บท
ตั้งค่า

บทที่ 10 สัมผัสที่เจ็บ

ครูซกลับมาถึงโรงพยาบาลก็โทร. กลับหาเซเวียร์ หญิงสาวรับสายและบอกว่าวันนี้เธอลางาน น้ำเสียงอู้อี้เหมือนคนเพิ่งตื่นนอนเขาก็เลยไม่ได้ถามอะไรต่อ และเธอก็ไม่ได้ถามว่าทำไมเขาถึงไม่รับสายเธอด้วย

ครูซไม่เคยพูดถึงหรือเล่าให้ฟังว่าไปเจอใครมาบ้าง เพราะปกติเรื่องชีวิตส่วนตัวนอกจากเรื่องบนเตียงเราสองคนไม่เคยแลกเปลี่ยนอะไรกัน

ใกล้จะสิ้นปีมีอะไรให้เคลียร์อีกเยอะ และวันนี้เขาเสียเวลาไปทั้งวัน อยากจะกลับบ้านจะตายแต่กลับไม่ได้ต้องรีบทำงานให้เสร็จ

“คุณคิมมีอะไรให้ผมเซ็นเอามาให้ผมทีเดียวนะ” หากเจ้านายบอกแบบนี้คงมีธุระให้ต้องรีบกลับ

“วันนี้คุณซีเธอกลับบ้านนะครับ และก็ลางานช่วงบ่ายด้วย”

ครูซละสายตาจากเอกสารที่กองท่วมหัวและก็ขมวดคิ้ว งั้นเสียงอู้อี้ก่อนหน้านี้คงไม่ใช่…

“ไปตั้งแต่เช้าเลยเหรอ?” ก่อนหน้าจะออกมาทำงานเธอไม่ได้บอกเขาสักคำว่าจะกลับบ้าน

“ช่วงสายครับ และวันนี้ไม่ได้เข้ามาที่โรงพยาบาลเลยทั้งวัน”

ครูซพยักหน้ารับรู้ คิมจึงค้อมศีรษะเตรียมจะเดินออกจากห้องไป แต่เจ้านายก็เรียกเอาไว้เสียก่อน

“สั่งดอกไม้ให้สักช่อ”

เซเวียร์มองใบหน้าตัวเองในเงากระจกแล้วก็ไม่รู้สึกว่าดีขึ้น รอยฝ่ามือที่บิดาฝากไว้เริ่มมีอาการบวมแดงขึ้นเรื่อย ๆ

แม้ว่าจะประคบเย็นด้วยผ้าชุบน้ำเย็นมาร่วมสองชั่วโมงแล้ว แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น

“หรือว่าต้องไปหาซื้อเจลประคบเย็น”

คุณหมอสาวมองนาฬิกาติดผนังและก็ตัดสินใจเดินลงไปซื้อของที่ต้องการทันที อย่างน้อยก็ให้มันดีขึ้นกว่านี้หน่อยพรุ่งนี้เธอจะต้องทำงาน ขืนหน้าเป็นรอยมือไปโรงพยาบาลคงไม่ดีแน่

เซเวียร์กดลิฟต์โดยสารลงมาจากชั้นบน ชั้นที่เธออยู่เป็นระบบลิฟต์ที่ทำไว้ให้เจ้าของห้องสามารถออกมาจากลิฟต์แล้วก็เจอหน้าห้องของตัวเองได้เลยโดยไม่ต้องผ่านโถงทางเดินส่วนกลาง และไม่ต้องผ่านห้องอื่นเหมือนคอนโดทั่วไป

หญิงสาวลงมาถึงชั้นล่างก็เดินผ่านส่วนกลางของตึกเพื่อใช้ทางเดินระหว่างตึกและทะลุไปยังร้านขายยาอีกฝั่งถนนหนึ่งของคอนโดแห่งนี้ เธอจำได้ว่ามีร้านขายยาอยู่แถวนั้น

เซเวียร์ยอมจะเดินเพื่อที่จะได้ไม่ต้องขับรถออกไปข้างนอกในช่วงเวลาที่ผู้คนเลิกงาน

เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้วหญิงสาวก็เดินผ่านจุดเดิมเพื่อกลับมารอลิฟต์ที่ชั้นล่าง แต่เธอรู้สึกคอแห้งจึงแวะซื้อน้ำปั่นที่ร้านกาแฟ

แต่ในขณะที่รอเครื่องดื่มอยู่นั้น หญิงสาวก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งมันเป็นเสียงที่เธอรู้สึกคุ้นหูเป็นอย่างมากแต่ไม่รู้ว่าเคยได้ยินที่ไหน

‘ขอบคุณมากเลยนะคะ พาไปทานข้าวกลางวันแล้วยังเอาดอกไม้มาให้เป็นกำลังใจอีก’

เซเวียร์ได้ยินเสียงผู้หญิงพูดเจื้อยแจ้วอยู่ไม่ไกล แต่เสียงผู้ชายเธอไม่ได้ยิน

คงเป็นคนมีความรักสองคนจีบกันนั่นแหละ ส่วนเธอไม่กล้าที่จะหันไปดูเพราะกลัวคนจะหาว่าเผือก จึงรีบรับเครื่องดื่มแล้วก็เดินตรงดิ่งขึ้นห้องพักเลย

เสียงประตูห้องที่เปิดตามหลังเข้ามาทำเอาคนที่กำลังแช่ถุงเจลเย็นในน้ำเย็นต้องเหลือบสายตาไปมอง

เมื่อเห็นร่างสูงของเขาตรงดิ่งมาทางนี้เธอก็หันกลับมาและรีบเก็บข้าวของที่กำลังตระเตรียมอะไรต่อมิอะไร

“ใครเป็นอะไร” เพราะครูซเห็นถุงร้านยาที่ตั้งข้างแก้วน้ำปั่นที่ดื่มไปเกือบครึ่งแก้วจึงถามขึ้น

เซเวียร์ยังไม่ได้ตอบแต่เขาก็จับเธอพลิกกายหันไปเผชิญหน้า แววตาคมเข้มดุดันขึ้นทันทีที่เห็นร่องรอยบวมแดงบริเวณโหนกแก้มข้างซ้ายของเธอ

“นอกจากเป็นหมอแล้วรับจ้างเป็นกระสอบทรายด้วยหรือไง?”

เซเวียร์เจ็บโหนกแก้มบริเวณที่ครูซใช้กดปลายนิ้วลงมา

“ไม่มีอะไรค่ะแค่เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย” เซเวียร์รู้ว่านี่คือเหตุผลที่โง่เง่า แต่จะไม่ให้เธอพูดอะไรเลยก็คงไม่ได้

“คิดว่าฉันโง่หรือไง! หยุดปกป้องคนที่ไม่สมควรจะปกป้องสักที!”

กรามของเขาขบเข้าหากันจนเป็นสันนูน สายตาก็จ้องมองเธออย่างดุดันเอาเรื่อง

“เรื่องนี้ซีจัดการได้” ครูซรู้ว่าเซเวียร์เป็นพวกดื้อตาใส!

“ขนาดจัดการได้หน้ายับเยินขนาดนี้ ถ้าจัดการไม่ได้จะขนาดไหนเซเวียร์! เธออย่าลืมว่าเธอเป็นคนของตระกูลลี! อัศดิษกุลอยากจะตบเธอเมื่อไหร่ก็ตบได้งั้นเหรอ!” เขาทุบกำปั้นลงเคาน์เตอร์อ่างล้างจาน ก่อนจะเดินฟึดฟัดหายเข้าไปภายในห้องนอน

เซเวียร์มองตามแผ่นหลังกว้างไปกระบอกตาก็ร้อนผ่าว ใบหน้าก็เจ็บระบม แต่สิ่งที่เจ็บกว่าเห็นทีจะเป็นหัวใจดวงเดิมของเธอนั่นแหละ

หญิงสาวนั่งใช้เจลเย็นประคบใบหน้าอยู่ที่โซฟารับแขก เธอนอนยืดกายเหยียดยาววางถุงเจลแปะแก้มข้างซ้ายเอาไว้และหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า

ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ครูซพาตัวเองมาหยุดยืนมองร่างบอบบางที่นอนหลับตาพริ้มเหมือนไม่ได้มีถุงเจลเย็น ๆ ประคบอยู่บนใบหน้า

ร่างสูงของเขามองเธอจากมุมสูง ชุดอยู่บ้านของเซเวียร์ก็ยังคงเป็นชุดธรรมดาชุดเดิมที่มันเป็นทั้งชุดไว้ใส่ในห้องและชุดนอนชุดเดียวกัน ต่างกันกับครูซที่ชุดใส่ในบ้านก็ชุดหนึ่ง ชุดนอนก็ชุดหนึ่งไม่เอามาปะปนกัน

สิบนาทีเข้าไปแล้วเซเวียร์ก็ไม่ขยับตัวเลย ครูซจึงหย่อนกายนั่งลงโซฟาตัวข้างก่อนจะค่อย ๆ เอามือหยิบถุงเจลนั่นมาเช็กอุณหภูมิก็พบว่ามันไม่ค่อยเย็นแล้ว

เขาจึงกะว่าจะเอามันไปแช่ตู้เย็นเพิ่มความเย็นให้มันสักหน่อย แต่สายตากลับไม่ยอมละไปจากรอยช้ำที่โหนกแก้มเธอ

สุดท้ายก็อดที่จะเอาปลายนิ้วมือไปแตะไม่ได้

“อือ” เธอยกมือขึ้นปัดเพราะโดนก่อกวน ก่อนจะพลิกตัว

ครูซถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เพราะเมื่อเธอพลิกตัวนั่นเท่ากับขากางเกงก็แหวกออกเผยให้เห็นแก้มก้นแบบเต็มตา

ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินเอาถุงเจลเย็นไปแช่และเดินกลับมานั่งที่โซฟาตัวเดิม ในหัวตีกันยุ่งเหยิงไปหมดว่าจะยังไง ปล่อยเธอนอนต่อไปหรือกวนใจกันดี

สุดท้ายครูซก็พาตัวเองไปนั่งอยู่ปลายเท้าของเซเวียร์ และจับท่อนขาของเธอยกขึ้นมาวางบนท่อนขาของตนเอง

ท่อนขาเรียวยาวกับผิวกายนุ่มเนียน เขาลากฝ่ามือนวดเคล้น เท่านั้นเซเวียร์ก็รู้สึกตัวตื่น

“วะ ว่าไงคะ” เธองัวเงียขึ้นมาถาม

เมื่อเห็นว่าครูซไม่ตอบแต่รวบร่างเธอไปนั่งตักแทน คนที่ตาปรืออยู่ก็ดีดกายลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ต่อไปไม่ต้องไปเหยียบบ้านหลังนั้นอีก…เข้าใจไหม?” เซเวียร์อยู่ในท่านั่งคร่อมตักเขาอยู่ ส่วนมือครูซก็บีบเอวเธอเอาไว้

“ฉันถามว่าเข้าใจไหม!” เมื่อเธอเม้มปาก เธอก็เอามือมาจับมือหนาออก ก่อนจะขยับเบี่ยงกายลงจากตักแกร่ง

“เข้าใจแล้วค่ะ คุณปล่อยซีก่อน” เพราะอะไรบางอย่างดุนดันท่อนขาของเธอ เซเวียร์ใช้สองมือดันอกแกร่งขมวดคิ้วใส่เขาและมองครูซด้วยแววตาจริงจัง

“ก็จะปล่อยอยู่นี่ไง” คำว่าปล่อยของเขา ไม่ต้องสาธยายก็รู้ว่าจะปล่อยอะไร

ใบหน้าคมคายฝังลงมาบนซอกคอก่อนริมฝีปากร้อนจัดจะซุกไซ้ลำคอระหง ฝ่ามือนุ่มหนาสอดเข้ามาสัมผัสเรือนร่างยั่วเย้า

แผงอกแกร่งปะทะกับทรวงอกอวบอิ่มยามเราโอบกอดรัดกัน เซเวียร์รู้สึกเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสของอีกฝ่าย

ความเสียดเสียวแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่างไม่ว่าเขาจะสัมผัสแตะเธอที่ส่วนไหนก็วูบวาบไปหมด

“ร้อนเร็ว” ปลายนิ้วร้ายค่อย ๆ กดกรีดชำแรกเข้าหาด้านในโพรงอ่อนนุ่ม เขากดคว้านควานลึกเข้าไปจนเซเวียร์ลมหายใจขาดห้วงตามแรงขยับของปลายนิ้ว

ความร้อนตรงส่วนนั้นของเธอไต่ระดับขึ้นตามแรงจุ่มจ้วงที่สอดเข้ามาจากทางด้านหลัง

“จูบฉันหน่อยสิ…” ปากหยักคลอเคลียอยู่กับมุมปากเธอและกระซิบบอก เขาบดจูบไล่เลียริมฝีปากอ่อนนุ่ม ก่อนที่จะโดนปากเล็กครอบครองและขบเม้ม

เซเวียร์ขบดึงปากล่างของเขาก่อนจะจูบเข้าไปอีกที ฝ่ามือโอบกอดลำคอหนารั้งร่างกายแน่น ๆ เข้ามาแนบชิด

ตรงส่วนนั้นของเราสัมผัสถูไถกันจนเป้ากางเกงเขาเปียก เธอลากนิ้วมือลงไปสัมผัสส่วนที่คัดแข็งก่อนจะจับมันแล้วชัก

“ซี้ด!” เพราะครูซจูบเธอแรงและปากของเขาโดนมุมปากที่ช้ำของเธอเซเวียร์จึงร้องขึ้นมา

เขาขมวดคิ้วใช้ฝ่ามือประคองใบหน้าเธอและกดริมฝีปากจูบซับโหนกแก้มที่บวมแดงข้างนั้น

“อย่าให้ใครมาทำเธอเจ็บตัวแม้แต่พ่อเธอ…เพราะฉันทำได้แค่คนเดียว”

ครูซพูดจบก็จูบเธออีก เรียวลิ้นอุ่นชื้นตวัดเข้ามาในโพรงปากก่อนใช้ปลายจมูกหอมแก้มทั้งซ้ายและขวา กดย้ำ ๆ ลงมาบนรอยช้ำพวกนั้นราวกับจะปลอบโยนเธอ

“หยุดร้องไห้ได้แล้ว เธอจะทำให้ฉันหมดอารมณ์นะ…” เขาพูดจบก็ยัดเยียดตัวตนเข้ามาหา

เซเวียร์ปล่อยให้หยดน้ำตาไหลรินลงมา ครูซไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เจ็บปวดที่สุดไม่ใช่การที่เธอถูกบิดาทำร้าย แต่มันเป็นเพราะเขาใจร้ายกับเธอมากต่างหาก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel