คนประสาทแดก
1 เดือนผ่านไป
ฝ่ายบุคคล
ตั้งแต่วันนั้นวันที่น่านฟ้าได้ต่อว่าศรัณยูในร้านอาหาร แทนที่เขาจะสำนึกผิดได้ แต่ทว่ากลับทวีความรุนแรงขึ้น ยิ่งทำให้การทำงานของเธอล้มลุกคลุกคลานมาตลอดเกือบหนึ่งเดือน เธอยังคงทำงานลำบากมากยิ่งขึ้นและคอยตบตีทะเลาะกับเขาอยู่ทุกๆวัน โดยไม่มีใครยอมใครเลยแม้สักนิดเดียว จนกระทั่งถึงช่วงประเมินโปรเบชั่นในรอบแรก
"ที่พี่เรียกน้องน่านมาวันนี้ น่านรู้ใช่มั้ยลูกว่าเพราะอะไร?"
จอยลดาพอจะรู้เรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับน่านฟ้าและศัลยแพทย์หนุ่มสุดเรื่องมากอันดับหนึ่งของโรงพยาบาลอย่างศรัณยูเป็นอย่างดี เธอมีหน้าที่รอรับการประเมินจากศัลยแพทย์คนอื่นที่ทำงานเกี่ยวข้องกับน่านฟ้า รวมถึงศรัณยูด้วยเช่นกัน จึงทำให้เป็นเรื่องค่อนข้างลำบากใจที่จะต้องบอกคนน้องไปตามตรงเกี่ยวกับผลการประเมินของเธอในรอบแรกนี้
"น่านรู้ค่ะพี่จอย"
ใบหน้าหวานดูสลดลงอย่างชัดเจนถึงแม้ว่าจอยลดาจะไม่ได้บอกถึงผลการประเมินของเธอในทันที แต่พยาบาลสาวก็พอจะเดาออกได้พอสมควรว่าการประเมินของเธอคงจะอยู่ในขั้นต่ำเตี้ยเรี่ยดินเป็นแน่แท้ เมื่อเธอยังคงทะเลาะตบตีอยู่กับศัลยแพทย์หนุ่มคนเดียวที่มีผลต่อการประเมินของเธอมากที่สุด
"หมอศรัณย์ประเมินให้น่านไม่ผ่าน คะแนนต่ำมากๆ พี่ไม่รู้จะอธิบายน่านยังไงดีให้น่านไม่รู้สึกท้อไปมากกว่านี้"
"น่านคิดไว้แล้วค่ะพี่จอย ยังไงซะเขาไม่มีทางประเมินให้น่านผ่านเดือนหนึ่งอยู่แล้ว"
พยาบาลสาวตอบจอยลดาออกไปแค่นั้น ก่อนจะก้มหน้าลงมองที่นิ้วมือของตนเองด้วยความรู้สึกหงุดหงิดอยู่ภายในใจ แต่ทว่าเธอยังคงยอมรับได้ในผลการประเมินที่เกิดขึ้น
"แต่หมอท่านอื่นประเมินน้องน่านดีมากๆเลยนะลูก"
"ค่ะพี่จอย เดี๋ยวน่านจะต้องไปขอบคุณหมอท่านอื่นด้วยตัวเองอีกทีหนึ่งค่ะ"
"ดีแล้วลูก"
จอยลดาส่งยิ้มจางๆเพื่อให้คนน้องมีกำลังใจ ในการสู้รบตบมือกับศรัณยูต่อไปให้ถึงที่สุด เพราะเธอรู้ดีว่าริสาทำงานค่อนข้างลำบากหากไม่มีน่านฟ้าเข้ามาประจำอยู่ในโรงพยาบาลแห่งนี้
"แต่ว่าตามกฏของบริษัทแล้ว ถ้าอีก 2 เดือน หมอศรัณย์ยังประเมินให้น่านไม่ผ่านอีก น่านรู้ใช่มั้ยว่าจะต้องออกจากงาน"
"น่านรู้กฎค่ะ พี่จอย"
หน้าตาของน่านฟ้าดูไม่สดใสและร่าเริงเฉกเช่นเคย กลับทำให้จอยลดารู้สึกหนักใจ เป็นกังวลกลัวว่าคนน้องจะถอดใจและท้อขอลาออกไปเสียก่อนที่ยังคงเหลือการประเมินอีกตั้งสองครั้งกว่าจะประกาศผลอย่างชัดเจน
"พี่ขอโทษจริงๆนะน่านที่ต้องบอกไปตรงๆ พี่รู้ว่าน่านกังวล"
"ไม่ใช่ค่ะพี่จอย ไม่ใช่เลย"
สิ้นเสียงของน่านฟ้าทำให้จอยลดาถึงกับขมวดคิ้วงุนงงบนใบหน้าอย่างชัดเจน เมื่อสิ่งที่พยาบาลสาวเอ่ยออกมาไม่ตรงกับความคิดและความรู้สึกของเธอเอง
"อีก 2 เดือน ยังไงหมอศรัณย์ ก็คงประเมินไม่ให้น่านผ่านโปรอีกอยู่ดี น่านแค่กำลังคิดว่าทำยังไงจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุดต่างหากละ"
"อะ อ้าว ฮ่าๆ"
เมื่อรับรู้ถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของพยาบาลสาวรุ่นน้องทำให้จอยลดาถึงกับขำออกมาด้วยความลืมตัว ก่อนจะรีบยกมือขึ้นปิดปากของตนเอง จ้องมองใบหน้าสวยหวานของคุณน้องที่กำลังยิ้มให้เธออย่างรู้ทัน
ห้องหัตถการ
ภายในห้องหัตถการที่เงียบสงบพยาบาลสาวเดินตรงดิ่งเข้ามายังไม่ทันได้ระวังตัวเมื่อภายในใจกำลังครุ่นคิดเรื่องราวต่างๆมากมายที่ได้รับรู้มาจากฝ่ายบุคคล กลับต้องสะดุ้งเมื่อเสียงของใครบางคนที่คุ้นหูดังแทรกขึ้นมาจากทางด้านหลัง
"ยังไม่ถูกไล่ออกอีกเหรอ?"
"ไล่ก็ไม่ไปค่ะ"
ต่อให้ศรัณยูจะต่อว่าหรือสรรหาคำต่างๆมาเหน็บแนมเธอในรูปแบบใด เธอเลือกที่จะไม่ใส่ใจและไม่คล้อยตามกับคำพูดปั่นประสาทของเขาอีก คอยหยิบอุปกรณ์ต่างๆขึ้นมาทำความสะอาดอยู่เนืองๆ
"หน้าด้านจริงๆ ฉันไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนหน้าด้านเท่าเธอมาก่อนเลยนะ"
"ถ้าไม่เคยเห็นก็ดูไว้ซะนะคะ คนแบบน่านนี่แหละหน้าด้านสุดๆแล้ว"
ดวงตากลมเบี่ยงเบนจากอุปกรณ์ที่เธอกำลังทำความสะอาดอยู่ที่โต๊ะ ก่อนจะค่อยๆปรายตามองมายังศรัณยู ที่ยังคงยืนกอดอกจองหน้าเธอด้วยท่าทางที่กำลังโมโหจนแทบเดือนพล่าน
"หน้าด้านไม่พอ โง่ และก็ซื่อบื้ออีกต่างหาก"
"การที่หมอศรัณย์อุตส่าห์ลดตัวมาเถียงกับน่านก็โง่พอๆกันแหละคะ"
"น่านฟ้า!!"
"วะ ว๊าย!!"
ร่างใหญ่ตรงปรีเข้ามากระชากต้นแขนของพยาบาลสาวอย่างแรง ทำให้น่านฟ้าถึงกับร้องออกมาด้วยความตกใจ
"นี่น่านเจ็บนะคะ"
เพียงเท่านั้นยังไม่พอเขายังกระชากตัวเธอเข้ามาใกล้ตัวเองมากขึ้นโดยอัตโนมัติ แต่ด้วยความที่เขาตัวสูงมากกว่าแรงกระชากจึงทำให้คนน้องเสียหลักและล้มไถลไปชนหน้าอกของเขาในทันที
"อื้อ!!"
เมื่อเกิดแรงเหวี่ยงจากร่างเล็กส่งไปกระแทกยังร่างใหญ่ ศรัณยูล้มไถลหงายหลังไปกับขอบโต๊ะอย่างรวดเร็ว ฉุดให้ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเขาตามสัญชาตญาณ แต่มันกลับทำให้ใบหน้าของเขาและเธออยู่ห่างกันเพียงแค่นิ้วชี้เดียว
"อ๊ะ!! โอ๊ยเจ็บนะ"
แค่เสี้ยววินาที หัวใจทั้งดวงเต้นสั่นรุนแรงราวกับถูกกระตุ้นด้วยเครื่องช็อตไฟฟ้า ฝ่ามือหนารีบผลักร่างของคนน้องออกไปจากตัวเองอย่างรวดเร็วด้วยความตื่นเต้นและตกใจ จนกระทั่งเธอเซล้มก้นกระแทกพื้นอย่างรุนแรง
"คนบ้า ผลักกันมาได้ยังไงแรงขนาดนี้"
หัวใจทั้งดวงของศรัณยูตกวูบไปอยู่ที่ปลายเท้า เมื่อเห็นเธอเจ็บตัวเพราะเขา แต่ทว่าเขากลับไม่สามารถควบคุมตนเองได้ จึงเลือกที่จะเดินออกจากห้องหัตถการไปทิ้งไว้เพียงพยาบาลสาวที่ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดอยู่ที่พื้นห้อง
ห้องน้ำชาย
'ทำไมต้องตื่นเต้นขนาดนั้น เป็นเหี้ยไรหนักหนาวะไอ้ศรัณย์'
ศรัณยูเอาแต่เฝ้าถามตัวเองอยู่ภายในใจ รีบยกมือขึ้นปาดเหงื่อออกจากใบหน้าสะเปะสะปะ รีบก้มลงไปมองยังที่นิ้วมือของตนเองที่เต็มไปด้วยคราบเหงื่อสีใสด้วยความรู้สึกกระวนกระวายและตื่นตกใจกับความผิดปกติของร่างกายที่เกิดขึ้น
"สั่นตอนไหนไม่สั่น ทำไมต้องมาสั่นตอนใกล้กับยัยโง่นั้นด้วย ไม่เข้าใจจริงๆ"
เรียวปากหยักแดงก่ำยังคงบ่นพึมพำอยู่กับตนเองเพียงลำพังในห้องน้ำชาย โดยที่เขาเองไม่เข้าใจความรู้สึกของตนเองที่มีต่อคนน้องใน ว่าแท้จริงแล้วตอนนี้กำลังเกลียดชังเธออยู่หรือว่ารู้สึกอะไรมากกว่านั้นกันแน่
เวลา 20.20 นาที
ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างหนักหน่วงในช่วงเลิกงานของน่านฟ้า ทำให้เธอไม่สามารถเดินกลับไปขึ้นรถไฟฟ้า BTS ได้ในขณะนี้เธอได้แต่ยืนรออยู่ภายนอกตัวตึกเงียบๆคนเดียวเพียงลำพังเพื่อให้ฝนซ่าลง
"ฝนตกแรงขนาดนี้เมื่อไหร่จะได้กลับเนี่ย!! รอให้หยุดก่อนละกัน"
เธอยังคงยืนลูบไล้ต้นแขนของตนเองอยู่หน้าประตูทางเข้าของโรงพยาบาล เมื่อร่างกายสัมผัสได้ถึงละอองฝนและความชื้นที่ตกกระทบเข้ามาทำให้น่านฟ้ารู้สึกถึงความหนาวเย็นมากยิ่งขึ้น
"หึ กลับบ้านไม่ได้ละสิท่า สมน้ำหน้ายืนรอต่อไปเถอะ"
สายตาคู่คมกวาดตามองออกมานอกหน้าต่างของรถสปอร์ตหรู กลับเห็นว่าน่านฟ้ายังคงยืนอยู่หน้าตัวอาคารเพียงคนเดียว ด้วยความหมั่นไส้เขาจึงหยุดรถกะทันหัน ค่อยๆเลื่อนกระจกรถลงมาเพียงเล็กน้อย ก่อนจะเผลอจ้องมองเรือนร่างของเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความลืมตัว
'หน้าตาก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร หุ่นก็ถือว่า…อื้ม ถ้าไม่โง่ไปหน่อยก็ถือว่าโอเค'
ความคิดดังวนเวียนอยู่ภายในใจของศัลยแพทย์หนุ่ม จนเผลอยิ้มกรุ้มกริ่มออกมาราวกับว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างกับเรือนร่างของพยาบาลสาวที่เขาเกลียดขี้หน้า
"หมอศรัณย์!!"
เสียงท่อขอรถสปอร์หรูดังสนั่นเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้เธอมากขึ้น พลันทำให้น่านฟ้ารีบหันกลับมามองยังเขาในทันที ก่อนจะเห็นว่าดวงตาคมคู่นั้นจ้องมองมาที่เธอด้วยสีหน้าและแววตาที่แปลกประหลาดไปจากเดิมที่เคยเห็น เพียงแค่เสี้ยวนาทีเดียวมันกลับเปลี่ยนแปลงไปเป็นแข็งทื่อเฉกเช่นเดิมกับที่เธอคุ้นเคยอีกครั้ง
"ไม่มีรถก็ลำบากหน่อยนะ คงทำได้แต่ยืนโง่ๆรอฝนหยุดต่อไป"
พูดจบเขารีบปิดกระจกรถลง เหยียบคันเร่งกระแทกเสียงท่อใส่หน้าน่านฟ้าเสียงดังสนั่นหวั่นไหวแข่งกับเสียงฝนตกโปรยปรายในทันที ทำให้คนน้องต้องรีบยกมือถึงมาปิดหูเอาไว้ด้วยความหงุดหงิดสุดๆ
"ประสาท!! ขอให้ได้กัดได้จิกแค่นี้ก็เอา ไปพบจิตแพทย์บ้างนะ ไอ้คนบ้า"
น่านฟ้าถึงกับลอบบ่นเสียงเบาบาง คอยจ้องมองรถสปอร์ตหรูที่กำลังเคลื่อนตัวออกไปไกลเธอมากขึ้นด้วยความรู้สึกแปลกประหลาดที่เกิดอยู่ภายในใจ คลุกเคล้ากับความรู้สึกหงุดหงิดใจเมื่อเห็นสายตาคู่คมของศรัณยูที่เปลี่ยนแปลงไปเพียงแค่เสี้ยววินาทีที่เธอหันไปสบตา
"ทำไมหมอศรัณย์ต้องมองกันด้วยสายตาแบบนั้น หมายความว่ายังไงนะ?"
ภายในใจเต้นสั่นโครมครามอย่างรุนแรง ก่อนที่น่านฟ้าจะรู้สึกเสียวสันหลังวูบวาบ เริ่มรู้สึกม้วนท้องราวกับผีเสื้อนับล้านตัววิ่งวนอยู่ในท้องของเธอ เมื่อนึกย้อนไปถึงสายตาและใบหน้าของศรัณยูก่อนที่รถจะพุ่งตัวออกไปจากตัวอาคาร
Talk
แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ แนะๆ เห็นนะๆพ่อ ว่าคิดอะไรอยู่5555555
มีอีบุ๊ควางใน meb แล้วนาาาา
