แต้มบุญหมด
โรงพยาบาล PT
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นสนั่นห้องทำงานของดวงเดือน รั้งให้ร่างอวบที่กำลังนั่งขะมักเขม้นในการหาข้อมูลบางอย่างถึงกับสะดุ้งตัวตื่น ก่อนจะรีบโกยเก็บเอกสารและโทรศัพท์มือถือทิ้งลงในลิ้นชักอย่างรวดเร็วด้วยความร้อนรน
"เข้ามา!!"
ประตูห้องทำงานเปิดกว้างออกปรากฏร่างของพยาบาลสาวเดินเข้ามาภายในห้องด้วยท่าทางและสีหน้าค่อนข้างเป็นกังวลกับเรื่องราวที่อยู่ในใจของเธอมาสักพัก
"พี่เดือนคะ!!"
น้ำเสียงเรียบเฉยของคนน้อง เรียกชื่อของดวงเดือนเสียงเบาบางด้วยสีหน้าค่อนข้างหนักใจ พานทำให้ร่างอวบที่นั่งอยู่บนเก้าอี้อีกฝั่งถึงกับต้องขมวดคิ้วเรียวผูกกันเป็นปมด้วยความสงสัยกับท่าทางของน่านฟ้า
"มีอะไรน่าน?"
"น่านจะมาขอลาออกค่ะ"
ทันทีที่สิ้นเสียงของพยาบาลสาวรุ่นน้องใบหน้าอวบอั๋นของดวงเดือนถึงกับชะงักในทันที ดวงตาคู่เฉี่ยวจ้องมองใบหน้าของน่านฟ้านิ่ง พร้อมๆกับคำถามมากมายที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของดวงเดือน
"เพราะพี่ใช่มั้ย ที่ทำให้น่านตัดสินใจแบบนี้?"
"ไม่ใช่ค่ะ"
พยาบาลสาวตอบกลับออกไปด้วยท่าทางหนักแน่นเพราะไม่อยากให้คนพี่เป็นกังวลว่าสาเหตุที่เธอลาออกจากการทำงาน เพราะเหนื่อยล้ากับระบบงาน รวมถึงเรื่องของคนพี่ด้วยเช่นกัน
"งั้นบอกพี่ได้มั้ยว่าเพราะอะไร?"
"น่านอยากลองหาประสบการณ์ใหม่ๆให้ตัวเอง"
ใบหน้าอวบอั๋นพยักหน้าให้กับพยาบาลสาวรุ่นน้องเบาบาง เพราะเธอเองต่างรู้ดีอยู่แล้วลึกๆภายในใจสาเหตุที่ทำให้น่านฟ้าตัดสินใจลาออก สาเหตุหนึ่งคงมาจากเธอที่เปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าของแผนกหอผู้ป่วยในศัลยกรรมเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา
"จะไปเดือนหน้าใช่มั้ย?"
"ไม่ค่ะ น่านจะไปสิ้นเดือนนี้"
น่านฟ้าตอบกลับรุ่นพี่ออกไปด้วยท่าทางหนักแน่นดวงตากลมทั้งสองข้างจ้องมองใบหน้าอบของดวงเดือนด้วยความจริงจัง ก่อนจะรีบหลบสายตาคู่เฉี่ยวคมของดวงเดือนแล้วก้มลงมองยังเอกสารใบลาออกทั้งหมดที่เธอกรอกข้อมูลลงไป แล้วยื่นให้กับหัวหน้าแผนกเพื่อเซ็นอนุมัติอย่างรวดเร็ว
"น่านขอตัวไปทำงานต่อนะคะ"
ทันทีที่สิ้นเสียงของน่านฟ้าร่างเล็กดีดตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของร่างอวบในทันที ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องไปด้วยความโล่งใจที่ได้ทำในสิ่งที่ตนเองต้องการมาเกือบตลอด 7ปี ในสายงานอาชีพพยาบาลในโรงพยาบาลรัฐแห่งนี้
"เฮ้อ!!"
มืออวบทั้งสองข้างรีบยกขึ้นมาเกาะกลุ่มใบหน้าอวบอั๋นของตนเองในทันใด เมื่อร่างของน่านฟ้าลับสายตาออกไปพ้นบานประตู ดวงเดือนปลดปล่อยเสียงถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบาด้วยท่าทางหนักใจกับสถานการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นภายในเสี้ยววินาทีที่ผ่านมา
เธอยอมรับว่าค่อนข้างตกใจที่น่านฟ้าตัดสินใจลาออกกะทันหัน แต่ถ้าว่าเป็นความประสงค์ของคนน้องดวงเดือนทำได้เพียงแค่หยิบปากกาขึ้นมาและเซ็นอนุมัติเอกสารใบลาออก และเหวี่ยงมันลงที่โต๊ะทำงานเฉกเช่นเดิม พร้อมๆกับหยดน้ำตาที่ไหลหลั่งออกมาจากดวงตาด้วยความรู้สึกผิดอยู่ลึกๆภายในใจ
1สัปดาห์ผ่านไป
คอนโดน่านฟ้า
"เฮ้อ!!"
ร่างเล็กทิ้งตัวลงบนพื้นผิวเรียบของเตียงนอนในทันทีที่มาถึงห้อง เธอทิ้งเอกสารทุกอย่างพร้อมกับกระเป๋าสะพายลงบนพื้นด้วยความเหนื่อยล้าภายในจิตใจ เมื่อพยายามเดินทางไปสมัครงานและสัมภาษณ์ ในส่วนของสายงานคลินิกและโรงพยาบาลเสริมความงามมาหลายที่ แต่ยังไม่มีที่ไหนที่จะตอบกลับยืนยัน หรือรับเธอเข้าทำงานด้วยสักที่เลยในเวลานี้
คลืดดดดด!!
เสียงโทรศัพท์มือถือสั่นสะเทือนอยู่ภายในกระเป๋าสะพายด้วยสภาวะห้องที่เงียบสงบ จึงทำให้เสียงนั้นดังลั่นกระทบกับโสตประสาทของหญิงสาวในทันที ก่อนที่น่านฟ้าจะรีบดีดตัวลุกขึ้น พลางเอื้อมมือเข้าไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาด้วยความหวังว่าจะมีสักที่รับเธอเข้าทำงานในสายอาชีพใหม่ที่ใจตนเองปรารถนา
"พี่เหนือ?"
ทันใดที่มองเห็นหน้าจอทัชสกรีนเป็นชื่อของคนพี่สาวเพียงคนเดียวของเธอ หัวใจทั้งดวงที่กำลังเต้นสั่นตกวูบลงไปอยู่ที่ปลายเท้าในทันที
"เฮ้อ!!"
หญิงสาวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความผิดหวัง ก่อนจะรีบยกโทรศัพท์มือถือขึ้นแนบหู เพื่อรับสายน้ำเหนือด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า
"ฮัลโหล!!"
"เป็นไงบ้าง เรื่องสมัครงาน?"
น้ำเสียงของน้ำเหนือแสดงออกถึงความเป็นห่วงน้องสาวอย่างท่วมท้น เมื่อเธอยังคงเฝ้าติดตามความคืบหน้าของน่านฟ้าในการสมัครงานในคลินิกเสริมความงามหรือโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งความงามตามที่คนน้องตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่แรก
"ยังไม่มีที่ไหนรับเลยพี่เหนือ"
"ใจเย็นๆ พึ่งผ่านไปแค่อาทิตย์เดียวเอง"
"น่านไปสมัครงานมา พอบอกเขาว่าไม่เคยมีประสบการณ์ด้านศัลยกรรมความงามมาก่อน เขาก็ดูไม่ค่อยสนใจน่านเลยอะ"
หญิงสาวเล่าเรื่องราวทุกอย่างในการไปสมัคร และสัมภาษณ์ตามคลินิกและโรงพยาบาลศัลยกรรมให้กับพี่สาวฟังด้วยความรู้สึกท้อแท้และสิ้นหวัง หัวใจดวงน้อยรู้สึกห่อเหี่ยวมากที่สุด จนเธอสัมผัสได้ถึงความชื้นและไอร้อนผ่าวเบาบนใบหน้า ตามด้วยหยดน้ำใสให้เจิ่งนองรอบร่องลึกของดวงตาในทันที สุดท้ายเธอต้องยอมปล่อยให้มันไหลนองออกมาตามด้วยเสียงสะอึกสะอื้นดังลั่น พานทำให้ปลายสายถึงกับขมวดคิ้วตึงเครียดด้วยความเป็นห่วงน้องสาวอย่างชัดเจน
โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งความงาม BDM
"ห้ะ!! อะไรนะ ลี่พูดจริงปะเนี่ย!!"
"พูดจริงๆพี่ริสา ลี่มีความจำเป็นจริงๆ อึก ฮือๆ"
น้ำเสียงของริสาดูตื่นตระหนกตกใจกับคำพูดประโยคนั้นของสาลี่ที่ได้กรอกผ่านทางปลายสายตรงมาหาเธอที่ยังคงทำงานอยู่ในโรงพยาบาล
"แล้วไม่มีคนอื่นช่วยดูแลเลยหรอลี่"
"ไม่มีแล้วพี่สา ทุกคนต่างหวังพึ่งลี่กันหมด เพราะพ่อต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ไหนจะสายฉี่เอย สายยางให้อาหารเอย ไหนต่อออกซิเจนอีกอะพี่สา ลี่ไม่ได้อยากจะออกเลยนะ แต่มันจำเป็นจริงๆ อึก ฮือๆ"
สาลี่ร่ำไห้สะอึกสะอื้นกรอกผ่านทางปลายสายมายังริสาด้วยความอัดอั้นตันใจ เธอไม่อยากจะลาออกจากตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพประจำโรงพยาบาลศัลยกรรมแห่งนี้ แต่ทว่าด้วยความจำเป็นที่ต้องกลับไปดูแลพ่อจากอุบัติเหตุเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน พานทำให้เธอตัดสินใจที่จะต้องลาออกเพื่อจะช่วยดูแลพ่อที่ต่างจังหวัด
"โห้ แล้วถ้าแกลาออกไปตอนนี้ ฉันตายแน่ๆ"
เมื่อริสาพลันนึกขึ้นได้ในทันทีว่าจะต้องตะบี้ตะบันหาพยาบาลวิชาชีพที่มีประสบการณ์ด้านศัลยกรรมตกแต่งมาประจำตำแหน่งพยาบาลที่แผนกหอผู้ป่วยนอกแห่งนี้แท่นสาลี่ให้เร็วที่สุด กลับสร้างความตื่นกลัวและความวิตกกังวลแสนสาหัสให้กับริสาเป็นอย่างมาก
"ขอโทษจริงๆพี่ริสา หนูเข้าใจพี่ แต่...
"ไม่เป็นไรลี่ ไม่เป็นไร พี่เข้าใจลี่ ไปเถอะน้องรัก พี่จะรับมือกับหมอศรัณย์เอง"
ทันทีที่สาลี่วางสายไปริสาถึงกับต้องทรุดร่างอวบนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานภายในห้องอย่างไรเรี่ยวแรง มืออวบรีบยกขึ้นมากุมขมับด้วยความกังวลและความหนักใจเป็นที่สุด
"แต้มบุญฉันหมดแล้วจริงๆ หรือเนี่ย โอ๊ยตายๆ"
แต่ทว่านั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก เพราะสิ่งที่ริสากลัวมากที่สุด คือ ไม่ว่าจะหาพยาบาลวิชาชีพคนใดมาแทนสาลี่ กลับไม่มีใครทนต่อความมากเรื่องของศัลยแพทย์หนุ่มคนนี้ได้เลยแม้แต่คนเดียว เท่ากับว่าริสาต้องงมเข็มในมหาสมุทรในขณะที่พายุกำลังโหมกระหน่ำอย่างรุนแรงไร้ซึ่งขอนไม้ที่จะนำพาเธอกลับคืนสู่ฝั่งได้อีกในเวลานี้
"เฮ้อ!! ซวยของจริงเลยคราวนี้ ซวยสุดๆไปเลย ฉันจะเป็นประสาทตายแล้ว"
Talk
งมเข็มในมหาสมุทรว่ายากแล้ว ต้องหาพยาบาลที่มีประสบการณ์ยิ่งยากยิ่งกว่า แต่การหาพยาบาลที่ทนกับคุณหมอสุดจะมากเรื่องของเราได้ มีเพียง 1 ในแสนล้านคนเท่านั้นแม่ สงสารริสาเด้อเอาจริง 55555+
ฝากกดติดตาม กดหัวใจ คอมเมนต์ และกดเข้าชั้นให้เค้าหน่อยนะงับ
