ล้มลุกคลุกคลาน
เช้าวันจันทร์
เช้าวันจันทร์ที่แสนสดใสของใครหลายๆคน แต่ทว่ากลับไม่ได้ทำให้น่านฟ้ารู้สึกดีไปด้วยเลยสักนิด เมื่อวันนี้ต้องทำงานรวมกับศัลยแพทย์หนุ่มสุดมากเรื่องในประเทศไทย เธอต้องคอยคิดหาวิธีการรับมือกับเขาให้ดีที่สุด ไม่เช่นนั้นคนที่จะซวยมากที่สุดนั้นคือเธอ
"น้องน่าน คุณหมอศรัณย์มีเคสฉีดฟิวเลอร์กับโบท็อกซ์ ลูกค้าชื่อคุณราชันนะ น้องน่านเตรียมแปะยาชาได้เลยจ้ะ"
"ได้ค่ะพี่เอมมี่"
ห้องหัตถการ
น่านฟ้าพาลูกค้าเขามาในห้องหัตถการ พร้อมกับเตรียมยาและอุปกรณ์ทุกอย่างไว้อย่างเพียบพร้อม ก่อนจะเริ่มเคลียร์ใบหน้าและเริ่มแปะยาชาให้กับลูกค้าอย่างเบามือด้วยนุ่มนวลมากที่สุด
"คุณราชันคุยกับคุณหมอศรัณย์ว่าจะฉีดบริเวณไหนบ้างคะ?"
"ฉีดฟิลเลอร์ที่ใต้ตา ร่องแก้ม และก็อัดโบทั่วหน้าเลยจ้ะ"
ท่าทางกระตุ้งกระติ้งของลูกค้าผู้ชาย ทำให้พยาบาลสาวถึงกับส่งยิ้มให้ด้วยท่าทางเป็นมิตร เช่นเดียวกันกับราชันที่เอาแต่จ้องหน้าพยาบาลสาวราวกับกำลังสำรวจอะไรบางอย่างอยู่บนใบหน้าของเธอ
"เดี๋ยวพยาบาลขออนุญาตแปะยาชาทั่วใบหน้าเลยนะคะ"
"ได้จ้ะ"
น่านฟ้าเริ่มแปะยาชาให้กับราชัน ทั้งสองเริ่มพูดคุยกันสนุกสนานและเป็นกันเองมากยิ่งขึ้น ทำให้บรรยากาศภายในห้องหัตถการดูผ่อนคลายลงจากความอึดอัดและตึงเครียดในครั้งแรกที่เจอกัน
"น้องพยาบาลนี่สวยหน้าหวานมากเลยนะจ๊ะ เหมาะกับการทำงานในคลินิกมากๆเลย"
"อุ้ย ขอบคุณมากๆเลยค่ะ"
"พี่เคยแอบสงสัยนะเวลาเขารับพยาบาลเข้าทำงานในคลินิกหรือโรงพยาบาลด้านความงามเนี่ย เขาคัดคนหรือเปล่า ทำไมมีแต่คนสวยๆจัง"
"อันนี้น่านไม่แน่ใจเหมือนกันคะ"
ผ่านไปเกือบ 30 นาทีทั้งสองยังคงพูดคุยสัพเพเหระไปเรื่อยๆ เพื่อรอให้ยาชาที่แปะรอบๆใบหน้าเริ่มออกฤทธิ์เสียก่อนจะเริ่มต้นทำหัตถการอย่างอื่นอีกต่อไป
"เออแล้วน้องน่านมีแฟนหรือยังจ๊ะ?"
"อ๋อ ยังไม่มีเลยค่ะ"
"ว๊าย!! สวยขนาดนี้ยังไม่มีแฟน แล้วคนอย่างพี่จะไปเหลืออะไรเนี่ย!!"
น้ำเสียงอ่อนหวานและทุ่มแหลมของทั้งพยาบาลสาวและราชันคุยกันดังเจี๊ยวจ๊าวอยู่ในห้องหัตถการอย่างสนุกสนาน พานทำให้ศรัณยูที่เดินผ่านมาได้ยินเข้าถึงกับหมั่นไส้คนน้องเอาเสียมากๆ แต่ทว่าเขากลับทำอะไรน่านฟ้าไม่ได้ได้แต่กลอกตามองบนไปมาและก้าวขาเดินหนีห่างออกไป
30 นาทีผ่านไป
"อุ้ย!! คุณหมอมาพอดีเลย เดี๋ยวค่อยคุยกันนะน้องน่าน"
ราชันรีบบอกพยาบาลสาวไป เมื่อยังคุยเรื่องราวสนุกสนานกับน่านฟ้าค้างคาอยู่ก่อนหน้านี้
"ได้ค่ะ"
"ผมขอดูหน้าบริเวณที่จะฉีดอีกรอบหน่อยได้มั้ยครับ?"
"ได้เลยจ้ะคุณหมอ"
ศรัณยูขยับเขาไปใกล้ราชันมากยิ่งขึ้น ก่อนจะเริ่มพูดคุยถึงตำแหน่งที่จะเริ่มฉีดอีกครั้ง โดยที่ยังคงจ้องมองหน้าของลูกค้าอย่างพิจารณาอยู่อย่างนั้นนานสักพัก
"จะยืนซื่อบื้ออยู่อีกนานมั้ย? เอายาชามาสิ"
น่านฟ้าที่ยืนอยู่อีกฝั่งยังไม่ทันจะได้สังเกตหรือเดาออกได้ว่าเขาต้องการอะไรตอนไหน ต้องตกใจเมื่อสิ้นเสียงตวาดของศรัณยู
"หมอศรัณย์ก็บอกสิคะ ว่าจะเอาอะไรตอนไหน มีปาก…มั้ยคะ?"
ดวงตาคู่คมหันกลับมาจ้องมองหน้าของคนน้องตาเขม็ง เครื่องหน้าสวยของเขาเริ่มแดงระเรื่อด้วยความหงุดหงิดใจที่โดยน่านฟ้าสวนกลับมา แต่ทว่าเขาเลือกที่จะเงียบเมื่อมีลูกค้าอยู่ภายในห้องด้วยอีกคน
"คุณหมอกับคุณพยาบาลนี่สวยกันทั้งคู่เลยนะ!!"
ราชันที่นั่งอมยิ้มอยู่บนเตียง ถึงกลับต้องเอ่ยชมเพื่อทำลายบรรยากาศมาคุภายในห้อง เมื่อรู้ว่าทั้งสองกำลังจะเปิดศึกสงครามกันอย่างเป็นทางการเสียที
"ผมไม่น่าจะสวยมั้งครับ"
สิ้นสุดเสียงของราชันศรัณยูถึงกลับยิ้มหน้าเจื่อน เมื่อเขาถูกมองว่าใบหน้าเรียวสวยคล้ายใบหน้าของผู้หญิงจากลูกค้าหลายๆคนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนชินหูแล้ว แต่ทว่าครั้งนี้กลับมีใครบางคนที่เขาเกลียดขี้หน้ายืนกลั้นขำอยู่ตรงนี้ด้วย เลยทำให้ศรัณยูถึงกลับรู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมาในทันที
"อุ้ย!! ขอโทษครับคุณหมอ พี่ก็นึกว่า…แฮร่ๆ"
"ไม่เป็นไรครับ คนอื่นก็คิดว่าผมเป็นแบบนั้นแหละ"
ถึงแม้ปากจะพูดกับราชันแต่ทว่าดวงตาคู่คมทั้งสองข้างกลับหันไปถลนตาใส่พยาบาลสาวที่ยังคงทั้งยิ้มทั้งกลั้นขำอยู่ใกล้ๆเขา
"ผมจะฉีดยาชาบริเวณร่องแก้ม และรอบๆใต้ตาแล้วนะครับ"
"จ้ะคุณหมอ"
"ถ้าเจ็บมากๆบอกได้เลยนะครับ"
ปลายเข็มค่อยๆหายจมลงใต้ผิวหนังบนใบหน้าของราชันช้าๆอย่างเบามือ หลังจากที่พยาบาลสาวยกถุงน้ำแข็งออกจากบริเวณนั้น กระทั่งศรัณยูฉีดยาชาจนครบตำแหน่งที่ตนเองต้องการ
"แต่พี่ว่าคุณหมอกับคุณพยาบาลดูดีมากๆเลยนะ…ถ้าเป็นแฟนกันคงจะเหมาะสมกันมากๆแน่ๆ"
คำชมของราชันทำให้พยาบาลสาวยิ้มแก้มปริด้วยความรู้สึกดีใจ แต่ทว่ากลับต้องหุบยิ้มในทันทีเมื่อสิ้นประโยคนั้นของลูกค้า
"ขอโทษนะครับ สเปคผมไม่ชอบคนโง่"
ศรัณยูรีบเอ่ยสวนกลับทันที เมื่อเขารู้สึกกว่าไม่ชอบใจนักกับคำพูดของราชันที่กล้ามาจับคู่เขากับพยาบาลสาวหน้าโง่ที่สุดจะเกลียดขี้หน้าเอาเสียเหลือเกิน ก่อนจะหันไปยักคิ้วให้กับน่านฟ้าที่ยืนอยู่อีกฝั่งด้วยท่าทางน่าหมั่นไส้
แต่ถึงอย่างไร น่านฟ้ายังคงเงียบไม่กล้าที่ตอบโต้เขาไป ได้แต่กำมือแน่นพลางยิ้มแห้งให้กับลูกค้าที่อยู่ในห้องด้วยความหงุดหงิดใจเช่นเดียวกัน
10 นาทีผ่านไป
เวลาล่วงเลยผ่านไปภายในห้องที่เงียบสงบแม้จะมีถึง 3 ชีวิตที่อยู่ในนั้น แต่ทว่าทุกคนกลับสัมผัสได้ถึงความน่าอึดอัดใจที่กำลังอบอวลอยู่ภายในห้องหัตถกรรมอย่างชัดเจน
"ฉีดฟิลเลอร์เสร็จแล้ว เดี๋ยวตามด้วยโบท็อกซ์เลยนะครับ"
ราชันที่ยังคงจ้องมองหน้าตัวเองในกระจกด้วยความพึงพอใจ พยักหน้างึกงักให้กับศัลยแพทย์หนุ่ม ก่อนจะตามด้วยการฉีดโบท็อกซ์ตามลำดับ เมื่อพยาบาลสาวที่ได้ยินคำพูดของศรัณยูเธอจึงรีบหยิบถุงน้ำแข็งขนาดเล็กเข้ามาช่วยประคบบริเวณหน้าผากของราชันอย่างรวดเร็ว
ปึก!!
"อ๊ะ!!"
"เฮ้ย!!"
โครม!!
ศัลยแพทย์หนุ่มไม่ทันได้สังเกตว่าน่านฟ้าขยับตัวไปหรือยัง เขารีบขยับตัวไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว ก่อนจะชนเข้าที่หัวไหล่ของคนน้องอย่างเต็มแรง กระทั่งความรุนแรงจากการกระแทกของคนที่ตัวใหญ่กว่าทำให้ร่างเล็กตัวเซไถลกำลังจะล้มลงที่พื้น ด้วยสัญชาตญาณฝ่ามือแกร่งรีบคว้าตัวเธอเอาไว้แน่น แต่ทว่าแรงโน้มถ่วงกลับผลักไสให้ทั้งสองล้มไถลลงกองกันอยู่ที่พื้นพร้อมๆกัน
"โอ๊ย!!"
"ว๊าย!! เป็นอะไรหรือเปล่า คุณหมอ คุณพยาบาล
เสียงอึกทึกครึกโครมของสิ่งของที่ร่วงหล่นลงพื้นและเสียงดังโครมครามของร่างทั้งสองที่ล้มระเนระนาดลงไปกองอยู่ที่พื้นเช่นเดียวกัน พานทำให้ราชันที่กึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียงดีดตัวลุกขึ้นนั่ง และส่งเสียงกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ ทำให้เหล่าบรรดาพนักงานคนอื่นๆที่อยู่ด้านนอกของห้องหัตถการวิ่งกรูกันมารีบเปิดประตูออกในทันทีด้วยความตื่นตกใจ
"ว๊าย!! คุณหมอเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?"
"น่านฟ้าเป็นอะไรหรือเปล่าลูก?"
เหล่าพนักงานที่เปิดประตูเข้ามาต่างตื่นตะลึงและตกใจไปตามๆกัน เมื่อภาพที่เห็น คือทั้งสองคนนอนทับร่างของกันและกันอยู่ที่พื้นห้อง
"เชี่ย!!"
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องตกใจมากที่สุด คือ ใบหน้าของศรัณยูซบลงที่เนินอกของน้องเต็มๆ ทำให้ศรัณยูถึงกับรีบอุทานคำหยาบคายออกมาด้วยความตื่นตกใจสุดชีวิต เมื่อเธอคือคนที่เขาเกลียดขี้หน้ามากที่สุดในเวลานี้
"หมอศรัณย์!!"
ทันทีที่ได้สติ ศรัณยูรีบยันตัวเองลุกออกจากร่างของคนน้องอย่างรวดเร็ว ดวงตาคู่คมกวาดตามองไปยังร่างเล็กที่นอนอยู่ที่พื้น แทนที่เขาจะช่วยพยุงร่างเธอขึ้นมาแต่ทว่ากลับเร่งขายาวเดินจ้ำอ้าวออกจากห้องหัตถการไปในทันที
"น้องน่านเป็นอะไรมากมั้ยเนี่ย เจ็บตรงไหนมั้ย?"
ราชันรีบกระโดดลงจากเตียงพร้อมๆกับพนักงานคนอื่นมาช่วยพยุงร่างของพยาบาลสาวขึ้นจากพื้นอย่างทุลักทุเล
ห้องน้ำชาย
"ซวยสุดๆ ไปเลย ทำไมต้องเกิดเรื่องบ้าแบบนี้ขึ้นด้วยวะ!!"
ศรัณยูรีบเข้ามายังห้องน้ำด้วยความรวดเร็ว เมื่อภายในใจหงุดหงิดเต็มทน เขาบ่นพึมพำกับตัวเองในห้องน้ำอย่างหัวเสียที่ตนเองล้มไปทับคนน้องไปที่พื้น แต่ทว่าเมื่อคิดถึงเรื่องราวและสัมผัสนั้นเพียงแค่เสี้ยววินาทีเดียวกลับทำให้เขากระวนกระวายรีบยกนิ้วขึ้นสัมผัสใบหน้าของตนเองในทันที
"เห้ย!! คิดแบบนั้นได้ไงวะ!!"
ใบหน้าเรียวสวยสะบัดไปมาเมื่อคิดถึงเนินเนื้อนุ่มที่รองรับใบหน้าของเขาในไม่กี่นาทีที่ผ่านมานั้น
"ไม่มีหรอกเนื้อ มีแต่ฟองน้ำชัดๆ"
แม้ภายในใจจะรู้สึกได้ถึงความเต็มไม้เต็มมือและความนู้นของก้อนเนื้อนั้นเด่นชัดแค่ไหน แต่ศรัณยูกลับพยายามหาเหตุผลมาปิดกั้นรสสัมผัสนั้นเอาไว้ ก่อนจะนึกได้ว่าทุกคนเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเองและเธอ
"โธ่เว้ย เรื่องบ้าๆนี่บัดซบสิ้นดีเลย"
ศรัณยูทั้งโมโหทั้งเขินอายในคราเดียวกัน ก่อนจะรีบเปิดน้ำล้างหน้าตัวเองเพื่อสงบสติอารมณ์ที่กำลังคลุ้มคลั่งให้ผ่อนคลายความกังวลใจลง
Talk
เนี่ยคนมันมันชอบเนินอวบๆ แต่ทำเป็นเกลียดน้อง โธ่พ่อ!! ยอมรับเถอะว่าชอบก้อนนุ่มๆของเขาอะ55555
