บทที่ 3 ไม่ใช่ตัวเลือก
“นั่นก็สมควรที่ฉันจะทำลายทุกคนให้ย่อยยับไง!”
หิรัญญิการ์มั่นใจว่าเขาจะทำเช่นนั้นจริง ๆ ไม่อย่างนั้นพี่สาวทั้งสองของเธอกับแฟนคงไม่ต้องหนีหัวซุกหัวซุนแบบนั้นหรอก
“ฉันพอนึกอะไรออกแล้ว…เธอรับจ๊อบอยู่สมาคมทีมชาตินี่ ที่นั่นฉันยังไม่ได้ให้คนไปหาพี่เธอเลย” พายัพใช้นิ้วชี้ดันปลายคางเรียวเล็กให้เงยขึ้นมาสบตากันอีกครั้ง
ริมฝีปากหยักแค่นยิ้มกวาดตามองเค้าโครงหน้าก่อนจะมาหยุดที่แถวลำคอระหง หิรัญญิการ์สะบัดใบหน้าหนีและขยุ้มคอชุดเดรสของตัวเอง
“ฉันไม่ได้ทำงานที่นั่นนานแล้ว ฉันเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ” ยามที่หิรัญญิการ์ตอบกลับเขาไป เธอเพ่งสายตาจ้องมองแต่ใบหน้าคมคายนั่น เพราะเมื่อใดก็ตามที่เธอหลุกหลิกและโดนจับได้ว่าโกหกคงจะได้เดือดร้อนมากกว่านี้อีก
“โกหกเก่งดีนี่…” พายัพหุบยิ้มฉับและถอยหลังมายืนล้วงกระเป๋ากวาดสายตาโลมเลียมองเธอ
“แต่ฉันจะส่งคนไปดูหน่อยแล้ว” สิ้นคำพูดของเขาร่างสูงก็หมุนตัวเหมือนว่าจะเดินหนีไป
หิรัญญิการ์หัวใจเต้นระรัว ที่นั่นคือที่ทำงานของเธอ แต่ตัวเธอเองก็รับงานไปเรื่อยไม่เป็นหลักเป็นแหล่ง เขาพูดแบบนี้ก็แสดงว่าเขาสืบครอบครัวเธอทุกคนแล้ว
“ถ้าคุณทำอย่างนั้นจะไม่มีใครได้อะไรจากเรื่องนี้ ฉันไม่อยากให้คุณทำแบบนั้น” หิรัญญิการ์คิดแค่ว่าเธอต้องหยุดเขาก่อนที่จะเดินหนีออกไปด้านนอกเพราะเรายังคุยกันไม่เสร็จ
“ถ้าฉันไม่ทำแบบนั้น แล้วฉันอะไรนอกจากผู้หญิงจืด ๆ อย่างเธอ” เธอขบริมฝีปากมองแค่กระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดที่สองของเขา พายัพแค่นยิ้มและหัวเราะเมื่อเห็นหน้าตาซีดขาวของหิรัญญิการ์
“เธอไม่มีปัญญาให้อะไรฉันหรอกหิรัญญิการ์ เธอมันไม่ใช่ตัวเลือก ไม่ใช่คนที่ถูกเลือก หรือง่าย ๆ เลยนะ เธอไม่เคยอยู่ในสายตาใครเลยโดยเฉพาะครอบครัวของเธอ” คำพูดของเขาเหมือนกับน้ำร้อน ๆ สาดลงมาบนเนื้อตัวของเธอให้ได้เจ็บแสบ
“เธอรู้ดีถึงได้บากหน้ามาถึงที่นี่…ทั้ง ๆ ที่เธอสู้พี่สาวทั้งสองคนของเธอไม่ได้สักนิด! รูปร่างหน้าตางั้น ๆ ดีหน่อยที่ผิวขาว และก่อนจะมาหาผู้ชายควรแต่งหน้ามาหน่อยนะ ฉันมองเห็นกระสามเม็ดบนหน้าของเธอ” พายัพใช้สองนิ้ววางลงบนโหนกแก้มข้างซ้ายของเธอ มันเหมือนกับมีแผ่นเหล็กร้อนมาแนบ
หิรัญญิการ์เหมือนกันสูญสิ้นทุกความมั่นใจที่เตรียมมาเป็นอย่างดี ขอบตาเธอร้อนผ่าวน้ำตาจวนเจียนจะไหลออกมาแต่เมื่อเห็นเขายิ้มมันกลับทำให้เธอฮึดสู้เฮือกสุดท้าย
“คุณจะไปสนใจคนที่ไม่สนใจคุณทำไม ฉันจะไม่เอาอะไรสักอย่างไม่ว่าจะเป็นทะเบียนสมรสหรือทรัพย์สมบัติ คุณทำข้อตกลงให้เซ็นก่อนแต่งงานได้เลย ให้ฉันได้ดูแลคุณแม่คุณจนกว่าท่านจะหายดี และหนี้บุญคุณทั้งหมดถือว่าครอบครัวเราหายกัน” คำพูดของหิรัญญิการ์ทำให้พายัพถึงกลับไปไม่เป็น
ผู้หญิงที่รูปร่างบอบบางแต่กลับเข้มแข็งจนเขาประหลาดใจ ดวงตาเธอโศกเศร้าแต่กลับแฝงไปด้วยความเชื่อมั่นในตัวเอง มันทำให้พายัพหัวใจกระตุกจนต้องหันไปมองทางอื่นแทน
“ฉันจะดูแลท่านจนสุดความสามารถ ฉันจะลาออกจากงานที่ทำและทุ่มเทเพื่อคุณแม่คุณคนเดียว คุณต้องรู้ว่าอาชีพของฉันมันไม่ถูกพูดถึงในประเทศไทย แต่สากลมันไปได้ไกลกว่าที่คุณคิด คุณต้องให้ฉันได้พิสูจน์ตัวเองหน่อย คุณควรให้โอกาสฉัน”
พายัพมองดวงตากลมที่คลอหน่วยด้วยน้ำสีใสแต่มันกลับไม่ไหลรินลงมา เขามองลึกเข้าไปไม่เห็นอะไรนอกจากความเข้มแข็งและซื่อตรงกับสิ่งที่เธอกำลังตั้งใจบอกเขา
“ฉันรับปากว่าไม่มากก็น้อยท่านจะมีความสุขในบั้นปลายชีวิตแน่นอน ถ้าวันหนึ่งคุณแต่งงานกับคนที่คุณรักมีลูกด้วยกัน ท่านก็จะจูงลูกคุณเดินได้” พอถึงตรงนี้พายัพขบสันกรามแน่น เขากำมือทั้งสองข้างจนชาหนึบไปหมด
“เธอจะเอาอะไรมายืนยันว่าเธอจะทำได้อย่างที่พูด เพราะแม้แต่พ่อแม่เธอยังไม่มีปัญญารักษาคำพูดเลย!”
“ฉันไม่ใช่พวกเขา และฉันเป็นคนรักษาคำพูด คุณเชื่อใจฉันได้…ขออย่างเดียวปล่อยครอบครัวฉันไป” เธอยืนยันในสิ่งที่คิดว่าตัวเองทำได้เสมอ
“ฉันเกลียดคนโง่แบบเธอ! เกลียดคนที่ทำเป็นเหมือนว่าตัวเองเป็นคนดี! ทำแบบนี้พี่สาวเธอมันจะมากราบกรานเธอหรือไง!” คนที่ยอมทำตามคนอื่นทั้ง ๆ ที่ตัวเองจะต้องเดือดร้อน ไม่ใช่คนโง่จะให้เขาเรียกว่าอะไร
“ฉันจะรับผิดชอบเอง ทุกความโกรธแค้นของคุณเอามาลงที่ฉันแทน” พายัพระเบิดหัวเราะออกมา เขายอมรับว่ารู้สึกทึ่งกับความคิดผู้หญิงคนนี้เหมือนกัน
“เธอรับมันไม่ไหวหรอกหิรัญญิการ์…กับการมานั่งรองมือรองเท้าฉันน่ะ” หญิงสาวกลืนน้ำลายเหนียวลงคอก่อนจะช้อนสายตาไร้ความรู้สึกใส่เขา
“ฉันเป็นคนอดทนเก่งค่ะ”
