การต้นใหม่ที่ดี
"ไอ้บ้าเอ๊ย ขอโทษกันเลยสักคำก็ไม่มีเลย"
ร่างเล็กสบถคำหยาบคายออกมา พร้อมกับกำนิ้วเรียวแน่นในทันทีที่รถยนต์ของศรัณยูวิ่งลับสายตาเข้าไปจอดในส่วนของ VIP ที่ทางโรงพยาบาลจัดไว้ให้
"ผู้ชายอะไรหน้าตาดีซะเปล่า แต่นิสัยแย่ฉิบหายเลย ซวยเสียฤกษ์แต่เช้าเลยยัยน่านเอ๊ย!!"
เธอยังคงบ่นกับตัวเองเสียงดัง พลางรีบสูดหายใจเข้าออกลึกๆ 2 ถึง 3 ครั้ง เพื่อควบคุมสภาวะอารมณ์และความโมโหที่กำลังเดือดพล่านของตนเองให้สงบลง ก่อนจะเริ่มผ่อนคลายปลายนิ้วมือออกจากกัน เร่งดึงสติให้กลับมาโฟกัสอยู่กับเรื่องดีๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเช้าของวันนี้ต่อไป
ฝ่ายบุคคล
"สวัสดีจ้ะน้องน่านฟ้าใช่มั้ยเอย พี่ริสาเองนะ"
"สวัสดีค่ะพี่ริสา"
ทั้งสองต่างส่งยิ้มหวานทักทายซึ่งกันและกันก่อนจะทำความรู้จักกันเบื้องต้นด้วยท่าทางเป็นมิตร ริสาอธิบายถึงเรื่องราวและรายละเอียดต่างๆ ในส่วนของงานในโรงพยาบาล โดยที่น่านฟ้าเองยังไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองจะต้องเจอกับอะไรบ้าง เมื่อเข้ามาทำงานอย่างเต็มตัวแล้ว
"น้องน่านฟ้าตัวจริงไม่ตรงปกมากเลยรู้ตัวปะ"
"ค่ะ?"
ทันทีที่สิ้นเสียงของริสา ใบหน้าหวานเริ่มแสดงออกถึงความตกใจจนกระทั่งเปลือกตากลมทั้งสองเปิดกว้างมากขึ้น ก่อนจะกะพริบตาปริบๆ จ้องมองใบหน้าอวบอั๋นของคนพี่ด้วยความสงสัย
"ไม่ต้องตกใจ!! พี่จะบอกว่าน้องน่านตัวจริงสวยกว่าในรูปต่างหากละ!!"
ริสาเอ่ยชื่นชมหญิงสาวด้วยท่าทางจริงใจ เมื่อมองสำรวจใบหน้า ทรวดทรงองค์เอวและผิวพรรณของน่านฟ้าตั้งแต่หัวจรดเท้า กลับรู้สึกพออกพอใจในผลงานของตนเองเอามากๆ ที่เลือกคนได้เหมาะสมกับแนวทางของโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามในยุคนี้
"อ๋อ ตกใจหมดเลยค่ะ"
"ก็ดูสิใบหน้าสวยหวานมากๆ ตากลมโต จมูกโด่งนิดๆ ผิวขาวเนียน เรียวปากอมชมพูระเรื่อแบบเนี่ย แถมหุ่นก็ดีไม่เห็นเหมือนในรูปที่ส่งมาให้พี่เมื่อวานเลยลูก"
ริสาเอ่ยชมคนน้องไม่ยอมหยุด เพราะตั้งเเต่คัดเลือกพยาบาลวิชาชีพเข้ามาทำงานในโรงพยาบาลแห่งนี้ไม่มีใครเลยที่จะดูสวยโดดเด่นเฉกเช่นเธอคนนี้เลยแม้แต่คนเดียว
"ขอบคุณค่ะ พี่ริสาก็ชมน่านเกินไป เขินนะคะเนี่ย"
น่านฟ้ายกมือไหว้ขอบคุณรุ่นพี่ด้วยท่าทางขัดเขินก่อนจะส่งยิ้มหวานให้ริสาอย่างเป็นมิตร เธอรู้สึกโล่งอกขึ้นมาในระดับหนึ่งที่มีคนต้อนรับเธอเป็นอย่างดี ทำให้หญิงสาวผ่อนคลายความกังวลและความตึงเครียดก่อนจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ได้มากยิ่งขึ้น
"พี่พูดจริงๆ น่านเหมาะกับสายความงามมากๆ เลยนะ"
"ขอบคุณอีกครั้งนะคะ น่านเองก็อยากลองเปลี่ยนสายงานใหม่ดูบ้างค่ะ ถึงได้มาที่นี่ "
คำตอบที่ออกจากเรียวปากของเธอดูหนักแน่น คลอเคลียกับนัยน์ตาที่กำลังฉายแววความจริงจังและมุ่งหมั่นออกมาจนริสาเห็นอย่างชัดเจน จนอดไม่ได้ที่จะหันมาส่งยิ้มให้กับคนน้องด้วยท่าทางเอ็นดู
"เอาละ น้องน่านฟังพี่ให้ดีๆ นะ น้องบอกว่าไม่มีประสบการณ์ด้านศัลยกรรมกรรมความงามและตกแต่งมาแต่อย่างใด จะดีมั้ยถ้าพี่จะให้พนักงานเก่าเราที่ลาออกมาฝึกเทรนงานให้น้องน่านฟ้าหนึ่งวันเต็มเลย"
"ดีเลยค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะพี่ริสา"
หญิงสาวยกมือไหว้ขอบคุณรุ่นพี่อีกครั้งด้วยความดีใจ เพราะเธอเองต่างยังไม่มีประสบการณ์และไม่รู้เกี่ยวกับวิธีการใช้เครื่องมือต่างๆ ภายในแผนกและไหนจะเรื่องระบบการทำงานของโรงพยาบาลอีกด้วย การมีคนคอยชี้แนะแนวทางก็เป็นเรื่องดีที่สุดแล้วสำหรับคนไม่มีประสบการณ์มาก่อนแบบเธอ
"แต่ก่อนจะเซ็นสัญญาจ้างและเรียนรู้ข้อมูลต่างๆ คือ พี่มีเรื่องอยากจะบอกน้องน่านก่อน"
"ได้เลยค่ะพี่ริสา"
ด้วยสีหน้าท่าทางของริสาทำให้น่านฟ้าถึงกับขมวดคิ้วเข้าหากันในทันที ภายในใจเต้นสั่นโครมครามด้วยความตื่นตระหนกและกังวลเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ มากมายที่อยู่ภายในใจของริสา
"พี่อยากเปิดใจคุยกับน้องน่านฟ้าตรงๆ ไปเลย เราจะได้ไม่มีอะไรต้องผิดใจกันทีหลัง"
"ค่ะพี่ริสา"
"พี่พยายามหาพยาบาลวิชาชีพที่มีประสบการณ์ด้านความงามมาค่อนข้างหลายคน ไม่ว่าจะเป็นใคร จะเก่งสักแค่ไหน แต่ไม่มีใครทนอยู่ที่นี่ได้เลยสักคน เนื่องจากหมอของพี่ค่อนข้าง..."
ริสาเล่าถึงอดีตที่ผ่านมา ก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงประโยคดังกล่าวพร้อมกับแสดงสีหน้าออกมาด้วยความเบื่อหน่ายสุดชีวิต พานทำให้ใบหน้าหวานของน่านฟ้าชะงักลงในทันที เธอรับรู้ได้ในไม่ช้าว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้ทางโรงพยาบาลเลือกคนไม่มีประสบการณ์อย่างเธอเข้ามาทำงานได้ง่ายๆ เพราะเธอเป็นทางเลือกสุดท้ายที่ใครๆ ต่างก็ไม่ต้องการนี่เอง
"พี่พูดตามความจริงเลยแล้วกันนะ ไม่มีใครทนต่อความเจ้าอารมณ์และเรื่องมากของหมอพี่ได้ พี่เลยอยากจะบอกน้องน่านก่อน เพื่อเตรียมรับมือ แต่เอาจริงๆ แล้ว คือ พี่ก็ไม่ได้คาดหวังเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าน้องน่านจะทนอยู่ได้"
"เอ่อ"
ทันทีที่สิ้นเสียงของริสาน่านฟ้านั่งครุ่นคิดอยู่สักพักด้วยความหวั่นไหวอยู่ภายในใจ ถึงแม้เธอจะมีความอดทนค่อนข้างสูง แต่เธอไม่เคยสัมผัสหรือรับรู้มาก่อนว่าศัลยแพทย์เจ้าความมากเรื่องที่ริสาเล่ามานั้นเป็นใคร มีลักษณะท่าทางและนิสัยแบบไหน แต่ทว่าเมื่อเธอพกพาความมุ่งมั่น และความต้องการอยากคว้าไขว่หาประสบการณ์ทางด้านสายความงามมาเกินร้อย เธอจึงพร้อมจะทำปรับตัวเพื่อให้การทำงานราบรื่นยิ่งขึ้น ก่อนจะค่อยๆ ยิ้มแห้งออกมาให้กับริสาที่นั่งอยู่ตรงหน้า
"แต่ในใจลึกๆ พี่ยังหวังว่าน่านจะสู้ไปด้วยกันกับพี่อยู่นะ"
"ไม่เป็นไรค่ะพี่ริสา น่านจะพยายามเรียนรู้งานและอดทนให้ได้มากที่สุดค่ะ"
"พี่ก็ต้องขอบใจน้องน่านมากๆ เลยนะจ๊ะ "
หลังจากที่ทั้งสองได้เปิดใจคุยกันถึงเรื่องที่รับพยาบาลสาวเข้ามาประจำที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ริสาได้พาน่านฟ้ามาทำความรู้จักกับสาลี่ ก่อนที่สาลี่จะเริ่มสอนงานทุกอย่างภายในแผนกเริ่มตั้งแต่จากศูนย์ให้กับน่านฟ้าได้เข้าใจมากที่สุด รวมถึงวิธีการเข้าหาหมอศัลยแพทย์หนุ่มจอมมากเรื่องนี้อีกด้วย
"ขอบคุณพี่สาลี่มากๆ นะคะ"
"พี่เป็นกำลังใจให้นะน้องน่าน พี่ไม่เคยเห็นความมุ่งมั่นและตั้งใจของใครมาก่อน พี่เชื่อว่าน่านจะปรับตัวเข้ากับหมอศรัณย์ได้"
ความน่ารักและความอบอุ่นของพยาบาลสาวรุ่นพี่ส่งมอบให้กับน่านฟ้าด้วยความจริงใจ สาลี่พยายามสอนงานทุกอย่างเพื่อให้น้องเป็นงานมากที่สุด ถึงแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่ายังไงแล้วซะศรัณยูคงไม่ไว้ใจหรือยอมรับในตัวของน่านฟ้าได้อย่างแน่นอน แต่คงไม่มีทางเลือกไปมากกว่านี้แล้ว ดีกว่าให้น้องรับหน้ากับสถานการณ์เพียงคนเดียวโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับการทำงานและระบบของโรงพยาบาลเลย
"ค่ะพี่สาลี่"
"อย่างพึ่งยอมแพ้นะ สงสารพี่ริสา"
หญิงสาวพยักหน้าให้กับพยาบาลสาวรุ่นพี่เพียงเล็กน้อย ก่อนที่สาลี่จะส่งยิ้มหวานให้เธออย่างเป็นมิตรเช่นกัน
"งั้นพี่ลาแล้วนะจ๊ะ เดี๋ยวถ้ามีโอกาสได้กลับมากรุงเทพใหม่จะแวะมาเยี่ยม"
"โชคดีนะคะพี่สาลี่ ขอให้คุณพ่อแข็งแรงขึ้นทุกวันนะคะ"
"โชคดีเช่นกันนะน้องน่าน"
หลังจากทุกอย่างสิ้นสุดลงสาลี่ส่งยิ้มจางๆ ให้กับน่านฟ้าก่อนจะรีบเก็บกระเป๋าและเดินออกจากโรงพยาบาลไปอย่างรวดเร็ว เพื่อกลับไปดูแลพ่อที่ป่วยติดเตียงอยู่ที่ต่างจังหวัดในภาคเหนือสุดของประเทศไทย
"เฮ้อ!! ช่วงแรกคงเหนื่อยหน่อยนะน่าน แต่ถือว่าโชคชะตายังเข้าข้างเราอยู่"
พยาบาลสาวบ่นพึมพำกับตัวเองภายในห้องหัตถการเพียงลำพัง เมื่อนั่งอ่านข้อมูลของรายละเอียดงานทุกๆ อย่างที่สาลี่สอนมาตั้งแต่ช่วงเช้า ถึงแม้เธอจะรู้สึกหนักอึ้ง จนทำให้สมองรู้สึกเหนื่อยล้า แต่ด้วยความตั้งใจและความมุ่งมั่น เธอทำได้เพียงให้กำลังใจตัวเองเพื่อสู้ต่อไปตามความต้องการและจุดหมายปลายทางของตนเองในอนาคต
Talk
สู้เค้าคะลูกสาว ใครหยุมหัวมา ก็หยุมมันคือ55555
กดหัวใจ คอมเม้นท์ให้เค้าหน่อยน้า สติ๊กเกอร์ตัวเดียวก็ยังกีนะงับ
