บทที่ 5 แกล้ง
มารดาของเซเวียร์เสียชีวิตตั้งแต่ตอนที่เธออายุสิบปี ไม่นานหลังจากนั้นบิดา รามก็แต่งงานใหม่กับพรประภา (พร)
หลังจากที่พวกท่านแต่งงานกันไม่นานก็ได้ให้กำเนิดลูกสาวหนึ่งคนคือพิมพ์ประภา (พิมพ์) และอีกหนึ่งปีต่อมาก็ให้กำเนิดลูกชายอีกหนึ่งคนคือ พัฒน์ประภา (พัฒน์)
เท่ากับว่าเซเวียร์มีน้องสาวและน้องชายต่างมารดาอายุห่างกับเธอเป็นสิบปี แต่มันเป็นสิบปีที่เซเวียร์ไม่เคยสัมผัสได้ถึงความเคารพเธอในฐานะพี่สาว
ที่จริงเธอก็ไม่ได้ถือสาหาความอะไร แต่การที่เธอไม่ทักตอบพวกน้อง ๆ นั่นเป็นเพราะทุกครั้งที่เราพูดคุยกันก็จะมีปัญหากันทุกครั้ง
เซเวียร์จึงเลือกที่จะทำเฉยไปดีกว่า ไม่ใช่ว่าไม่มีมารยาท แต่เธอไม่อยากจะมีปัญหาเพิ่ม
บิดาแต่งงานใหม่เซเวียร์ไม่ได้มีปัญหา แต่คนที่มีปัญหาคือแม่เลี้ยงของเธอต่างหาก สุดท้ายบิดาตัดจบปัญหาส่งเธอไปเรียนต่างประเทศ และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นให้ได้รู้จักครูซและวาดิม
วันหนึ่งบิดานึกอยากจะส่งเธอไปเรียนต่างประเทศก็ไป นึกอยากจะให้กลับมาเรียนที่ไทยก็ให้กลับมาเลย
ตลอดชีวิตเซเวียร์ขึ้นอยู่กับความพอใจของบิดาทั้งสิ้น
ตัวเธอเองในตอนที่เป็นเด็กไม่ประสาก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่เมื่อโตมาจึงเข้าใจเหตุผลที่ผู้ใหญ่ทำเช่นนั้น
บิดาจะให้เธอเรียนต่างประเทศคนเดียวก็คงไม่ได้ เพราะมีน้องอีกสองคนต้องดูแล และจะส่งไปเรียนเมืองนอกทั้งสามคน
บิดาก็คงจะหาเงินส่งเรียนไม่ไหว สุดท้ายเธอก็โดนเรียกตัวกลับมาเรียนที่ไทยกับพวกน้อง ๆ
พอโตขึ้นมาหน่อยก็เห็นอะไรชัดขึ้น พอกับความรับผิดชอบที่เพิ่มมากขึ้น
ภรรยาใหม่และลูก ๆ ของบิดาก็ใช้เงินมือเติบหาเท่าไหร่ก็ไม่พอ ประกอบกับเพราะพิษเศรษฐกิจเล่นงาน การลงทุนมีความเสี่ยง สุดท้ายบิดาก็มักจะมาบีบบังคับเอาเงินกับเธอ
อาชีพหมอก็มีเงินแต่ไม่ใช่ว่าร่ำรวยขนาดที่จะหาเงินเดือนเป็นล้าน ๆ ให้บิดาได้ ลำพังเงินเดือนห้าหลักที่เธอส่งให้ท่านทุกเดือนก็ทำเอาเซเวียร์หืดขึ้นคอ
ไหนจะน้องสาว ไหนจะน้องชาย ไหนจะค่าใช้จ่ายในบ้านที่เธอไม่มีสิทธิ์จะอยู่ด้วยซ้ำแต่ก็ต้องจ่าย พอไม่ช่วยเหลือบิดาก็พานไม่พูดกับเธอเป็นเดือน ๆ ก็มี
แต่ไหนเลยลูกจะไม่ช่วยพ่อ เซเวียร์ไม่ใช่คนใจดำ หลาย ๆ ครั้งที่ต้องยอมกู้หนี้ยืมสินเพื่อเอาเงินมาให้บิดาหมุน
เมื่อเธอเป็นหนี้ในระบบมาก ๆ ก็ไม่สามารถหาเงินก้อนให้ท่านเพิ่มได้ สุดท้ายท่านก็เจอเนื้อชิ้นงาม ครูซ ลี
ทุกช่วงชีวิตของเซเวียร์มีครูซอยู่ตลอดเช่นเดียวกันกับเขา เราจึงเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากและครูซก็ไว้ใจเธอมาก
แต่เซเวียร์ก็ทำลายมิตรภาพที่ดี ๆ ระหว่างเราจนหมดสิ้น ทำลายชีวิตเขาจนไม่เหลือชิ้นดี
เธอมั่นใจว่าตัวเองเป็นคนเลวที่สุดในเรื่องนี้…ทำให้ชีวิตเขาเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นทุกความเจ็บปวดเธอเองสมควรจะได้รับมัน
เดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ยังไม่ได้อีก อย่างเดียวที่ทำได้คือปักหลักอยู่ตรงนี้ รอให้หัวใจมันเข้มแข็งพอที่จะก้าวออกไปจากชีวิตเขา
“มายืนทำอะไรลับ ๆ ล่อ ๆ ตรงนี้?”
ในขณะที่คิดอะไรเพลิน ๆ เสียงเข้มที่ดังมาจากทางด้านหลังทำให้แผ่นหลังบางของหญิงสาวเกร็งขึ้นอัตโนมัติ
เธอหมุนตัวกลับมา แต่ก็ยังไม่เงยหน้าขึ้นเพราะกำลังสวมใส่รองเท้าที่ถอดซ่อนไว้ใต้ชายกระโปรง
“ลนลานอะไร หรือว่าแอบคุยกับใคร?” เขาไม่ได้แค่ถามแต่ดึงโทรศัพท์มือถือในมือเธอไปกดสำรวจอีกด้วย
เซเวียร์หมุนตัวกลับมาก่อนจะใช้นิ้วมือเก็บปอยผมที่ปลิวติดริมฝีปากเอาไปเหน็บไว้ที่ใบหู สายตาก็มองเขาไล่หาแชตดูว่าเธอคุยกับใครทิ้งไว้บ้าง
มันจะมีได้ยังไงเซเวียร์ไม่เคยคุยกับผู้ชายคนอื่น และข้อความก็มีแต่เพื่อนและเรื่องงานเท่านั้น
“เปล่าค่ะ แค่ออกมารับลม” ครูซเงยหน้ามองเธอ สีหน้าของเขาฉายชัดว่าไม่พอใจประมาณหนึ่ง แต่แก้วแชมเปญอีกใบจากมือหนาก็ยื่นมาให้เธอ เซเวียร์มองมันครู่หนึ่งก่อนจะรับมา
“อีกสิบนาทีเดินทาง” หญิงสาวหันไปมองคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีที่วันนี้มาแปลก ๆ ทั้งหยิบเครื่องดื่มมาให้ และพูดเหมือนอนุญาตให้กลับด้วยกันได้
“คุณกลับได้เลยนะคะ เดี๋ยวฉันจะไปส่งคุณย่ากับคุณแม่เอง”
เซเวียร์นัดแนะกับคุณป้าบัวและคุณย่าเรียบร้อย ท่านบอกว่าจะคุยกับครูซเรื่องที่จะให้เธอเดินทางไปทำบุญด้วยกันพรุ่งนี้
“ดื่มให้หมดฉันอุตส่าห์มีน้ำใจเอามาให้” เขาไม่ตอบคำถามแต่คะยั้นคะยอให้เธอดื่มเครื่องดื่มในมือ
เซเวียร์แค่ยกขึ้นจิบตามมารยาท แต่ครูซกลับใช้ปากแก้วตัวเองดันตูดแก้วแชมเปญของเธอ เท่ากับเซเวียร์ต้องดื่มมันจนหมดแก้วเขาถึงพอใจ
ดวงตาขุ่นมัวตวัดมามอง ก่อนที่ครูซจะยกแก้วแชมเปญขึ้นจิบ
“ฉันไม่อนุญาตให้เธอนอนบ้านแม่ จบนะ”
“แต่…”
“ไม่มีแต่”
เซเวียร์ก้มหน้าเพราะไม่อยากจะเพิ่มความหงุดหงิดให้เขา ครูซเห็นหญิงสาวเอาแต่ก้มหน้าหลบสายตาก็บีบปลายคางให้เธอเงยหน้าขึ้นมามองกัน
“งานวันเกิดไอ้เจคเธอต้องไป”
เสียงของเขาเข้มขึ้นตามอารมณ์ เพราะก่อนออกมาก็โดนมารดาดุทั้งเรื่องชุดของเธอทั้งเรื่องที่ทำไมเขางี่เง่าไม่ให้เซเวียร์ไปนอนกับท่านเพื่อจะได้เดินทางไปทำบุญด้วยกัน
ไม่ใช่ให้ไปไม่ได้ แต่เขาหยุดไม่ได้ไง ถ้าอนุญาตให้เธอไปกว่าจะได้กลับมาอีกทีก็คืออีกสองวัน และไหนไอ้เจคจะโทร. มาโวยวายต่อว่าเขาเรื่องที่ไม่ให้เซเวียร์ไปงานวันเกิดมัน
ทั้งหมดครูซไม่ได้รู้เรื่องห่าอะไรด้วยเลยแต่เป็นคนต้องโดนด่า
“ซีส่งข้อความไปบอกเจคแล้วว่าไม่ไปค่ะ” ก็เพราะเธอส่งข้อความแบบนั้นไปไงเขาเลยโดนเพื่อนด่า!
เซเวียร์ตอบออกไปพร้อมกับทอดสายตามองไปยังสวนดอกไม้ข้างหน้า เธอมาหลบสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ลานสาธารณะของโรงแรม
“เธอไม่ได้ไปมาสองปีแล้ว และการที่เธอไม่ไปงานวันเกิดเพื่อนเพราะแต่งงานกับฉันเนี่ยมันปัญญาอ่อน เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับคนอื่น อย่าทำให้เพื่อนลำบากใจ!”
“ไม่ได้คิดแบบนั้นค่ะ”
ครูซได้ยินก็ยิ่งขยับเข้ามาใกล้ ก่อนที่เขาจะเท้าแขนข้างหนึ่งกับราวเหล็กของรั้วกระจกด้านหลังเธอและเป่าลมใส่หู
หากคนอื่นมองมาคงคิดว่าเราสวีตหวานกัน แต่ความจริงเขากำลังก่อกวนเธอ
“เธอจะคิดหรือไม่ได้คิด สุดท้ายก็มีแต่ฉันที่โดนเพื่อนด่า ส่วนเธอก็เหมือนเดิม ลอยตัวเหนือดราม่าได้ความดีความชอบไปเต็ม ๆ”
เซเวียร์ก้มหน้าลงเผลอบีบแก้วแชมเปญในมือ เมื่อครูซขยับตัวเข้ามาใก้ลเธอมาก...มันมากจนเธอต้องยกมือข้างที่ถือแก้วแชมเปญดันอกแกร่ง แต่ครูซจับมือเธอไว้และพลิกมาดู
“ชวนหย่าไม่หย่า แต่แหวนไม่ใส่ กลัวผู้ชายคนอื่นไม่รู้หรือไงว่าแต่งงานแล้ว!” เขากดปลายนิ้วลงมาบนนิ้วนางข้างซ้ายอย่างแรงจนเซเวียร์นิ่วหน้า และสักพักเขาก็ปล่อยมือก่อนจะล้วงหยิบบางอย่างยัดมันใส่มือเธอ
“ใส่ซะ! ถ้าเธอไม่ใส่ฉันจะเขวี้ยงมันลงจากตึกนี่!” เซเวียร์ไม่เข้าใจ เหมือนบางครั้งครูซก็ย้อนแย้งในตัวเอง
เธอไม่ใส่แหวนแต่งงานก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไง แต่เขาก็มาคะยั้นคะยอให้ใส่
เซเวียร์ไม่ได้มองหน้าเขา แต่มองกล่องแหวนแต่งงานที่ครูซหยิบออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูท...
เซเวียร์ก็จำได้ว่าเก็บไว้อย่างดีในตู้เซฟ
“ปกติฉันก็ไม่ได้ใส่อยู่แล้ว เข้าห้องผ่าตัดทีก็ต้องถอดที…”
“แล้วคนอื่นที่เขามีผัวมีเมียทำไมใส่ได้ เธอมางานใหญ่ขนาดนี้ไม่ใส่แหวนแต่งงานตลกไหม? สมองมีคิดบ้างไม่ได้เอาไว้กั้นหูอย่างเดียว หรือที่ไม่ใส่มาเพราะอยากจะให้แม่มาด่าฉันใช่ไหมล่ะ”
แล้วทำไมมันถึงกลับกลายมาเป็นเรื่องนี้ได้เซเวียร์ก็ไม่เข้าใจ
“แล้วรหัสปัญญาอ่อนแบบนั้น โจรมันแค่รู้วันเกิดฉันมันก็เปิดตู้เซฟได้แล้วไหม มีหัวก็คิดหน่อยหมอ…”
เซเวียร์เม้มริมฝีปากเปิดกล่องแหวนแต่งงานและหยิบมันออกมาสวมลงบนนิ้วอย่างเร่งรีบเพื่อให้เรื่องมันจบไป
รหัสตู้เซฟของเธอดันตั้งเปิดเป็นวันเกิดของเขา โหนกแก้มของเซเวียร์เปลี่ยนสี ไม่รู้ว่าเป็นเพราะแชมเปญที่ดื่มเข้าไปหรือเปล่า
“ไม่ต้องแสดงออกว่ารักฉันนักหนาหรอก เพราะต่อให้เธอทำมากกว่านี้ฉันก็ไม่มีวันรักเธอ”
GlowPer Club ไนต์คลับสุดหรูที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก การเข้าใช้บริการที่นี่จะต้องเปิดเมมเบอร์ถึงสนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่หกหลักด้วยกัน ที่นี่จึงเป็นศูนย์รวมเซเลบ-ไฮโซทั่วฟ้าเมืองไทย
และในวันดี ๆ อย่างเช่นวันนี้ วันคล้ายวันเกิดหุ้นส่วนคนสำคัญของคลับ เจค จรัสพงศ์ มีผู้คนมาร่วมงานมากหน้าหลายตา แต่ดูเหมือนว่าปีนี้จะเยอะกว่าทุกปี
ทั้งที่เจ้าของงานวันเกิดย้ำนักย้ำหนากับเพื่อนสนิทว่าไม่ได้เชิญใครมามาก
“คนเยอะขนาดนี้เดี๋ยวไปเข้าประตูด้านหลัง”
ครูซพูดจบแล้วก็เอื้อมมือหยิบสูทสีดำที่แขวนไว้ด้านหลังแล้วโยนมันให้กับเซเวียร์ หญิงสาวรับมาแบบงง ๆ แต่พอเงยหน้าไปเจอสายตาเขาเธอไม่งงแล้วก็ได้
“ข้างในมันหนาวขืนใส่เข้าไปในร้านแบบนี้ ไม่สบายจะมาเดือดร้อนฉันอีก”
ตั้งแต่แต่งงานกันมาเซเวียร์ไม่เคยป่วยสักครั้ง หากจะป่วยก็มีแต่เขานั่นแหละ แต่เธอก็ไม่ได้พูดย้อนสิ่งที่คิดในใจออกไป
ครูซเลี้ยวรถเข้ามาเห็นแค่ทางเข้าร้านของเพื่อนสนิทก็แทบอยากจะหักพวงมาลัยรถกลับบ้านให้รู้แล้วรู้รอด แต่มันติดที่เด็กรับรถเห็นแล้วก็วิ่งเข้ามาหา
คิดดูว่าหน้าร้านต้องต่อแถวกันจอดรถขนาดนี้ แล้วในร้านคนมันจะมากขนาดไหน แค่กวาดสายตาดูก็เป็นร้อย
“ไอ้ห่าข้างหลังมันจะจี้ตูดทำไม จี้ไปก็ไปไม่ได้เห็นไหม”
ครูซว่าจะถอยรถไปเข้าด้านหลังแทนที่จะเข้าด้านหน้าแทน แต่มีรถขับมาจ่อตูดทำให้ถอยไม่ได้ เท่ากับว่าก็ต้องรอคันหน้าขยับเขาถึงขยับตามได้
เซเวียร์กวาดสายตามองไปรอบ ๆ คงมีหลายคนที่รู้จักเจ้าของรถคันนี้เพราะครูซยังไม่ทันลงจากรถสปอร์ตคันหรูนี้เลย คนที่ยืนอยู่หน้าร้านก็หันมาสนใจเขามากทีเดียว
แบบนี้ถ้าลงไปด้วยกันก็จะยิ่งสร้างความหงุดหงิดใจให้เขาหรือเปล่า เซเวียร์เข้าใจหัวอกครูซเป็นอย่างดี ที่เขาหงุดหงิดมากตอนนี้อาจจะมาจากเรื่องนี้ด้วย
“งั้นเดี๋ยวคุณเข้าไปก่อน สักพักพอไม่มีใครสนใจ ซีจะปลีกตัวออกไปเรียกรถแท็กซี่กลับบ้าน”
คนที่นั่งอยู่เบาะผู้โดยสารเอ่ยขึ้นมาเพราะค่อนข้างแน่ใจว่าครูซคงไม่อยากให้ใครเห็นว่าเราสองคนมารถคันเดียวกัน
“หยุดทำตัวเป็นนางเอกเซเวียร์ เพราะตอนนี้เราถึงหน้าร้านไอ้เจคแล้ว และอีกอย่างนะไม่มีใครไม่รู้ว่าเราแต่งงานกัน!”
ครูซหมายถึงทันทีที่เซเวียร์ลงจากรถ ทุกคนที่เห็นก็ต้องจำได้อยู่แล้วว่าเธอเป็นอะไรกับเขา
“คุณก็รู้ว่าซีไม่ชอบคนเยอะ มันอึดอัด” เธอหาเหตุผลเพื่อยืนยันว่าไม่ได้คิดเช่นเดียวกับที่ครูซคิด
“มากับผัวนี่มันจะตายหรือไง! เธอหยุดทำตัวเป็นนางเอกปัญญาอ่อนได้แล้ว ตั้งแต่แต่งงานกันมาเธอตีตัวออกห่างเพื่อนหมด คือเธอจะไม่ให้ฉันเหลือเพื่อนไว้คบเลยใช่ไหม!”
ครูซตวาดออกมาเสียงดังตามอารมณ์ของเขา ซึ่งเซเวียร์ก็ได้แต่นั่งเงียบจนเมื่อเด็กรับรถเคาะกระจก เขาก็กดกระจกลงและพูดคุยกับเด็กรับรถด้วยน้ำเสียงโทนธรรมดาแตกต่างกันกับที่พูดคุยกับเธอมาก
เซเวียร์รู้ตัวดีว่าครูซไม่ได้อยากชวนเธอมางานวันเกิดเพื่อนด้วยกัน แต่เพราะเจคก็คือเพื่อนของเธอเหมือนกัน
และการที่เธอไม่มาร่วมงานวันเกิดเพื่อนสนิทมันก็เท่ากับว่าทำให้มิตรภาพของพวกเรายิ่งแย่…ไม่สิไม่ใช่พวกเรา มิตรภาพของครูซกับเพื่อนต่างหาก
