ไหนตรงกลาง
1 ชั่วโมงผ่านไป
บนรถ
ศรัณยูยังคงขับรถวนไปวนมาเพื่อหาโรงแรมที่ถูกใจ แต่กลับไม่มีที่ไหนที่จะตรงสเปกเขาเลยสักทีในขณะนี้
"ถ้ามันไม่มีโรงแรมที่หมอศรัณย์ถูกใจ นอนห้องเดียวกับน่านก็ได้นะคะ"
ด้วยความรู้สึกเบื่อหน่ายที่จะต้องนั่งรถไปกับเขา เพื่อไปหาโรงแรมในเชียงใหม่ น่านฟ้าจึงเลือกที่จะบอกเขาไปแบบนั้น ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้รู้สึกยินดีเท่าไหร่นักที่จะให้เขานอนห้องเดียวกันกับเธอ แต่ก็ไม่มีทางเลือกที่ดีไปกว่านี้แล้วในเวลานี้
"ฉันไม่มีวันนอนห้องเดียวกับเธอหรอกนะยัยโง่"
"รังเกียจน่านขนาดนั้นเลยเหรอคะ?"
น่านฟ้าถามกลับไปด้วยความสงสัย แต่ทว่าก็พอจะเดาออกอยู่แล้วว่าเขาจะตอบเธอว่าอย่างไรบ้าง
"ใช่!! ฉันรังเกียจเธอ และฉันก็เกลียดขี้หน้าคนหน้าโง่แบบเธอด้วย"
"ตัวเองหน้าฉลาดมากมั้ง"
เสียงบ่นอุบอิบกับตัวเองเล็ดลอดออกเรียวปากอมชมพูของคนน้อง กลับดังสอดแทรกเข้าหูของเขาที่กำลังขับรถอยู่เบาะข้างๆกัน
"เธอว่าอะไรฉัน?"
"เปล่าค่ะ!! ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย"
เธอตอบเขาไปเพียงแค่ประโยคสั้นๆ และเลือกที่จะปฏิเสธไม่บอกความจริงกับเขาไป เพราะไม่อยากชวนทะเลาะกันทั้งๆที่ศรัณยูยังใช้อารมณ์ในการขับรถอยู่แบบนี้
"ฉันได้ยินว่าเธอ กำลังต่อว่าฉัน..."
"เฮ้อ!! งั้นเอาแบบนี้ ถ้าหมอศรัณย์รังเกียจน่านมากก็ไปส่งน่านที่โรงแรมแรกเถอะค่ะ น่านจะกลับไปพักผ่อนแล้ว ส่วนหมอศรัณย์จะไปตามหาโรงแรมในฝันของตัวเองต่อไป ก็ไปเถอะ!!"
"นี่เธอจะทิ้งให้ฉันไปหาโรงแรมเองเลยเหรอ?"
ต่อให้คนน้องพูดอะไรออกมาก็ไม่เป็นผล เมื่อศรัณยูยังคงอยู่ในสภาวะอารมณ์ที่ยังคงเดือดพล่านอยู่เฉกเช่นนี้
"ทิ้งอะไรคะ? มันคือความต้องการของหมอศรัณย์เองทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับน่านด้วยซ้ำ"
"ที่จริงแล้วห้องนั้นมันควรเป็นของฉันตั้งแต่แรกแล้วด้วยซ้ำ ฉันไม่จำเป็นต้องมาเสียเวลาหาคนเดียวแบบนี้"
สุดท้ายเมื่อความโมโหหาทางลงไม่ ศรัณยูก็เอามาลงกับคนน้องโดยไร้เหตุผลเอาซะดื้อๆแบบนี้เช่นเคย
"มันจะเป็นของหมอศรัณย์ได้ยังไงในเมื่อ..."
"ไม่ต้องมาเถียงฉัน ฉันไม่ไล่เธอลงจากรถก็บุญหัวแค่ไหนแล้วรู้มั้ย!!"
"เอ๊ะ!! หมอศรัณย์อย่านิสัยเสีย ทำตัวงี่เง่าแบบนี้ได้มั้ยค่ะ?"
ต่อให้น่านฟ้าพยายามควบคุมอารมณ์และหาเหตุผลมาคุยกับศรัณยูมากแค่ไหน แต่ถ้าว่าคนเอาแต่ใจและไร้เหตุผลอย่างเขาก็ทำให้คนน้องถึงกับหัวเสียด้วยเช่นกัน
"นี่ยัยบ้า เธออย่ามาปากดีกับฉันเวลาที่ไม่มีคนห้ามนะ เธอไม่รู้หรือยังไงว่าตอนนี้ฉันจะทำอะไรกับเธอก็ได้...ไม่มีใครเห็นอยู่ดี"
ดวงตาคู่คมหันกลับมาจ้องมองหญิงสาวราวกับจะจิกหัวเธอให้หลุดออกจากบ่าไหล่เอาเสียให้ได้ พร้อมกับสายตาเจ้าเล่ห์ที่ทำเอาน่านฟ้าถึงกับตัวสั่นเครือ หัวใจดวงน้อยตกวูบไปอยู่ที่ปลายเท้าในทันที ก่อนที่เธอจะรีบขยับไปติดกระจกรถอีกฝั่ง ยกแขนขึ้นมากอดตัวเองเอาไว้แน่น
"มะ หมายความว่าไง?"
"หึ ไม่ต้องคิดว่าฉันจะหน้ามืดตามัวพิศวาสเธอขนาดนั้นหรอก จะอ้วก!!"
"แหม่!! น่านก็ไม่เคยคิดว่าหมอจะมาพิศวาสกันขนาดนั้นนักหรอกค่ะ"
ทั้งสองใช้เวลาในการตบตีกันอยู่บนรถนานพอสมควรไม่ว่าศรัณยูจะไปที่โรงแรมใด ก็ไม่ถูกใจสักที สุดท้ายต้องยอมแพ้วนรถกลับมาที่โรงแรมเดิมเช่นเคย
โรงแรม Viva
เมื่อถึงโรงแรมน่านฟ้าเดินลงจากรถเงียบๆ พร้อมกับสะพายกระเป๋าเป้ตรงเข้าไปยังหน้าเคาน์เตอร์เพื่อเช็กอินอย่างรวดเร็ว โดยไม่หันกลับมาสนใจศรัณย์อยู่ที่เดินวนไปวนมาด้วยความกระวนกระวายใจอยู่ที่ล็อบบี้ของตัวโรงแรม ก่อนที่เขาจะเดินตามหลังคนน้องไปยังลิฟต์เงียบๆเพื่อขึ้นไปยังห้องพักในเวลาต่อมา
"ไหนบอกไม่อยากนอนห้องเดียวกันกับน่านไงคะ?"
"พูดมาก น่ารำคาญ!!"
เมื่อเห็นท่าทางเก้ๆกังๆของคนพี่ที่ยังคงตีหน้ามุ่ยอยู่ไม่ไกล น่านฟ้าถึงกับขำออกมาด้วยความหมั่นไส้ในท่าทางของเขาที่แสดงออกมา เมื่อหลังชนฝ่าหาทางออกให้กับตัวเองไม่ได้
"ทำเป็นเก่ง!!"
"ยัยหน้าโง่ อย่ามาทำเป็นปากดีเยอะเย้ยฉัน ฉันไม่ได้อยากจะนอนห้องเดียวกันกับเธอนักหรอก ไม่รู้ว่ากลับไปต้องไปอาบน้ำมนต์ไหว้พระกี่วัดถึงจะล้างเสนียดจัญไรที่นอนห้องเดียวกับเธอออกไปได้"
ฝ่ามือแก่งรีบปัดไปตามร่างกายของตนเองด้วยท่าทางรังเกียจและขยะแขยงคนน้อง พร้อมกับใบหน้าเรียวสวยที่กำลังยับยู่ยี่ด้วยความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดเจน
"ขนาดนั้นเลยเหรอคะ ถ้าหมอศรัณย์มีที่อาบน้ำมนต์ มีวัดที่ไหว้พระเด็ดๆล้างเสนียดจัญไรออกไปได้ บอกบุญน่านหน่อยนะคะ น่านก็อยากจะล้างเสนียดจัญไรออกจากตัวเองบ้างที่ได้นอนห้องเดียวกันกับหมอศรัณย์"
"นี่เธอ!!..."
"ชูวร์!! ว่าคนอื่นแล้ว พอคนอื่นว่ากลับอย่าดิ้นสิคะ!!"
นิ้วเรียวสวยชูไว้ที่เรียวปากอมชมพูด้วยท่าทางสะใจ เมื่อได้แก้เผ็ดศัลยแพทย์หนุ่มปากร้ายที่เอาแต่ต่อว่าเธออยู่ฝ่ายเดียว
ติ่ง!!
ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก ร่างใหญ่รีบเดินนำหน้าพยาบาลสาวออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะโดนคนน้องวิ่งมาข้างๆพร้อมกับชนเขาไถลตัวไปอีกฝั่งเพื่อช่วงชิงเส้นทางไปยังห้องพักได้เร็วกว่าอีกฝ่าย
"น่านฟ้า!!"
ใบหน้าเรียวสวยเริ่มปรากฏสันนูนบริเวณกรามทั้งสองข้างด้วยความโมโห ดวงตาคู่คมจ้องมองร่างเล็กที่กำลังจะเปิดประตูเข้าไปยังห้องพักราวกับจะหยุมหัวเธอตอนนี้เสียให้ได้ ก่อนที่เขาจะรีบวิ่งตามเธอเข้าไปภายในห้องพักจนกระทั่งทั้งสองร่างลับสายตาไป
ห้องนอน
“เฮ้อ!! สบายจังเลย”
น่านฟ้าล้มตัวลงนอนบนเตียงคิงไซส์ภายในห้องทันทีที่เธอมาถึงก่อนจะปรายตามองไปหน้าเรียวสวยของคนพี่ด้วยท่าทางสะใจราวกับว่าเตียงนี้เป็นของเธอเพียงคนเดียว
"ออกไปเลย!!"
ร่างใหญ่เดินตามเข้ามาภายในห้อง พร้อมกับกวาดสายตาคู่คมมองไปรอบๆบริเวณห้องพักเพื่อหาโซฟาหรือที่นอนที่เขาสามารถนอนได้แต่ทว่ากลับมีเพียงแต่โซฟาตัวเล็กไว้สำหรับนั่งพักผ่อนภายในห้องนอนเท่านั้น จึงรีบเอ่ยปากไล่คนน้องออกไปจากเตียงนอนในทันที
"ว๊าย!!"
เมื่อเห็นว่าเธอไม่ออกไปจากเตียงนอนฝ่ามือแกร่งรีบดึงข้อเท้าของพยาบาลสาวลากลงจากเตียงอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเด็กน้อยทั้งสองกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน
"อะไรของหมอศรัณย์คะเนี่ย?"
"คนอย่างเธอไม่คู่ควรกับเตียงหรอก คนโง่อย่างเธอต้องลงไปนอนพื้น"
ทันทีที่ได้ยินคำพูดของศรัณยูน่านฟ้าถึงกับเปิดตากว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบกำหมัดแน่นและดีดตัวขึ้นจากพื้น เพื่อเผชิญหน้ากับศัลยแพทย์หนุ่มในทันที
"ไม่ค่ะ น่านจะนอนบนเตียง น่านไม่นอนพื้นเด็ดขาด หมอศรัณย์ต่างหากที่ต้องไปนอนพื้น"
"เธอกล้าดียังไง? จะขึ้นมานอนบนเตียง เงินค่าเครื่องบิน และค่าที่พักโรงแรมก็เป็นเงินของโรงพยาบาลฉัน เพราะฉะนั้นฉันมีสิทธิ์นอนบนเตียงมากกว่าเธอ ยัยโง่เอ๊ย!!"
"ไม่ค่ะ เงินค่าใช้ง่ายทั้งหมดมาจากอาจารย์สุนทรี ไม่ใช้เงินของหมอศรัณย์สักบาท เพราะฉะนั้นน่านจะไม่ยอมลงไปนอนที่พื้นเหมือนกัน"
ทั้งสองยังคงเถียงกันอย่างเอาเป็นเอาตายโดยไม่มีใครยอมใครแม้แต่คนเดียว ยิ่งอยู่ในห้องเพียงลำพัง ไม่มีใครที่จะมาห้ามไม่ให้ตบตีกันได้เลยในเวลานี้
"ยัยหน้าโง่!! จำไว้นะฉันไม่มีวันยอมให้เธอขึ้นมานอนบนเตียงกับฉันได้แน่ๆ"
"ก็ลองดูสิคะ!! น่านก็ไม่ยอมเหมือนกัน"
ดวงตาคู่คมคอยจ้องมองดวงตากลมของคนน้องที่แสดงออกถึงความหนักแน่นและจริงจัง ก่อนที่ทั้งสองจะรีบวิ่งขึ้นเตียงและแย่งกันนอนอย่างไม่มีใครยอมใคร
"โอ๊ย!! ยัยบ้าเธอกล้าถีบได้ยังไง?"
"ว๊าย!! อย่าดึงผมน่านนะ"
ทั้งคู่ยังคงถีบและดึงผม หยุมหัวลากกันลงจากกันลงจากเตียงอย่างชุลมุนวุ่นวาย
"อ๊าาาา!! อย่ากัดฉันยัยบ้าเอ๊ย เจ็บนะเว้ย!!"
"หมอศรัณย์ออกไปนะ!!"
"ไม่ไปโว้ย!!"
ทั้งสองยังคงกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างหนักหน่วงเพื่อแย่งเตียงนอนกันอย่างวุ่นวาย ก่อนจะเหนื่อยกันทั้งคู่และหยุดพักกันชั่วขณะ
"ปล่อยนะ!! หมาบ้าจริงๆเลย"
"ยัยเด็กโง่!! เธอกล้าว่าฉันเป็นหมาห๊ะ"
ร่างหนายังคงกอดรัดคนน้องแน่นเพื่อไม่ให้น่านฟ้าดิ้นหลุดจากเขาแล้วขึ้นไปนอนอยู่บนเตียงได้ แต่ทว่ากลับทำให้น่านฟ้ายิ่งดิ้นรุนแรงมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ตัวเองหลุดออกจากอ้อมกอดของเขา
"นี่หมอศรัณย์น่านเจ็บ!! ปล่อยนะ!!"
"ฉันจะปล่อยก็ต่อเมื่อเธอยอมลงไปนอนพื้นดีๆ"
"ไม่!! อื้อเจ็บนะ"
เขาต้องออกแรงเยอะกว่าเดิม เมื่อเธอยังคงไม่ยอมแพ้ต่อให้คนน้องพยายามดิ้นแค่ไหนก็ไม่เป็นผล เขายิ่งกอดรัดเธอแน่นขึ้นจนน่านฟ้าเองแทบทนไม่ไหว เมื่อเริ่มหายใจติดขัดรุนแรงขึ้น
"มะ หมอศรัณย์…อื้อ…เรามาคุยกันดีๆดีกว่านะคะ"
"เหอะ!!"
สิ้นเสียงของน่านฟ้าบวกกับความเหนื่อยล้าที่ต้องออกแรงงัดกับคนน้อง จึงทำให้ศรัณยูคลายอ้อมแขนออกและปล่อยตัวเธอให้เป็นอิสระ หญิงสาวจึงได้โอกาสรีบดีดตัวขึ้นพลางหายใจหอบเหนื่อยเหนื่อยอยู่ข้างๆเขา
"เราถอยกันคนละก้าว แล้วหาตรงกลางได้มั้ยคะ?"
"ตรงกลาง!! คือยังไง?"
"ต่างคนต่างไม่มีใครยอมนอนพื้น ต่างคนต่างจะนอนบนเตียง งั้นเอางี้!!"
นิ้วเรียวเล็กของน่านฟ้าดึงกระชากผ้าห่มขึ้นมา ก่อนจะม้วนเป็นลอนยาวกั้นไว้ตรงกลางเตียงเพื่อแบ่งเขตแดนออกเป็นสองฝั่ง
"นอนคนละฝั่ง จบ!!"
"ไม่!! ฉันบอกแล้วว่าจะไม่นอนเตียงเดียวกับเธอ"
ต่อให้น่านฟ้าจะพยายามใช้เหตุผลและความเป็นจริงมาคุยกับศรัณยูมากแค่ไหน เขาก็ยังคงอคติและต่อต้านไม่ยอมให้เธอนอนร่วมเตียงกับตนเองได้แน่ๆ แต่ด้วยความเบื่อหน่ายคนหญิงสาวรีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่นทันที
"เฮ้อ!!"
ลมหายใจม้วนใหญ่ถูกถอนออกมาจากเรียวปากของหญิงสาวด้วยความเหนื่อยล้าภายในจิตใจ เธอขี้เกียจเถียงและเหนื่อยที่จะต่อปากต่อคำกับเขาอีกแล้ว
"หมอศรัณย์ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลยนะคะ"
"ไม่ใช่เรื่องของเธอ!!"
นิวชี้แกร่งชี้ตรงมายังหน้าของพยาบาลสาวด้วยท่าทางไม่ยอมแพ้เธอง่ายๆเช่นเดียวกัน
"คนนิสัยเห็นแก่ตัว น่าเบื่อจริงๆ"
"เธอว่าอะไรนะ เธอว่าฉันงั้น..."
น่านฟ้าไม่อยากจะสนใจการกระทำและคำพูดของศรัณยูอีกต่อไป เธอรีบเดินไปคว้ากระเป๋าสะพายของตนเองในทันที ก่อนจะตั้งท่าเดินออกจากห้อง ก่อนที่น้ำตาลในกระแสเลือดจะต่ำไปมากกว่านี้
"ดะ เดี๋ยวๆนั้นเธอจะไปไหนยัยหน้าโง่?"
"เรื่องของน่านเช่นกัน!!"
"เฮ้ย!! หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ"
ศรัณยูรีบตะเกียกตะกายวิ่งเข้ามาขวางทางเดินของน่านฟ้าเอาไว้เมื่อภายในใจรู้สึกกระวนกระวายที่คนน้องตั้งใจจะทิ้งเขาไว้ในห้องเพียงคนเดียวและออกไปข้างนอกโดยไม่สนใจใยดีกันแบบนี้
"จะไปกินข้าว จะไปด้วยมั้ย ถ้าไม่ไปก็อยู่คนเดียวไปเถอะ รำคาญ!!"
"ยัยน่านฟ้า!!"
เสียงตะคอกไล่ตามหลังแผ่นหลังของหญิงสาว เมื่อเธอเดินเบี่ยงตัวออกมาจากเขาและตั้งหน้าตั้งตาเดินออกไปนอกห้อง แต่ทว่าศรัณยูกลับไม่ยอมหยุดอยู่คนเดียว เขารีบวิ่งกลับเข้าไปหยิบกุญแจรถและกระเป๋าของตนเองวิ่งตามคนน้องออกไปเฉกเช่นเดียวกัน
Talk
เหนื่อยใจกับความเห็นแกตัวของคุณพรี่ ประสาทแดก!! จบจากงานนี้ไม่ต้องไปหรอกวัด ไปพบจิตแพทย์ค่ะ
