6 บนเส้นด้าย
เฟลิกซ์เหลือบมองเจณิสาที่ใบหน้าซีดเผือด แต่ในแววตาของเธอยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะยืนหยัดอยู่เคียงข้าง มาเฟียหนุ่มรู้ทันทีว่าตอนนี้เขามีภาระเพิ่มขึ้น นอกจากจะต้องเอาตัวรอดจากการตามล่าแล้ว เขายังต้องคอยดูแลคุณหมอสาวผู้ประชดชีวิตอีกคน เธอไม่น่าหลงเข้ามาอยู่ในสนามรบที่เต็มไปด้วยคมกระสุนของเขาเลย!
“คุณหมอ! รีบหนีไปก่อน มันอันตราย!” เฟลิกซ์ตวาดเสียงดังลั่น ขณะที่เสียงปืนเก็บเสียงและไม่เก็บเสียงของกลุ่มมาเฟียคู่อริยังคงดังสลับกับเสียงกรีดร้องของผู้คน
“แล้วคุณล่ะ!” เจณิสาถามกลับทันควัน ความห่วงใยที่เธอมีต่อเขานั้นรุนแรงกว่าความกลัวตายเสียอีก
“ผมจะรีบตามไป!!” เฟลิกซ์ยิงกราดชายชุดใส่สูทคนแรกเพื่อเปิดทางให้เธอหนี ก่อนจะคว้าขวดวิสกี้ราคาแพง ที่หล่นอยู่ยื่นให้เธอ
“เอาปืนติดไปด้วย! เผื่อคุณหมออาจจะต้องใช้มัน!” เฟลิกซ์สั่งเสียงเฉียบขาด พร้อมยื่นปืนพกกระบอกเล็กที่เหน็บอยู่ข้างเอวให้เธอ
เจณิสารับปืนกระบอกนั้นมาถือเอาไว้แน่น ราวกับว่ามันเป็นอาวุธเดียวที่เธอมี แม้มือจะสั่นเทิ้มด้วยความกลัว แต่เธอก็ยึดกุมมันไว้ด้วยสัญชาตญาณ
“ฝากเอาขวดวิสกี้ ไปให้ผมด้วย!” เขาตะโกนตามหลังเธอ มันช่างเป็นคำสั่งที่บ้าบิ่นที่สุดท่ามกลางคมกระสุน!
เจณิสาไม่รู้ว่ามาเฟียหนุ่มต้องการขวดเหล้าไปเพื่ออะไรในสถานการณ์เช่นนี้ แต่เธอก็รีบคว้าขวดวิสกี้ที่หล่นอยู่ใกล้ ๆ ติดมือไปด้วยอย่างไม่คิดชีวิต
คุณหมอเดินย่อตัวต่ำ ๆ ไปตามพื้นหินอ่อนที่เย็นเฉียบและเต็มไปด้วยเศษแก้วที่แตกกระจายจากแรงปืน ร่างอรชรในชุดราตรีสีชมพูอ่อนเคลื่อนที่อย่างทุลักทุเล เพื่อหนีตายตามกลุ่มฝูงชนที่กรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ความโกลาหลทำให้เธอแทบมองไม่เห็นทาง
“คุณหมอ! ไปทางด้านหลัง! มันมีประตูฉุกเฉิน!” เฟลิกซ์ตะโกนดังลั่นเพื่อให้เสียงทะลุผ่านความโกลาหลและเสียงปืนที่ยังดังไม่หยุด เขารู้ทางออกฉุกเฉินของคลับแห่งนี้เป็นอย่างดี และเขากำลังบอกเธอให้ไปสู่เส้นทางที่ปลอดภัยที่สุด ก่อนที่เขาจะหันไปจัดการกับสมุนของมาเฟียคู่ปรับ
เมื่อรู้ว่าคุณหมอออกไปอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยแล้ว เฟลิกซ์ก็เปลี่ยนจากสถานะผู้ถูกล่า กลายเป็นผู้ล่าทันที ดวงตาของเขาดุดันและแข็งกร้าวอย่างถึงที่สุด เขาดีดตัวออกจากหลังโซฟาที่ถูกยิงจนพรุน ปืนพกขนาดเล็กในมือทำงานอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด ราวกับมันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเขา เขาใช้ความมืดและมุมอับของคลับที่แสงไฟดับ ๆ ติด ๆ ให้เป็นประโยชน์
เสียงปืนดังขึ้นอีกนัด! ชายชุดสูทคนที่สองล้มลงข้างโต๊ะวีไอพีที่เพิ่งถูกเขายิงกราดใส่เมื่อครู่ เหลือเพียงสมุนคนสุดท้าย ที่กำลังวิ่งหาที่กำบังและพยายามเล็งปืนยิงใส่เขา
เฟลิกซ์ไม่มีเวลาให้เล่นเกม เขาใช้จังหวะที่ชายคนนั้นเปลี่ยนแม็กกาซีน ก่อนจะพุ่งตัวออกไปเหมือนพยัคฆ์ร้าย ปืนของเขาถูกซ่อนกลับเข้าเอวอย่างรวดเร็ว เขาใช้ทักษะการต่อสู้ในระยะประชิด หมัดหนักหน่วงถูกปล่อยเข้าใส่สันกรามของชายคนนั้นอย่างรุนแรงจนหน้าหัน
ผลัว!!!...
ร่างของสมุนเซถลาไปชนกับตู้เครื่องดื่ม เสียงขวดแตกดังตามมา เฟลิกซ์ไม่ปล่อยให้มันได้ตั้งตัว เขาตามเข้าประชิด แล้วกระแทกฝ่าเท้าหนัก ๆ ไปซี่โครงอย่างรุนแรงและแม่นยำ
“ไอ้ดีมิทรีมันไปมุดหัวอยู่ไหน ทำไมมันให้ลูกน้องกระจอก ๆ อย่างแกมาเล่นงานฉัน!” เฟลิกซ์ถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธที่ทำให้ชายที่บาดเจ็บแทบหยุดหายใจ
เมื่อสมุนไม่ตอบ เฟลิกซ์ก็ตัดสินใจยุติเกมทันที
ปั่ง...กลิ่นดินปืนคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ
เฟลิกซ์ก้าวเข้าไปยืนเหนือร่างของสมุนมาเฟียคู่ปรับอีกคน ที่เหลือรอดคนสุดท้ายใกล้ตาย เขายกปืนขึ้นจ่อในระยะเผาขน ใบหน้าของเขาเย็นชาดุจน้ำแข็ง ไม่มีความลังเลในดวงตา
“ไปที่ชอบ ๆ ของแกซะ” น้ำเสียงของเฟลิกซ์ทุ้มต่ำและเด็ดขาด...ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้งอย่างเฉียบขาด เขาจะปล่อยพวกมันเอาไว้ไม่ได้ เพราะพวกมันได้เห็นใบหน้าของคุณหมอและรู้ว่าเธอเข้ามาเกี่ยวข้องกับเขาแล้ว เฟลิกซ์ไม่อยากให้ผู้บริสุทธิ์ต้องเดือนร้อนเพราะเขา ในที่สุดความเงียบสงบอันน่าขนลุกก็กลับมาแทนที่เสียงกรีดร้อง
เขาจัดการสมุนของมาเฟียคู่ปรับได้ทั้งหมด แต่ชัยชนะครั้งนี้ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงมหาศาลเมื่อเลือดจากบาดแผลของเขาเริ่มไหลออกมาจากการปะทะหนัก ๆ เมื่อสักครู่ ถึงแม้จะไม่โดนอันตรายแม้แต่ปลายเล็บ แต่การกระทบเทือนร่างกายแบบนี้ แผลที่เพิ่งจะผ่าตัดมาก็เริ่มสั่นคลอน
มาเฟียหนุ่มสูดลมหายใจลึกๆ พลางหยิบทิชชู่ที่อยู่บริเวณนั้นมาเช็ดคราบเลือด ที่กระเด็นมาติดใบหน้าอย่างไม่ยี่หระ ตอนนี้เขาควบคุมทุกอย่างได้อย่างเบ็ดเสร็จ
ก่อนจะเหลือบมองไปทางประตูฉุกเฉินที่เจณิสาหายตัวไป เธอปลอดภัยแล้ว...สายตาของเขาตวัดไปเห็นการ์ดคนหนึ่งที่ยืนตัวสั่นอยู่ไม่ไกล และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เขาต้องรีบจัดการ
“มานี่!” เฟลิกซ์ออกคำสั่งเสียงเข้ม เขาใช้ปืนพกกระบอกเดิมจี้การ์ดคนนั้นทันที
“พาฉันไปที่ห้องควบคุมเดี๋ยวนี้!” การ์ดคนดังกล่าวหน้าถอดสี รีบนำทางเขาไปยังจุดหมายอย่างรนราน
เมื่อถึงห้องควบคุม เฟลิกซ์จ้องมองไปยังหน้าจอที่ฉายภาพความวุ่นวายทั้งหมด เขาตรงไปถอดฮาร์ดิสในเครื่องวีดีอาร์ออกมา
เฟลิกซ์ผลักประตูฉุกเฉินที่เป็นเหล็กหนักอึ้งออกไปอย่างแผ่วเบา ท่ามกลางซอยมืด ๆ ที่มีแต่แสงไฟสลัวจากด้านนอก เสียงกรีดร้องและความโกลาหลภายในคลับยังคงดังแว่วตามหลังมา หัวใจของเขายังคงกังวลเป็นห่วงคุณหมอที่ออกมาก่อนหน้านี้ เขาพยายามตามหาเธอ และสุดท้ายเขาก็เห็นเธอยืนอยู่ตรงนั้น...เฟลิกซ์รู้สึกโล่งใจที่เห็นเธอปลอดภัย
คุณหมอสาวกำลังพิงกำแพงอิฐแดง มือข้างหนึ่งกอดขวดวิสกี้เอาไว้แน่น ส่วนอีกข้างยังคงถือปืนพกกระบอก ที่เขาให้เธอมา ใบหน้าของเธอยังคงซีดเผือด แต่ดวงตาคู่นั้นกลับทอประกายแสดงความเป็นห่วงออกมาอย่างไม่ปิดบัง ความกลัวตายดูเหมือนจะแพ้ความรู้สึกที่เพิ่งก่อตัวขึ้นอย่างรุนแรงของเธอ
“ทำไมยังหนีอีก!” เฟลิกซ์ถามเสียงเข้ม แววตาเต็มไปด้วยความฉงนผสมความรำคาญที่เธอไม่ทำตามคำสั่ง
“ฉันไม่อยากทิ้งคุณ” เจณิสาตอบกลับอย่างเป็นห่วง น้ำเสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย แต่หนักแน่น การถูกทรยศไม่ได้ทำให้เธอสูญเสียความรู้สึกในการเป็นห่วงใคร
เฟลิกซ์ไม่ได้ตอบโต้ด้วยคำพูดอีกต่อไป เขาไม่เสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว มือแกร่งคว้าขวดวิสกี้มาถือ และคว้าข้อมือเรียวของเธอให้วิ่งตามเขาไปทันที แต่ก็ระมัดระวังไม่ให้เธอสะดุดล้ม
ทั้งสองเร่งฝีเท้าไปตามทางเพื่อพาเธอไปยังที่ปลอดภัย เฟลิกซ์ไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตัวเอง ก่อนจะหันไปถามเธอ และวางแผนหลอกล่อคู่ต่อสู้
“คุณเอารถมามั้ย”
“เอามาค่ะ”
“โอเค ผมคงต้องทิ้งรถของผมเอาไว้ที่นี่ เพื่อหลอกพวกมัน ผมต้องการให้พวกมันคิดว่าผมตายแล้ว” เฟลิกซ์ตัดสินใจทันที
“เอากุญแจรถคุณมาเดี๋ยวผมขับเอง” เจณิสาไม่ลังเล เธอล้วงกุญแจรถจากกระเป๋าเล็ก ๆ ยื่นให้เขาในทันที
“นี่คะ” เฟลิกซ์รับกุญแจมา พร้อมมองไปยังปากซอยที่เริ่มมีเสียงไซเรนแว่วมาเบา ๆ เขาเหลือบมองเธอด้วยสายตาที่บอกว่าเกมนี้กำลังจะอันตรายขึ้นไปอีกขั้น
“รีบไปขึ้นรถสิ!!... ก่อนที่ตำรวจและพวกมันจะแห่กันมาที่นี่”
“ค่ะ ๆ” เธอตอบรับอย่างเชื่อฟังและเร่งรีบ ก่อนจะเดินอ้อมไปฝั่งผู้โดยสารทันที ความห่วงใยที่เธอมีให้เขาทำให้เธอเชื่อฟังคำสั่งของมาเฟียคนนี้อย่างสนิทใจ
เอี๊ยด!!!!
เสียงยางรถบดถนนดังลั่น ก่อนที่รถคันหรูของคุณหมอจะพุ่งทะยานไปตามท้องถนนที่ว่างเปล่าในยามวิกาล บรรยากาศในห้องโดยสารเต็มไปด้วยความตึงเครียด เพียงไม่นานเลือดจาง ๆ ก็ซึมออกมาจากเสื้อสูทราคาแพงของเฟลิกซ์
“คุณ!!!...ช่วยดูแผลให้ผมหน่อยสิ” เฟลิกซ์เอ่ยเสียงต่ำ โดยที่สายตาไม่ละจากถนน ความเจ็บปวดที่พยายามซ่อนเอาไว้ เข้ามารบกวนสมาธิในการขับรถของเขา