บท
ตั้งค่า

๑ โจรร้าย (๔)

สองแม่รู้ผ่านร้อนผ่าวหนาวด้วยกันมานาน เขาเห็นถึงความทุกข์ของแม่ที่โดนพ่อทุบตีจนแทบสิ้นชีวิตมาแล้วครั้งหนึ่ง จะไม่ยอมกลับไปอยู่ขุมนรกนั้นอีกเป็นอันขาด ตอนนี้มีพร้อมหมดทุกอย่างแล้ว คู่ชีวิตของเขาจะต้องเป็นคนที่เพียบพร้อมเช่นเดียวกัน

“แล้วไอ้ฉายมันจะกลับไทยจริงเหรอแม่ มันไม่กลับมา...สิบห้าปี! นานขนาดนั้นเลยเหรอ” นึกถึงลูกชายเจ้าของบ้านขึ้นมาก็รีบถาม ไม่เจอหน้าคนอายุมากกว่าหลายสิบปี ยิ่งได้ข่าวว่าอีกฝ่ายเกเรเหลวแหลกก็สะใจ

หงส์ที่กลายเป็นกา...ไม่มีวันจะกลับมาสง่างามได้หรอก

“หึ มันจะกลับได้ยังไงล่ะ เงินใช้แต่ละเดือนยังไม่ค่อยมีเลย จะเอาเงินที่ไหนซื้อตั๋วเครื่องบินกลับไทย ป่านนี้ก็คงเร่รอนอยู่เมกานั่นแหละ ไม่เป็นผู้เป็นคนกับเขาหรอก ลูกสบายใจได้จะไม่มีใครมาแย่งตำแหน่งของลูกแม่แน่นอน” บอกตามที่ตนเองทราบ

สามียกหน้าที่การดูแลตะวันฉายให้เธอเป็นคนจัดการทั้งหมด ไม่ว่าจะเรื่องเงินหรือที่เรียน เมื่อชายหนุ่มจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายก็ไม่ได้ส่งเงินไปให้อีก ป่านนี้คงติดยาแล้วนอนข้างถนนที่ไหนสักแห่งนั่นแหละ ไม่มีวันได้กลับมาไทยหรอก

“ครับ”

สองแม่ลูกยิ้มอย่างมีความสุข เมื่อวิมานแห่งนี้ยังคงเป็นของตนเอง ไม่ได้กลายเป็นของคนอื่นอย่างที่นึกกังวล

หลังรับประทานอาหารเรียบร้อยต่างก็แยกย้ายเข้าห้องนอนของตัวเอง เพียงแต่วันนี้อากาศดีจนเธออยากออกมานั่งรับลมข้างนอก จึงเลือกสวมชุดคลุมแล้วมานั่งเล่นที่ม้านั่งตัวยาวใกล้สวนดอกไม้ เหม่อมองท้องฟ้าสีเข้มที่มีเพียงดวงจันทราส่องสว่าง ก่อนก้มใบหน้าลงมามองสร้อยที่ได้รับเป็นของฝาก

โดยที่เขาเป็นคนสวมให้หล่อนด้วยตัวเอง...เพียงแค่คิดก็ไม่อาจหุบยิ้มได้

ตอนแรกหล่อนไม่ได้ชอบสิรภัทรมากเกินกว่าพี่ชาย ทว่าหลังตกจากสระน้ำโดยมีเขามาช่วยก็มองอีกฝ่ายเป็นฮีโร่ ต้องตอบแทนบุญคุณครั้งนั้นให้ได้ จึงทำดีกับชายหนุ่มเรื่อยมา แล้วพัฒนาความรู้สึกกลายเป็นรักตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่อาจทราบ

“บอบบางแต่แข็งแกร่ง...พี่ภัทรชอบเราบ้างไหมนะ” เธอจับสร้อยคออยู่อย่างนั้นแล้วแหงนหน้ามองจันทร์ ยิ้มกว้างอย่างมีความสุขสลับกับทำหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความสงสัย เธอไม่กล้าบอกความในใจได้แต่หวังว่าเขาจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาเอง

แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะถูกบอกรักเลย...

ดวงตากลมเหลือบมองพื้นที่ว่างของม้านั่ง พลันเรื่องในอดีตก็แล่นเข้ามาในหัว ไม่น่าเชื่อว่าเธอยังจำเรื่องราวของตะวันฉายได้ ถึงเวลาจะผ่านมาหลายสิบปีก็ตาม

‘นี่ที่นั่งของฉัน’ เด็กหญิงที่กำลังนั่งอ่านหนังสือนิทานถึงกับต้องเงยหน้ามองคนมาใหม่ พอเห็นว่าตะวันฉายเดินเข้ามาก็รีบลุกอย่างรวดเร็ว กำลังจะเดินหนีแต่กลับถูกคว้าแขนเอาไว้

‘จะไปไหน ก็มานั่งตรงนี้สิ’ เธอกระพริบตาปริบ นึกว่าเขาจะไล่ตนไปให้พ้นหูพ้นตาเสียอีก แต่พี่ชายคนนี้กลับดึงให้มานั่งข้างกันเสียอย่างนั้น จึงจำต้องนั่งลงที่เดิมแล้วกอดหนังสือนิทานเอาไว้แนบอก เหลือบมองเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ

‘ฉันกับไอ้ภัทรเธอชอบใครมากกว่ากัน...บอกให้ตอบ’ คำถามปลายปิดที่มีคำตอบไว้ชัดเจน ทำให้เธอจำต้องบอกเขาไปถึงจะไม่ตรงกับความจริงก็ตาม

‘ชอบพี่ฉาย...’

เธอไม่ได้ชอบทั้งสิรภัทรและตะวันฉาย เพียงแต่รู้ว่าชายตรงหน้าไม่ชอบพี่ชายอีกคน หากตอบชื่อของคนอื่นเกรงว่าอาจถูกเขารังแกได้

‘ดีมาก ฉันต้องเป็นที่หนึ่งเข้าใจไหม ชอบแค่ฉันห้ามชอบไอ้ภัทร!’ คำสั่งนั้นดังก้องหูจนหล่อนรีบพยักหน้า

‘ค่ะ’

และมันก็ยังชัดเจนมาจนถึงปัจจุบัน ข้อห้ามที่เขาเคยบอกไว้...เธอคงทำให้ไม่ได้แล้ว

เพราะตอนนี้หลงรักสิรภัทรเข้าเต็มเปา

“คนอารมณ์ร้ายแบบนั้นใครจะไปชอบลง” พึมพำกับตัวเองแล้วส่ายศีรษะระอา อารมณ์ร้ายแต่เด็กไม่อยากคิดเลยว่าโตมาจะเป็นคนยังไง แต่เขาก็คงไม่กลับไทยเร็วนี้หรอก เธอจึงรีบสะบัดศีรษะไล่ใบหน้าของเด็กชายคนนั้นออกไป

ร่างบางลุกยืนหมายจะเข้าบ้าน แต่กลับถูกปิดปากจากทางด้านหลังแล้วลากไปยังต้นไม้ใหญ่ที่อยู่หลังบ้าน เธอตกใจแทบสิ้นสติได้แต่ตะโกนร้องเพื่อขอความช่วยเหลือ ถึงแม้ว่าเสียงนั้นแทบจะไม่มีใครได้ยินเลยก็ตาม

“อื้อๆ อ่อย อ่อย! อ่วยอ้วย อ่วยอ้วย!” ร้องบอกให้อีกฝ่ายปล่อยและขอความช่วยเหลือ น้ำตาคลอเบ้าทั้งใจเต้นแรงด้วยความตกใจ เกิดเรื่องอุกอาจขึ้นในบ้านได้อย่างไร ทั้งที่มีรปภ.เฝ้าด้านหน้า การรักษาความปลอดภัยก็แน่นหนามาโดยตลอด

แต่มีโจรบุกเข้ามาถึงข้างใน!

“แหกปากไปก็ไม่มีใครได้ยินหรอก ฉันปิดปากเธอไว้แบบนี้จะตะโกนหาพระแสงอะไรนักหนา คิดว่าใครจะมาช่วยได้ล่ะ ไอ้ภัทรหรือไง!” เสียงทุ้มดังข้างหู เธอยิ่งกลัวมากกว่าเดิมแต่ก็ยังพยายามร้องเรียกให้คนอื่นช่วย ทั้งยังดิ้นไปมาจนชายร่างสูงใหญ่ถึงกับต้องกอดเอวบางแน่นกว่าเดิมเพื่อไม่ให้เธอหลุดไปได้

“อ่อย อ่อยอะ!” ร้องตะโกนให้ปล่อย แต่เขากลับรัดแน่นกว่าเดิม พลางโน้มมากระซิบที่ข้างหูเธอโดยที่ริมฝีปากเฉียดผ่านลำคอสร้างความขยะแขยงให้หญิงสาวเป็นอย่างยิ่ง น้ำตาเธอไหลลงมาด้วยความกลัวว่าตัวเองอาจจะจบชีวิตลงในคืนนี้

“ไม่ปล่อย แล้วถ้าเธอยังดิ้นไม่หยุดแบบนี้ฉันจะจับขึงพรืดกลางสนามหญ้าเนี่ยแหละ เงียบ!” เขาเปลี่ยนจากปิดปากทางด้านหลังเป็นดันเธอให้ชิดกับต้นไม้ใหญ่ เพื่อจะได้มองดวงตากลมได้ถนัด ทั้งยังกอดหญิงสาวเอาไว้ดังเดิมเพื่อไม่ให้เธอหนีไปไหน

เขาไม่ได้ปิดบังหน้าตา ทว่าหนวดเคราก็เต็มปากเต็มคางแถมผมก็ยาวประบ่าจนมองไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริงด้วยซ้ำ

นี่มันโจรร้ายชัดๆ!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel