บทที่ 9 คนในอดีต
#ร้านอาหารอิตาเลี่ยน
เสียงสั่นของโทรศัพท์บนโต๊ะเรียกความสนใจจากดวงตาเรียวรีของหญิงสาวที่นั่งอยู่ฝ่ายตรงข้ามได้เป็นอย่างดี
เธอละสายตาจากหน้าจอและหยิบแก้วน้ำดื่มขึ้นจิบทำทีว่าไม่เห็นชื่อของคนที่โทร. เข้ามา
“รับสายสำคัญก่อนก็ได้นะคะครูซ”
“ไม่เป็นไร ทานข้าวเถอะ”
ในเมื่อผู้ชายตรงหน้าบอกเช่นนั้นหญิงสาวก็ระบายยิ้มและสนใจอาหารตรงหน้าต่อ
ทันทีที่เท้าเหยียบแผ่นดินประเทศไทยคนแรกที่เธอนึกถึงก็จะเป็นใครไม่ได้นอกจากครูซ ลี
“แนนขอโทษที่รบกวนคุณนะ ที่ไทยก็มีแค่คุณที่แนนสนิทด้วย คงไม่ถือสาหาความเพื่อนเก่าใช่ไหมคะ ถ้าช่วงนี้รบกวนบ่อย ๆ”
บนโต๊ะอาหารไม่ได้มีเพียงแค่ครูซแต่มีเจคที่เดินทางมาด้วยกัน
“ไม่รบกวนหรอกครับ ว่าแต่มึงจะกลับเลยป่าวเดี๋ยวทางนี้กูจัดการต่อเอง” เจคพูดขึ้นเพราะเห็นว่าเมื่อกี้ใครเป็นคนโทรศัพท์เข้ามาหาครูซ
เจคเห็นเช่นเดียวกับที่ นัชชา หรือ แนนนี่ อดีตคนรักเก่าของครูซเห็น
ครูซดูเหมือนจะลังเลนิดหนึ่งแต่เมื่อเหลือบไปเห็นแผลผ่าตัดขนาดใหญ่ที่ท้องแขนของนัชชาเพราะเธอหงายมือขึ้นก็ทำให้เขาส่ายหน้าปฏิเสธเพื่อนไป
“ไม่มีธุระอะไร” ครูซตอบเช่นนั้นก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานอาหารในจานตัวเอง
“งั้นเดี๋ยวทานอาหารกันเสร็จแล้วพาแนนไปธนาคารหน่อยนะคะ ไม่ได้ใช้บัญชีที่ไทยนานเกือบสามปี ลืมรหัสอะไรไปหมดแล้วเขาให้ไปยืนยันตัวตนที่ธนาคาร เจคคุณมีธุระต่อไหมคะ?”
นัชชาพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มมือก็ยังไม่หยุดลูบรอยแผลเป็นที่ท้องแขนตัวเอง
ถ้าไม่รู้จักกันมาก่อนเจคคงคิดว่านัชชาชวนไปธนาคารด้วยกัน แต่เพราะรู้จักผู้หญิงตรงหน้าดีประมาณหนึ่งจึงรู้ว่าคนที่เธอต้องการชวนไปด้วยจริง ๆ คือคนที่นั่งหน้าตายอยู่ตรงนี้…ไม่ใช่เขา!
ไอ้ครูซมันรู้ตัวบ้างไหมว่าหลังคาบ้านมันกำลังจะไหม้แล้ว!
“ไม่มีธุระอะไรก็เธอชวนฉันออกมานี่ ไอ้ครูซมึงกลับไปทำงานเหอะ เรื่องแนนกูจัดการต่อเอง” เจคคิดว่าตัวเองก็มองคนขาดประมาณหนึ่งจึงอาสารับหน้าแทนเพื่อน
“ครูซมีงานเหรอ แล้วทำไมไม่บอกแนน รบกวนคุณแย่เลย ขอโทษนะแนนไม่มีมารยาทเลยไปรบกวนคุณ งั้นคุณกลับเลยไหมคะ”
นัชชาดูมีมารยาทเหลือเกิน และก็เล่นเข้าถูกจุดเพื่อนเขาด้วย เจคเห็นแบบนั้นก็ตาลอยไม่รู้จะพูดอะไรต่อ
“ไม่มีอะไรด่วนจริง ๆ คุณทำธุระให้เสร็จเถอะ เจคมึงอยู่ด้วยกันก่อน” ก็ยังดีที่เพื่อนเขาดูรู้ตัว ไม่ได้ปล่อยตัวเองอยู่กับผู้หญิงคนอื่นสองต่อสองยิ่งสถานะเก่าไม่ธรรมดาด้วยแล้ว
“แต่ถ้าเจคมีธุระก็ไปได้เลยนะ…แนนเกรงใจคุณจัง”
เจคมองหน้านัชชาและถอนหายใจ เครื่องหมายคำถามเต็มใบหน้า ทั้งที่เธอเป็นคนโทร. หาเขาและรบกวนให้ไปดูบ้านหลังเก่าที่พระโขนงด้วยกัน มีความต้องการอยากขายอยากให้เขาช่วยเหลือ แต่พอไอ้ครูซมาเจครู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนเสือกซะอย่างนั้น!
เจคนอกจากเป็นหุ้นส่วนไนต์คลับกับโคลแล้วก็มีอาชีพเป็นนายหน้ารับซื้อ-ขาย อสังหาก็เลยจะจัดการเรื่องบ้านให้กับนัชชาเพราะเธอเหมือนว่าจะรีบใช้เงิน
ไอ้เราก็เห็นกับคนเคยรู้จักกันมาก่อนเลยรีบยื่นหน้าช่วย แต่พอเธอแสดงออกแบบนี้ เจครู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสะพานยังไงไม่รู้
สะพานที่ทอดวางให้นัชชาเดินไปหาเพื่อนสนิทของเขาได้อย่างง่ายดาย พอรู้แบบนี้แล้วกันได้ท่าไหนก็ต้องกันนั่นแหละ
หนึ่งอย่างคือไม่อยากให้นัชชาเข้ามาวุ่นวายกับเพื่อนสนิทคือครูซ อย่างที่สองเพราะเขารู้เช่นเห็นชาติจิตใจคนทุกคนในที่นี้
แต่ก็ดูเหมือนว่าไอ้ตัวเพื่อนเขาที่แต่งงานมีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้วก็ยังจะเสนอหน้าเข้ามาร่วมช่วยเหลืออดีตแฟนเก่าทั้งที่ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นเลยก็ได้ ไม่รู้มันคิดอะไรของมัน
“ครูซยังดีกับแนนเสมอเลย เจคก็ด้วยขอบคุณนะคะ” ไม่ได้พูดเปล่าแต่นัชชาเอามือบีบข้อแขนตัวเอง
“เจ็บอยู่ไหม…” ครูซเอ่ยถามน้ำเสียงห่วงใย เพราะรอยแผลผ่าตัดเป็นแผลเป็นทางยาว บ่งบอกถึงความเจ็บปวดที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี
“ไม่เจ็บแล้วค่ะ แต่ถ้าอากาศเย็นมากก็มีตึงบ้าง” นัชชาสบตาคนถามก่อนจะก้มหน้าลง
“หมอที่ไทยเก่งเยอะ ไม่ต้องกังวลแผลรักษาได้แน่นอน”
ครูซเห็นแววตาของนัชชาดูกังวลก่อนที่เธอจะเอามือลูบบาดแผล ในใจเขาคือรู้สึกหดหู่
“ขอบคุณครูซนะ…ที่ดีกับแนนเสมอเลย” เจ้าของชื่อเพียงแค่พยักหน้าก่อนดันจานอาหารที่บริกรเพิ่งมาเสิร์ฟให้กับนัชชาไป หญิงสาวมองจานของโปรดตัวเองแล้วก็ยิ้มกว้าง
เจคเห็นภาพหวานชื่นตรงหน้าก็อมยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะก้มจัดการอาหารในจานตัวเอง แต่สายตาก็ลอบสังเกตนัชชาอยู่ตลอด
ส่วนไอ้คนข้าง ๆ เขานั่งแข็งเป็นหิน ก็แน่แหละเพราะรอยแผลที่แขนนัชชา ครูซมันคิดว่ามันก็มีส่วนทำให้เธอไปเจอเรื่องแบบนั้น
หลังจากเลิกกันไปแล้วนัชชากลับอังกฤษไปอยู่กับมารดาทันทีเพราะเธอก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน แต่เรื่องจริงคือเธออยู่ที่ไทยไม่ได้เพราะอับอายเกินไป
การที่เธอเป็นแฟนของครูซคนเขาก็รู้กันทั่ว แต่อยู่ ๆ ครูซก็ประกาศแต่งงานแล้วมันไม่ใช่กับเธอแต่เป็นเพื่อนสนิทเขา!
นัชชาจึงรีบร้อนตัดสินใจแต่งงานกับคนที่เพิ่งจะคบหาดูใจกันไม่นาน ทั้งที่ยังไม่รู้จักนิสัยใจคอกันดีเลย
กว่านัชชาจะหย่าขาดจากสามีได้ก็ขึ้นโรงขึ้นศาลกันมานานเป็นปี และแผลเป็นที่ข้อมือก็เกิดจากการที่เธอถูกสามีทำร้าย
ไม่รู้ว่าทะเลาะกันอีท่าไหนถึงได้แผลที่สาหัสขนาดนี้ นัชชาเป็นคนบอกเองว่าผ่านการทำศัลยกรรมมาแล้วสองรอบ เสียเงินไปมากมาย แต่บาดแผลที่เห็นก็เหมือนว่าจะไม่ได้ดีขึ้นเลย
ในชีวิตนัชชามีมารดาเท่านั้น เมื่อท่านเสียชีวิตไปแล้วก็เท่ากับหญิงสาวตัวคนเดียว
ตอนที่เธอติดต่อมาและขอให้เจคช่วยขายบ้าน ครูซก็ตงิด ๆ ใจแล้ว แต่ตอนที่รับสายและได้แลกเปลี่ยนสารทุกข์สุกดิบกันในฐานะเพื่อนมนุษย์ เพื่อนเก่า ครูซรู้สึกว่าไม่ช่วยนัชชาไม่ได้
ครูซคิดว่าเขาก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผลักเธอให้ไปเจอเรื่องแบบนี้ เขาหักหลังเธอและทำให้เธอไปตกระกำลำบาก
“ดีใจนะที่ครูซยังจำได้ว่าเพื่อนคนนี้ชอบทานอะไร”
ครูซยิ้มแทนคำตอบ ส่วนเจครับหน้าที่มองหน้าสองคนสลับไปมา แต่ในใจเจคคิดว่าครูซมันจะจำได้หรือไม่ได้เขาก็ไม่ได้รู้ใจมันขนาดนั้น
แต่ที่แน่ ๆ อาหารจานนั้นนัชชาเป็นคนสั่งเอง เพื่อนของเขาก็แค่ดันจานไปให้เท่านั้น
หากไม่คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไปมันก็คือมารยาทบนโต๊ะอาหารไหม…
นัชชายิ้มกว้างให้เขาก่อนจะเรียกบริกรมาสั่งอาหารทานเล่นอีกสองอย่างเพราะเธออยากจะหาอะไรทานอีกนิดหน่อย
ตลอดทั้งวันครูซไม่จับโทรศัพท์เลย แม้กระทั่งเข้าห้องน้ำก็ไม่เอาโทรศัพท์ไป
นัชชาอดคิดไม่ได้ว่าเขาจงใจจะบอกเธอทางอ้อมหรือเปล่าว่ากับเซเวียร์ภรรยาตบแต่ง ครูซไม่ได้แยแสเธอเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะฉะนั้นข่าวประปรายตามหน้าอินเทอร์เน็ตนั้นเป็นเรื่องจริง
นัชชาคิดแบบนี้แล้วก็รู้สึกว่าการที่เธอเลือกกลับไทยในช่วงเวลาแบบนี้มันช่างเหมาะเจาะเสียจริงและมันเป็นโอกาสที่ดี
ในตอนที่คบกันมันเหมือนเราสองคนระหองระแหงกันตลอด เลิกกันบ้าง ดีกันบ้างตามประสา แต่พอเลิกกันครั้งสุดท้ายนัชชาคิดว่าครูซจะมาง้อเหมือนเคย แต่สรุปสุดท้ายครูซไปแต่งงานกับเพื่อนสนิทที่ชื่อเซเวียร์!
“คุณดูไม่แฮปปี้เลยเพราะแนนหรือเปล่าคะ?” เห็นเขาเงียบ ๆ นัชชาก็ถามขึ้น
ครูซดูเป็นคนที่เข้าถึงยากขึ้นอาจจะเพราะเขาดูโตขึ้นสุขุมขึ้นกว่าเดิมมาก แต่เขาก็ใส่ใจเธอดี และมันจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีเพื่อนสนิทเขาอย่างเจคติดสอยห้อยตามเราไปด้วยทุกที
“เปล่า คุณเสร็จธุระหรือยังพอดีผมต้องกลับโรงบาลแล้ว คิมโทร. ตามน่ะ”
ครูซคิดว่าตัวเองออกมานานเกินไป และงานบนโต๊ะก็ยังคงไม่ได้เคลียร์เขาควรจะกลับไปเคลียร์มันเสียหน่อยเพื่อที่พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องล้นจนกินเวลาชีวิตมากเกินไป
“งั้นตามสบายค่ะ ขอบคุณที่คุณจัดการธุระเรื่องแผลให้ แนนคิดว่าตัวเองจะไม่มีวันกลับมาผิวเนียนเหมือนเดิมแล้วซะอีก”
นัชชามีลูกล่อลูกชนไม่ได้มาเล่น ๆ แบบสมัยก่อนแล้ว เธอไม่ได้ทำตัวให้ดูน่าสงสาร แต่น่าเวทนาอย่างที่สุดเลยก็ว่าได้
“ไม่ต้องคิดมากหรอก…ทุกอย่างผมรับปากว่าจัดการให้ คุณทำใจให้สบายเถอะ บ้านแนนกูฝากด้วยนะเจค”
“เออ มึงกลับเถอะหายมานานแล้วนี่…” เจคไม่ได้พูดเปล่าแต่มองไปยังโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงเพื่อนสนิทด้วย
ครูซต้องรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร แต่อยู่ที่ว่ามันจะทำหรือเปล่าก็เท่านั้นแหละ
“งั้นแนนกลับคอนโดเราเลยนะคะ ไว้เจอกันนะเจค”
ตอนแรกครูซจะไปคนแรก ตอนนี้กลับกลายเป็นว่ายังนั่งอยู่ที่โต๊ะเดิมกับเพื่อนมองนัชชาเดินออกจากร้านอาหารไป
เสียงถอนหายใจดังมาจากคนข้างกาย ครูซเหลือบไปมองหน้าเจคก่อนจะยกมือเรียกบริกรมาเก็บเงิน
“ถอนหายใจทำไม?” เจคยกมือขึ้นเท้าคางก่อนจะถอนหายใจซ้ำอีกรอบเมื่อครูซถาม
“มึงไม่รู้จริง ๆ หรือแกล้งไม่รู้” ครูซยื่นเครดิตการ์ดให้พนักงานก่อนจะหันมามองหน้าเพื่อนสนิทอีกที
“เรื่อง?” ดวงตาสีน้ำข้าวจ้องมองนัยน์ตาสีเข้มของเพื่อนสนิท
“มึงคิดว่าแนนคิดกับมึงแค่เพื่อนเหรอ?”
“แล้วทำไมต้องคิดเป็นอย่างอื่น กูกับแนนเราจบกันมานานเป็นชาติแล้ว และเรื่องที่กูช่วยเหลือแนนก็เพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง อย่างน้อยแนนก็เคยดีกับกู และมึงก็รู้ว่ากูทำอะไรกับแนนไว้บ้าง”
เรื่องที่ทำให้อับอายจนต้องแทรกแผ่นดินหนี และเป็นเหตุผลบีบให้เธอต้องรีบแต่งงานเพื่อกู้ชื่อเสียงตัวเอง
เหตุผลนี้ทำให้นัชชาไปเจอผู้ชายไม่ดีที่ใช้กำลังทำร้ายร่างกายมานานหลายปี
“เอาจริง ๆ มันไม่แปลกถ้ามึงโสด”
“กูรู้ตัวว่าทำอะไรอยู่”
“แต่เมียมึงไม่ได้มารู้กับมึงนะครูซ”
“ต่อให้ซีรู้แล้วยังไง มึงคิดว่าคนอย่างซีจะปล่อยกูไปเหรอ?”
เจคถึงกับกลั้นหายใจตอนที่ครูซพูดประโยคนี้ออกมา
แน่นอนว่าที่ผ่านมาเขารู้ว่าเรื่องราวมันเป็นอะไรแบบไหน แต่สองคนนี้ก็อยู่กันมาปีนี้ปีที่สามแบบสามี-ภรรยา เป็นสามปีที่ไม่ได้มีทีท่าว่าจะหย่าร้างกัน
เซเวียร์ก็อดทนและชดใช้กับครูซอย่างที่สุด ปากมันก็แบบนี้ สายตามันก็ด้วย เจครู้ว่าเซเวียร์ต้องเจออะไรและโดนอะไรบ้าง
“มึงก็อย่ามั่นเกิน ซีมันทนได้อยู่แล้วถ้าเรื่องนี้มีแค่มึงคนเดียว แต่กูคิดว่าซีไม่ทนแน่ ๆ ถ้ามีคนอื่น” ครูซรับสมุดบัตรเครดิตมาเซ็นก่อนจะถอนหายใจและหยัดกายลุกขึ้นด้วยท่าทีคือจะจบบทสนทนาตอนนี้กับเจคซะ
“ซีก็ทำกับแนนไม่น้อย…”
“กูว่าไม่เกี่ยวนะ ซีไม่ได้ทำอะไรให้แนนเลยสักเรื่องเพราะมึงเลิกกับแนนแล้วแต่งงานกับซี จะกี่วันก็ถือว่าเลิกกันแล้วไม่ถือว่าเพื่อนกูแย่งผู้ชายของใคร แต่ถ้าเรื่องของมึงน่ะใช่…ซีทำผิดกับมึงจริง ถ้ามึงจะเอาเหตุผลนี้มาเอาคืนกับซีมัน กูว่าไม่โอเคเท่าไหร่”
“เรื่องที่กูทำกับซี? กูทำอะไรไอ้เจค…กูไม่ได้ทำอะไรเลย มึงพูดเหมือนว่ากูจะกลับไปคืนดีกับแนน”
“แล้วมันต่างกันตรงไหน ทั้งเรื่องรับซื้อบ้านแนนไว้ด้วยราคาที่สูงลิ่วกว่าตลาด ทั้งเรื่องหาหมอมารักษารอยแผลเป็นซึ่งต้องใช้เงินอีกไม่รู้เท่าไหร่และต้องใช้เวลา นั่นเท่ากับแนนต้องติดแหง็กอยู่กับมึงจนแผลเธอหายดี แล้วถ้าแผลเธอไม่หาย มึงจะรับผิดชอบแฟนเก่ามึงไปทั้งชีวิตไหม? คอนโดตึกข้างกันที่ให้แนนอยู่อีก ไอ้ครูซ…”
คราวนี้ครูซตวัดสายตาคมกริบมามองเพื่อนสนิท มือหนาวางบนบ่าเจคและตบลงไปเบา ๆ
“กูรู้ตัวว่ากูทำอะไรอยู่ และต่อให้ไม่มีแนนกูก็ไม่เคยคิดจะแต่งงานกับซี”
