โอกาสทอง
2 วันผ่านไป
"พี่คะหนูขอลาออก!!"
"พี่คะหนูทนกับหมอพี่ไม่ไหวแล้ว ขอลาออก!!"
ริสาพยายามตั้งหน้าตั้งตาโพสต์หาพยาบาลวิชาชีพที่มีประสบการณ์ด้านความงามในเว็บไซต์ต่างๆ รวมถึงสื่อโซเชียลที่เหล่าพยาบาลวิชาชีพมีโอกาสเข้าถึงได้มากที่สุด แต่ระหว่างนั้น HR สาวต้องอดทนฟังคำด่า คำบ่นที่สุดแสนจะเจ็บทรวงของศัลยแพทย์หนุ่มทุกวี่ทุกวัน จนหูชาไม่รู้กี่รอบต่อภายในหนึ่งวัน เมื่อเขาเห็นว่าพยาบาลริสาหามาทำงาน ทำอะไรก็ขัดหูขัดตาเขาไปซะทุกอย่าง ไม่ถูกใจก็ไล่ตะเพิดเขาไปหมด ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีใครทนเขาได้เฉกเช่นกัน
"น้องคะพี่ทนกับหมอ Toxic แบบนี้ไม่ได้ ขอลาออกค่ะ"
"พี่คะเงินค่าเสียเวลาหนูขอไม่รับนะคะ หนูขอออกตอนนี้เลยแล้วกัน"
ไม่ว่าเธอจะหาพยาบาลวิชาชีพที่มีประสบการณ์ด้านความงามมาดีเด่นมากแค่ไหน แต่ทว่าเมื่อเข้าเคสกับศัลยแพทย์หนุ่มที่ยังคงใช้อารมณ์และเรื่องมากเป็นที่หนึ่ง พานทำให้ไม่มีพยาบาลวิชาชีพคนไหนทนอยู่ได้เกิน 3 วัน ทุกคนต้องแจ้นหนีออกจากโรงพยาบาลให้ไวที่สุด ไม่เอาแม้กระทั่งเงินค่าเสียเวลาที่ริสาหยิบยื่นให้ เพื่อแทนคำขอโทษ
"ไม่เอาใครสักคนเลยหรอแม่?"
"เออนะสิ แล้วฉันจะไปหาพยาบาลที่ไหนวะเนี่ย ถ้าหมอฉันยังเป็นแบบนี้อยู่ โอ๊ยฉันจะประสาทแดกจริงๆ"
ส้มโอ และอีกสองสาวที่ยืนขายคอร์สความงามอยู่ด้านหน้าของเคาน์เตอร์พยาบาล รีบพากันต่างกรูกันเข้ามาสอบถามริสาที่ยังคงกุมขมับตัวเองด้วยความเหนื่อยหน่ายจิตใจ เมื่อทุกคนต่างรู้ดีถึงอิทธิฤทธิ์ของหมอหนุ่ม ที่ค่อยไล่พยาบาลสาวมากหน้าหลายตาที่คอยเข้าๆ ออกๆ แผนกไม่เว้นแต่ละวัน
"หมอศรัณย์มาแล้วๆ"
ทันทีที่เอมมี่มองเห็นเงาของร่างใหญ่ที่กำลังเดินหน้ามุ่ยออกมาจากห้องตรวจ และตรงดิ่งมายังห้องหัตถกรรมที่ริสายืนอยู่ด้วยความตึงเครียด พานทำให้สามสาวต่างรีบเร่งวิ่งแตกกกระเจิดกระเจิงไปคนละทิศคนละทาง ด้วยท่าทางร้อนรนสุดชีวิต
"ช่วยหาพยาบาลที่มีสมอง ไม่เอ๋อแดกมาให้สักคนได้มั้ย อย่าเอาแต่หลงเชื่อคำพูดโฆษณาสวยหรูของพยาบาลพวกนั้น คิดวิเคราะห์ให้เป็นหน่อย ไม่ใช่ทำตัวเป็นโพรโตชัวไม่มีสมอง นอนดิ้นไปดิ้นมารอแค่วันตายไปได้!!"
ปัง!!
สิ้นเสียงของศรัณยู เขาไม่เว้นช่องว่างให้ริสาได้ต่อปากต่อเถียงเขาได้สักคำ ร่างใหญ่รีบเดินสะบัดเสื้อกาวน์ออกจากประตูไปในทันที พร้อมๆ กับกระแทกบานประตูกระทบกันเสียงดังปึงปังใส่หน้าฝ่ายบุคคลที่ยืนอึ้งอยู่ภายในห้องอย่างสิ้นหวัง
"ให้ฉันหาพยาบาลสมองขั้นดอกเตอร์มา ก็ไปหยุมหัวเขาเหมือนเดิมอยู่ดีนั่นแหละ โอ๊ย!!"
ริสาสบถคำออกมาด้วยท่าทางหัวเสียสุดๆ เมื่อร่างใหญ่เดินพ้นออกไปจากห้อง พร้อมๆกับสามสาวที่วิ่งกรูเข้ามาด้วยความอยากรู้อยากเห็นเต็มทน
"แรงมาก แรงขึ้นทุกๆ วันเลยแม่!!"
"แบบนี้ใครเขาจะไปทนนางได้วะ"
คำถามมากมายของส้มโอและ จุ๊บแจงที่เอ่ยออกมาทำให้ร่างอวบของฝ่ายบุคคลถึงกับกำหมัดแน่น ด้วยความโมโหสุดๆ ถ้าไม่ติดว่าใบหน้าเรียวสวย ดูดีและเป็นถึงทายาทเจ้าของโรงพยาบาล ปานนี้เธอคงจะด่ากราดไปซะให้รู้แล้วรู้รอด
"โอ๊ย ฉันปวดประสาท"
"แม่ใจเย็นๆ ก่อนนะ"
ร่างอวบทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง ด้วยความขุ่นเคืองจิตใจ ก่อนจะหันมองหน้าเอมมี่ที่คอยช่วยบีบนวดหัวไหล่ให้ริสา เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดให้กับคนพี่ด้วยท่าทางขะมักเขม้น
"แล้วจะทำยังไงต่ออะแม่ พยาบาลไม่มีประสบการณ์ก็ไม่เอา พยาบาลมีประสบการณ์ก็ไม่ถูกใจ คงต้องให้หมอศรัณย์ทำเองทุกอย่างแล้วมั้งเนี่ย"
"อ๊ะ เดี๋ยวนะ!!"
ทันทีที่สิ้นเสียงของส้มโอ ริสารีบห้ามเอมมี่ที่กำลังบีบนวดเธออยู่ให้หยุดลง ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ จนต้องเผยรอยยิ้มออกมาที่มุมปากด้วยท่าทางพอใจสุดๆ
"อะไรอะแม่?"
"หึ!! หาพยาบาลมีประสบการณ์มาให้ก็ไม่พอใจ ฉันจะหาพยาบาลไม่มีประสบการณ์แม่งซะเลย ต่อให้มีหรือไม่มีนางก็กินหัวฉันอยู่แล้ว ต่อไปเนี่ยฉันจะคัดเลือกเอาพยาบาลที่สามารถทนต่อแรงกดดันแบบนี้ได้ดีกว่า ปากแจ๋วดีนักเจอฉันแน่หมอศรัณยู"
พูดจบริสารีบดีดตัวขึ้นจากเก้าอี้ ส่งยิ้มหวานให้กับ 3 สาวที่กำลังยืนกะพริบตาปริบๆ รุมล้อมเธออยู่ใกล้ๆ ก่อนที่ริสาจะยิ้มมุมปากราวกับว่าเกมนี้เธอถือไพ่เหนือกว่าอยู่แล้ว ก่อนรีบสะบัดตัวเดินออกจากห้องไปในทันที
คอนโดน่านฟ้า
ร่างเล็กยังคงนอนเปื่อยอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ภายในห้อง คอยกวาดสายตาไล่ตามทุกตัวอักษรบนหน้าจอมือถือที่ตนเองกำลังเลื่อนผ่านข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับคลินิกหรือโรงพยาบาลที่เปิดรับสมัครงานในตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ ก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะสะดุดเข้ากับโพสต์ที่กำลังประกาศรับสมัครงานของโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโดของเธอมากนัก
"น่าสนใจจัง"
น่านฟ้ารีบดีดตัวขึ้นจากเตียงนอน ก่อนจะกดเข้าไปอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับการประกาศรับสมัครงานในตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ พลางรีบไปยังข้อความ เพื่อส่งข้อความเข้าไปสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการสมัครงานในข้อความส่วนตัวของเจ้าของโพสต์ในทันใด
20 นาทีผ่านไป
ในขณะที่หญิงสาวกำลังเก็บกวาดห้องอยู่ภายในคอนโด สายตาคู่สวยยังคงไม่วายจ้องมองไปยังหน้าจอมือถือ เพื่อเฝ้ารอคอยการตอบกลับจากฝ่ายบุคคลอย่างใจจดใจจ่อ
ครืดดดด!!
เมื่อโทรศัพท์มือถือสั่นสะเทือนกระทบกับพื้นโต๊ะบนหัวเตียงเกิดเสียงดังลั่นสนั่นห้อง ทำให้น่านฟ้าหยุดการกระทำทุกอย่างลงและรีบวิ่งกระโจนเข้าไปคว้าโทรศัพท์มือถือในทันที กับหัวใจทั้งดวงที่กำลังเต้นสั่นอย่างรุนแรงด้วยความตื่นเต้นสุดฤทธิ์
“ฮัลโหล สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีค่ะ พี่ริสาโทรจากโรงพยาบาลบีดีเอ็มนะคะ”
“ค่ะพี่ริสา”
น่านฟ้าตอบกลับไปด้วยความตื่นเต้นทันทีที่สิ้นเสียงของริสาที่กรอกมาทางปลายสาย เธอรู้สึกถึงความหวังและความต้องการที่กำลังจะเป็นจริงดั่งที่ได้เฝ้าภาวนาไว้ในจิตใจ
“พี่ได้ดูเรซูเม่แล้วก็เอกสารการสมัครของน้องน่านฟ้าแล้วนะคะ”
“ได้รับแล้วใช่มั้ยคะ”
หญิงสาวทวนคำตอบของริสาอีกรอบด้วยความตื่นเต้น ภายในใจยังคงคาดหวังว่าทางโรงพยาบาลจะยอมให้โอกาสเธอได้ลองทำงานหาประสบการณ์กับเขาบ้างก็ยังดีกว่าไม่มีใครให้โอกาสเธอเลย
“น้องน่านฟ้าไม่มีประสบการณ์ด้านความงามมาก่อนเลยใช่มั้ยค่ะ?”
“ไม่มีเลยค่ะ แต่ว่าน่านฟ้ามีประสบการณ์ทางด้านศัลยกรรมทั่วไปมานะคะ”
“น้องน่านฟ้ารับแรงกดดันได้อยู่ใช่มั้ยคะ?”
ทันทีที่สิ้นเสียงของริสา น่านฟ้าเงียบไปสักครู่หนึ่งก่อนจะคิดได้ว่าโรงพยาบาลเสริมความงามเอกชน คงไม่มีระบบการทำงานแบบโรงพยาบาลรัฐบาลทั่วไปหรอกมั้ง อีกอย่างถ้าทนกับโรงพยาบาลเดิมที่ตนเองทำงานมาได้ ที่นี่คงไม่สะทกสะท้านอะไรอยู่แล้ว
“เอ่อ ได้ในระดับหนึ่งค่ะ”
“โอเค!! งั้นน้องน่านฟ้าพร้อมเริ่มงานวันไหนคะ?”
“เอ๊ะ ระ เริ่มงานเลยหรอคะ ไม่สัมภาษณ์ก่อนเหรอคะ?”
ซึ่งโดยปกติแล้วการสมัครงานทั่วไปต้องพ่วงมาด้วยการสัมภาษณ์เป็นหลัก แต่ทว่าริสากลับตอบรับเธอง่ายๆ ในทันทีอย่างน่าประหลาดใจ พานทำให้น่านฟ้ารีบถามสวนกลับไปในทันที
“ไม่ต้องค่ะ พี่ต้องการคนด่วนเลย”
“อ๋อ งั้นพร้อมตลอดเลยค่ะ น่านว่างงานอยู่แล้วค่ะ”
เมื่อโอกาสมาถึงน่านฟ้าไม่รอช้า รีบตอบรับการเริ่มต้นในเส้นทางสายความงามอย่างรวดเร็ว จึงเป็นข้อเสียที่ทำให้เธอไม่ทันได้คิดไตร่ตรองถึงความน่าสงสัยให้ดีที่สุดเสียก่อนเริ่มงานใหม่
“พรุ่งนี้สะดวกเข้ามาศึกษางานและเซ็นเอกสารเลยมั้ยคะ”
“สะดวกค่ะ”
ทันทีที่ริสาวางสายไป น่านฟ้าทิ้งตัวดิ่งลงบนโซฟาขนาดใหญ่ภายในห้องรับแขก พร้อมกับกลิ้งตัวไปมาด้วยความดีใจสุดขีด เมื่อความพยายามของเธอไม่สูญเปล่าประโยชน์ ตามด้วยคว้ามือถือขึ้นมากดโทรหาน้ำเหนือในเวลาต่อมา
เช้าวันต่อมา
โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งความงาม BDM
รถแท็กซี่สีเขียวเหลืองวิ่งเข้ามาจอดสนิทอยู่ที่หน้าโรงพยาบาลศัลยกรรมชื่อดังในทันใด ก่อนจะปรากฏร่างเล็กของพยาบาลสาวเดินลงจากรถมาด้วยท่าทางตื่นเต้นปะปนกับความดีใจ จนมันเอ่อล้นออกมาแสดงบนใบหน้าสวยหวานนั้นอย่างชัดเจน
"ว้าวใหญ่จัง ดูหรูหรามากๆ เลยอะ"
พยาบาลสาวบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ เมื่อมองสำรวจไปรอบๆ ตัวโรงพยาบาลที่ถูกตกแต่งไปด้วยความทันสมัยและความหรูหราสมกับชื่อเสียงเรียงนามที่เธอเคยได้ยินมาจากรุ่นพี่ที่เคยมาทำศัลยกรรมเต้านมที่นี่ แต่ทว่าเธอกลับไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเธอจะต้องมาทำงานที่โรงพยาบาลแห่งนี้เลย ทั้งที่มันอยู่ไม่ไกลตัวคอนโดของเธอด้วยซ้ำ
ปรี๊นนนนนน!!
ว้ายยยยยย!!
เอี๊ยกกกกก!!
ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้เสพความลักชัวรี่ได้เต็มอิ่ม กลับต้องสะดุ้งตกใจสุดฤทธิ์ เมื่อเสียงบีบแตรของรถสปอร์ตสุดหรูดังลั่นกลางถนน ตามด้วยเสียงล้อรถลัมโบร์กินีสีเหลืองอร่ามตาครูดกับพื้นถนนเสียงดังสนั่นหวั่นไหวทิ้งร่องรอยเป็นทางยาว ก่อนที่ตัวรถจะจอดนิ่งสนิทอยู่ห่างจากเรียวขาของน่านฟ้าแค่คืบไม้บรรทัดเดียว
"ตายแล้วๆ ตายแน่ๆ อื้อ!!"
ดวงตาคู่สวยหลับตาปี๋ลงในทันใด พยาบาลสาวยืนตัวแข็งทื่ออยู่หน้ารถยนต์คันหรู ด้วยหัวใจทั้งดวงที่ร่วงหล่นตกลงไปอยู่ที่ปลายเท้าเป็นที่เรียบร้อยแล้วในเสี้ยววินาทีนี้
"เห้ย!! ไม่มีคนรักหรือยังไง ถึงได้มายืนหน้าโง่อยู่กลางถนนเนี่ยห๊ะ?"
น่านฟ้ารีบเปิดเปลือกตากว้างมากขึ้นทันทีที่ได้สติ พยาบาลสาวยกมือขึ้นทาบอกด้วยความตื่นตกใจ แต่ทว่าภาพที่เธอเห็นอยู่ตรงหน้ากลับทำให้หัวใจของเธอเต้นสั่นรุนแรงกว่าเดิมอย่างบ้าคลั่ง
ดวงตากลมสวยจ้องมองเข้าไปภายในตัวรถ ปรากฏร่างของชายหนุ่มใบหน้าเรียวสวยได้รูปราวกับใบหน้าของนางเอกนิยาย ผิวขาวใสกิ๊กราวกับกระจกใสที่สะท้อนแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า จมูกโด่งสวยสมส่วนกับใบหน้าที่ซ่อนลักยิ้มเอาไว้ลึกทั้งสองข้าง ตัดกับเรียวปากหยักดั่งปีนกสีแดงระเรื่อราวกับลูกเชอรี่สด แต่ทว่าทุกอย่างกลับไม่สอดคล้องกับดวงตาคู่คมที่กำลังจ้องมองมายังเธอด้วยท่าทางเหยียดหยามและกำลังโมโหสุดๆ
"ยืนเอ๋ออยู่ทำไมวะ ฟังภาษาคนรู้เรื่องมั้ย หรือฟังรู้เรื่องเฉพาะภาษาควาย?"
น้ำเสียงเข้มกระแทกเสียงกลับมา พานให้น่านฟ้าที่กำลังยืนจ้องมองหน้าของเขาอยู่ถึงกับสะดุ้งตื่นจากภวังค์ ก่อนที่ขาเรียวทั้งสองข้างจะรีบขยับก้าวออกจากการขวางทางลัมโบร์กินีสีเหลืองสุดจัดจ้านของศัลยแพทย์หนุ่มด้วยความหงุดหงิดใจ
"เอ๊ะคุณคะ!! พูดกันดีๆ ก็ได้ ทำไมต้อง...."
"หน้าโง่!!"
บรืนนนน!!
"ห๊ะ!! ดะ เดี๋ยวนะ ไอ้ๆ..."
ยังไม่ทันที่น่านฟ้าจะได้ด่าเขากลับไป ศรัณยูรีบเอ่ยตัดบทขึ้นในทันที ก่อนจะแตะคันเร่งพลันทำให้รถสปอตหรูสีเหลืองโดดเด่นพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้แค่พยาบาลสาวที่กำลังยืนตาค้าง อ้าปากเหวอ ด้วยความตกใจจนกระทั่งใบหน้าหวานเริ่มแดงก่ำจากความโมโหที่ตามมาอยู่ริมถนนภายในเขตของโรงพยาบาล
Talk
เนี่ยยยย เจอกันวันแรกเก่งแต่ปากแซ่บกับน้องแล้วก็ไป แน่จริงอยู่ให้น้องด่าคืนสิพ่อ!! 5555+
ฝากกดติดตาม กดหัวใจ คอมเมนต์ และกดเข้าชั้นให้เค้าหน่อยนะงับ
