บทที่ 3 ปรึกษา
ภามพากระท้อนมาที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพ ผลออกมาดีทั้งคู่เลย การอุ้มบุญคือการนำตัวอ่อนฝังเข้าไปในมดลูกของหญิงที่อุ้มบุญ ซึ่งตัวอ่อนที่ว่าคือสเปิร์มของเขากับไข่ของหญิงสาวนั่นเอง คุณหมอยังแอบสงสัยและบอกว่าทั้งสองคนร่างกายแข็งแรงแบบนี้ทำไมไม่ลองวิธีธรรมชาติก่อนจะมาเสียตังค์แพงๆทำไมกัน
"หมอคิดว่าวิธีธรรมชาติก็น่าสนใจนะคะ" คุณหมอเสนอความเห็น
"วิธีไหนที่มันได้ผลลัพธ์แน่นอนก็เอาวิธีนั้นแหละหน่า"
"พูดกับคุณหมอดีๆสิภาม" หญิงสาวเอ่ยเตือนชายหนุ่มอย่างสุภาพ
"ฮ่าๆฉันเห็นแววในอนาคตของแกแล้วนะภาม" ลินดาแอบขำที่เห็นเพื่อนหน้าสลดเมื่อถูกหญิงสาวที่พ่วงตำแหน่งแม่อุ้มบุญของเพื่อนดุเอา
"อะ อ้าว" นี่เขาสองคนรู้จักกันหรอกหรอเธอได้แต่คิดในใจ
"พวกเราเป็นเพื่อนกัน" คิ้วที่ผูกกันเป็นปมของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มต้องรีบเฉลย
"ลินดาค่ะ ยินดีให้คำปรึกษาคุณกระท้อนทุกเรื่องเลยนะคะโดยเฉพาะเรื่องบนเตียง"
"ทะลึ่งไอ้ลิน"
"ฮ่าๆ" คุณหมอสาวหัวเราะออกมาคิกคัก เธอเสนอให้เพื่อนใช้วิธีทำกิฟต์ถ้าไม่อยากใช้วิธีธรรมชาติ การทำกิฟต์เป็นการดูดเอาไข่ที่ถูกกระตุ้นออกมาจากรังไข่แล้วนำมาผสมกับอสุจิที่ได้คัดเลือกแล้วว่าสมบูรณ์ จากนั้นจะฉีดเข้าไปในท่อนำไข่เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิตามธรรมชาติ เมื่อเมื่อมีการปฏิสนธิกันแล้วตัวอ่อนจะเคลื่อนไปตามท่อนำไข่แล้วฝังอยุ่ในโพรงมดลูกหลังจากนั้นก็จะเกิดการตั้งครรภ์ตามปกติ
"ขอบใจมากนะที่วันนี้มีคิวให้"
"สำหรับเพื่อนรักว่างเสมอค่า จะเข้ามาทำตอนไหนก็บอกนะ"
"โอเค ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างแกจะเป็นหมอได้นะ"
"อ้าวเห้ยแกนี่มัน คุณกระท้อนก็ถือซะว่าทำบุญใหญ่ปลดปล่อยความทุกข์ให้เสือนะคะ" หญิงสาวทำหน้างง
"เสืออะไรของแก" ภรัณยูเองก็ไม่เข้าใจที่เพื่อนต้องการจะสื่อ
"ก็เสือผู้หญิงอย่างแกไงล่ะ กว่าจะตั้งท้องกว่าจะคลอดลินคิดว่าคุณกระท้อนจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจเลยนะคะเพราะจะมีผู้หญิงสาวคนมาฉีกอกคุณกระท้อนได้"
"อย่ามาพูดให้กระท้อนกลัวเล่นๆสิ"
"กระท้อนไม่กลัวหรอกค่ะ ให้เป็นไม้กันหมาด้วยใช่ไหมละคะ" เธอถามกลับชายหนุ่มยิ้มๆ
"ใช่เลย"
"เห็นม่ะไม่เป็นอย่างที่ฉันพูดตรงไหนไม่ทราบ"
"เงียบไปเลยขอยาบำรุงให้กระท้อนด้วย"
"ได้เลยค่ะคุณเพื่อน" หลังจากปรึกษาเพื่อนสาวที่เป็นหมอเรียบร้อยเขาก็พาเธอมาส่งที่ห้องพักของเธอ
"พักอยู่ที่นี่หรอ"
"อืม ค่าเช่ามันถูกน่ะ"
"มันดูไม่ปลอดภัยเลยนะกระท้อน"
"กระท้อนอยู่มาได้ตั้งนานไม่เป็นอะไรหรอก รีบกลับเถอะเดี๋ยวรถจะติดนะ"
"อืม อยู่ห้องที่เท่าไร"
"205 ชั้นสองห้องห้า"
"ล็อคห้องดีๆล่ะ"
"ค่าคุณพ่อ" คุณพ่อหรอ เขาอยากเป็นคุณพ่อเหมือนกันแฮะ ชายหนุ่มขับรถออกไปทันที หญิงสาวเดินไปยังห้องพักของตน ควานหากุญแจห้องในกระเป๋าอย่างยากลำบากเพราะไฟเน้ากรรมหน้าห้องดันมาเสียซะได้
"กลับมาดึกจังเลยนะน้องสาว"
"อะ เอ่อค่ะพอดีไปธุระกับแฟน"
"ฮ่าๆ อย่ามาโกหกกันเลยพี่รู้ว่าน้องไม่มีแฟน" ชายคนดังกล่าวขยับเข้ามาใกล้จนหญิงสาวได้กลิ่นแอลกอฮอล์
"พี่พักอยู่ที่นี่เหมือนกันหรอคะไม่เคยเห็นหน้า"
"พี่มาหาเพื่อนแล้วก็เจอน้องพอดี" ชายตรงหน้าจ้องมองเธอแทบจะกลืนกิน สติที่มีของเขาคงเหลืออยู่น้อยนิด
"พี่ถอยไปเถอะค่ะหนูจะเข้าห้องแล้ว"
"พี่ขอเข้าไปด้วยสิ" เขายกมือขึ้นมากุมที่ลูกบิดประตูทำให้เธอไขกุญแจเข้าห้องไม่ได้ ที่นี่ไม่ปลอดภัยอย่างที่ภรัณยูว่าแต่เธอก็ไม่คิดว่าโชคร้ายจะมาตกอยู่ที่เธอ
"ถะ ถอยไปสิคะ เราอย่ามายุ่งเกี่ยวกันดีกว่าค่ะ ต่างคนต่างไปเถอะนะคะ พี่มาหาเพื่อนเสร็จพี่ก็ควรกลับได้แล้ว"
"ปากดีนักนะ อย่าจะรู้นักว่าถ้ามานอนใต้ร่างฉันยังจะปากดีอยู่ไหม"
"กรี๊ดด ออกไปนะ โอ๊ย!" เธอพยายามปัดป้องแต่ไม่สำเร็จ หญิงสาวจุกจนตัวงอเพราะคนร้ายชกเข้าที่หน้าท้องอย่างจัง มันกะว่าไม่ให้เธอต่อกรอะไรได้อีก เอาจริงๆที่ห้องเช่าแห่งนี้ก็มีผัวเมียทะเลาะกันบ่อยๆนั่นจึงเป็นเหตุผลให้คนอื่นๆไม่กล้ายื่นมือเข้ามาช่วยเพราะที่ผ่านมาก็กลับไปดีกันเหมือนเดิม แต่สำหรับเธอมันต่างออกไปมันกำลังจะกลายเป็นจุดจบของเธอ เธอขัดขืนมากๆมันก็อาจจะฆ่าเธอปิดปากเลยก็ได้
"สิ้นฤทธิ์แล้วน่ะสิ มานี่คืนนี้เรามาสนุกกัน" มันบอกออกมาน้ำเสียงดี้ด้าสุดๆ ต่างจากเธอที่กลัวจนเหงื่อชื่นทั้งใบหน้าและมือทั้งสองข้าง
"มะ ไม่นะ" เธอบอกออกไปน้ำเสียงแผ่วเบา มันเบาจนอีกฝ่ายไม่ได้ยิน ชีวิตของเธอคงจบแล้วสิคะ ถ้าตัวเธอสกปรกเธอก็คงนะช่วยภรัณยูไม่ได้แน่ๆ
