สงสารตาเธอนะ
ห้องพักแพทย์
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้น 3 ครั้ง ทำให้ศัลยแพทย์หนุ่มที่นั่งพิมพ์ข้อความในโทรศัพท์มือถือถึงกลับชะงัก ก่อนจะตะเบ็งเสียงดังถามคนที่ยืนอยู่หน้าประตูออกไปถึงจุดประสงค์ที่มาเคาะห้องพักของเขาในเวลาพักผ่อนเช่นนี้
"ใคร?"
"น่านเองค่ะ"
สิ้นเสียงพยาบาลสาวโทรศัพท์มือถือถูกโยนลงบนพื้นผิวในทันทีร่างใหญ่เร่งถอนลมหายใจก้อนใหญ่ออกมาด้วยความหงุดหงิด รีบดึงตัวขึ้นจากเก้าอี้เอื้อมนิ้วแกร่งกระชากประตูออกด้วยความสงสัยว่าอยู่คนน้องมาหาเข้าด้วยเรื่องอะไร
"เสนอหน้ามาที่นี่มีอะไร?"
"ลูกค้าโวยวาย น่านตัดไหมแล้วมันมีเลือดออกตาม…"
"อะไรนะ ตัดไหมยังไงให้แผลแยกได้วะ?"
ในขณะที่น่านฟ้ากำลังจะอธิบายความจริงแต่ต้องหยุดชะงักลง เมื่อศรัณยูตวาดเสียงเข้มพร้อมที่จะแผดเผาเธอทั้งเป็นด้วยไฟแห่งความโมโหที่คนน้องทำงานพลาด
"ฟังก่อนได้มั้ย แผลไม่ได้…"
"ฉันว่าแล้วคนโง่แบบเธอจะทำให้งานเสียเรื่องสักวัน แต่ฉันไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ ยัยโง่เอ๊ย!!"
"หมอศรัณย์ใจเย็นๆก่อนได้มั้ยคะ?"
ไม่ว่าน่านฟ้าจะพยายามบอกให้เขาใจเย็นลงและฟังที่เธออธิบายยังไง ศรัณยูกลับไม่เคยคิดที่อยากจะฟังเลยสักครั้ง ซึ่งเธอเองก็เดาได้ว่ายังไงแล้วเขาจะต้องโว้ยวายใส่เธออยู่แล้ว และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆเสียด้วย
"จะให้ฉันใจเย็นฟังเธอแก้ตัวหรือยังไง ห๊ะ!!"
"นิ!!"
"เพราะเธอมันโง่ไม่มีความรู้ไงถึงได้ตัดไหมไปทั้งที่แผลมันยังแห้งไม่สนิท ไม่ได้พิจารณาดูเลยว่ามันเหมาะสมหรือเปล่า โง่จริงๆเลย จบจากมหาลัยไหนมาวะถามจริง นักศึกษาที่จบมาถึงได้โง่ขนาดนี้ เอาพัดลมแลกจบมาหรือยังไง?"
ต่อให้ศรัณยูจะพ่นคำด่าทอเธอออกมาในรูปแบบไหน ร่างเล็กได้แต่ยืนกอดอกแน่น จ้องมองหน้าของเขาด้วยท่าทางปลงกับชีวิต พลางถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยล้าที่จะพูดกับพวกไม่มีเหตุผล ไม่ยอมฟังอะไรสักอย่างและชอบเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาลแบบนี้
"ด่าจบหรือยังคะ ถ้าจบแล้วก็ไปดูลูกค้าเองคนเดียวเลยแล้วกัน"
เธอรอให้เขาพูดทุกอย่างให้จบในครั้งเดียว และตอบศรัณยูออกไปแค่ประโยคนั้น ก่อนจะสะบัดตัวเดินหนีออกจากหน้าของศัลยแพทย์หนุ่มไปในทันที
"นี่ยัยหน้าโง่ เธอจะมาเดินหนีฉันแบบนี้ไม่ได้นะ"
ร่างใหญ่ตกตะลึงยืนนิ่งเพียงครู่หนึ่ง เพราะไม่เคยมีใครที่อยู่ในตำแหน่งที่ด้อยกว่ากล้าออกคำสั่งเขาและเดินหนีไปแบบนี้ เขาร้องตะโกนตามแผ่นหลังของคนน้องด้วยความหงุดหงิด แต่ทว่าน่านฟ้ากลับทำเป็นไม่สนใจ ไม่หันมามองแม้แต่หางตาก่อนจะเดินห่างออกไปไกลมากยิ่งขึ้น
"โรงพยาบาลฉันจ้างเธอมาทำงาน ไม่ใช่จ้างให้เธอมาใช้ให้ฉันทำงานเองแบบนี้ มานี่!!"
"นี่ปล่อยนะคะหมอศรัณย์!!"
มีหรือคนอย่างศรัณยูจะยอมแพ้ เขารีบวิ่งตามแผ่นหลังของคนน้องไป ก่อนจะบีบที่ต้นแขนลากเธอเข้าไปในตัวลิฟต์พร้อมๆกัน เพื่อไปหาลูกค้าด้วยกัน เมื่อเขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าฝีมือการตัดไหมของน่านฟ้าจะห่วยแตกสักแค่ไหน
ห้องหัตถการ
ภายในห้องหัตถการที่เงียบสงบ ปรากฏร่างของศรัณยูที่กำลังดึงแขนพยาบาลสาวเข้ามาอย่างทุลักทุเล ก่อนที่ทั้งคู่จะตกใจรีบปล่อยมือออกจากกัน เมื่อเห็นสิรินภายังคงนั่งรออยู่ภายในห้องเงียบๆเพียงลำพัง
"คุณหมอค่ะ พยาบาลคนนี้ตัดไหมแล้วเลือดรินออกเยอะมากๆเลย คุณหมอศรัณย์ช่วยดูให้รินหน่อยได้มั้ยคะ"
เมื่อเห็นศรัณยูเข้ามาพร้อมๆกับน่านฟ้า สิรินภารีบฟ้องเขาในทันทีด้วยน้ำเสียงและท่าทางออดอ้อนออเซาะอย่างเห็นได้ชัดเจน
"เอ่อ...งั้นเดี๋ยวขอดูแผลหน่อยนะครับ"
แสงไฟถูกส่องสว่างเข้าไปในโพรงจมูกเพื่อดูรายละเอียดของแผลกลับพบว่าแผลไม่ได้แยกจริงๆดั่งที่เขาคิด มีเพียงแค่คราบเลือดเก่าที่ซึมออกตามรูไหมแค่รูเดียว แล้วตอนนี้รูนั้นก็แห้งไปแล้วด้วยซ้ำ เมื่อพิจารณาดูแผลจนละเอียดดีแล้ว ใบหน้าเรียวสวยของเขารีบหันกลับไปมองหน้าคนน้องที่ยืนมองหน้าเขาด้วยความเหนื่อยหน่ายจิตใจอยู่อีกมุมของห้อง
"คือแผลแห้งดีนะครับ ไม่มีแยกอะไรแต่อาจจะมีเลือดซึมออกจากรูไหมได้เป็นเรื่องธรรมดา แต่ตอนนี้คือแห้งหมดแล้ว ไม่ต้องเป็นกังวลไปนะครับ"
"ได้ยินที่คุณหมอบอกแล้วก็สบายใจขึ้นมาหน่อย รินคิดว่าแผลจะแยกซะอีกค่ะ"
ท่าทางกะหนุงกะหนิงเล่นหูเล่นตาของสิรินภา ทำให้น่าฟ้าถึงกลับลอบกลอกกลิ้งดวงตาคู่สวยมองบน เมื่อเธอพยายามจะอธิบายให้สิรินภาเข้าใจตั้งแต่แรกแล้ว แต่ทว่าลูกค้าสาวสวยคนนี้ไม่ยอมฟังเหตุผลใดๆเลย
'ที่ไหนได้อยากเจ๊าะแจ๊ะกับหมอศรัณย์ก็ไม่บอก ไม่เห็นต้องเล่นใหญ่ขนาดนี้เลย'
น่านฟ้าถึงกลับแอบหมั่นไส้สิรินภาอยู่ภายในใจ พลางยืนเป็นก้างขวางคอมองดูทั้งคู่พูดคุยกันด้วยเสียงอ่อนเสียงหวานอยู่สักพักใหญ่ ก่อนที่สิรินภาจะเดินออกจากห้องไปพร้อมกับพนักงานที่ดูแลเคสเฉกเช่นเคย
"หึ!!"
เสียงเคล้นหัวเราะออกมาจากลำคอของเขา พร้อมกับใบหน้าเรียวสวยที่แสดงออกมาราวกับจะบอกน่านฟ้าว่าฝากเอาไว้ก่อน ก่อนจะรีบเดินลับสายตาออกจากห้องไปในทันที
"เชื่อกันง่ายๆเกิน ตอนเราพยายามจะอธิบายไม่คิดจะฟังกันเลย อย่างว่าแหละคนประสาทแดกพอๆกัน คงคุยกันรู้เรื่อง"
น่านฟ้าลอบบ่นพึมพำกับตัวเอง พลางถอนหายใจออกมากับความประสาทแดกของทั้งหมอและลูกค้าที่เธอต้องเตรียมรับมือในวันนี้
เวลา 20.10 นาที
ซุ่ม!!
"ว๊ายยยย!!"
เมื่อถึงเวลาเลิกงานน่านฟ้าเดินถือกระเป๋าสะพายออกมาจากตัวตึกของโรงพยาบาล เพื่อหวังที่จะเดินไปขึ้นรถไฟฟ้า BTS แต่ทว่าเธอกลับไม่ทันได้ระวังตัว ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อกระแสน้ำสาดกระเซ็นโดนผิวหนังและชุดขาวพยาบาลจนเปียกปอนเลอะเทอะไปหมดทั้งตัว
"อี๋!!"
แขนเรียวรีบสะบัดน้ำสกปรกออกจากตัวของเธออย่างทุลักทุเล เร่งหันหน้ากลับไปมองต้นเหตุที่ทำให้ตัวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำสุดสกปรกจากพื้นถนนอย่างรวดเร็ว แต่ต้องชะงักเมื่อเจอคนที่เป็นต้นเหตุ
"หึ!! โง่ยังไงก็ยังคงโง่อยู่อย่างนั้น"
"หมอศรัณย์ทำบ้าอะไรเนี่ย น่านเปียกไปหมดแล้วนะ"
ลัมโบร์กีนีสีเหลืองสุดโดนเด่น ถอยหลังกรูกลับมาจอดเทียบถ้ากลับร่างของพยาบาลสาว ก่อนจะเปิดกระจกลงมาส่งยิ้มหวานกรุ้มกริ่มให้เธอด้วยท่าทางสะใจสุดๆเมื่อเห็นร่างของคนน้องที่ยืนตัวเปียกชุ่มอยู่บนถนนภายในโรงพยาบาลราวกับลูกหมาตกน้ำมา
"สงสารตาทั้งสองข้างของเธอจัง มีใช้แต่ไม่ยอมแหกตาดูว่านี่มันทางรถวิ่ง ไม่ใช่ทางให้คนโง่เดิน"
"นี่หมอศรัณย์แกล้งน่านใช่มั้ยคะ?"
น่านฟ้ารีบตวาดเสียงดังลั่น เมื่อเห็นท่าทางและคำพูดของเขาที่จงใจจะแกล้งเธอ
"เหอะ!! เธอยอมรับแล้วสินะว่าตัวเองโง่ ยัย…หน้าโง่เอ๊ย"
"น่านไม่ได้..."
บรืนนนนนน!!
นิ้วเรียวเล็กกำหมัดแน่นด้วยความโมโหสุดขีด กำลังจะชี้หน้าต่อว่าเขากลับไป แต่ทว่าใบหน้าเรียวสวยกลับเผยรอยยิ้มเย้ยหยันด้วยท่าทางสุดแสนสะใจ ก่อนจะรีบเหยียบคันเร่งรถสปอร์ตหรูพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
"ไอ้หมอบ้า!! ไอ้หมาบ้า!! สักวันฉันจะจับหมาบ้าตัวนี้ฉีดวัคซีนให้ได้เลยคอยดู"
ขวดน้ำพลาสติกที่อยู่ในกระเป๋าผ้าถูกขว้างตามหลังรถของศรัณยูออกไป พร้อมๆกับเสียงด่าทอไล่ตามหลังของเขาไปด้วยความโมโหสุดๆ
"โอ๊ย!! เปียกไปหมด อี๋เหม็นด้วย แหวะ!!"
จมูกโด่งเรียวเล็กหันมาดมกลิ่นเหม็นเน่าของน้ำเสียที่ติดอยู่บนเสื้อผ้าของตนเอง ด้วยความพะอืดพะอมจนแทบจะอ้วกแตกเอาเสียดื้อๆ ก่อนที่ร่างเล็กของพยาบาลสาวจะรีบสาวเท้าเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าเพื่อกลับคอนโดซะล้างความสกปรกนี้ออกไปให้เร็วที่สุด
คอนโดน่านฟ้า
"ไอ้หมอบ้าเอ๊ย ทำตัวฉันเปียกไปหมด"
น่านฟ้ารีบเร่งในการถอดชุดพยาบาลของตนเองออกมาแช่ไว้ในกะละมังด้วยความรู้สึกหงุดหงิดใจ เมื่อคิดถึงเรื่องราวและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เธอสบถคำหยาบคายออกมาอย่างหัวเสีย เพื่อระบายความโมโหที่อยู่ในใจตนเองเพียงลำพังในห้องน้ำภายในคอนโด
"เฮ้อ!! คนเขามองกันทั้งรถไฟฟ้าแล้วว่าฉันไปฟัดกันหมาที่ไหนมา ถึงได้เละเทะขนาดนี้"
ดวงตาคู่กลมจ้องมองไปยังชุดพยาบาลสีขาวที่คลุกเคล้ากับน้ำสกปรกที่พื้นถนน ด้วยความรู้สึกเจ็บใจที่พลาดไม่ทันได้ระวังตัวปล่อยให้ศรัณยูแกล้งเอาเสียง่ายๆ
"พ่อแม่ไม่รักหรือไงวะ ทำไมทำนิสัยแย่ใส่คนอื่นแบบนี้"
ครืดดดดดด
ยังไม่ทันที่น่านฟ้าจะซักชุดพยาบาลเสร็จ เสียงมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะสั่นสะเทือนขึ้นต่อเนื่อง ทำให้การซักผ้าของน่านฟ้าต้องหยุดชะงักลงในทันที
"ใครโทรมาตอนนี้เนี่ย เฮ้อ!!"
นิ้วเรียวเล็กทั้งสองข้างปล่อยชุดพยาบาลลงในกะละมังเฉกเช่นเคย รีบล้างไม้ล้างมือด้วยความเร่งรีบ เมื่อภายในใจเริ่มกังวลว่าจะเป็นเรื่องของงานที่อาจจะมีอะไรตกค้างอยู่ที่โรงพยาบาล
"ชะเอมหรอ?"
คิ้วเรียวเรียงตัวสวยถึงกลับต้องขมวดเข้าหากันด้วยท่าทางสงสัย เมื่อเพื่อนสาวร่วมมหาวิทยาลัยโทรเข้ามาหาเธอ ในรอบเกือบ 3 เดือนที่ไม่ได้เจอและติดต่อกันเลย
"ฮัลโหล ว่าไงมึง!!"
"กินข้าวกันหน่อยมั้ย มีข่าวดีจะบอก"
"ข่าวดี?"
น่านฟ้าถามย้ำเพื่อนไปอีกรอบ ด้วยความสงสัยในข่าวดีของเพื่อนสาว ที่ไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยมากนัก แต่ทว่าความสัมพันธ์ของเธอและเพื่อนๆยังคงแน่นแฟ้นกันเช่นเดิมที่เคยผ่านมา
"ใช่ข่าวดี!!"
"เรื่องอะไร?"
ถึงแม้ภายในใจจะรู้สึกดีที่เพื่อนจะมีข่าวดี แต่น่านฟ้ากลับอดใจไม่ไหวเอ่ยถามเพื่อนไปอีกรอบด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"เอ้า!! กูก็บอกว่าจะบอกที่ร้านเนี่ย รีบๆแต่งตัวออกมา เจอกันที่ร้าน Since 1992 ตอน 21.30 น. เคมั้ย?"
"ได้เลย!! เดี๋ยวเจอกัน"
หลังจากที่เพื่อนสาวว่างสายไป น่านฟ้าถึงกลับต้องถอนหายใจด้วยความเหนื่อยใจที่ต้องกลับไปซักชุดพยาบาลใหม่อีกครั้ง ยิ่งเธอคิดยิ่งเจ็บใจอยากจะทะเลาะกับศรัณยูให้มันรู้แล้วรู้รอดในเวลานี้ที่บังอาจมาทำชุดของเธอเลอะเทอะไม่เหลือความเป็นชุดขาวสะอาดตาเฉกเช่นเคย
Talk
พ่อเริ่มเป็นประสาทแล้ว ขอให้ได้กัดนิดกัดหน่อยก็เอา แต่ใดๆคือแอบส่องยัยน้องนะ เห็นนะว่าแอบคิดอะไรกับเขาอะ555555
