บท
ตั้งค่า

หวั่นไหว

ห้องหัตถการ

"โอ๊ย!! ฉะ ฉันจะเป็นลม"

ร่างอวบของริสาทรุดตัวนั่งลงที่เก้าอี้ด้วยความอ่อนแรง เมื่อลับแผ่นหลังของศัลยแพทย์หนุ่ม เธอเฝ้าหายใจหอบถี่เพื่อสูดเอาอาการเข้าปอดให้มากที่สุด คอยซับเม็ดเหงื่อขนาดเล็กที่คอบผุดขึ้นเต็มใบหน้าและฝ่ามืออวบทั้งสองข้าง เมื่อหัวใจทั้งดวงเต้นสั่นรุนแรง ทันทีที่ต้องทนอยู่กับสภาวะตึงเครียดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

"พี่ริสา เป็นไงบ้างคะ?"

"แม่!!"

พยาบาลสาวรีบเร่งเข้ามาช่วยประคองตัวและศีรษะของคนพี่เอาไว้แน่น ก่อนที่เหล่าบรรดาสามสาวที่ยืนเฝ้าดูเหตุการณ์อย่างใจจดใจจ่อข้างนอกจะวิ่งกรูเข้ามาช่วยน่านฟ้าอีกแรง

"เดี๋ยวน่านเอาแอมโมเนียให้นะคะ"

ร่างเล็กรีบกุลีกุจอค้นหาไม้พันสำลีชุบแอมโมเนียที่มีกลิ่นสุดฉุน พลางยื่นมาอังไว้ใกล้ๆจมูกของริสา พร้อมๆกับเอมมี่และส้มโอสลับกันใช้กระดาษพัดเพื่อระบายอากาศภายในห้องให้ปลอดโปร่งมากยิ่งขึ้น

"ดีขึ้นมั้ยแม่!!"

จุ๊บแจงพยายามบีบนวดคลึงกล้ามเนื้อบริเวณต้นคอให้นิสาได้รู้สึกผ่อนคลายยิ่งขึ้น ก่อนจะเอ่ยถามคนพี่ด้วยความเป็นห่วง

10 นาทีผ่านไป

"แม่เป็นไงบ้าง ดีขึ้นบ้างยัง?"

ส้มโอถามริสาดังลั่นขึ้นกลางวงล้อมของทั้งสี่สาว เมื่อเห็นว่าอาการหอบถี่และเม็ดเหงื่อที่ไหลพรากออกมาจากร่างอวบซึมหายไปบ้างแล้วในครานี้

"ฉันไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน"

ริสาตอบกลับออกไปพลางสูดดมกลิ่นฉุนของแอมโมเนียให้แล่นเข้าสู่ประสาทสัมผัสการรับกลิ่น เพื่อกระตุ้นศูนย์ควบคุมการหายใจที่ยังคงทำงานได้ดีในเวลานี้

"พี่ริสาคะ น่านขอโทษจริงค่ะ น่านกำลังจะทำให้พี่ริสาเดือดร้อน"

นิ้วเรียวทั้งสองข้างของน่านฟ้า ยกขึ้นไหว้รุ่นพี่ด้วยความรู้สึกผิด ที่ก่อสงครามกับศรัณยูไปเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา และยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาไล่เธอและริสาออกไปจากโรงพยาบาลอีกด้วย

"น่านเดี๋ยวก่อนลูก พี่เวียนหัวๆ"

ริสารีบยกมือขึ้นเบรกการกระทำและคำพูดของคนน้องในทันใด เมื่อเธอยังคงเวียนศีรษะอยู่ จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ 20 นาที อาการทั้งหมดเริ่มทุเลาลง และกลับมาดีขึ้นตามลำดับ

"น้องน่านไม่ต้องทำหน้าเศร้าไป พี่ไม่ได้โกรธหนูเลยลูก"

"เอ้า!! แล้วแม่จะเป็นลมทำไมอะ?"

ส้มโอถามริสาขึ้นด้วยความเหนื่อยล้าที่ต้องช่วยผลัดกันกับจุ๊บแจงในการบีบนวดเพื่อให้คนพี่ผ่อนคลายความตึงเครียดอยู่นานสองนาน

"ไม่ให้เป็นได้ยังไง ฉันกลัวน้องน่านจะเอากรรไกรแทงหมอศรัณย์นะสิ"

"อุ้ย!! ก็จริง"

รอยยิ้มจางๆเผยออกมาจากเรียวปากอวบอิ่มของส้มโอ เมื่อนึกไปถึงเหตุการณ์ที่ดังออกไปนอกห้องเมื่อไม่กี่นาทีอย่างชัดเจน

"น่านขอโทษนะคะพี่ริสา ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้พี่ตกใจกลัวขนาดนี้เลย"

"ช่างมันๆ พี่เข้าใจว่าน่านป้องกันตัว ถ้าเป็นพี่มีมีดก็จะถือเหมือนกัน ถ้าหมอศรัณย์จะตรงดิ่งเข้ามาน่ากลัวแบบนั้น"

"น่ากลัวขนาดไหนไม่รู้ขนาดพวกหนูอยู่ข้างนอกยังตัวสั่นเลย"

เอมมี่พูดเสริมแทรกขึ้นกลางวงสนทนา พานทำให้ใบหน้าหวานของน่านฟ้าถึงกับหน้าเศร้าสลดด้วยความรู้สึกผิด

"ฉะ ฉันดีขึ้นมาหน่อยแล้ว พวกเธอ 3 คนแยกย้ายกันไปทำงานได้แล้ว ไปๆ"

"จ้าๆ ไปแล้วจ้า"

ทันทีที่ 3 สาวเดินออกจากห้องไป ริสารีบหันกลับมาจ้องมองหน้าของน่านฟ้าด้วยความเหนื่อยล้าภายในจิตใจ

"น้องน่านจ๊ะ ไม่ว่าพี่จะเห็นด้วยกับการกระทำของน่านแค่ไหน แต่พี่ไม่ได้สนับสนุนให้น่านทำแบบนั้นอีกนะลูก มันอันตรายมาก ถ้าโดนมาจริงๆเรารับผิดชอบชีวิตของหมอศรัณยูไม่ไหวนะรู้ใช่มั้ย?"

"ค่ะพี่ริสา น่านขอโทษจริงๆนะคะ"

"ไม่เป็นไร ให้มันแล้วๆกันไปเถอะ เขาก็ตั้งใจจะเข้าถึงตัวเราอยู่แล้ว โดนแบบนี้ซะบ้างก็ดีเหมือนกัน หึหึ!!"

ริสาหัวเราะเยาะในลำคอด้วยความสะใจ พานทำให้น่านฟ้าถึงกับยิ้มแห้ง เมื่อเธอปรับอารมณ์ตามคนพี่แทบไม่ทัน

เวลา 16.00 นาที

เมื่อถึงเวลาออกตรวจ ศรัณยูยังคงกลับมาทำหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดี เขาสามารถแยกแย่งเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวที่กำลังเปิดศึกสงครามกับใครบางคนออกจากกันได้อย่างมืออาชีพ ต่อให้ภายในใจจะเกลียดชังขี้หน้าคนน้องมากแค่ไหนก็ตาม

"คุณหมอศรัณย์ให้เตรียมออเดอร์ตามนี้เลยนะคะ"

"ครับ!!"

พนักงานขายคอร์สที่เข้าเคสในห้องตรวจ ทวนคำสั่งการสั่งฉีดโบท็อกซ์อีกครั้งกับศัลยแพทย์หนุ่ม ก่อนที่เขาจะพยักหน้าให้เบาบาง และตอบออกไปเพียงประโยคสั้นๆ พลางรีบคว้ามือถือขึ้นมารับสายจากใครบางคน เพื่อคุยธุระต่อ

ห้องหัตถการ

"น้องน่าน หมอศรัณย์จะฉีดโบท็อกซ์คนไข้เคสนี้ ช่วยเตรียมคนไข้ให้พี่หน่อยลูก"

"ได้จ้ะพี่ส้มโอ!!"

หลังจากที่น่านฟ้าได้รับเอกสารคำสั่งการฉีดโบท็อกซ์จากส้มโอ เธอรีบออกมาเรียกลูกค้าเข้ามายังห้องหัตถการเพื่อเตรียมแปะยาชาตามที่สาลี่ได้สอนมาได้เป๊ะ ตามสเต็ปไม่มีขาดตกบกพร่องแต่อย่างเดียว

"คุณพยาบาลมาใหม่หรือคะ?"

"อ๋อใช่ค่ะ"

"ถึงว่าช่วงนี้ไม่เจอคุณพยาบาลที่ชื่อสาลี่เลย ลาออกไปแล้วหรอคะ?"

ซ่ารีลูกค้าประจำของโรงพยาบาลเอ่ยสอบถามขึ้น เมื่อสังเกตเห็นว่าไม่ใช่พยาบาลคนเก่าที่เธอคุ้นเคย ก่อนจะได้รับคำตอบจากสีหน้าและท่าทางของน่านฟ้าที่พยักหน้าให้เธออย่างเบาบาง

"ถ้าวันนี้พยาบาลทำพลาดหรือไม่ถูกใจยังไงแจ้งได้เลยนะคะ"

"ได้ค่ะ"

ซ่ารีส่งยิ้มหวานให้กับน่านฟ้าด้วยท่าทางเป็นมิตร ก่อนจะแอบจ้องมองรูปร่างและใบหน้าสวยหวานของเธออย่างพิจารณาอีกครั้ง

"คุณพยาบาลรู้ตัวมั้ยค่ะ?"

"ค่ะ?"

ในห้องที่เงียบสงบอยู่ๆ ซ่ารีพูดประโยคนั้นแทรกขึ้นมา พลางทำให้น่านฟ้าถึงกับต้องชะงักรีบวางของทุกอย่างลงรถและหันกลับมามองหน้าซ่ารีด้วยความงุนงง

"คุณพยาบาลหน้าสวยและหวานมากๆเลยนะคะ ฉันอยากได้สวยๆหวานๆแบบนี้บ้างจัง"

"อุ้ย!! ขอบคุณค่ะ คุณซ่ารีก็สวยคมมากๆเลยนะคะ"

ทั้งสองคุยกันอย่างถูกคอ สร้างเสียงหัวเราะให้กันและกันอยู่ในห้องหัตถการอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งทุกอย่างต้องหยุดชะงักเมื่อร่างใหญ่ของใครบางคนเดินเข้ามา

ศรัณยูได้แต่จ้องหน้าพยาบาลสาวด้วยความไม่พอใจ แต่ทว่ากลับต้องทำเป็นนิ่งเงียบและเก็บทรงเอาไว้ก่อน เมื่อต้องอยู่ต่อหน้าลูกค้าคนอื่น

"คุณหมอคะ หน้าแบบพี่ถ้าอยากสวยหวานๆแบบน้องพยาบาลทำได้มั้ยค่ะ?"

"คุณซ่ารีสวยคมแบบนี้ดีแล้วครับ สวยหวานแบบนี้ไม่ค่อยมีสมองเท่าไหร่ สู้สวยคมไม่ได้หรอกครับ!!"

ใบหน้าเรียวสวยของศรัณยูรีบหันกลับไปมองใบหน้าหวานของน่านฟ้าในทันที พร้อมๆกับยิ้มเยาะเย้ยเธอด้วยท่าทางเย้ยหยันจนน่าหมั่นไส้สุดๆในตอนนี้ เมื่อเขารู้ว่าน่านฟ้าจะไม่กล้าต่อปากต่อเถียงเขาได้ในขณะที่อยู่กับลูกค้าภายในห้อง

'ไอ้บ้าเอ๊ย เดี๋ยวเหอะ!!'

เสียงบ่นพึมพำกับตัวเองภายในใจ เมื่อเธอไม่สามารถทำอะไรเขาได้ เพราะเกรงใจลูกค้าอยู่ในห้องอีกคน น่านฟ้าได้แต่ยืนทำตาโตกัดฟันกร่อนๆอยู่ใกล้ๆเขา เพื่อเป็นสัญญาณก่อสงครามกันอย่างเงียบๆ

'หึ ยัยหน้าโง่ทำได้แค่นี้แหละ'

เมื่อเห็นว่าคนน้องเถียงตัวเองไม่ได้ศรัณยูกับยิ้มร่าออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ แต่ทว่าเครื่องหน้าเรียวสวยกับลักยิ้มสองข้างที่ปรากฏบนแก้มของเขากลับทำให้พยาบาลสาวถึงกลับใจสั่น ตกวูบลงไปอยู่ที่ปลายเท้าในทันที น่านฟ้ารีบเบือนสายตาหลบหนีหน้าเขาไปมองยังผิวหน้าของคนไข้ด้วยความรู้สึกประหม่า จนกระทั่งใบหน้าเริ่มแดงระเรื่อขึ้นทันตาเห็น

"คุณซ่ารีรู้สึกเย็นและชาตรงบริเวณนี้แล้วใช่มั้ยครับ?"

"เริ่มชาแล้วค่ะ"

นิ้วแกร่งของศัลยแพทย์หนุ่มจิ้มลงพื้นผิวบริเวณหน้าผากของซ่ารี เมื่อเห็นว่าเธอเริ่มชาเต็มทีแล้ว เขารีบขยับเอี้ยวตัวคว้าไซริงค์ที่บรรจุโบท็อกซ์ขึ้นมาถือไว้ในมือด้วยความชำนาญ ก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้กับลูกค้าเบาบาง

"ผมจะเริ่มฉีดแล้วนะครับ ถ้าเจ็บให้บอกได้เลยนะ"

"ค่ะคุณหมอ"

เมื่อเห็นว่าศรัณยูจะเริ่มฉีดโบท็อกซ์ให้กับคนไข้แล้ว น่านฟ้ารีบยกถุงน้ำแข็งขนาดเล็กออกจากบริเวณผิวหน้าของซ่ารี เพื่อเปิดทางให้เขาได้จัดว่างตำแหน่งเข็มตามความเชี่ยวชาญที่ได้สะสมมา

"ประคบตรงนี้สิ จะเอาออกไปทำไมห๊ะ?"

เสียงทุ้มต่ำกระแทกเสียงใส่หน้าพยาบาลสาวที่ยืนถือถุงน้ำแข็งอยู่อีกฝั่งด้วยความลืมตัว พลันทำให้ซ่ารีที่นั่งอยู่บนเตียงถึงกับสะดุ้งตกใจในทันอย่างเห็นได้ชัดเจน

"เอ่อ ขอโทษครับ พอดีพยาบาลของผมไม่ได้เอาสมองมาจากบ้านเมื่อเช้า เลยเอ๋อหน่อยๆ"

"เอามาสิคะ แต่ถ้าเอามาใช้กับคนไม่มีปากก็คงลำบากหน่อยๆเหมือนกันคะ"

ครั้งที่แล้วเธอปล่อยให้เขาหลอกด่าแบบเนียนๆไปแล้ว และเลือกที่จะไม่ตอบโต้กลับเพราะเกรงใจลูกค้า แต่ทว่าตอนนี้น่านฟ้าจะไม่ยอมอีกต่อไป เมื่อศรัณยูต่อว่ามาเธอก็พร้อมจะตอบโต้กลับเช่นเดียวกัน ก่อนจะยักคิ้วตาให้เขาที่จ้องมองเธออยู่ราวกับจะเด็ดหัวเธอให้ขาดในทันใด

"คุณหมอกับคุณพยาบาลหยอกล้อกันเก่งจังเลยนะคะ"

เมื่อซ่ารีต้องอยู่กับสถานการณ์ตึงเครียด และสัมผัสได้ว่าทั้งสองคนน่าจะไม่ค่อยถูกคอกัน เธอจึงเลือกที่จะพูดขึ้นทำลายบรรยากาศออกไปแบบนั้น พร้อมๆกับยิ้มแห้งด้วยความรู้สึกอึดอัดใจ 

20 นาทีผ่านไป

"วันนี้พี่ไม่ค่อยเจ็บเลยค่ะ ขอบคุณคุณหมอศรัณยูและคุณพยาบาลด้วยนะคะที่ช่วยทำสวยให้"

"ยินดีครับ"

"ยินดีค่ะ คุณซ่ารี"

ซ่ารีส่งยิ้มหวานเป็นการขอบคุณทั้งสองคนด้วยความจริงใจ เมื่อสัมผัสได้ว่าคราวนี้เธอไม่ค่อยรู้สึกเจ็บมากเท่าไหร่นัก ก่อนจะเดินเคียงคู่ไปกับพนักงานที่ดูแลเคสออกจากห้องหัตถการด้วยท่าทางพึงพอใจมากที่สุด

"โง่แล้วยังไม่รู้ว่าตัวเองโง่อีก โง่ที่สุดเลย"

"คงเป็นหมอศรัณย์ต่างหากละคะที่โง่ คนโง่มักจะชอบคิดว่าคนอื่นโง่กว่าเสมอ"

"หึ!!"

"อ๊ะ!! หมอศรัณย์ปล่อยน่านนะคะ"

นิ้วแกร่งกระชากต้นแขนของพยาบาลสาวมันจับเอาไว้ อย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะออกแรงบีบมันรุนแรงขึ้น จนทำให้คนน้องต้องร้องท้วงขึ้นมาเสียงดังลั่น ด้วยความเจ็บปวด

"เธอต่างหากที่โง่กว่าฉัน แค่ประคบน้ำแข็งโง่ๆให้ลูกค้ายังไม่มีปัญญาทำมันออกมาได้ดีเลย"

"หมอศรัณย์เองต่างหากที่มีปากแต่ไม่ใช้ให้เกิดประโยชน์ เอาแต่ใช้ปากต่อว่าด่าทอคนอื่นไร้สาระไปวันๆอยู่นั่นแหละ"

"เธอ!!…"

ศรัณยูดึงกระชากต้นแขนของน่านฟ้าเข้ามาใกล้ตัวเองมากยิ่งขึ้น และกำลังอ้าปากจะดุน้อง แต่ทว่ากลับไม่มีช่องว่างให้ต่อปากต่อเถียงกับเธอเลยสักนิด เมื่อพยาบาลสาวรีบพูดแทรกขึ้นมาอีกครั้ง

"อยากได้อะไรหรืออยากให้ช่วยแบบไหนทำไมไม่พูดละคะ ก็พูดสิไม่มีใครเขาเข้าไปในในใจหมอแล้วสามารถตรัสรู้ได้ทุกอย่างหรอกนะว่าต้องการอะไร"

คำพูดของเธอแทนที่จะทำให้เขาโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ แต่ทว่ากลับทำให้ศรัณยูนิ่ง ก่อนจะดึงต้นแขนของคนน้องเข้ามาใกล้ตัวเขาจนแทบตัวจะติดกันอยู่ทนโท่

"อ๊ะ!!"

แต่ทว่าเมื่อร่างเล็กเข้ามาใกล้เขา กลิ่นตัวหอมอ่อนๆของคนน้องกับทำให้ประสาทสัมผัสของเขาเริ่มตื่นตัว ราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่างทำให้สายตาคู่คมนั่นจ้องมองอยู่ที่ใบหน้าสวยหวานนั้นอย่างลืมตัว นัยน์ตาสีดำสนิทไล่มองดวงตาคู่กลมโตที่ถูกปกคลุมไปด้วยขนตายาวงอนเป็นแพร จมูกโด่งนิดๆ เรียวปากอมชมพูกลับทำให้หัวใจของเขากระตุกวูบลงพร้อมๆกับเต้นสั่นหวั่นไหวไปกับเธอที่กำลังมองหน้าเขาอยู่เช่นเดียวกัน

"หึ!! ถ้าพ่อไม่ขอร้องฉันเอาไว้ ฉันไล่เธอออกไปแล้วยัยสมองกลวง"

เมื่อได้สติศรัณยูรีบสะบัดมือออกจากต้นแขนของน่านฟ้าอย่างรุนแรง และรีบเดินออกจากห้องไปด้วยความรู้สึกหงุดหงิดและกระวนกระวายใจ เมื่อเขาเห็นใบหน้าสวยหวานของคนน้องชัดๆใกล้ๆเป็นครั้งแรกเมื่อสักครู่นั้น

"สวยตายแหละ ยัยสมองไก่เอ๊ย"

ต่อให้เขาจะเคยเห็นผู้สวยๆมาค่อนข้างมากมาย จนมองว่ามันเป็นเรื่องปกติและธรรมดาไปแล้ว แต่ทว่ากับเธอคนนี้กลับแตกต่างออกไป ไม่ใช่แค่ใบหน้าสวยหวานละมุนอย่างเดียว เธอยังคงมีบางอย่างที่เขาเองไม่สามารถอธิบายกับตัวเองได้ว่าทำไมต้องใจสั่นหวั่นไหวไปกับเธอ เพียงแค่เสี้ยววินาทีเดียวที่อยู่ใกล้กันขนาดนั้น

Talk 

ไหนๆ ใครกันเริ่มหวั่นไหวก่อน5555 แค่เห็นยัยน้องใกล้ๆก็ใจสั่นแล้วนะพ่อ!!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel