บท
ตั้งค่า

งี่เง่าที่สุด

เช้าวันต่อมา

โรงพยาบาล BDM

ร่างของพยาบาลสาวเดินตรงมายังห้องหัตถการก่อนเวลาเริ่มงานจริง เพื่อที่จะมาเตรียมของและอุปกรณ์ต่างๆ ไว้สำหรับเข้าเคสหัตถการกับลูกค้า แต่ต้องสะดุ้งตื่นตกใจเมื่อเจอเงาของใครบางคนนั่งกอดอกจ้องมองร่างเธอตาเขม็งอยู่ภายในห้องเงียบๆเพียงลำพัง

"แรดไม่เบาเลยนะ ไปเที่ยวมาตั้งดึกดื่นยังมาทำงานได้อีก"

"นี่ว่าตัวเองด้วยหรือเปล่าคะ เห็นว่าหมอศรัณย์ก็ไปเหมือนกัน ที่สำคัญมาถึงโรงพยาบาลเร็วกว่าน่านอีก แรดไม่เบาเหมือนกันเลยนะคะเนี่ย"

เมื่อเห็นสายตาและสีหน้าท่าทางของศรัณย์อยู่ที่ดูถูกเหยียดหยามเธอมีหรือคนอย่างน่านฟ้าจะยอมให้เขาต่อว่าอยู่ฝ่ายเดียว เธอตอบกลับเขาไปด้วยท่าทางยอกย้อนจนน่าหมั่นไส้สุดๆ เช่นเดียวกัน

"น่านฟ้า!!"

ฝ่ามือแกร่งรีบคว้าต้นแขนของพยาบาลสาวอย่างรวดเร็ว เขาออกแรงบีบมันอย่างรุนแรง เมื่อต้องการสร้างความเจ็บปวดให้กับคนร่างเล็กที่ยังคงพยายามแกะมือเขาออกอย่างเงียบๆ ไร้ซึ่งเสียงร้องครวญครางเฉกเช่นเคย

"หมอศรัณย์ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของน่านหรอกนะคะ เอาเรื่อง…"

"เหอะ!! เก่งเรื่องแรดๆกะหนุงกะหนิงกับผู้ชายนักนะ เรื่องงานให้มันเก่งแบบนี้ด้วยก็แล้วกัน

ฝ่ามือแกร่งสะบัดต้นแขนของพยาบาลสาวออกอย่างรุนแรงก่อนจะเดินออกจากห้องไป

"หมาบ้า มาเสือกอะไรด้วยวะเนี่ย"

น่านฟ้าบ่นพึมพำกับตนเองก่อนจะปรายตามองตามแผ่นหลังของศรัณยูออกไปด้วยความหงุดหงิดใจแต่เช้า เมื่อเธอตั้งใจจะมาทำงานไม่ได้ตั้งใจจะมาทะเลาะกับเขา แต่ก็ไม่วายต้องตบตีกันทุกวันเหมือนเดิม

เวลา 11.50 นาที

หน้าเคาน์เตอร์พยาบาล

"สวัสดีครับ"

"สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ช่วยเหลือคะ?"

เสียงสนทนาของชายหนุ่มและพนักงานประจำหน้าเคาน์เตอร์พยาบาลดังแทรกเข้ามาในห้องหัตถการ ทำให้น่านฟ้าที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดเรียงสต๊อกภายในห้องถึงกับชะงักเมื่อเจ้าของเสียงนั้นค่อนข้างคุ้นหูมากเป็นพิเศษ

"ผมมาหาคุณหมอศรัณยูครับ ผมเป็นเพื่อนเขาไม่แน่ใจว่ายังออกตรวจที่ OPD อยู่หรือเปล่าครับ?"  [OPD = ผู้ป่วยนอก]

"คุณหมอศรัณย์หรือคะ? สักครูนะคะ"

เสียงการสนทนาจบลง พร้อมๆกับร่างของพนักงานต้อนรับที่กำลังเดินตรงดิ่งเข้ามายังห้องหัตถการ ก่อนจะเอ่ยเรียกชื่อของหญิงพยาบาลสาวขึ้น เพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับตารางออกตรวจของศัลยแพทย์หนุ่มในวันนี้

"น้องน่านจ๊ะ"

เสียงเรียกชื่อของพยาบาลสาวดังลั่น หน้าห้องหัตถการทำให้ปกป้องที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์พยาบาลถึงกับตกใจ เมื่อชื่อของเธอดันคล้ายคลึงกับหญิงสาวที่ตนเองหมายปองของคืนที่ผ่านมา

"ค่ะพี่ปลา?"

"คุณหมอศรัณย์ยังออกตรวจอยู่ที่ OPD อยู่หรือเปล่าลูก"

"ยังอยู่ค่ะ!!"

น่านฟ้าที่เดินออกมาจากห้องหัตถการถึงกลับต้องตกใจเมื่อเจอปกป้องยืนยิ้มให้เธอด้วยท่าทางตื่นเต้นดีใจที่เจอเธอเช่นเดียวกัน

"พี่ปกป้อง!!"

"น้องน่าน ทำงานอยู่ที่นี่หรือครับ?"

"อ๋อ!!เอ่อ…ค่ะ"

ร่างเล็กตอบกลับเขาไปด้วยท่าทางอึดอัดและทำตัวไม่ถูกไม่รู้จะต้องทำหน้าอย่างไร เมื่อเห็นว่าปกป้องรู้ว่าเธอเองทำงานอยู่ที่เดียวกับศรัณยูแถมยังร่วมงานกันแทบทุกวันอีกด้วยต่างหาก

"แล้วทำไม…"

"คุณหมอศรัณย์อยู่ห้องตรวจฝั่งนี้ค่ะ"

น่านฟ้ารีบตัดบทเพราะรู้ว่าปกป้องจะต้องถามเธอเกี่ยวกับเรื่องของเธอและศรัณยูเป็นแน่ หญิงสาวจึงรีบเดินนำหน้าปกป้องไปยังหน้าห้องตรวจของศรัณยูในทันที

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

"หมอศรัณย์น่านเองค่ะ"

"มีอะไรอีก?"

 ร่างใหญ่กระชากประตูเลื่อนของห้องตรวจออกอย่างรวดเร็วด้วยความรู้สึกหงุดหงิดใจที่น่านฟ้าเข้ามาขัดจังหวะเขาที่กำลังพิจารณาเคสที่มาปรึกษาเสริมจมูกจากรูปภาพที่อยู่ภายในห้องตรวจ

"เฮ้ย!! ไอ้ป้อง!!"

ใบหน้าเรียวสาวของศัลยแพทย์หนุ่มซีดเซียวลงในทันทีที่เปิดประตูออกมาเจอปกป้องยืนยิ้มอยู่ข้างๆน่านฟ้าที่หน้าห้องตรวจของเขาในตอนนี้ เพราะศรัณยูไม่เคยคิดจะบอกเพื่อนอยู่แล้วตั้งแต่แรกว่ารู้จักกันเป็นการส่วนตัวกับพยาบาลสาวคนน้อง

"เออ!! กูนี่แหละ"

"มึงมาทำไมวะ?"

ศรัณยูรีบถามปกป้องออกไปด้วยความสงสัยและความตกใจในขณะเดียวกัน ก่อนจะมองหน้าเพื่อนสลับกับใบหน้าหวานของคุณน้องที่คงยืนก้มหน้าก้มตาอยู่อีกฝั่ง

"มึงลืมนาฬิกาไว้บนโต๊ะเมื่อคืน กูเลยแวะเอามาให้"

ปกป้องยื่นนาฬิกาข้อมือเรือนหรูสีดำสนิทให้กับศรัณยู ที่ลืมไว้ที่ร้านอาหารเมื่อคืนก่อนที่เขาจะขอตัวกลับคอนโดหลังจากที่น่านฟ้าออกจากร้านไปได้ไม่ถึง15 นาที

"เออวะ!! ขอบใจมากเพื่อน"

"แล้วนี่ ทำไมมึงไม่บอกกูว่าน้องน่านทำงานอยู่กับมึง แหม่!! ทำเป็นไม่รู้จักกันเลยนะสองคนเนี่ย”

สิ้นเสียงของปกป้องใบหน้าเรียวสวยของศรัณยูซีดเผือดไร้เลือดฝาดยิ่งกว่าเดิม เขาเองไม่รู้จะตอบเพื่อนหรือทำตัวยังไงให้ดูปกติมากที่สุด เมื่อโดนปกป้องจับโป๊ะได้ในตอนนี้ ได้แต่กวาดตาคมหันไปมองหน้าหวานของพยาบาลสาวที่แสดงออกไม่ต่างอะไรจากเขานัก

"เออน่า เดี๋ยวเล่าให้ฟังแล้วกัน มึงก็กลับไปได้แล้ว"

"ไม่กลับ โทษฐานที่มึงปิดบังเรื่องนี้กับกู ไปแดกข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนกูเลยตอนนี้"

"ตอนนี้?"

ศรัณยูเน้นย้ำคำพูดของปกป้องอีกครั้งเพื่อความชัดเจน ในเมื่อเขาพยายามที่จะตัดปัญหาโดยการไล่เพื่อนกลับไป แต่ทว่าปกป้องกลับไม่ยอม แถมยังคะยั้นคะยอให้เขาไปทานข้าวเที่ยงด้วยกันอีกในตอนนี้

"ใช่?"

"เฮ้อ!! เออก็ได้ไอ้สัส!!”

ร่างใหญ่ถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนจะรับปากปกป้องไปเพื่อตัดความรำคาญ

"ดีเลย น้องน่านไปด้วยกันนะครับ"

"ไม่ได้เว้ย มึงจะไปชวนไปด้วยทำไม?"

ศรัณยูรีบเอ่ยทักท้วงขึ้นมาในทันที ด้วยท่าทางไม่ชอบใจยิ่งนัก แต่ทว่าเขาต้องตกใจอีกกับคำตอบของเธอ

"ไปค่ะ"

น่านฟ้ารีบตอบรับคำชวนของปกป้องในทันทีด้วยความหมั่นไส้ศรัณยู ที่ทำท่ารังเกียจเหยียดหยามเธอออกนอกหน้าอย่างชัดเจนขนาดนั้น แต่ทว่าสิ่งที่เธอต้องการคืออยากจะคุยกับเขาจริงๆจังๆสักทีในเรื่องของการทำงาน เพราะถ้ายังคงตบตีและทะเลาะกันอยู่อย่างนี้คนที่จะทำงานลำบากนั่นคือเธอคนเดียว 

"ไม่ได้!!"

"เอาน่าไอ้ศรัณย์ ไปกันหลายๆคนสนุกดี"

"ไม่!! ถ้ามึงอยากไปมึงก็ไปกันสองคนเลย กูไม่ไปและจะไม่มีวันกินข้าวรวมโต๊ะกับยัยนี่เด็ดขาด"

ศรัณยูเริ่มแสดงความหงุดหงิดออกมาอย่างเห็นได้ชัดเมื่อความต้องการของเขาชัดเจนตั้งแต่เริ่มแรกว่าจะไม่รวมโต๊ะอาหารกับพยาบาลสาวคนที่เขาเกลียดชังขี้หน้าอีก

"เป็นเหี้ยอะไรของมึงวะไอ้สัส เมื่อคืนก็ยังนั่งรวมโต๊ะกันได้ และนี่กูก็อุตส่าห์เอาของมาคืน มึงจะทำงี้กับกูหรอไอ้ศรัณย์!!"

เมื่อปกป้องเห็นถึงความไม่สมเหตุสมผลของศรัณยูเขาก็ทนไม่ได้ที่จะบ่นเพื่อนออกไปเช่นนั้น กระทั่งทำให้เขาถึงกับชะงักและเงียบไปสักพักหนึ่งราวกับว่ากำลังครุ่นคิดสิ่งที่ปกป้องพูดไปเมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา

"แค่น้องน่านไปกินข้าวด้วยจะเป็นจะตายเลยไง ปัญญาอ่อนฉิบหาย!!"

น่านฟ้าถึงกลับหลุดขำออกมาด้วยความสะใจล้วนๆ ที่คนปากร้าย นิสัยเสียอย่างเขาจะถูกเพื่อนด่าสั่งสอนเสียบ้าง

"ขำทำไม? ตลกมากเหรอยัยหน้าโง่"

"เปล่าคะ"

"ไปเถอะไอ้ศรัณย์ ถือว่ากูขอร้อง กูหิวข้าวแล้วเนี่ย"

"เอ่อ!! ก็ได้ ไอ้สัส!!"

สุดท้ายเมื่อเพื่อนขอร้อง เขาจำต้องยอมไปตามคำชวนของปกป้องแต่ยังไม่วายหันกลับมาจ้องมองหน้าน้องปานจะจิกหัวของเธออยู่ไม่ไกล

ร้านอาหารไทย

เมื่ออาหารทุกจานมาวางครบอยู่บนโต๊ะปกป้องได้แต่คอยดูแล คอยตักอาหารใส่จานให้กับน่านฟ้าอย่างเอาอกเอาใจ ส่วนศรัณยูได้แต่นั่งหน้าบูดหน้าบึ้งจ้องมองการกระทำของเพื่อนตนเองด้วยความรำคาญและไม่พอใจมากที่สุด

"ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยสิวะ อาหารเขาออกจะอร่อย"

"แต่กูไม่อร่อย"

ถึงแม้จะตอบเพื่อนออกไปเช่นนั้นแต่สายตาคู่อาฆาตยังจ้องมองไปยังใบหน้าสวยหวานที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เพื่อแสดงให้มองเห็นว่าสาเหตุที่ทำให้เขาทานอาหารไม่อร่อยนั้นมาจากเธอคนเดียว

"มึงก็จงเกลียดจงชังน้องเกินไป"

แม้รู้ว่าสายตาคมคู่นั้นจ้องมองมาที่เธอด้วยความเกลียดชังแต่น่านฟ้ายังคงนั่งรับประทานอาหารต่อไปโดยไม่สนใจเขาแม้แต่นิดเดียว

"แล้วกูถามจริงๆ ทำไมมึงไม่บอกว่าน้องน่านทำงานที่เดียวกันวะ"

"กูแค่ไม่อยากให้ใครรู้ว่ามี…คนโง่!! ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลของกูวะ"

เมื่อหลีกเลี่ยงคำถามของปกป้องไม่ได้ ศรัณยูเลยจงใจที่จะตอบมันออกมาอย่างชัดเจนก่อนที่เขาจะเน้นหนัก ตรงประโยคนั้นรีบหันหน้าไปมองจ้องมองใบหน้าหวานของคนน้องด้วยท่าทางสะใจ

"งั้นดีเลยค่ะ น่านจะได้คุยตรงนี้ให้จบๆไปซะเลย"

น่านฟ้าที่เห็นสายตาคู่คมของศรัณยู กลับรู้สึกหงุดหงิดใจ จึงรีบปิดเปิดประเด็นขึ้นมากลางโต๊ะอาหารในทันที

"น่านรู้ว่าหมอศรัณย์ไม่ได้ชอบหน้าน่าน เพราะอะไรหลายๆอย่าง แต่ที่น่านอดทนอยู่ที่นี่เพราะอยากทำงาน"

"หึ แต่ก็ทำอะไรไม่เคยได้ดีเลยสักอย่าง"

"ใช่ค่ะ!! น่านไม่เคยทำอะไรได้ดีเลยในสายตาของหมอศรัณย์ นั้นมันเป็นเรื่องของหมอที่เอาแต่ความคิดและอคติของตัวเองมาตัดสินน่าน"

"ฉันไม่ได้เอาอคติมาตัดสินเธอ เธอมันโง่จริงๆเข้าใจมั้ย?"

ต่อให้น่านฟ้าจะหาเหตุผลอะไรมาพูดคุยกับเขาแต่ถ้าว่าศรัณยูยังคงต่อต้านเธอเช่นเคย เขาไม่ยอมรับว่าตัวเองใช้อคติมาเป็นบรรทัดฐานในการตัดสินเธอจริงๆ ก่อนจะตวาดเสียงดังลั่นจนลูกค้าที่นั่งอยู่ภายในร้านหันกลับมามองอย่างโต๊ะของเขากันเป็นตาเดียว

"เฮ้ยใจเย็นๆ ไอ้ศรัณย์ เบาๆหน่อยคนมองใหญ่แล้ว"

"น่านไม่ได้โง่ แต่ที่น่านทำอะไรไม่เคยถูกใจหมอศรัณย์เลย เป็นเพราะหมอเองต่างหากละคะที่ไม่มีปาก มีที่ไหนอยากได้อะไร อยากทำอะไรไม่พูดสักอย่าง น่านก็ไม่รู้ว่าหมอคิดอะไร แล้วน่านจะทำถูกใจได้ไงคะ พอทำไม่ถูกใจก็หาว่านานโง่ หมอศรัณย์ต่างหากที่งี่เง่าที่สุด"

"ยัยน่านฟ้า"

พยาบาลสาวรีบพูดความในใจของตนเองออกมาจนหมดเพื่อดึงสติให้ศรัณยูได้คิดตามบ้าง แต่ทว่าทำให้ปกป้องที่นั่งอยู่ข้างๆถึงกับต้องขำดังลั่นออกมาด้วยความสะใจที่เพื่อนถูกคนน้องใช้เหตุและผลได้ชัดเจนมากกว่าในการด่าเขากลับไปแบบนั้น

"เฮ้ย!! ใจเย็นดิวะ ไอ้สัส น้องพูดก็มีเหตุผลนะ"

"นี่มึงเข้าข้างยัยพยาบาลหน้าโง่นี่มากกว่ากูที่เป็นเพื่อนมึงเหรอไอ้ป้อง"

"ไม่ใช่เว้ย แต่มึงใจเย็นๆก่อน"

ปกป้องพยายามปรามเพื่อนให้ใจเย็นลง และใช้เหตุผลมากยิ่งขึ้นในการคุยกัน แต่ทว่ากลับทำให้น่านฟ้ารู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่เขาใช้ถ้อยคำไม่สุภาพและไม่มีเหตุและผลที่ดีในการต่อว่าเธอ

"หยุดเอาอาชีพมาด่าน่านสักทีได้แล้วนะคะ หมอศรัณย์เป็นหมอก็รักในอาชีพของตัวเอง น่านเป็นพยาบาลน่านก็รักอาชีพของน่านเหมือนกัน"

ใบหน้าหวานเริ่มแดงก่ำขึ้นมาในทันที เมื่อความชื้นได้แผ่ซ่านมาล้อมรอบรอบดวงตาของเธอ ทำให้รอบร่องลึกเจิ่งนองไปด้วยน้ำใส เมื่อเธอเสียความรู้สึกมากที่สุดที่ศรัณยูไม่ยอมฟังเหตุผลอะไรเลย แม้กระทั่งเพื่อนที่พยายามเป็นกลาง เขายังคิดว่าปกป้องเข้าข้างตัวเธออีก

"ไม่ต้องทำมาบีบน้ำตาให้ตัวเองดูน่าสงสารหรอกนะ มันไม่ได้ผลเว้ย"

"เฮ้ย!! ไอ้ศรัณย์"

ร่างใหญ่รีบดีดตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้และสะบัดตัวเดินหนีออกจากร้านไปขึ้นรถของตัวเองในทันที ปล่อยให้คนน้องได้แต่นั่งซึม รีบเช็ดหยดน้ำตาออกจากแก้มเนียนก่อนที่ปกป้องจะหันกลับมาเจอ

"น้องน่านพี่ต้องขอโทษแทนเพื่อนพี่ด้วยนะครับ"

"ไม่เป็นไรค่ะ น่านเข้าใจ"

"เฮ้อ!! ไอ้นี่มันบ้า นิสัยแบบนี้ตลอดเลย ถ้ามันอคติกับใครแล้วไม่มีใครเปลี่ยนใจมันได้ง่ายๆ น้องน่านต้องอดทน ทนกับมันหน่อยนะครับ"

ใบหน้าสวยหวานพยักหน้างึมงำ พลางส่งยิ้มเจือจางให้กับปกป้องที่นั่งให้กำลังใจเธออยู่ข้างๆกัน ก่อนที่ดวงตาคู่สวยรีบร้อนมองออกไปยังกระจกใสของตัวร้าน ที่ปรากฏรถสปอร์ตหรูสีเหลืองอรามขับพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็วด้วยท่าทางหัวเสียกับการสนทนาที่ล้มเหลวของเขาและเธอในวันนี้

Talk

เฮ้อ คนมันงี่เง่าต่อให้พูดยังไงมันก็ยังงี่เง่าอยู่วันยังค่ำ แถมเอาแต่ใจตัวเองนัมเบอร์วันขนาดนี้ เหนื่อยหน่อยนะลูกสาวววว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel