บท
ตั้งค่า

เรื้องปกติ

คลินิก 32 Xbox เชียงใหม่

เมื่อทั้งสองมาถึงยังคลินิกความงามชื่อดังของเชียงใหม่ที่มีนายแพทย์เอกพจน์ ศัลยแพทย์รุ่นน้องของสุนทรีเป็นเจ้าของ แต่ทว่าทั้งสองยังคงหน้าบึ้งใส่กันตลอดเวลาและไม่อยากจะมองหน้ากันด้วยซ้ำด้วยความเคลือบแคลงใจจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนเตียงที่ผ่านมาเมื่อเช้านี้

"สวัสดีครับอาจารย์เอกธวุฒิ"

"สวัสดีค่ะอาจารย์"

"สวัสดีครับ คุณหมอศรัณยูและก็น้องน่านฟ้า"

ทั้งสามทักทายกันด้วยท่าทางเป็นกันเอง เอกวุฒิเป็นศัลยแพทย์ชื่อดังที่มีประสบการณ์มากมายในด้านศัลยกรรมตกแต่งและความงาม เขารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ทั้งสองตั้งใจมาดูงานเกี่ยวกับวิธีการเย็บแผลและตัดไหมที่ถูกต้องตามหลักมาตรฐานสากลที่เอกวุฒิได้ไปเรียนมาจากที่ฝรั่งเศสเมื่อ 1 ปีที่แล้ว

“ดีใจและเป็นเกียรติมากๆที่อุตส่าห์บินมาจากกรุงเทพเลย พอพี่สุนทรีโทรหาผมปุ๊บผมรีบตอบตกลงในทันทีเลยครับ"

"เป็นเกียรติเช่นกันครับที่อาจารย์อุตส่าห์เปิดให้ความรู้กับพวกเรา"

"โอเค งั้นพร้อมกันแล้วมั้ยครับวันนี้?"

"พร้อมค่ะ!!"

น่านฟ้าส่งยิ้มหวานให้กับเอกวุฒิด้วยท่าทางตื่นเต้น ดวงตากลมทั้งสองคู่เปล่งประกายความอยากรู้อยากเห็นออกมาอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เอกวุฒิถึงกับยิ้มออกมาด้วยความดีใจเฉกเช่นเดียวกันที่มีคนสนใจอยากเรียนรู้งานกับเขาในเวลานี้

"สะดีดสะดิ้งทำเป็นตื่นเต้นเกินยัยหน้าโง่"

"เอ๊ะ!!"

ถึงแม้เสียงของศรัณยูจะแผ่วเบา แต่ทว่าน่านฟ้ากลับได้ยินชัดทุกคำ เธอพยาบาลสาวหันหน้ากลับไปมองจ้องตาดวงตาคู่คมนั้นตาเขม็งก่อนที่ศรัณยูจะหลบสายตาคู่สวยของเธอและลอยหน้าลอยตาราวกับว่าไม่ได้พูดอะไรออกมาจากปากเลยซักประโยค

เวลาผ่านไปเกือบ 20 นาที ในขณะที่เอกธวุฒิสอนและอธิบาย เกี่ยวกับการเย็บแผลที่ถูกต้องรวมถึงการตัดไหมตามหลักมาตรฐานสากลที่ปัจจุบันนี้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับแนวทางการตัดไหมของลูกค้าได้มากที่สุด

"อาจารย์ค่ะ น่านขอสอบถามได้มั้ยคะ?"

"ยินดีเลยครับ เชิญเลยครับน้องน่าน"

"เรามีวิธีการสังเกตมั้ยคะว่าเราตัดไหมคนไข้หมดหรือเปล่าในขณะนั้น"

เมื่อมันเกิดประเด็นขึ้นกับเธอจึงเป็นบทเรียนที่น่านฟ้าจะต้องหาทางแก้ปัญหาและหาแนวทางในการป้องกันการเกิดข้อผิดพลาดเช่นที่ผ่านมาให้ได้ เธอจึงเอ่ยถามเอกวุฒิออกไปด้วยความใส่ซื่อ แต่ทว่ากลับถูกศรัณยูเบรกเอาไว้จนหน้าทิ่ม

"นี่ถามอะไรโง่ๆเนี่ย มันจะไปยากอะไรแค่แหกตาดูสิ!!"

"น่านไม่ได้ถามคุณหมอศรัณย์นะคะ ไม่ตอบตอบแทน!!"

ทั้งสองยังคงเถียงกันอยู่ภายในห้องของเอกวุฒิทำท่ามกลางศัลยแพทย์ฉันอาวุโสและเหล่าพนักงานที่เข้ามายืนฟังเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆที่เอกวุฒิได้สอนไปในของวันนี้ แต่ทว่าทั้งสองกลับสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับพนักงานรวมถึงเอกวุฒิได้เป็นอย่างดี เมื่อไม่มีใครคิดจะยอมกัน

"ขะ ขอโทษค่ะอาจารย์เสียมารยาทนิดหน่อย แย่มากเลยค่ะ!!"

"ไม่เป็นไรครับ เรื่องปกติของคนเป็นแฟนกัน ผมไม่ถือ!!"

ด้วยสีหน้าและท่าทางของทั้งสองที่แสดงออกมา ทำให้ศัลยแพทย์อาวุโสสังเกตได้ถึงความสัมพันธ์ที่มากกว่าเพื่อนร่วมงานธรรมดา เขาจึงคิดว่าทั้งน่านฟ้าแหละศรัณยูเป็นแฟนกันจริงๆ จึงพูดแบบนั้นออกไป

"ไม่ใช่ครับ!!/ไม่ใช่ค่ะ!!"

ทั้งสองรีบตอบออกมาพร้อมกันเสียงดังฟังชัดลั่นทั่วห้อง ก่อนจะหันมามองหน้ากันด้วยท่าทางขยะแขยงกันและกันเต็มทนยิ่งสร้างความตลกให้กับเหล่าพนักงานที่ยืนอยู่กันถ้วนหน้า

"เอาเป็นว่าเรามาเรียนต่อกันเลยนะครับ"

"ค่ะ อาจารย์ ขอโทษด้วยนะคะ"

คนตัวเล็กก้มศีรษะลงเพื่อขอโทษเอกวุฒิอีกครั้ง ซึ่งเขาก็ไม่ได้ถือโทษโกรธเธอเลยแต่อย่างใด ได้แต่ส่งยิ้มและพยักหน้าให้ด้วยท่าทางเอ็นดู และเริ่มอธิบายเกี่ยวกับความสงสัยของน่านฟ้าอย่างละเอียด จนกระทั่งผ่านไปหลายชั่วโมง การเรียนรู้ในครั้งนี้จบลงด้วยดีอย่างราบรื่น

"ผมขอบอาจารย์มากๆเลยนะครับที่อุตส่าห์เสียเวลามาให้ความรู้ผมกันน่านในวันนี้"

"ผมยินดีมากๆครับ"

"งั้นผมขอตัวกลับเลยนะครับ สวัสดีครับ!!”

"สวัสดีค่ะ"

"เดินทางปลอดภัยนะครับ"

เอกวุฒิเดินออกมาส่งทั้งสองอยู่ที่ลานจอดรถของคลินิกก่อนที่น่านฟ้าและศรัณยูจะขอลากลับไปที่โรงแรมเช่นเคย

"เฮ้อ!! เด็กสมัยนี้ ต้องตบตีกันก่อนถึงจะรักกันได้สินะ หึ!!"

เขาสัมผัสได้ถึงสายตาของทั้งคู่ที่แสดงออกมาช่างไม่เหมือนกับสิ่งที่ทั้งคู่พยายามปฏิเสธมัน และยังคงปากแข็งกันทั้งคู่จนทำให้ต้องคอยทะเลาะตบตีกันอยู่อย่างนี้

โรงแรม viva

"ถอยไปสิน่ารำคาญจริงๆเลย ขวางหูขวางตาอยู่ได้"

ศรัณยูรีบเก็บข้าวของของตนเองใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบกระแทกไหล่กว้างชนคนตัวเล็ก เพื่อให้เธอหลบทางเขาที่กำลังเดินเก็บของอยู่ภายในห้อง

"เอ๊ะ หมอศรัณย์ อย่าพาลสิคะ!!"

"หุบปากของเธอไปซะ น่ารำคาญ"

ศรัณยูตวาดเสียงดังลั่นใส่น่านฟ้าที่ยังคงยืนเท้าสะเอวอยู่ข้างๆ ก่อนจะรีบคว้ากระเป๋าของตนเองและเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งน่านฟ้าเองก็ไม่ห้าม เพราะไม่รู้ว่าเขาจะไปไหนเช่นกัน แต่เป็นเธอเองที่รู้สึกโล่งอกมากกว่าที่ไม่มีเขาอยู่ภายในห้องให้รู้สึกอึดอัดใจ

"เชอะ!! ไปซะได้ก็ดีสบายฉันละ!!"

หญิงสาวกระโดดขึ้นบนเตียงนุ่ม เผยรอยยิ้มหวานออกมาบนใบหน้าด้วยความรู้สึกสบายใจ เธอนอนพักผ่อนอยู่ภายในห้องให้เต็มอิ่มก่อนจะไปขึ้นเครื่องที่สนามบินในเวลาหนึ่งทุ่มตรงของวันนี้

จนกระทั่งเวลาผ่านไป 30 นาที น่านฟ้ารู้สึกได้ถึงใครบางคนกำลังที่ใช้คีย์การ์ดปลดล็อกประตูหน้าห้องพักเข้ามาอย่างรวดเร็ว

"ใครคะ?"

เธอถามออกไปเสียงดังฟังชัดเจนทุกถ้อยคำ ด้วยความตื่นตระหนกตกใจกลัว เมื่ออยู่คนเดียวแล้วมีคนเข้ามาในห้องโดยที่ประตูยังคงล็อกไว้แน่น

"ใจคอเธอจะให้ฉันรออยู่ข้างล่างคนเดียวเลยใช่มั้ย?"

ร่างใหญ่เดินสะพายกระเป๋าเข้ามาภายในห้องพักเช่นเคยด้วยใบหน้าและท่าทางที่แสดงออกถึงความหงุดหงิดใจ เมื่อคิดว่าคนน้องจะต้องตามเขากลับมาอย่างแน่นอน เพราะยังไงทั้งคู่ก็มาด้วยกัน และกว่าจะถึงเวลาขึ้นเครื่องก็อีกตั้งหลายชั่วโมง แต่ทว่ากลับเงียบไร้ซึ่งร่างและเงาของเธอ

"เอ้า!! ก็หมอศรัณย์อยากออกไปเองไม่ใช่หรือคะ เกี่ยวอะไรกับน่าน?"

"เธอมากับฉัน!! เธอควรที่จะอยู่กับฉันสิวะ!! ทำไมถึงต้องปล่อยให้ฉันออกไปอยู่ข้างนอกคนเดียวร้อนๆ แบบนั้นแทนที่จะได้นอนอยู่บนเตียงนุ่มๆ รอขึ้นเครื่องตอนเย็นห๊ะ!!

"…"

ศรัณยูแสดงท่าทางหงุดหงิดออกมาเท่าไหร่ ยิ่งทำให้น่านฟ้าถึงกับงงงวยเข้าไปใหญ่ เพราะมันไม่ใช่ความผิดอะไรของเธอเลยความซ้ำ แต่ศรัณยูกลับเลือกจะมาต่อว่าเธอเอาเสียดื้อๆ

"เอ้า!!"

แต่ไม่ทันที่เธอจะเอ่ยถามอะไรเขาออกไป ด้วยความเขินอายที่ต้องทำตัวประสาทเสียแบบนี้ เขารีบกระโดดขึ้นมาบนเตียงนอนและดึงผ้าห่มออกจากเธอในทันที ก่อนจะล้มตัวนอนหันหลังให้เธอไปอีกฝั่ง ราวกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาไม่เคยเกิดขึ้นจริงๆ

"อะไรของเขานะ บ้าเปล่าวะเนี่ย?"

น่านฟ้าได้แต่บ่นพึมพำเสียงบางเบา ก่อนจะยกนิ้วเรียวขึ้นมาเกาศีรษะของตนเองด้วยความมึนงงกับท่าทางของศรัณยูที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นคนละคน 

2 เดือนผ่านไป

โรงพยาบาล BDM

"สวัสดีจ้ะน้องน่าน!!"

"สวัสดีค่ะพี่จอย"

จอยลดาเดินเข้ามาทักทายน่านฟ้าด้วยท่าทางเป็นมิตร แต่ทว่าสีหน้าของคนน้องกับเปลี่ยนแปลงไปเป็นความเหนื่อยล้าในทันที เมื่อรู้ว่าคนพี่มาหาเธอด้วยสาเหตุใด

"เฮ้อ!!"

HR สาวถอนหายใจออกมาพักใหญ่ก่อนจะทำหน้าเจื่อนๆเพราะรู้ว่าผลการประเมินของน้องต่ำมากเหมือนเดิม จากคนเดิมๆที่ประเมินแบบนี้อยู่เพียงคนเดียว

"ดูจากสีหน้าพี่จอยแล้ว ผลการประเมินน่าจะออกมาเหมือนเดิมใช่มั้ยค่ะ?"

พยาบาลสาวถามจอยลดาออกไปด้วยความเหนื่อยหน่ายจิตใจ คนพี่ได้แต่คอยพยักหน้างึมงำให้กับเธอด้วยความหนักใจอย่างเห็นได้ชัดเจน

"คราวนี้เขาให้เหตุผลน่านว่ายังไงบ้างคะ?"

"พี่ให้น่านอ่านเองดีกว่า พี่ไม่อยากอ่านเลยอะ"

จอยลดายืนออกสารการประเมินที่ศรัณยูเขียนให้กับคนน้อง ก่อนที่น่านฟ้าจะยื่นมือมารับมันไปอย่างนุ่มนวล

"โง่ซ้ำซาก"

"เฮ้อ!! พี่ก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วน้องน่าน?"

ใบหน้าและท่าทางของฝ่ายบุคคลแสดงออกถึงความเหนื่อยล้าภายในจิตใจและรู้สึกกังวลแทนคนน้องถ้าผลการประเมินในไตรมาสสุดท้ายออกมาไม่ดี น่านฟ้าจะต้องออกจากตำแหน่งพนักงานของโรงพยาบาลอย่างแน่นอน

"ไม่เป็นไรหรอกคะพี่จอย น่านทำใจไว้แล้วแหละ น่านต้องเซ็นรับทราบตรงนี้เลยใช่มั้ยค่ะ?"

จอยลดาพยักหน้าเบาๆ พลางจ้องมองคนน้องด้วยความเห็นอกเห็นใจและสงสาร ก่อนที่น่านฟ้าจะรีบเซ็นเอกสารรับทราบการประเมินแล้วก็รีบออกจากห้องไป

ห้องหัตถการ

น่านฟ้าเดินเข้ามาภายในห้องหัตถการด้วยความหวัดระแวงเธอคิดอยู่ภายในใจว่ายังไงเสียศรัณยูจะต้องมาดักรอต่อว่าเธออยู่ในห้องนี้แน่ๆ ก่อนที่ความคิดของเธอจะเป็นจริงดั่งที่ได้คาดเดาเอาไว้ไม่มีผิด เมื่อเดินเข้ามาเจอว่าเขากำลังยืนกอดอกยิ้มกรุ้มกริ่มด้วยท่าทางสะใจอยู่ภายในห้องเช่นเคยที่ผ่านมา

"เฮ้อ!!"

ทันทีที่เห็นใบหน้าเรียวสวยของศัลยแพทย์หนุ่มน่านฟ้าถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกเบื่อหน่ายในทันทีอย่างเห็นได้ชัดเจน

"คนโง่อย่าเธอต่อให้ประเมินกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ไม่ผ่านหรอก"

"คนปากหมาแบบหมอศรัณย์ไม่เคยคิดอยากให้ใครผ่านอยู่แล้วนี่ค่ะ!!"

จากรอยยิ้มบนใบหน้าของศัลยแพทย์หนุ่มกลับกลายเป็นดวงตาที่แข็งกร้าวและใบหน้าที่เหี้ยมโหดฉายแววออกมาได้อย่างน่าตื่นกลัวแต่ทว่ากับเธอกลับไม่รู้สึกตื่นกลัวแต่อย่างไร

"น่านเจ็บนะคะ"

ฝ่ามือแกร่งบีบเข้าที่ต้นแขนของเธอเช่นเคยที่ผ่านมานับครั้งไม่ถ้วน ก่อนจะตะคอกใส่หน้าเธออีกครั้งด้วยความโมโห

"เลิกฝันลมๆแล้งๆและก็ออกไปจากโรงพยาบาลฉันได้ละ เบื่อขี้หน้าเต็มทนแล้ว!!"

"ไม่ไปค่ะ หมอศรัณย์จะไล่น่านออกไม่ได้ ถ้าอาจารย์สุนทรี พ่อ...ของหมอศรัณย์ไม่อนุญาต"

น่านฟ้าเน้นหนักตรงคำสุดล่อแหลมนั้น ยิ่งทำให้ศรัณยูรู้สึกโมโหกว่าเดิมเป็นสองเท่า

"ยัย!!"

"โอ๊ย!! เจ็บนะ"

ยิ่งความโมโหเพิ่มทวีขึ้นมากขึ้นเท่าไหร่ฝ่ามือแกร่งยิ่งบีบต้นแขนของเธอรุนแรงมากกินขึ้น กระทั่งสามารถเรียกเสียงร้องโอดโอยจากน่านฟ้าได้เป็นอย่างดี

"อย่าทำให้ฉันต้องหาวิธีกำจัดเธอจริงๆจังๆสักทีนะน่านฟ้า เพราะถ้าถึงวันนั้นมาเมื่อไหร่ เธอจะไม่ได้ผุดได้เกิดเลย"

"หมอศรัณย์คิดว่าคนอย่างน่าน อับจนหนทางขนาดนั้นเลยเหรอคะ?"

มีหรือแค่คำขู่ของศรัณยูจะทำให้น่านฟ้ากลัว เธอจ้องมองดวงตาคู่คมของเขาราวกับว่าไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านอะไรจากคำพูดนั้นเลยแม้แต่นิดเดียวทั้งสองยังคงจ้องหน้ากันใกล้ๆจนแทบจะฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่ง ก่อนที่แววตาของน่านฟ้าจะเปลี่ยนแปลงไปเมื่อความรู้สึกบางอย่าง เข้ามาสะกิดภายในใจของเธออย่างเฉียบพลัน

"จำใส่กะโหลกของเธอไว้เลยนะ คนโง่อย่างเธอจะไม่มีวันได้อยู่ที่นี้นานเกิน 3 เดือนแน่ๆ"

 ดวงตาคมคู่นั้นที่กำลังอบอวลไปด้วยความโมโหตกวูบลงทันทีที่เห็นแววตาของคนน้องเปลี่ยนแปลงไป ความรู้สึกหลายๆอย่างถาโถมเข้ามาภายในจิตใจของเขาอย่างฉับพลัน ก่อนที่ศรัณยูจะสะบัดแขนของเธอออกและเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว

"คำว่าไม่มีวันของหมอ ไม่เห็นจะเป็นเรื่องจริงสักอย่างเลย ไอ้หมอบ้าเอ๊ย"

ดวงตากลมคู่สวยมองค้อนตามแผ่นหลังของศรัณยูไป พยาบาลสาวเริ่มชะงักเมื่อคิดถึงสัมผัสนั้นที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของเธอเมื่อเสี้ยววินาทีที่ผ่านมา เธอรับรู้ได้แทบทุกครั้งที่เข้าใกล้เขามากๆ ยิ่งเข้าใกล้เขาเท่าไหร่ หัวใจดวงน้อยจะเต้นผิดจังหวะและจะรู้สึกแปลกประหลาดแบบนี้ทุกครั้ง ซึ่งน่านฟ้าเองไม่สามารถตอบคำถามของตนเองได้เลยว่ามีสาเหตุมาจากอะไร ทั้งที่ทั้งสองเกลียดชังขี้หน้ากันราวกับว่าชาติหน้าจะไม่ขอเจอะเจอกันอีกเลยตลอดกาล

Talk

ไม่มีวันของคุณพรี่ ก็เห็นไม่เคยสำเร็จสักครั้งนะคะ 555555 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel