8 หมอของมาเฟีย
ความตั้งใจแรกของเธอคือการรักษา แต่ทุกครั้งที่กระดุมหลุดออกจากกัน มันทำให้ความต้องการของคุณหมอเพิ่มมากขึ้น ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเองอย่างตามธรรมชาติ สายตาของเขาจับจ้องใบหน้าของเธอ ราวกับจะรับรู้ความต้องการของคุณหมอ ซึ่งนั่นมันก็ไม่ต่างอะไรจากเขาที่เป็นเลย
เมื่อเสื้อเชิ้ตสีขาวถูกปลดออกเรียบร้อย เรือนร่างที่สมบูรณ์แบบก็ปรากฏแก่สายตาของเจณิสาอีกครั้งอย่างเต็มตา มัดกล้ามเนื้อหน้าท้องที่เรียงตัวกันเป็นลอนแข็งแกร่งรับกับหน้าอกที่แน่นตึง สะท้อนถึงพละกำลังอันน่าเกรงขาม
ดวงตาของเธอจับจ้องไปบริเวณด้านซ้ายของลำตัว ที่มีร่องรอยของบาดแผลที่เธอเพิ่งเย็บให้เขาเมื่อตอนหัวค่ำ เจณิสาค่อย ๆ เปิดผ้าก๊อซออก เธอเพิ่งจะสังเกตว่ามันอยู่ต่ำลงไปมากเกือบถึงขอบกางเกงชั้นใน รอยเย็บเรียงเป็นแนวยาวตัดกับผิวสีขาวที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ
“ถ้าคุณทำแผลไม่สะดวก จะถอดกางเกงของผมออกให้ก็ได้ครับ” เฟลิกซ์กล่าว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความท้าทายและความปรารถนาที่ไม่อาจปิดบัง
เจณิสามองกางเกงสูททรงสลิมฟิตสีดำ ที่ถูกรัดไว้ด้วยเข็มขัดหนัง แล้วตัดสินใจปลดเข็มขัดและดึงขอบกางเกงลงมาเล็กน้อย เพื่อให้สะดวกมากขึ้นในการทำแผล แต่เฟลิกซ์ก็ดันถอดกางเกงของตัวเองลงไปเบื้องล่างทันที
“คุณ!!... คุณทำอะไรน่ะ!” เจณิสาตกใจกับการกระทำที่รวดเร็วของเขา ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวขึ้นทันทีที่เห็นบ็อกเซอร์บรีฟสีขาวที่โอบรัดความเป็นชายด้านล่างอย่างกระชับ
“ถอดแค่นี้จะไปทำแผลถนัดได้อย่างไรล่ะครับ...คุณหมอ” เฟลิกซ์ตอบและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ในใจหวังลึก ๆ ที่จะทำให้เธอหวั่นไหว
“ผมแค่อยากให้คุณสะดวกในการทำแผล” เขาจงใจใช้คำพูดที่ฟังดูสุภาพเพื่อกลบเกลื่อนความต้องการที่แท้จริง
เจณิสาไม่มีทางเลือก หน้าที่ของแพทย์อยู่เหนือความรู้สึกใด ๆ เธอสูดหายใจลึก พยายามรวบรวมสมาธิ
“โอเค...คุณตะแคงไปนิดค่ะ” เฟลิกซ์ยอมทำตาม
“อย่าขยับนะคะ” เธอบอกเสียงสั่น
ร่างกายของเขาบ่งบอกถึงการฝึกฝนและออกกำลังกายมาอย่างหนักหน่วง มันคือผลผลิตของการใช้ชีวิตอยู่บนความเสี่ยง มันคือร่างกายที่เพอร์เฟกต์ ไร้ไขมันส่วนเกิน มีเพียงพละกำลังที่น่าเกรงขาม
“คุณเจ็บมากมั้ย” เธอถามเสียงแผ่ว ดวงตาคมกริบของเขาวาววับ ก่อนจะแสร้งทำเป็นเจ็บปวด ทั้งที่ความจริงแล้วมันไม่ได้สาหัสเท่าที่เขาแสดงออก
“เจ็บสิครับ...คุณหมอ แต่ความสวยของคุณ...มันก็ทำให้ผมลืมความเจ็บไปเลย” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ร้อนเร่าและพร่าต่ำ ความดิบเถื่อนของมาเฟียเริ่มแผ่ซ่านออกมาพร้อมกับเสน่ห์ที่ยากจะต้านทาน
“ยังจะมาปากดีอีก” เจณิสาต่อว่าอย่างเขิน ๆ
“ทำไม ก็ผมพูดความจริงนี่” สิ้นเสียงมือของเขาโอบกอดเอวบางของเธอ แม้จะต้องแลกกับความเจ็บปวดที่เพิ่มขึ้นก็ตาม
“ฉันขอประเมินบาดแผลก่อนนะคะ คุณอยู่เฉย ๆ และเอามือออกก่อนค่ะ” หมอสาวเอ่ยเสียงแผ่ว เฟลิกซ์ยอมทำตาม ขณะที่มือของเธอสั่นเล็กน้อยและพยายามรักษาระยะห่างทางวิชาชีพไว้ แม้ว่าร่างกายของเธอจะอยู่ใกล้กับความเย้ายวนของมาเฟียหนุ่มอย่างไม่อาจปฏิเสธก็ตาม
เจณิสาพลางโน้มตัวลงไปใกล้ ๆ จนเส้นผมของเธอสัมผัสผิวที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อของเขา กลิ่นหอมสะอาดจากเรือนผมของเธอคลอเคลียกับกลิ่นกายที่น่าเกรงขามของเฟลิกซ์ มันคือกลิ่นของความอันตรายที่น่าลุ่มหลง
เธอมองบาดแผลที่อยู่ใกล้กับขอบกางเกงชั้นในของเขาอย่างจดจ่อ ความใกล้ชิดที่เกินความคาดหมายทำให้ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ความเขินอายแล่นวาบไปทั่วร่างของศัลยแพทย์สาวผู้เพียบพร้อม ราวกับไฟอุ่น ๆ ที่กำลังเผาผลาญผิวของเธอให้มอดไหม้
“บาดแผลของคุณมันเริ่มจะบวมแดงและอักเสบแล้วค่ะ ทำแผลเสร็จคุณต้องกินยาแก้อักเสบทันที”
“คุณอยู่นิ่ง ๆ ซิ!” ขณะสั่งขณะใช้สำลีก้อนนุ่มชุบน้ำเกลือทำความสะอาดบาดแผลอย่างเบามือ เฟลิกซ์ส่งเสียงครางต่ำ ๆ ในลำคอ มันไม่ใช่เสียงครางจากความเจ็บ แต่เป็นเสียงครางที่ฟังดูเหมือนการออดอ้อนเสียมากกว่า
“อยู่นิ่ง ๆ นะคะ ฉันต้องทำความสะอาดแผล” เขาเหลือบมองร่างของเจณิสาที่อยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม ชุดราตรีสีชมพูอ่อนที่ประดับไปด้วยคริสตัลทอประกายระยับยามที่เธอเคลื่อนไหว ชุดนี้เผยให้เห็นช่วงไหล่เนียน เรียวขาและเนินอกของเธอช่างเย้ายวน
คุณหมอสาวกำลังก้มตัวทำแผล ให้เขาอย่างตั้งอกตั้งใจนั้น...มันช่างล่อตาล่อใจ จนน่าหงุดหงิด ทำให้เขารู้สึกอยากจะฝืนความเจ็บปวด แล้วยื่นมือออกไปสัมผัสเธอให้รู้แล้วรู้รอด
เมื่อล้างแผลจนสะอาดแล้ว เจณิสาก็หยิบเบตาดีนขึ้นมา คุณหมอพยายามรวบรวมสมาธิให้กลับมาอยู่กับการทำแผลอีกครั้ง
“ต่อไปจะทาฆ่าเชื้อนะคะอาจจะรู้สึกแสบนิดหน่อย” เธอบรรจงใช้สำลีแตะยาลงบนรอยแยกของเนื้ออย่างเบามือ เฟลิกซ์กัดฟันกรอด รับรู้ถึงความแสบที่แล่นไปทั่วบาดแผล แต่เขาก็พยายามสะกดกลั้นไว้ไม่ให้มีเสียงร้องหลุดออกมา
“แผลของคุณค่อนข้างลึก ต้องทำความสะอาดให้ดี ไม่งั้นแผลจะติดเชื้อได้ง่าย”
“คุณนี่...ดูใส่ใจคนอื่นดีจัง”
“คุณชื่ออะไรเหรอครับ...คุณหมอ คุยกับมาตั้งนานผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย” เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขา หัวใจเต้นระรัวกับระยะที่ใกล้แค่เอื้อม
“เจณิสา!” เธอตอบ
“เจณิสา!” เฟลิกซ์เอ่ยชื่อของเธอซ้ำอย่างแผ่วเบา ราวกับกำลังฝึกเรียกชื่อของเธอ
“โอ๊ย!!!... เบาหน่อยสิคุณหมอ!!” เขาร้องด้วยความเจ็บ ขณะที่มือของเขาก็เลื่อนขึ้นมาจับมือของเธอที่ว่างอยู่อย่างจงใจ การสัมผัสที่ไม่ได้ช่วยให้หายเจ็บ แต่เป็นการกระชับความใกล้ชิดนั้นให้แนบแน่นยิ่งขึ้น
“นี่ฉันเบามือที่สุดแล้วนะคะ!” เจณิสารีบตอบ
คุณหมอสาวทายาปฏิชีวนะและปิดแผลด้วยผ้าก๊อซอันใหม่ ความชำนาญของแพทย์ทำให้ทุกขั้นตอนเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจิตใจของเธอจะกำลังต่อสู้กับไฟปรารถนาที่เฟลิกซ์พยายามจุดขึ้นก็ตาม
“เสร็จแล้วค่ะ” เธอรีบถอยออกมาเล็กน้อย ให้หลุดพ้นจากมนตร์สะกดของเขา
เฟลิกซ์มองแผลที่ถูกปิดอย่างสวยงามด้วยความพึงพอใจ แต่ดวงตาของเขายังคงจ้องเธออย่างไม่ลดละ
“ขอบคุณมากครับคุณหมอ...ถ้าไม่ได้คุณผมคงแย่” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ซาบซึ้ง
ที่ไหล่ด้านซ้ายของเขามีรอยสักขนาดใหญ่ ลวดลายคล้ายอาวุธโบราณสีดำสนิท ดูน่าเกรงขาม แต่มันคือสิ่งดึงดูดสายตาของเธอให้หยุดมอง
เฟลิกซ์เห็นสายตาของเจณิสาที่จ้องมองเรือนร่างของเขาอย่างเปิดเผย ทุกตารางนิ้วของกล้ามเนื้อและรอยสักถูกเธอสำรวจอย่างละเอียด ความเจ็บปวดที่บาดแผลถูกแทนที่ด้วยความพึงพอใจ
“มองอะไรเหรอ... คุณหมอ” เฟลิกซ์ถามยิ้ม ๆ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเย้าแหย่และแฝงความร้อนแรง ดวงตาคมกริบของเขาวาววับราวกับเปลวเพลิงที่พร้อมจะลุกโชน เจณิสารีบละสายตาจากมัดกล้ามเนื้อเหล่านั้นด้วยความเขินอาย ใบหน้าของเธอแดงก่ำทันทีที่ถูกจับได้
“ปะ เปล่า ๆ ค่ะ” เธอรีบโต้กลับด้วยความลุกลี้ลุกลน ราวกับถูกจับได้ว่ากำลังสนใจในตัวของมาเฟียหนุ่ม
“อยากเห็นมากกว่านี้ ก็บอกสิครับ” เฟลิกซ์ยังคงเย้าแหย่อย่างเจ้าเล่ห์
“จะบ้าหรือไง!!!” เธอเอ่ยเสียงเบาหวิวในลำคอ ความร้อนรุ่มที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเขาทำให้เธอแทบจะควบคุมสติตัวเองไม่อยู่
“ผมล้อเล่น!!” เขาหัวเราะในลำคอ แต่แววตายังคงเต็มไปด้วยความปรารถนา จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นเสียงออดอ้อนที่แสนจะขี้โกง
“ขอกอดหน่อยสิ”
“แผลคุณไม่ควรขยับตัว” เจณิสารีบปฏิเสธในเชิงแพทย์ แต่หัวใจของเธอกำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง
“งั้นคุณก็กอดผมหน่อยสิ ผมจะได้หายเจ็บ”
“ถ้าแค่กอดแล้วหายเจ็บ งั้นต่อไปคงไม่ต้องทำแผลแล้วมั่ง ” น้ำเสียงดุ ๆ แต่ตอบด้วยความเขินอาย มันเจือไปด้วยความรู้สึกวาบหวาม
“เกี่ยวสิ...คุณหมอ มันคือการให้กำลังใจไงครับ” เฟลิกซ์ยืนยันด้วยรอยยิ้ม สายตาที่ออดอ้อนของเฟลิกซ์ ทำให้น้ำเธอใจอ่อน