บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 รสมือ (4.1)

ตอนที่ 4

รสมือ

ธามลงจากรถยืนมองบ้านเดี่ยวสองชั้นที่อยู่แถวพุทธมณฑลด้วยสายตาที่พอใจ ที่พักของเพชรพันปีค่อนข้างจะเป็นส่วนตัวและมีต้นไม้เยอะทำให้เขารู้สึกสบายขึ้น เจ้าของบ้านเดินไปปิดประตูและกลับมาหยิบของที่ท้ายรถ เธอชำเลืองมองแขกที่ยืนมองอยู่เฉยๆ ด้วยความหมั่นไส้

“นี่ ไม่คิดจะช่วยกันเลยหรือไง เคยได้ยินไหมว่ามาบ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น”

“บ้านคุณมีดินน้ำมันไหมล่ะ จะได้ปั้นวัวปั้นควายให้คุณเล่น” ชายหนุ่มประชดแล้วเดินตรงเข้าไปหาอย่างเสียมิได้

“คุณนี่มัน...ให้ตายสิ” เพชรพันปีมองหน้าเขาด้วยความหมั่นไส้

“ที่พูดคือจะให้ผมช่วยถือของสินะ” ธามมองของที่อยู่ท้ายรถมากมาย

“ใช่” หญิงสาวกระแทกเสียงรับ

“ก็พูดดีๆ ไม่เห็นจะต้องเปรียบเทียบอะไรมาก” แล้วเขาก็เดินเข้าไปช่วยขนถุงผ้าหลายใบที่มีทั้งผักและเนื้อสัตว์อยู่ในนั้นโดยไม่พูดอะไร

ธามมองภายในบ้านของหญิงสาวด้วยความสนใจ ที่นี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน การตกแต่งเรียบง่ายไม่เน้นความหรูหราแต่เน้นความสบายมากกว่า

แม้กระทั่งห้องครัวก็เป็นครัวไทยผสมตะวันตกอย่างลงตัว เขาสังเกตว่าที่นี่มีชั้นหนังสือมากมายอยู่หลายที่ เห็นแค่นี้ก็พอจะรู้แล้วว่าเจ้าของบ้านเป็นคนที่รักการอ่านมากๆ คนหนึ่ง

“ท่าทางคุณจะชอบอ่านหนังสือนะ” เขาชวนคุย

“ก็อ่านบ้าง” หญิงสาวสวมผ้ากันเปื้อนจากนั้นก็เริ่มลงมือเตรียมวัตถุดิบในการทำอาหารต่อ

“คงไม่อ่านบ้างหรอก ท่าทางคุณจะบ้าการอ่านมากพอสมควร ไม่น่าเชื่อนะว่าคนอย่างคุณจะชอบอ่านหนังสือกับเขาด้วย”

“ทำไม คนอย่างฉันจะชอบอ่านหนังสือมันแปลกตรงไหน” เพชรพันปีย้อนถามเสียงขุ่น

“ก็คุณเหมือนพวกบ้าพลังมากกว่าที่จะสนใจหนังสือ”

“อย่ามาหาเรื่อง แล้วนี่โทรบอกพี่น้ำนิ่งหรือยัง” หญิงสาวเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายหาเรื่องจิกกัดได้อีก

“ไลน์ไปบอกแล้ว พี่น้ำนิ่งรู้จักที่นี่ดี”

“แน่นอน เพราะนอกจากจะเป็นเพื่อนบ้านกันที่ต่างจังหวัดแล้ว พี่น้ำนิ่งยังเป็นเพื่อนสนิทกับพี่ทับทิมพี่สาวของฉันด้วย บ้านหลังนี้เป็นบ้านของพี่สาวฉัน พี่น้ำนิ่งรู้จักทุกซอกทุกมุม” เพชรพันปีเล่าความสัมพันธ์ที่มีมายาวนานของผู้จัดการส่วนตัวของธามกับครอบครัว แต่แล้วก็ได้ยินเสียงบางอย่าง

“ท้องคุณร้อง”

“เปล่า” นักแสดงหนุ่มปฏิเสธ แต่ท้องเจ้ากรรมก็ร้องออกมาอีกครั้ง

“คุณหิว” เพชรพันปีลอบยิ้ม

“ก็นิดหน่อย” คราวนี้เขายอมรับ

“ความจริงคุณควรเลี้ยงข้าวตอบแทนผมนะ อย่างน้อยผมก็ช่วยคุณถือของ มีสุภาษิตที่ว่าเป็นธรรมเนียมไทยแท้แต่โบราณ ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ”

เพชรพันปีถอนหายใจ ถึงแม้จะไม่ชอบหน้าเขานัก แต่เธอก็ไม่ใช่คนไร้น้ำใจ

“นั่งรอสักครู่ ฉันมีหมูย่างโป๊ยกั๊กสูตรเด็ดที่ก๋งคิดขึ้นมาเอง แต่คนที่ทำให้กินคือย่า อาหารประจำตระกูลทางพ่อเลย เดี๋ยวจะเอาให้กิน” เพชรพันปีบอกและหันมาทำงานต่อด้วยความคล่องแคล่ว

ไม่นานนักข้าวกล้องร้อนๆ ที่หุงมาแบบเรียงเม็ดสวยงาม ก็ถูกนำมาวางพร้อมกับหมูย่างที่มีสีน้ำตาลเข้มของสมุนไพรอย่างโป๊ยกั๊กกับพริกไทยดำเคลือบอยู่ พร้อมด้วยต้มจืดเต้าหู้ไข่ใส่ผักกาดขาวก็ถูกนำมาวางตรงหน้า กลิ่นหอมของมันช่างยั่วน้ำลายเหลือเกิน

“ทำไมเร็วจัง” ธามแปลกใจ

“ข้าวฉันหุงเอาไว้แล้ว อาหารก็ทำไว้ก่อนที่จะออกไปซื้อของที่ห้าง ดังนั้นแค่อุ่นให้ร้อน ก็กินได้”

“ทำค้างไว้ตั้งแต่วันไหน” เขาหรี่ตามองอาหารตรงหน้า เริ่มไม่แน่ใจว่ากินได้แน่หรือเปล่า คำถามนี้ทำให้เพชรพันปีเม้มปากแน่น และทำท่าจะยกอาหารกลับแต่ธามรั้งไว้ทัน

“ฉันทำไว้เมื่อบ่ายสาม ห้าโมงเย็นถึงออกไปซื้อของที่ตลาดและบางส่วนจากห้าง จากนั้นก็มาเจอคนบ้าขอติดรถมาที่บ้านด้วย” หญิงสาวลำดับเหตุการณ์อย่างช้าๆ

“จะกินไหม ถ้ากินก็อย่าพูดมาก”

“กิน” เขาตอบสั้นๆ และเริ่มรับประทาน

ทันทีที่อาหารเข้าปากคำแรก ธามก็ยิ้มออกมาด้วยความพอใจ รสชาติของมันอร่อยเสียจนเบรรยายไม่ถูก หมูย่างที่หน้าตาดูไม่ค่อยน่ากินแต่มันกลับอร่อยเสียจนกินได้เรื่อยๆ ไม่เบื่อ

ในขณะที่นักแสดงหนุ่มนั่งรับประทานอาหาร เจ้าของบ้านเลือกที่จะหันไปเตรียมของสำหรับพรุ่งนี้ต่อ หญิงสาวปอกเปลือกหอม กระเทียม และเตรียมพริกแห้งในปริมาณที่ต้องการ จากนั้นก็เดินไปหยิบครกหินกับสากออกมา

“กินอิ่มแล้วก็ล้างให้ด้วยนะ” เพชรพันปีสั่ง

“หมายถึงให้ผมล้างอย่างนั้นเหรอ” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาถามปากก็เคี้ยวตุ้ยๆ

“ใช่ ทำไม่เป็นหรือไง”

“ทำเป็น” ธามเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย

“ถ้าอย่างนั้นก็ทำซะ มากินข้าวบ้านเขาแล้วจะให้เจ้าของบ้านมาล้างจานมันก็ใช่ที่”

“ยัยตัวแสบ” นักแสดงหนุ่มบ่นแล้วก็หันมากินอาหารในจานต่อ เพชรพันปีลอบยิ้มเมื่อเห็นว่าเขากินอาหารจนหมด

“อร่อยไหม” เพชรพันปีถามในขณะที่เขากำลังยืนล้างจาน ส่วนเธอกำลังตำพริกกระเทียมหอมแดงเข้าด้วยกัน

“ก็พอได้”

“ขนาดพอได้ยังฟาดซะไม่เหลือ ข้าวก็เติมตั้งสองครั้ง” เธอแกล้งแซ็ว

“มันเป็นเพราะผมหิว” เขาแก้ตัว

“เอาเถอะ เห็นคุณกินหมดฉันก็ดีใจ”

“ทำไมต้องดีใจ” เขาถามต่อเพราะไม่เข้าใจ

“เพราะฉันเป็นคนทำอาหาร และคนทำอาหารก็ย่อมต้องมีความสุขเมื่อคนกินกินมันจนหมด”

“คุณทำอะไร”

“เตรียมของ”

“คุณขายน้ำพริกไม่ใช่เหรอ”

“ใช่ นอกจากน้ำพริกแล้วฉันยังรับทำปิ่นโตมื้อกลางวันส่งด้วย”

“ไม่มีคนช่วยหรือไง” ว่าไปเข้ามาธามก็ไม่เห็นใครอื่นนอกจากเพชรพันปีคนเดียวเท่านั้น

“ไม่มี ลูกค้าปิ่นโตเจ้าประจำของฉันมีแค่สี่สิบเจ้า ฉันทำคนเดียวไหวแต่บางทีถ้าพี่ชายกับพี่สะใภ้ของฉันมา พวกเขาก็จะมาช่วย”

“อาหารปิ่นโตสี่สิบเจ้า วันละสี่สิบกล่อง ต้องคิดรายการให้หมดเลยหรือเปล่า” ธามฟังแล้วทึ่ง ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะทำเองหมด

“คิดสิ สนุกดี”

“พรุ่งนี้คุณทำเมนูอะไร”

“พรุ่งนี้เหรอ น้ำพริกอ่องแล้วก็มีแคบหมู และสารพัดผักทั้งต้มทั้งสดให้กินคู่กัน มีไส้อั่วปั้นเป็นก้อนทอด ฉันหมักและปรุงรสไว้เรียบร้อยแล้วเหลือทอดอย่างเดียว ของหวานเป็นบราวนีที่ทำจากถั่วดำ”

“ดูไม่ค่อยจะเข้ากัน” ธามออกความเห็น

“แต่มันคู่กันไปแล้ว”

“คุณจะทำบราวนีเลยไหม” เขานึกสนุกอยากอาสาช่วย

“ทำเช้ามืด”

“ทำทันเหรอ คุณต้องต้มผักต้องจัดของ” เขาถามพร้อมเดินมาดูสิ่งที่หญิงสาวกำลังทำ รู้สึกพอใจเมื่อเห็นว่าเธอตำได้ละเอียดเนียนสวย

“ทันสิฉันตื่นตั้งแต่ตีสี่ เพราะอยากให้ลูกค้าได้กินอาหารที่สดใหม่” เพชรพันปีดูเพลิดเพลินและมีความสุขกับสิ่งที่ทำอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่ธามก็มองเธอทำโน่นนี่อย่างสบายใจ

“ทำเพิ่มอีกชุดได้ไหม” จู่ๆ เขาก็ถามขึ้น

“ทำให้ใคร” หญิงสาวหันมาถาม

“ทำให้ผม” ธามหมายถึงตนเอง

“คุณจะกินเหรอ”

“ใช่ อยากกิน คุณขายชุดละเท่าไหร่” ชายหนุ่มถามอย่างเป็นงานเป็นการ

“หนึ่งร้อยสิบเก้าบาท รวมค่าส่ง” เพชรพันปีแจ้งราคาชัดเจน

“ทำให้ผมด้วย” เขาตกลงโดยไม่ต้องคิดอีก

“แสดงว่าอาหารของฉันอร่อยมากใช่ไหม” น้ำเสียงคนพูดมีความภาคภูมิใจอย่างเห็นได้ชัด

“ก็บอกแล้วว่าพอได้ ผมแค่อยากอุดหนุนผู้ยากไร้เท่านั้นเอง” ธามอมยิ้มในที

“ก็ได้ ฉันเคยทำอาหารให้คนมาเยอะแล้ว จะทำให้สุนัขรับประทานบ้างก็ได้” เพชรพันปีประชดด้วยความหมั่นไส้

“คุณจะทำอาหารหมาให้ผมกินเหรอ” ธามหันมาจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง

“เปล่า ฉันแค่บอกว่าจะทำอาหารให้สุนัขในปากของคุณรับประทานก็เท่านั้น และเนื่องจากคุณเลี้ยงไว้หลายร้อยตัว ฉันเลยต้องคิดเงินมากกว่าเจ้าอื่นนะ สองร้อยเก้าสิบเก้าบาท ตกลงไหม” หญิงสาวแกล้งขึ้นราคา

“งก” เขาต่อปากต่อคำอย่างไม่ลดละ

“จะเอาไหมล่ะ ถ้าไม่เอาฉันก็ไม่ว่าหรอกนะ”

“เอาเป็นว่าผมจะเป็นลูกค้าปิ่นโตของคุณ แต่บอกไว้ก่อนนะ ในหนึ่งเดือนจะต้องมีหมูย่างโป๊ยกั๊กสองครั้ง” ชายหนุ่มพูดถึงสิ่งที่ตัวเองต้องการทันที

“ให้ตายสิ ก๋งฉันนี่อัจฉริยะจริงๆ ที่คิดค้นสูตรนี้ขึ้นมา ใครกินเป็นต้องติดใจว่าแต่จะให้ไปส่งที่ไหน” หญิงสาวพูดด้วยความภูมิใจ

“ที่บ้านผม”

“แต่ฉันไม่รู้จักบ้านคุณ”

“ไม่ไกลจากคุณนักหรอก เดี๋ยวจะส่งโลเคชั่นมาให้ มีไลน์ไหมเดี๋ยวจะให้พี่น้ำนิ่งจัดการให้ ส่วนวันที่ผมต้องไปทำงานไกลหรือไปถ่ายที่ต่างจังหวัด ผมจะให้เด็กมารับที่นี่ หรือไม่อย่างนั้นผมจะให้พี่น้ำนิ่งจัดการ” เขาบอกรายละเอียดคร่าวๆ

“ได้”

“เริ่มพรุ่งนี้เลยนะ พรุ่งนี้ผมไม่มีคิวไปส่งที่บ้านเลย เดี๋ยวผมจะแชร์โลเคชั่นให้คุณเมื่อถึงบ้านแล้ว” เขากำชับอีกครั้ง

“ตกลง” เพชรพันปียอมรับอย่างโดยดี

“ดีใจที่ได้ลูกค้าเพิ่มสินะ” เขาแกล้งว่า

“ดีใจที่ได้เงินเพิ่มอีกเท่าต่างหาก” หญิงสาวตอบแล้วก้มหน้าทำงานของตัวเองต่อเงียบๆ ธามเดินเลี่ยงเข้าไปในห้องรับแขกโดยที่ไม่พูดอะไรต่อเช่นกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel