บทที่ 4 ทันเวลา
ด้านภรัณยูเขาขับรถออกไปแล้วก็จริงแต่พอมองเบาะข้างๆก็เห็นว่าเธอลืมกระเป๋าใบน้อยเอาไว้ เขาคิดว่ามันต้องสำคัญกับเธอแน่ๆจึงได้วนรถเอากลับมาคืนให้ แต่ก็เป็นจังหวะที่เขาเห็นว่าเธอกำลังจะถูกทำร้ายพอดี
"คิดจะทำอะไรห่ะ" ภามตะโกนถามออกไปเสียงดัง ความหวังของเธอยังไม่ดับสูญสินะเขามาช่วยเธอแล้ว
"เรื่องของผัวเมียอย่ามายุ่ง"
"เมียบ้านแกน่ะสินั่นน่ะเมียฉัน ภรัณยูตะโกนออกไปเสียงดังจนชาวบ้านเริ่มแตกตื่นเปิดประตูออกมาดู คนร้ายมันกลัวว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่จึงรีบหาจังหวะหลบหนีตอนที่ชายหนุ่มก้มลงไปดูอาการของหญิงสาว เขาไม่รู้ว่าเธอได้รับบาดเจ็บอะไรหรือไม่
"เดี๋ยวสิว่ะ" เขาหันไปหยุดคนร้ายเอาไว้
"อยู่ก็โง่แล้ว" มันตะโกนกลับมาเสียงดังจากนั้นก็หลบหนีไปทันที
"จับตัวมันให้ทีครับ เป็นอะไรไหม" ประโยคหลังเขาหันมาถามหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง
"ปวดท้อง"
"มันต่อยกระท้อนหรอ" สาวสวยพยักหน้าหงึกๆ เขารู้สึกเจ็บใจมากๆที่มันหนีไปได้ ที่นี่ไม่ใช่ที่หญิงสาวควรจะอาสัยอยู่อีกต่อไป
"ที่นี่อันตรายเกินไปกระท้อนต้องย้ายไปอยู่กับภาม" ชายหนุ่มบอกออกไปน้ำเสียงจริงจัง
"ว่าไงนะ"
"เก็บของเท่าที่จำเป็นแล้วกระท้อนต้องย้ายออกทันที ที่นี่ไม่สมควรอยู่แม้แต่นาทีเดียว"
"ตะ แต่กระท้อนเพิ่งจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าไปนะเสียดายเงิน"
"เรื่องเงินชั่งมันเถอะไม่ตายก็หาใหม่ได้จริงไหม เห็นไหมว่าเป็นอย่างที่ภามเตือนก็ไม่เชื่อเกือบไปแล้วไหมล่ะ อันตรายจริงๆ มันมาในรูปสัตว์นรกชัดๆ" เขาบอกเธอเสียงเข้ม และมันก็จริงอย่างที่เขาบอกทุกอย่างนั่นแหละ ไอ้เลวนั่นมันคือสัตว์นรกชัดๆ
"ขอบคุณนะที่มาช่วยได้ทัน กระท้อนเป็นหนี้บุญคุณภามอีกแล้ว" เธอรู้สึกเหมือนสวรรค์มาโปรดบุญของเธอยังพอมีบ้างแน่ๆถึงได้มีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วย
"อย่าคิดแบบนั้นสิรีบไปเก็บของเร็วเถอะ เอาแต่จำเป็นนะแล้วนี่ต้องไปโรงพยาบาลไหม ไหวหรือเปล่า"
"ไม่เอากระท้อนอยากนอนพักไม่อยากไปโรงพยาบาล"
"เป็นเด็กกลัวโรงพยาบาลหรอเนี่ย"
"อืม กระท้อนไม่ชอบเลี่ยงได้ก็อยากจะเลี่ยง"
"ถ้าไม่ไหวต้องไปนะห้ามฝืนเข้าใจไหม" เขากำชับอีกครั้งหนึ่ง
"อืม" ข้าวของของหญิงสาวมีไม่มากใช้เวลาแปบเดียวก็เก็บของสำคัญมาได้หมด
"ไปกันเถอะ รับรองว่าคอนโดของภามปลอดภัยแน่นอน"
"อืม"
หญิงสาวรู้สึกเสียขวัญเป็นอย่างมาแต่ก็มีภรัณยูคอยปลอบขวัญอยู่ข้างกาย อย่างน้อยเวลานี้เธอก็ยังมีเขาเป็นที่พึ่ง เขาบอกว่าจะพาเธอไปพักด้วยกัน ครั้งนี้เธอปฏิเสธเขาไม่ได้แล้วเพราะที่พักที่เคยเป็นที่พักตอนนี้มันเป็นที่ที่ทำให้เอรู้สึกหวาดกลัว เขาพาเธอมาที่คอนโดสุดหรูของตน ชั้นบนสามารถมองเห็นวิวรอบกรุงเทพมหานครบอกเลยว่าน่าประทับใจมาก ที่นี่มีระบบรักษาความปลอดภัยดีเยี่ยมแถมชั้นที่เขาอยู่ก็ไม่มีคนอื่นมาอยู่ปะปนด้วยนั่นทำให้ปลอดภัย 100%
"ต้องหรูขนาดนี้เลยหรอ" หญิงสาวตื่นตาตื่นใจที่ได้เข้ามาในห้องพักสุดหรูของชายหนุ่ม มองออกไปที่ระเบียงเห็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่
"อยู่สูงขนาดนี้ยังมีสระว่ายน้ำด้วยหรอ" เธอถามออกไปด้วยความแปลกใจ เงินนี่มันเนรมิตทุกอย่างได้จริงๆสินะ การที่จะสร้างสระว่ายน้ำบนนี้ต้องใช้เงินมากขนาดไหนกันนะ เธอเคยคำถามต่างๆมากมายในหัว
"ก็ภามชอบว่ายน้ำนี่จะไม่มีสระส่วนตัวได้ยังไง"
"วันหลังสอนบ้างสิอยากว่ายท่าต่างๆได้บ้าง ตอนเด็กๆว่ายแต่น้ำคลอง คิกๆ" เธอหัวเราะออกมาเบาๆ ตอนเป็นเด็กไม่เคยต้องเครียดหรือแบกรับภาระอะไรเลยต่างจากตอนโตเป็นผู้ใหญ่
"ได้เลย ตอนนี้ก็ไปพักก่อนเถอะ คืนนี้นอนที่ห้องนอนแขกก่อนแล้วกันนะ ป้าแม่บ้านมาทำความสะอาดห้องให้ภามประจำอยู่แล้ว"
"ขอบคุณมากนะ ดีจัง"
"อย่าขอบคุณกันบ่อยๆเลยนะ เราสองคนยังต้องพึ่งพากันอีกนานแน่ๆเชื่อภามสิ"
"อืม ก็จริงงั้นขอไปนอนก่อน เอาจริงๆมันเริ่มระบมแล้วล่ะ"
"อย่าลืมที่บอกนะไม่ไหวอย่าฝืน"
"โอเค" กว่าเธอจะข่มตานอนหลับก็เป็นเวลาตีสองแล้ว พอหลับก็ดันนึกถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นทำให้เธอต้องกรี๊ดออกมาเสียงดัง ภรัณยูได้ยินเสียงร้องของหญิงสาวจึงรีบวิ่งมาดู
“เป็นอะไรไปกระท้อน”
“กระท้อนฝัน” เธอตอบกลับเสียงเบา ในฝันมันน่ากลัวมากๆ
“ฝันร้ายหรอ”
“อืม เหตุการณ์มันเหมือนตอนนั้นเลย” เขาเข้าใจได้ทันทีว่าเธอกำลังหมายถึงตอนไหน
“ไม่ต้องกลัวนะกระท้อนอยู่ที่นี่ปลอดภัยแน่นอน”
“เฮ้อ มันคงฝังใจกระท้อนไปแล้ว”
“ภามเชื่อว่าเวลาจะเยียวยาทุกอย่างได้ กระท้อนอดทนนะ”
“อืม ขอบใจภามมากนะ กระท้อนไม่รู้จะต้องทำยังไงถึงจะตอบแทนบุญคุญของภามได้หมด”
“เลิกคิดเรื่องบุญคุณเถอะเป็นคนอื่นภามก็ต้องช่วย” เป็นธรรมดาที่เมื่อเห็นคนเดือดร้อนอยู่ข้างหน้าก็ต้องให้การช่วยเหลือ
“ก็ได้ขอบใจนะ”
“อืม นอนหลับซะนะมันไม่มีอะไรหรอก พรุ่งนี้จะได้ตื่นมาเจอแต่สิ่งดีๆเชื่อภามนะ”
“โอเค” หลังจากที่ได้คุยกับชายหนุ่มเธอก็ไม่ฝันร้ายอีกเลยตลอดทั้งคืน
