บทที่ 6 ต้องการอีกเท่าไหร่!
“เฮ้! ซีไม่เจอกันนานสวยชะมัดเลยมา ๆ กอดหน่อย”
ร่างสูงของเจ้าภาพทันทีที่หันมาเห็นเพื่อนสาวก็ทิ้งกลุ่มคนที่ยืนสนทนาและโผเข้ามาทำท่าจะโอบกอดเธอ
“ตัวมึงมีแต่กลิ่นบุหรี่ มึงอยากให้ยัยนี่รีบกลับบ้านหรือไง?”
เจคมองหน้าครูซสลับกับมองหน้าเซเวียร์ ปกติเวลาเจอกันเราก็โอบกันเป็นเรื่องปกติของเพื่อน
แต่อยู่ ๆ วันนี้เจคกอดเซเวียร์ไม่ได้ ประเด็นคือคนเป็นสามีไม่อยากให้ภรรยาถูกเพื่อนกอด แต่ก็ดึงหน้าเจคมองออก
“กอดได้ไหมซี” เซเวียร์พยักหน้าและเจคก็เอามือดันอกแกร่งของครูซที่ยืนขวางทางให้หลบไป ก่อนจะยกแขนข้างหนึ่งกอดร่างเล็กของเพื่อนสนิทเอาไว้
“สุขสันต์วันเกิดนะ ของขวัญครูซเป็นคนเตรียม” เจคยิ้มกว้างและจะเหลือบสายตามองไปเจ้าของชื่อที่ปากบอกไม่สนใจคนที่เป็นภรรยา แต่สายตากลับจดจ้องไม่เลิก
“คิดถึง ๆ ขอบใจที่มานะ ว่าแต่ยังตัวหอมเหมือนเดิม”
เจคพูดจบก็หัวเราะแต่ปลายจมูกก็เฉียด ๆ ไปโดนปลายผมของเซเวียร์จึงได้กลิ่นหอมและเมื่อเหลือบไปเห็นสายตาของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีมองมาทางเรา เจคจึงเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามว่ามีปัญหาอะไรนี่ก็เพื่อนเขา
“ไปโต๊ะได้แล้ว” เจคจำต้องปล่อยกอด ก่อนจะพาเซเวียร์เดินลัดเลาะมานั่งยังโต๊ะที่จัดเตรียมไว้
“ดื่มอะไรดี” มาถึงโต๊ะที่เตรียมเอาไว้สำหรับเพื่อนสนิทเท่านั้น เจ้าของงานก็เอ่ยถามอย่างใส่ใจทันที
“น้ำเปล่าดีกว่า...” เซเวียร์ไม่อยากดื่มน้ำอัดลมเพราะกลัวท้องอืด ส่วนแอลกอฮอล์วันนี้ขอบาย
“ไม่ได้! นาน ๆ เจอกันทีก็รื้อฟื้นความหลังกันหน่อยสิ”
ความหลังที่ว่าก็ไม่พ้นทุกคนเมาหมดและเหลือเซเวียร์คนเดียวที่ไม่เมา
ผ่านไปสักพักพอถามสารทุกข์สุกดิบกันตามประสาคนที่ไม่ได้เจอกันนานเพื่อนสนิทก็เริ่มเข้าเรื่อง เพราะในโต๊ะตอนนี้ไม่มีครูซอยู่แล้ว เขาเดินหายไปกับกลุ่มคน
“ชีวิตคู่โอเคดีใช่ไหม แป๊บ ๆ ก็สองปีแล้วเนอะ” เซเวียร์ยิ้มให้เจ้าของวันเกิดก่อนจะรับแก้วไวน์แดงที่เพื่อนพยายามยัดใส่ในมือ สีหน้าของเธอบอกเจคว่าไม่มีอะไรแย่
“ก็ปกติดี” เจคมองหน้าเธอแล้วพยักหน้าไม่ได้ถามอะไรอีก ส่วนเซเวียร์ก็ไม่ได้แสดงทีท่าว่าอยากจะพูดเรื่องนี้ต่อ
เธอกลัวว่าหากครูซมาได้ยินจะเป็นเรื่องขึ้นมาอีก เขาจะหาว่าเธอมาเรียกร้องความสงสารจากเพื่อน
“ก็ออกมาเที่ยวบ้าง ทำแต่งานเครียดพอดี ถ้าครูซมันไม่ว่างพาไปไหนฉันว่างเสมอนะ” เจคก็เป็นหนึ่งคนที่ชอบเอาใจเธอ อาจจะเพราะเซเวียร์เป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม
“ไอ้เจคคนเดียวที่ไหนก็ยังมีฉันอีกคน” คนที่มาทีหลังมาหยุดยืนอยู่ข้างเก้าอี้เธอ เซเวียร์เงยหน้ามองเขาและยิ้ม
โคลตามมาทีหลังแต่ก็มาทันได้ยินประโยคที่เจคพูดพอดี
“โอเค ถ้าจะชอปปิงรอบหน้าจะโทร. เรียกทั้งสองคนไปรูดบัตรให้ถลอกเลย” ผู้ชายสองคนหัวเราะชอบใจ แต่ก็แอบลอบสบตากัน มีหลายเรื่องที่อยากถามแต่ก็ตัดสินใจไม่ถาม
เซเวียร์รู้จักเจคและโคลทีหลังเพราะสองคนนี้เป็นเพื่อนของครูซและวาดิม แต่ก็มาสนิทกันได้ไม่ยากเพราะฉะนั้นสองคนนี้รู้เหตุผลที่เธอและครูซต้องแต่งงานกัน
“ชนแก้วกันหน่อย อย่าหายไปจากเพื่อนนานนักนะซี”
“เปล่าหาย เราก็คุยไลน์กันอยู่ แต่ซีไม่ว่างน่ะมีเคสช่วยเยอะ”
เคสช่วยที่ว่าก็คือเคสทำคลอด ยิ่งท้องยาก หรือมีภาวะเสี่ยง เซเวียร์ก็ชำนาญในเรื่องนี้จึงถูกจองตัวไว้ให้ไปช่วยดูเคสของเพื่อนหมอด้วยกันบ่อย ๆ
ระหว่างที่พูดคุยกันไปหนุ่ม ๆ ก็มีคนแวะมาทักทาย แต่คนที่หายไปเลยก็มีแต่สามีเธอนั่นแหละ
“เดี๋ยวฉันมา โคลอยู่กับซีก่อนนะ”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวนั่งรอตรงนี้แหละ ไปรับแขกเถอะ”
งานวันเกิดเจ้าของร้านจะให้เจคมานั่งอยู่กับเธอตลอดคงไม่ดี เซเวียร์จึงบอกให้เพื่อนทั้งสองไปดูแลแขกคนอื่น ส่วนเธอขอนั่งดื่มอยู่ตรงนี้ ไว้ถึงเวลาเป่าเค้กค่อยเดินไปรวมกลุ่มกัน
ใคร ๆ ก็จำได้ว่าเซเวียร์เป็นใครและเป็นอะไรกับเพื่อนเจ้าของร้านจึงไม่แปลกที่จะโดนจับจ้องเป็นธรรมดา
คุณหมอสาวยกแก้วไวน์ขึ้นจิบก่อนจะมองไปรอบร้าน และสายตาก็เห็นว่าสามีตัวเองยืนอยู่กับกลุ่มผู้หญิงตรงหน้าเวที
ภาพที่เขาหัวเราะจนเห็นฟันซี่ขาว ท่าทางโอนอ่อนเป็นมิตรและผายมือเชื้อเชิญให้ผู้หญิงกลุ่มนั้นเลือกได้เลยว่าจะดื่มอะไร ก่อนจะยกนิ้วชูขึ้นเรียกพนักงานในร้านและชี้มาที่อกตัวเอง…
ครูซเป็นคนเปย์อยู่แล้วนั่นคือธรรมชาติของเขา
เซเวียร์หลุบสายตาลงต่ำก่อนจะยกแก้วไวน์ในมือดื่ม ทั้งที่เพลงในร้านออกจะเสียงดัง แต่เธอกลับรู้สึกโดดเดี่ยว คงจะมีเพียงแก้วไวน์ในมือที่คลายเหงาให้เธอได้
ผ่านไปหลายนาทีจึงมองไปที่หน้าเวทีอีกครั้ง ครูซยังคงอยู่ที่เดิมตรงนั้นราวกับว่าเขาจะปักหลักไม่ไปไหน และก็ไม่สนใจด้วยไม่ว่าใครจะเดินไปตามให้เขากลับโต๊ะ
ในเมื่อครูซไม่กลับใครจะทำอะไรได้ สายตาของเพื่อนสองคนห่วงใยความรู้สึกเธอมาก แต่เซเวียร์ก็ยิ้มยืนยันกลับไปว่าไม่มีอะไรต้องห่วง เธอโอเค
“ซีไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
โคลอาสาไปส่งแต่เซเวียร์บอกว่าไปเองได้ก็แค่เข้าห้องน้ำ จึงบอกให้โคลรีบไปตามเจคกลับมาที่โต๊ะ
หลังจากที่เซเวียร์เดินมาถึงหน้าห้องน้ำสองขาของเธอก็หยุดชะงัก สายตาเห็นแผ่นหลังของผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น
แม้ไฟจากทางเข้าห้องน้ำจะสาดส่องไม่ถึงใบหน้าของเขา แต่เซเวียร์ก็จำได้ว่านั่นคือสามีเธอ
“พี่ครูซหนูเสร็จแล้วค่ะ รอนานไหมคะ”
ผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มเดินออกมาจากห้องน้ำหญิงและเอ่ยพูดกับครูซ แค่ปราดเดียวที่เซเวียร์มองหน้าผู้หญิงคนนั้นเธอจำได้ว่าเป็นคนที่โต๊ะหน้าเวที
ไม่ต้องมีคำถามเพื่อถามครูซว่าเหตุใดถึงมายืนอยู่หน้าห้องน้ำหญิง…เขาก็มารอผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มคนนี้เข้าห้องน้ำไง
“ไม่นานหรอก พี่รอเก่ง” เสียงของครูซดังพอประมาณ
เซเวียร์ได้ยินเปลือกตาก็กะพริบเชื่องช้า และมองพวกเขาทั้งสองคนที่กำลังเดินผ่านหน้าเธอไป
ครูซมองเธอด้วยสายตาราบเรียบ เมื่อเดินใกล้เข้ามาเซเวียร์ขยับเบี่ยงตัวหลบเพื่อให้คนสองคนเดินผ่านหน้าเธอไป
“อะ เอ่อ ภรรยาพี่นี่คะ”
ที่เซเวียร์ยืนคือทางเข้าห้องน้ำหญิง แน่นอนว่าสองคนนั้นจะต้องออกมาทางนี้และพบเธอ
หญิงสาวไม่ได้คิดจะเดินหนีเพื่อหลีกหนีความจริงข้อที่ว่าครูซไม่แยแสต่อการมีอยู่ของเธอ และเขาก็ทำร้ายจิตใจเธอทั้งต่อหน้าและลับหลังเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
“ไปเถอะ” ครูซจับแขนผู้หญิงคนนั้นเดินผ่านเซเวียร์ไป กลิ่นน้ำหอมคุ้นเคยของเขาลอยมาเตะจมูกเธอ
เซเวียร์ไม่ได้หันกลับไปมอ งแต่พยายามทรงตัวอยู่บนรองเท้าส้นสูงและพาตัวเองเดินเข้าไปในห้องน้ำ
นานหลายนาทีที่เธอนั่งจมจ่อมอยู่บนฝาชักโครก ภายในอกมันว่างเปล่าเหมือนไม่มีอะไรอยู่แม้กระทั่งหัวใจของเธอ
เซเวียร์เดินออกมาพบว่าเจ้าของวันเกิดกำลังหาตัวเธออยู่ พอพนักงานหันมาเห็นก็กระซิบบอกเจค เพื่อนเดินฝ่าผู้คนเดินมาจับจูงเธอไปหยุดอยู่หน้าเค้กวันเกิดด้วยกัน
“เพื่อนที่ฉันรักที่สุดมาแล้ว มาร้องเพลงกันก่อนที่ภาพจะตัด!”
ทุกคนที่มาร่วมงานวันเกิดเจ้าของร้านก็ร้องเพลงกันไปประมาณสามรอบ
เซเวียร์ไม่ได้มองหน้าใครเธอร้องเพลงวันเกิดเบา ๆ ในลำคอและก็ไม่รู้ว่าตอนนี้สามีของเธอยืนอยู่ตรงไหน
“แฮปปี้เบิร์ทเดย์ทูยูววววววว”
จนเมื่อเจคเป่าเค้กเสร็จทุกคนมาร่วมอวยพร แต่เขาดันหันมามองหน้าเธอและยิ้มกว้างให้ ส่วนโคลก็เอามือมาวางบนศีรษะเธอ
“ซีจำได้ไหมว่าทุกปีเธอจะยืนข้างฉันเป่าเค้กด้วยกันแบบนี้ ฉันหวังว่าเราจะเป็นแบบนั้นตลอดไป อย่าหายไปไหนอีกนะ มีความสุขมากหน่อย ต้องมีความสุขนะ”
เซเวียร์เหมือนได้ยินเสียงอะไรสักอย่างในอกกระเทาะออก หญิงสาวพยายามกลั้นน้ำตาจนสุดความสามารถ ก่อนจะขอตัวพาตัวเองกลับไปยังโต๊ะเดิมที่นั่งอยู่ก่อนหน้านั้น
หากคำอวยพรมีจริงเธออยากจะขอให้ตัวเองมีความสุขเหมือนกัน
ไม่ต้องมีมากหรอก...แต่ขอให้มีความสุขสักหน่อย
ตั้งแต่กลับมาที่โต๊ะเธอไม่ได้ดื่มอีก นอกนั้นเท่าที่มองด้วยสายตาก็ไม่มีใครปกติกันสักคน เจคกับโคลสนุกสุดเหวี่ยง เพื่อนเธอทิ้งบอดี้การ์ดของร้านไว้ดูแลเธอสองคน ส่วนครูซก็เดินไปโต๊ะนู้นโผล่มาโต๊ะนี้ เขาทำตัวสบาย ๆ เหมือนว่าไม่มีเธอที่เป็นภรรยานั่งมองเขาอยู่ตรงนี้
จนเมื่อเซเวียร์เห็นว่าครูซเหมือนจะทรงตัวไม่ไหว เธอจึงเอ่ยปากบอกให้การ์ดของร้านไปพาเขากลับมา
“ฝากไปพาคุณครูซมาที ฉันจะออกไปรอที่รถ”
เธอคาดการณ์ว่าอีกไม่กี่นาทีโต๊ะหน้าเวทีจะกลับกันแล้ว และเหมือนว่าหนึ่งในน้องผู้หญิงพวกนั้นกำลังตามหาครูซ
เซเวียร์เดินออกไปถึงหน้าร้านโดยมีผู้จัดการร้านวิ่งตามมาส่ง ตรงนั้นวุ่นวายประมาณหนึ่ง เมื่อรู้ว่าเธอจะกลับบ้าน
“เด็กกำลังไปเอารถมาครับ คุณซีรอสักครู่นะครับ”
“ไม่ต้องไปบอกคุณเจคกับคุณโคลนะคะ เดี๋ยวเอิกเกริก ซีพาคุณครูซกลับบ้านก่อน”
เธอบอกกับผู้จัดการร้าน สายตาก็สอดส่องเข้าไปในร้าน จนเมื่อเห็นร่างสูงของสามีเดินออกมาด้วยใบหน้าแดงก่ำพร้อมกับโผเข้ามากอดเธอ หญิงสาวก็ตัวแข็งใส่ จับท่อนแขนเขาให้พยุงตัวดี ๆ
“จะทิ้งผัวกลับบ้านจริงดิ” ครูซไม่ได้พูดเปล่าแต่ซุกใบหน้าคมคายลงมากับซอกคอเธอ เซเวียร์ดันร่างใหญ่ก่อนจะมองไปที่การ์ดของร้านให้มาช่วยประคอง
“ไม่ต้องมายุ่ง!” ครูซไม่ยอมให้ใครจับตัวสักคน เธอจึงปล่อยให้เขากอดอยู่แบบนั้น จนรถของเรามาถึงแล้วครูซก็ยังคงเกาะติดตัวเธอ ไม่เหมือนคนที่ไม่สนใจกันอย่างตอนที่อยู่ในร้านเลย
ซูเปอร์คาร์ตัวใหม่ล่าสุดมาจอดหน้าร้าน เซเวียร์ประคองครูซจะให้เขาไปนั่งในรถ แต่แล้วก็มีเสียงผู้หญิงเรียกชื่อเขา
เซเวียร์ปรายสายตาไปมองหน้าเจ้าของเสียงก็เป็นคนเดียวกับโต๊ะหน้าเวที
“พี่ครูซคะจะกลับแล้วเหรอคะ?”
“เออ! เมาจะกลับแล้ว ไม่เห็นไงเมียมา”
ครูซตอบเสียงดังกลับไปทั้งยังหลับตา เขาเอนตัวไปข้างหน้าคว้าที่จับประตูรถและเปิดออก ก่อนจะพาตัวเองเข้าไปนั่งในรถและปิดประตูทันที
เซเวียร์ละสายตาจากผู้หญิงที่มายืนอยู่ข้างรถเพื่อพูดคุยกับครูซทั้งที่กระจกปิดไว้ ส่วนเขาเอนเบาะนอนพลิกตัวไปอีกด้านเพื่อหลีกหนี เธอเห็นเช่นนั้นก็เดินมาประจำที่คนขับและพาเขากลับบ้าน
“ถ้ายัยนั่นจะลากฉันกลับไปด้วยเธอก็จะยอมใช่ไหม!”
ออกรถได้เขาก็ตวาดออกมาเสียงดัง แต่น้ำเสียงคืออ้อแอ้จับใจความไม่ได้
“ใครจะยอมให้คุณกลับกับคนอื่นคะ” เซเวียร์ตอบเสียงเบาและเหลือบมองกระจกมองข้างไปด้วย รถของครูซราคาแพงเธอต้องขับอย่างระมัดระวังที่สุด
“ไม่จริง! เธอไม่ได้แคร์ด้วยซ้ำว่าฉันจะไปอะไรกับใคร ไม่ต้องมาโกหก! ที่เธอยอมแต่งงานกับฉันก็เพราะเงินของฉันเท่านั้นแหละ ไอ้ความรักบ้าบออะไรนั่นมันไม่มีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว!”
พอได้ยินคำพูดของเขาเซเวียร์ก็ไม่คิดจะอธิบายอะไรต่อ เพราะถึงพูดไปก็มีแต่จะทะเลาะกันเปล่า ๆ
“เธอไม่ปฏิเสธเพราะมันก็ถูกแล้ว! เธอมันก็แค่ผู้หญิงหน้าเงิน!” คำพูดของครูซกระทบถูกบาดแผลในหัวใจเธออย่างจัง
ระหว่างทางครูซลืมตามองเธอตลอด เขาพะอืดพะอมอยากอาเจียนเพราะเครื่องดื่มที่กวาดดื่มเข้าไป อยากจะทิ้งตัวจะแย่แต่ก็กลัวว่าจะสร้างปัญหาให้ตัวเองเพิ่มอีก
“สรุปแล้วเธอรักฉันจริงไหม?”
คำถามของเขาทำเอาปลายเท้าที่เหยียบคันเร่งอยู่ผ่อนลง ก่อนจะผินหน้าไปมองเขา ดวงตากลมโตมองเขาแล้วยิ้มมุมปาก ก่อนจะตบไฟเลี้ยวเปิดไฟผ่าหมากอยู่ข้างทาง
“หิวไหมคะ ซีแวะหาอะไรร้อน ๆ ให้กินไหม” ข้างหน้าที่เราจอดรถเป็นข้างทางที่เป็นเวิ้งขายอาหารสตรีตฟู้ดยามค่ำคืน
“เธอสนใจฉันด้วยหรือไง” เขาพูดออกมาทั้งที่ยังหลับตาอยู่
ครูซเป็นคนดื่มแอลกอฮอล์แล้วตัวแดง และหากดื่มมากก็จะคัน พอเขาเริ่มเกาเธอก็ต้องจับมือหนาเอาไว้
“อย่าเกาเดี๋ยวเป็นรอย” ดีว่าเซเวียร์ขอผ้าเย็นเด็กเสิร์ฟจากที่ร้านติดกระเป๋าไว้ ในเวลานี้จึงช่วยเช็ดหน้าเช็ดตาให้เขาได้
“อดทนอีกนิดหนึ่งจะถึงห้องแล้ว” เธอคงต้องเช็ดตัวให้เขาแล้วทายาแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นคืนนี้ครูซคงนอนเกาทั้งคืน เขาเป็นภูมิแพ้ผิวหนังอยู่แล้ว แต่เรื่องชอบดื่มก็ห้ามไม่ได้
ครูซปัดป้องก่อนจะส่ายหน้าไปมา เขาเมามากไม่มีสติเลยและพยายามถอดเสื้อตัวเอง เซเวียร์จึงจับมือเขาไว้และลูบหลังมือหนา สักพักครูซก็ลืมตามองเธอ
“ใคร ๆ ก็บอกให้ฉันอดทน เธอรู้ไหมวันนี้ไอ้เจคมันขอของขวัญวันเกิดกับฉันว่าอะไร”
“...”
“มันขอให้ฉันดีกับเธอหน่อย ฮึ! ฉันถามเธอจริงเถอะตอนที่เราเป็นเพื่อนกันฉันไม่ดีกับเธอหรือไง ฉันแม่งโคตรดีกับเธอเลย แต่ดูสิ่งที่เธอตอบแทนฉันสิ เพราะต้องการได้ฉันเป็นผัวเธอทำกับฉันถึงขนาดนี้ เธอแม่งไม่เคยรักใครหรอก คนเห็นแก่ตัว!”
ครูซพรั่งพรูสิ่งที่อยู่ในใจออกมา ก่อนจะผลักเซเวียร์ให้ออกห่าง แรงผลักของเขาทำเอาศีรษะเธอกระแทกกระจกรถ
กระบอกตาเธอร้อนผ่าวได้แต่กล้ำกลืนทุกความเสียใจเอาไว้ ทุกสิ่งที่ครูซพูดก็คือความจริง เธอเป็นคนแบบนั้นจริง ๆ
“ถ้าเธอรักฉันจริง เธอไม่มีทางทนได้หรอกที่ฉันไปอี๋อ๋อกับผู้หญิงคนอื่น แต่นี่เธอกักกันฉันไว้ให้ฉันเป็นผัวเธอด้วยทะเบียนสมรส ในเมื่อเธอไม่เคยรักฉันทำไมถึงไม่ปล่อยฉันไป เซเวียร์! เธอต้องการเงินอีกเท่าไหร่ถึงจะยอมออกไปจากชีวิตฉันซะที!”
