บทที่ 2 จำกันได้ไหม
ปัจจุบัน
"จำได้หรือยังกระท้อน"
"อืม จำได้แล้ว"
"กระท้อนจำที่เคยสัญญากับเราได้ไหมกระท้อน"
"จำได้สิ ภามอยากให้กระท้อนช่วยอะไรล่ะ"
"อยู่กรุงเทพใช่ไหม"
"ใช่ตั้งแต่เรียนจบกระท้อนก็ย้ายมาอยู่กรุงเทพ"
"คุณยายเป็นไงบ้าง"
"ท่านเสียไปห้าปีเห็นจะได้"
"เสียใจด้วยนะ"
"กระท้อนทำใจได้แล้วล่ะ ว่าแต่จะให้ทำอะไรก็บอกมาเถอะ"
"มาหาภามที่คอนโดสิแล้วจะรู้"
"ทำไมต้องไปที่คอนโดล่ะไปที่อื่นแทนได้ไหม เราเป็นผู้หญิงมันเสียหายนะ" ภรัณยูหนุ่มโสดที่ควงสาวไม่ซ้ำหน้าขึ้นคอนโดลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปซะเสียสนิท ผู้หญิงที่เข้าหาเขามีแต่คนอยากจะพลีกายให้เขาทั้งนั้น
"ก็ได้ๆขอโทษที งั้นมาตามที่อยู่ที่จะส่งให้แล้วกันนะ"
"ก็ได้แล้วเจอกัน" กระท้อสตัดสินใจได้อย่างง่ายดายเพราะไม่ว่าเขาจะให้ทำอะไรเธอก็พร้อมจะตอบแทนบุญคุณของเขาอยู่แล้ว
เธอมาถึงที่นัดฟมายก่อนเวลาห้านาที รอไปอีกสักพักก็มีชายหนุ่มรูปงามรูปร่างสูงโปร่งปรากฎตัวขึ้น เขาสวมแว่นตาดำ ผิวขาวจัดของเขาตัดกับสูทสีดำดูภูมิฐานมากๆ
"อะ เอ่อภามใช่ไหม" เธอถามออกไปอย่างไม่แน่ใจแต่ก็คิดว่าใช่เขาเพราะเธอรู้จักคนไม่เยอะ
"ใช่เราภาม กระท้อนเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะ" เขาเองก็แอบพิจารณาผู้หญิงตรงหน้าเช่นกัน หญิงสาวเปลี่ยนจากเด็กกะโปโลมาเป็นนางฟ้าเลยก็ว่าได้ เธอมีผิวสีน้ำผึ้งเป็นเอกลักษณ์ ใบหน้ารูปไข่ถูกแต่งแต้มให้สวยงามเหมือนนางเอกละครยังไงยังงั้น
"เราโตแล้วเราก็ต้องดูแลตัวเองสิ"
"มีหนุ่มมาจีบหรือยัง ไม่ใช่สิมีแฟนหรือยัง" เขาถามหญิงสาวออกไปตรงๆอย่างไม่อยากอ้อมค้อม
"ยังไม่มีแฟน"
"เยี่ยม"
"หืม ทำไมต้องดีใจขนาดนั้นล่ะ"
"เพราะถ้ากระท้อนมีแฟนกระท้อนคงช่วยเราไม่ได้"
"มะ หมายความว่ายังไงนะกระท้อนไม่เข้าใจ"
"เราต้องการให้กระท้อนอุ้มท้องลูกของเรา"
"อะไรนะ" เธอถามกลับอย่างไม่เชื่อหู เขาต้องสื่อสารอะไรบางอย่างผิดไปแน่ๆ
"ไปเรียนเมืองนอกมาหลายปีกระท้อนว่าภามน่าจะใช้คำผิดนะ"
"ไม่ผิดแน่นอน ภามอยากให้กระท้อนเป็นแม่ของลูกภาม"
"..."
"คุณย่าต้องตัดภามออกจากกองมรดกแน่ๆถ้าภามไม่มีหลานไปให้ท่านเชยชมอุ้มชู"
"มันจะบ้าไปใหญ่แล้ว นี่มันเรื่องใหญ่มากเลยนะภาม"
"เพราะมันเป็นเรื่องใหญ่น่ะสิภามถึงได้ขุดสัญญาที่กระท้านเคยให้ขึ้นมา"
"ผู้หญิงในโลกนี้มีตั้งเยอะแยะทำไมถึงเลือกกระท้อนล่ะ" เธอไม่เข้าใจความคิดของชายหนุ่มจริงๆ
"เพราะว่าผู้หญิงคนอื่นจ้องจะจับภามเพราะเงินของภาม"
"แล้วไม่คิดว่ากระท้อนก็จะจับบ้างหรอ" ชายหนุ่มถึงกับส่ายหัวไปมาเบาๆแล้วก็ยิ้มออกมา
"เพราะภามรู้ไงว่ากระท้อนไม่ใช่คนแบบนั้น"
"เอาอะไรมามั่นใจอ่ะถามจริงๆนะ"
"ไม่รู้สิแต่มันมั่นใจไปแล้ว แล้วสรุปจะช่วยไหม"
"แล้วคิดว่ากระท้อนปฎิเสธได้หรอ แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่าต้องพึ่งวิทยาศาสตร์นะ"
"ได้สิวิธีไหนก็ได้ขอให้มีลูกได้ก็พอ วิธีธรรมชาติภามก็ไม่ขัดนะ" เขาส่งสายตาเป็นประกายไปให้หญิงสาว
"ไม่ต้องมาทำสายตาแบบนั้นเลยนะเพราะว่ากระท้อนไม่หลงกล" เธอเชิดหน้าขึ้นนิดๆอย่างเป็นต่อ
"กระท้อนก็ยังเป็นกระท้อนอยู่วันยังค่ำ"
"ละแล้วจะเริ่มเมื่อไรล่ะ"
"วันจันทร์ดีไหม"
"บะ บ้าหรอพรุ่งนี้วันจันทร์แล้วนะ"
"ใช่ไงยิ่งเร็วยิ่งดี"
"ละ แล้วงานของกระท้อนล่ะกระท้อนจะทำยังไง"
"ไปลาออกเถอะเราเลี้ยงกระท้อนได้"
"แล้วหลังจากนั้นล่ะ กระท้อนไม่กลายเป็นคนตกงานหรอ"
"เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงนะยังมีบริษัทของภามรองรับอยู่แน่นอน"
"เอาอย่างนั้นก็ได้" ในใจของหญิงสาวคิดว่าแค่ไม่กี่เดือนเธอก็คลอดลูก หลังจากนั้นต่างฝ่ายต่างก็คงแยกย้ายกันไปจึงไม่จำเป็นที่ต้องปรึกษาคนเป็นแม่อย่างกระถิน
