11 ฉันเป็นผู้หญิงนะคะ
เฟลิกซ์มองใบหน้าที่จริงจังของเธอ ก่อนจะเห็นว่าเธอไม่ได้ล้อเล่น และเขาก็ไม่อยากเสี่ยงที่จะต้องเข้าโรงพยาบาล เพราะนั่นหมายถึงการเปิดเผยตัวตน และอาจจะถูกไล่ล่าจากดิมิทรี และพวกตำรวจ
“โอเค ๆ ผมไม่ดื้อแล้ว” เขายอมจำนนพลางทำหน้าหงอย ก่อนจะเอียงศีรษะมาซบที่ไหล่ของเธอเบา ๆ
“คุณต้องเชื่อฟังฉันนะ เฟลิกซ์” เจณิสาใช้มือลูบเส้นผมสีเข้มของเขาอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงของเธอจากที่ดุก็กลายเป็นอ่อนหวานลง
“แผลคุณยังไม่หายดีเลย ฉันเป็นห่วง” เฟลิกซ์เงยหน้าขึ้นจากไหล่มน ดวงตาของเขาสะท้อนภาพความห่วงใยอย่างแท้จริงของเธอ
“ครับ... ผมสัญญาว่าจะทำตัวดี ๆ” เจณิสายิ้มบางๆ ใบหน้าของเธอแดงก่ำเล็กน้อยกับคำพูดออดอ้อนนั้น
“รู้ตัวมั้ยว่าคุณเป็นคนไข้ที่ดื้อที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลย!” เจณิสากล่าวด้วยน้ำเสียงที่เจือด้วยความอ่อนใจ แต่ก็แฝงไว้ด้วยความเอ็นดู
เฟลิกซ์ไม่ได้โกรธกับคำเตือนนั้นเลยแม้แต่น้อย เขาจ้องมองสีหน้าที่จริงจังของเธอ ซึ่งเขาก็ไม่แน่ใจว่าเธอกำลังพูดไปเพราะความเป็นห่วงในอาการบาดเจ็บของเขาอย่างแท้จริง หรือกำลังปกป้องหัวใจอันอ่อนไหวของตัวเองอยู่กันแน่ แต่ทุกอย่างมันกลับทำให้เขารู้สึกถูกใจเธอเหลือเกิน
ความชาญฉลาดและการรู้จักปกป้องตัวเองอย่างมีเหตุผลของเธอ เฟลิกซ์มองว่ามันมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ และนั่นก็ยิ่งดูท้าทายสำหรับเขา มาเฟียหนุ่มผู้นี้ต้องการหญิงสาวที่ไม่อ่อนแอ ผู้ที่กล้าเผชิญหน้ากับเขาด้วยความมั่นใจ และเจณิสาคือผู้หญิงในแบบที่เขาต้องการ
“ตอนนี้คุณต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่รุนแรง หรือพวกกิจกรรมที่ต้องมีการเกร็งตัว คุณต้องเลี่ยงให้หมดเลย” เธอย้ำอย่างชัดเจนเพื่อสื่อความหมายให้เขาเข้าใจถึงขีดจำกัดของกิจกรรมที่ผู้ชายมักจะอดไม่ได้นั่นก็คือการช่วยตัวเอง
“และที่สำคัญ...ช่วงนี้คุณห้ามให้น้ำโดนแผลเด็ดขาดรู้มั้ย” เจณิสาออกคำสั่งสุดท้ายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เธอเอนกายพิงพนักโซฟา หายใจออกอย่างโล่งอก
“คุณสั่งผมเยอะไป...เจนนี่ ผมจำมันได้ไม่หมดหรอก” เฟลิกซ์ไม่ได้พูดเปล่า แต่เลื่อนมือที่แข็งแกร่งมาโอบรอบเอวของเธออย่างรวดเร็วแล้วดึงเข้าหาตัว
“ตอนนี้ผมอยากเช็ดตัวแล้ว...คุณหมอ” เฟลิกซ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม ดวงตาคมกริบจ้องมองเธออย่างเปิดเผย
เจณิสาเม้มปากแน่น หัวใจเต้นรัวอย่างบ้าคลั่งราวกับจะหลุดออกมาจากอก
“งั้นเดี๋ยวฉันไปเตรียมผ้ามาให้”
“ผมเป็นแผลอย่างนี้ จะเช็ดตัวได้ยังไง...หืม์!!” เฟลิกซ์ยิ้มกรุ้มกริ่ม
“คุณต้องเป็นคนเช็ดให้ผมซี้!!!...คุณสัญญาแล้วไง”
“คุณก็ปล่อยฉันก่อนสิ เฟลิกซ์” เจณิสาตวาดกลับเบา ๆ อย่างเหลืออด ใบหน้าเริ่มเห่อร้อน เธอพยายามขยับตัวออกห่างจากระยะสัมผัสที่รัดแน่น แต่ก็ไม่เป็นผล จะทำรุนแรงก็กลัวบาดแผลของเขาอักเสบหรือฉีกขาดขึ้นมาจริง ๆ
“โอเค ผมแค่ล้อคุณเล่นเฉย ๆ แหม่!... ก็ดูข้อห้ามของคุณแต่ละอย่างสิ” เฟลิกซ์คลายอ้อมแขนออกช้า ๆ แต่ดวงตาคมกริบยังไม่ละไปจากใบหน้าสวย ๆ ของเธอ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความท้าทายและความปรารถนาที่ยากจะปิดบัง
“แต่คืนนี้ผมพักกับคุณได้ใช่มั้ย” เขาปิดท้ายประโยคด้วยเสียงที่จริงจังจนทำให้เจณิสารู้สึกวูบวาบไปทั้งตัว เธอรู้ว่าคำพูดของเขามันมีความหมายมากกว่าแค่การล้อเล่น เธอไม่น่าพลาดไปใช้เขาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นแฟนหนุ่มเลยให้ตายสิ!
“อืม!...ได้ แต่คุณต้องนอนตรงนี้เท่านั้นนะ” เจณิสารีบบอกทันที
“ผมถามเรื่องแฟนคุณได้มั้ย คุณจะเอายังไงต่อ”
“เรายังไม่ได้คุยแบบจริงจังกันเลย”
“แสดงว่าคุณก็ยังคิด ที่จะให้โอกาสเค้า”
“ไม่เด็ดขาด คนเจ้าชู้พรรค์นั้น” เฟลิกซ์ยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับความหวังลึก ๆ ในใจ
“แต่ผมว่าโซฟาของคุณมันแข็งไปนะ สำหรับคนไข้ที่เพิ่งโดนยิงมาอย่างผม ถ้านอนไปแผลอาจจะฉีกอีกรอบได้เลยนะ...คุณหมอ!!!” เขายื่นมือมาแตะปลายคางของเธออย่างแผ่วเบา สัมผัสของเขาทำให้ร่างกายรู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ
“ให้ผมพักที่เตียงเถอะนะ รับรอง...ผมจะอยู่นิ่ง ๆ ทำตามที่คุณบอกทุกอย่างเลย” เจณิสาสบตากับเฟลิกซ์ แววตาของเขาไม่ได้บ่งบอกถึงการยอมแพ้ แต่กลับเต็มไปด้วยการเรียกร้อง เธอรู้ว่าการปฏิเสธในสถานการณ์เช่นนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เธอได้แต่หวังเอาไว้ว่า สิ่งที่เธอบอกไป เขาคงจะเชื่อฟังอยู่บ้าง
“ก็ได้!!!...” เธอตอบเสียงเบา
”แต่ถ้าคุณปล้ำฉันแล้วแผลเกิดฉีกขาดขึ้นมา ฉันทำได้แค่เรียกรถพยาบาลให้คุณเท่านั้นนะ!” เธอขู่ด้วยน้ำเสียงจริงจัง เฟลิกซ์ยิ้มกว้าง ซึ่งมันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ความเศร้าของเธอลดลง
“ครับ รับรอง ผมจะไม่ฝืนใจคุณเด็ดขาด” สิ้นเสียงเขาก็รีบกอดเธอทันที ก่อนจะกระซิบข้างหูด้วยเสียงที่ทำให้เธอขนลุก
”แต่คุณอย่าลืมเช็ดตัวให้ผมน้า” สิ้นเสียงริมฝีปากหยักก็ประทับลงมาอย่างนุ่มนวล ก่อนจะเปลี่ยนเป็นความเร่าร้อน สองมือหนาโอบรัดเอวเธอเอาไว้แน่น พร้อมดึงร่างของเธอให้แนบชิด
จุมพิตของเขาเป็นเหมือนการจุดไฟเผาผลาญเหตุผลทั้งหมดที่เธอเคยมี ความคับแค้นใจที่เธอมีต่อคนรักเก่าถูกแทนที่ด้วยความปรารถนาที่ไม่เคยรู้จัก เมื่อเฟลิกซ์ผละออกห่าง ใบหน้าของเจณิสาแดงก่ำ ดวงตาพร่ามัวไปด้วยอารมณ์พิศวาส
“เห็นมั้ยครับ... ผมไม่ได้ทำกิจกรรมที่ต้องเกร็งตัวเลยนะ” เฟลิกซ์กล่าวอย่างผู้ชนะ
”ตอนนี้คุณช่วยพาคนไข้ไปพักผ่อนที่เตียงของคุณได้มั้ยครับ...” คำพูดของเขาราวกับมีมนตร์สะกด เจณิสาแทบจะไม่มีแรงขัดขืนใด ๆ ยอมจำนนต่อเสน่ห์ที่แสนอันตรายโดยการพาเขาไปที่เตียงนอนให้ห้องของเธอ
เจณิสารู้ดีว่าคืนนี้... ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอก็จะไม่เสียใจ เพราะลึก ๆ แล้ว ความเปลี่ยวเหงาและความเจ็บปวดที่เธอมีนั้น มันต้องการการเยียวยาด้วยไฟรักจากใครสักคนเช่นเขา