ส่งเสียงประท้วงในลำคอแล้วปิดปากเอาไว้แน่น

พยายามคิดว่ามันไม่ใช่จูบเพราะเธอไม่ได้ยินยอม!

เขาทำกักขฬะจนนึกรังเกียจสัมผัส ยิ่งหนวดเคราหนาครูดไปตามใบหน้าของตนก็ยิ่งขยะแขยงมากกว่าเดิม จนกระทั่งเขาผละออกเธอจึงตวัดมือลงบนใบหน้าคมด้วยความโกรธ

เพี๊ยะ

เสียงมือนุ่มกระทบใบหน้าคมเขาถึงกับหน้าหันไปอีกทาง ไม่คิดว่าหล่อนจะมือหนักขนาดนี้ และด้วยความโกรธก็ไม่อาจปล่อยให้หญิงสาวทำร้ายได้ คว้าใบหน้าหวานมาประกบจูบอีกครั้ง คราวนี้รุนแรงและหนักหน่วงจนปากอวบอิ่มปริแตกจนได้กลิ่นคาวเลือด

“อื้อ” เธอโกรธจนร้องไห้พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้หลุดพ้นจากการกระทำอันป่าเถื่อนของคนใจทราม จนรับรู้ว่าเธอใกล้จะหมดลมหายใจจึงยอมปล่อยหญิงสาวเป็นอิสระ มองหน้าเธอและแสยะยิ้มมุมปาก แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรก็ถูกตบจนหน้าหันอีกรอบ

เพี๊ยะ

โดนซ้ำข้างเดิมทำให้เจ็บยิ่งกว่าเก่า เขาตัดสินใจคว้าตัวเธอแล้วอุ้มไปโยนลงบนเตียงก่อนขึ้นทาบทับ จังหวะที่หล่อนกำลังจะร้องขอความช่วยเหลือก็รีบปิดปากหล่อนเอาไว้อย่างรวดเร็ว กระแทกกระทั้นเอาแต่ใจจนเธอหมดสิ้นทางเอาตัวรอด จำยอมนอนแน่นิ่งแล้วร้องไห้ด้วยความเสียใจ

ความสาวของเธอจะเสียไปเพราะผู้ชายนิสัยชั่วร้ายคนนี้เหรอ...ยิ่งคิดก็ยิ่งหมดแรงปล่อยน้ำตาให้รินไหลจนเขาเริ่มรู้สึกตัว

“อื้อ”

ชายหนุ่มค่อยผละใบหน้าออกเมื่อเห็นว่าเธอนอนนิ่งไป เผลอนิ่งไปชั่วขณะเพราะกลัวว่าจะโดนตบอีก แต่ดูท่าแล้วหล่อนคงหมดเรี่ยวแรงจะทำสิ่งใด เอาแต่ร้องไห้อยู่อย่างเดียวจนตะวันฉายเลือกจะกอดร่างแบบบางเอาไว้แล้วข่มขู่ด้วยความเคยชิน

“นอน! ถ้าเธอดิ้นอีกมันจะไม่หยุดแค่จูบ” สุดท้ายเขาก็เลือกจะนอนอยู่บนเตียงโดยกอดวรรณวิสาเอาไว้แนบอกถึงเธอจะพยายามดิ้นออกจากอ้อมกอดก็ตาม

“ฮึก” ทำได้เพียงร้องไห้สะอื้นอยู่อย่างนั้น น้ำตาเม็ดใหญ่เปียกเป็นดวงบนเสื้อยืดสีเข้ม

เขาไม่ชอบเสียงร้องไห้ของเธอเลยสักนิด ชายหนุ่มจึงตัดสินใจสั่งให้หญิงสาวหยุดร้องไห้ เพราะไม่รู้วิธีอื่นที่จะทำให้หล่อนยอมเงียบได้

“ห้ามร้องไห้”

“มันห้ามกันได้หรือไงล่ะ” บอกกลับเสียงอู้อี้ในลำคอ

“บอกว่าห้ามไง ไม่อย่างนั้นฉันจะ...” เขาหมายจะก้มลงมาจุมพิตเธออีกครั้ง แต่วรรณวิสาก็รีบขยับเข้าไปซุกหน้าที่แผงอกกว้างเพื่อไม่ให้ชายหนุ่มรังแกตัวเองได้อีก พร้อมตะโกนเสียงดังจนเขายกยิ้มพึงพอใจเพราะไม่ได้ยินเสียงแห่งความเสียใจของเธอ

“ไม่ร้องแล้ว!”

“ก็แค่นี้...”

แล้วคืนนั้นเขาก็นอนกอดหล่อนจนหลับไป โดยไม่ได้กลับไปนอนห้องของตัวเอง และน่าแปลกที่ตนไม่ฝันร้ายเหมือนคืนที่ผ่านมา

น่าจะหลับสนิทเป็นครั้งแรกในรอบสิบห้าปีก็ว่าได้...

แม่บ้านทยอยนำอาหารขึ้นตั้งบนโต๊ะเพราะถึงเวลาอาหารเช้า วรรณวิสาลุกจากเตียงแต่เช้าโดยที่คนบุกรุกยังนอนหลับไม่รู้เรื่อง น่าแปลกที่เธอนอนหลับสนิทไม่ตื่นช่วงกลางดึกเหมือนทุกครั้ง ไม่ฝันถึงเรื่องราวใดเรียกหลับเต็มอิ่มตื่นเช้าก็ไม่มีอาการงัวเงียสักนิด

แต่อาจจะปวดเมื่อตัวหน่อยเพราะถูกเขากอดรัดราวหมอนข้างอยู่เกือบค่อนคืน

เธอรีบอาบน้ำแล้วลงมาทำอาหารเพื่อใส่บาตรและจัดเตรียมมื้อเช้าสำหรับคนในบ้าน ทำทุกอย่างเรียบร้อยก็พอดีที่มีคนเดินลงมา สิรภัทรยิ้มกว้างเมื่อเห็นอาหารหน้าตาน่าทาน เขารีบนั่งประจำที่ของตัวเองอย่างรวดเร็ว

“หอมจังเลย มีอะไรกินบ้าง” ขนมส่วนรวมยังมีเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคืออาหารที่เจ้าตัวขอร้องว่าอยากกิน เธอจะทำให้เป็นพิเศษ อย่างเมื่อวานที่คุณอาทิตย์เปรยว่าอยากกินข้าวต้มปลา วันนี้จึงทำเสิร์ฟท่านโดยเฉพาะ

“ข้าวต้มปลาค่ะ เมื่อวานคุณลุงบอกว่าอยากกินเลยซื้อมาทำให้ ส่วนของพี่ภัทรเหมือนเดิมคือกาแฟดำกับเบรกฟาสต์” เจ้าตัวมองอาหารของตนแล้วพยักหน้าพึงพอใจ

เมื่อวานว่างช่วงบ่ายจึงชวนคนที่อยู่บ้านไปดูหนังแก้เบื่อ เพราะสาวในสต็อกของเขาไม่มีใครว่างสักคน

สาเหตุที่ชายหนุ่มไม่มีข่าวคราวว่าคบกับใคร เนื่องจากเจ้าตัวไม่เคยให้สถานะแฟน อย่างมากก็แค่คนคุยหรือวันไนท์แสตนด์เท่านั้น คนที่จะมาเป็นภรรยาต้องเพียบพร้อมหมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะหน้าตา ฐานะ หรือครอบครัว

ซึ่งตอนนี้เหมือนว่าเขาจะเจอหญิงผู้นั้นแล้ว...

“ขอบคุณครับ” เอ่ยขอบคุณให้คนทำมีกำลังใจ เธอหันไปรินน้ำส้มใส่แก้วให้คุณทัศนียา ก่อนชะงักเมื่อเจอคำถามจากเขา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel