ดอกไม้เหนือไฟ

122.0K · จบแล้ว
นามปากกา แสงเทียน
68
บท
26.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ร่างบอบบางมองประตูห้องทำงานขนาดใหญ่ที่ต้องใช้สองคนเปิดเธอไม่แน่ใจว่าหากเธอเป็นคนผลักเข้าไปมันจะสามารถเปิดออกได้หรือเปล่า หิรัญญิการ์ ก้าวขาเรียวบนรองเท้าส้นสูงสามนิ้วเดินตามชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่เข้าไปภายในห้องนั้นอย่างไม่ลังเล “ฮะ! สเตสฟัส!! ไอ้เหี้ยเหนือวันนี้ดวงมึงดีจัง…ใครวะ???” สายตาสามคู่ของผู้ชายที่นั่งล้อมวงกันอยู่บนโต๊ะโป๊กเกอร์หันมามองเธอเป็นตาเดียว ยกเว้นคนที่สวมใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มและเขานั่งหันหลังให้กับเธอ… “เด็กมึงเหรอ?” ผู้ชายข้างซ้ายโน้มตัวไปถามคนที่นั่งหันหลังด้วยท่าทีอยากรู้อยากเห็น ก่อนที่เขาจะหันกลับมาปรายตามองเธอเพียงน้อยและกลับไปสนใจไพ่ในมือต่อ “มึงคิดว่ากูจะชอบผู้หญิงที่จืดสนิทแบบนี้หรือไง?” หิรัญญิการ์ยืนกุมมือประสานกันไว้ที่หน้าท้อง เมื่อได้ยินคำปรามาสแบบนั้น ใบหน้าขาวนวลเชิดขึ้นเล็กน้อยไม่ให้ดูเสียมรรยาทจนกลายเป็นสะบัดทั้งที่ใจก็อยากจะสะบัดใส่อยู่หรอกนะ “สวัสดีค่ะคุณพายัพ” พายัพ เจ้าของชื่อที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มขยับกายนั่งหลังตรง ดวงตาคมเข้มสีนิลแหงนขึ้นมองไปตามเสียงทักทาย เขายิ้มหยันเพราะความใจกล้าของผู้หญิงคนนี้ที่กล้าเดินเข้ามาใกล้ทั้งที่เขาไม่ได้เรียก สายตาดุดันกวาดตามองผู้หญิงเรือนร่างบอบบาง…โครงสร้างเรือนกายเล็กจนแทบจะปลิวลม เขาแค่ปรายตามองปราดเดียว ก่อนจะหยิบไพ่ตรงหน้ามาสับต่ออย่างไม่สนใจจะเอื้อนเอ่ยชักชวนผู้หญิงคนเดียวในห้องนั่งเลย เวลาผ่านไปสักพักหนึ่งและเมื่อเธอเอาแต่ยืนปักหลักไม่ขยับ พายัพจะเห็นแก่ความใจกล้าหน้าด้านนี่แล้วกัน “มีอะไรก็พูดมา” เสียงของเขาถามขึ้นคล้ายรำคาญ “ฉันขอรบกวนเวลาส่วนตัวคุณไม่เกินสิบนาทีค่ะ” หิรัญญิการ์ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมาพูดเรื่องส่วนตัวต่อหน้าคนอื่นที่ไม่ใช่พายัพ “ฉันเล่นกันตาละแสนและมือฉันกำลังขึ้น เธอมีไหมล่ะห้าแสนถ้ามีฉันก็จะลุกไปเสียเวลาคุยเรื่องปัญญาอ่อนกับเธอ” แม้ภายในใจหิรัญญิการ์รู้สึกสะท้านสั่นไหว แต่ภายนอกที่แสดงออกมามันทำให้พายัพปวดหัวจี้ด ๆ แผ่นหลังเธอเหยียดตรงสองขายืนอย่างมั่นคง ดวงตาจับจ้องมองคนที่ต้องการสนทนาด้วยไม่วางตา เขารู้สึกไม่ชอบใจแววตาคู่นี้สักนิด อวดดี! “คุยกันก่อนไหม?” เพื่อนคนที่ร่วมวงเสี่ยงดวงกับพายัพเห็นท่าไม่ดีจึงเอ่ยถามเขา เพราะเห็นว่าผู้หญิงคนนี้ตั้งมั่นเหลือเกินที่จะคุยกับเพื่อนเขาให้ได้ “จะให้กูเลิกเล่นใช่ไหม?” พอได้คำตอบจากพายัพแบบนี้ พวกเขาก็ได้แต่เงียบปากแล้ว เพราะถ้าพายัพเลิกเล่นวันนี้พวกเขาก็เจ๊ง! “ส่วนเธอถ้าไม่มีอะไรจะพูดก็ออกไป!” พายัพตวาดออกมาเสียงดังลั่น หญิงสาวได้แต่กำมือตัวเองไว้แน่นก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกความมั่นใจให้กับตัวเองอีกครั้ง “ฉันชื่อหิรัญญิการ์หรือจะเรียกว่ารัญก็ได้ค่ะ” เธอแนะนำตัวพร้อมกับก้าวเดินเข้ามายืนอยู่ข้าง ๆ โต๊ะโป๊กเกอร์หรือข้างเก้าอี้ที่พายัพนั่ง “แล้ว?” พายัพไม่แม้แต่จะปรายตามองแต่เพื่อนสามคนของเขามองเธอตาไม่กะพริบ “ฉันเป็นน้องสาวของพุดพิชชา” เธอแนะนำตัวอย่างรวดเร็ว “พุดพิชชามีน้องชื่อพุดน้ำษุษย์…” เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงติดรำคาญ “ฉันเป็นน้องสาวคนสุดท้องที่ห่างกับพวกพี่หลายปี” อธิบาย...หิรัญญิการ์อธิบายให้กับคนที่ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาสนทนากันดี ๆ  “ลูกหลงนะเหรอ?” และเมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนี้เงียบพายัพก็หัวเราะออกมา “หรือจะเรียกว่าลูกที่พ่อแม่ไม่ต้องการดี?” เขายังคงขยี้ต่อทั้งที่ยังจัดเรียงไพ่ในมือ ทำให้เพื่อน ๆ ของเขาก็ต้องหันไปสนใจไพ่อยู่ตรงหน้าด้วยเช่นกัน แต่หิรัญญิการ์แทบหยุดหายใจเมื่อได้ยินเขาพูดออกมาเช่นนั้น ริมฝีปากหยักลึกสีชมพูคล้ำเหยียดยิ้มทั้งที่ดวงตายังคงจับจ้องไปที่แผ่นไพ่บนมือ พุดพิชชาคือพี่สาวคนโต พุดน้ำบุษย์คือพี่สาวคนรอง...ส่วนเธอคือน้องสาวคนสุดท้อง หรือเรียกว่าลูกหลงนั่นแหละ หิรัญญิการ์เตรียมใจมาบ้างแล้ว เพราะเธอรู้ว่าพายัพเป็นคนค่อนข้างจะโผงผาง แต่การที่เขาพูดถึงเรื่องส่วนตัวของครอบครัวเธอต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ มันทำให้เธอรู้สึกสะอึกจนใบหน้าชาไปทั้งแถบ เขาเลวร้ายกว่าที่เธอคิดไว้เยอะเลย  

นิยายรักโรแมนติกนิยายปัจจุบันนิยายรักรักหวานๆ18+มาเฟีย

บทนำ

 

ร่างบอบบางมองประตูห้องทำงานขนาดใหญ่ที่ต้องใช้สองคนเปิดเธอไม่แน่ใจว่าหากเธอเป็นคนผลักเข้าไปมันจะสามารถเปิดออกได้หรือเปล่า

หิรัญญิการ์ ก้าวขาเรียวบนรองเท้าส้นสูงสามนิ้วเดินตามชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่เข้าไปภายในห้องนั้นอย่างไม่ลังเล

“ฮะ! สเตสฟัส!! ไอ้เหี้ยเหนือวันนี้ดวงมึงดีจัง…ใครวะ???”

สายตาสามคู่ของผู้ชายที่นั่งล้อมวงกันอยู่บนโต๊ะโป๊กเกอร์หันมามองเธอเป็นตาเดียว ยกเว้นคนที่สวมใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มและเขานั่งหันหลังให้กับเธอ…

“เด็กมึงเหรอ?” ผู้ชายข้างซ้ายโน้มตัวไปถามคนที่นั่งหันหลังด้วยท่าทีอยากรู้อยากเห็น ก่อนที่เขาจะหันกลับมาปรายตามองเธอเพียงน้อยและกลับไปสนใจไพ่ในมือต่อ

“มึงคิดว่ากูจะชอบผู้หญิงที่จืดสนิทแบบนี้หรือไง?”

หิรัญญิการ์ยืนกุมมือประสานกันไว้ที่หน้าท้อง เมื่อได้ยินคำปรามาสแบบนั้น ใบหน้าขาวนวลเชิดขึ้นเล็กน้อยไม่ให้ดูเสียมรรยาทจนกลายเป็นสะบัดทั้งที่ใจก็อยากจะสะบัดใส่อยู่หรอกนะ

“สวัสดีค่ะคุณพายัพ”

พายัพ เจ้าของชื่อที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มขยับกายนั่งหลังตรง ดวงตาคมเข้มสีนิลแหงนขึ้นมองไปตามเสียงทักทาย เขายิ้มหยันเพราะความใจกล้าของผู้หญิงคนนี้ที่กล้าเดินเข้ามาใกล้ทั้งที่เขาไม่ได้เรียก

สายตาดุดันกวาดตามองผู้หญิงเรือนร่างบอบบาง…โครงสร้างเรือนกายเล็กจนแทบจะปลิวลม เขาแค่ปรายตามองปราดเดียว ก่อนจะหยิบไพ่ตรงหน้ามาสับต่ออย่างไม่สนใจจะเอื้อนเอ่ยชักชวนผู้หญิงคนเดียวในห้องนั่งเลย

เวลาผ่านไปสักพักหนึ่งและเมื่อเธอเอาแต่ยืนปักหลักไม่ขยับ พายัพจะเห็นแก่ความใจกล้าหน้าด้านนี่แล้วกัน

“มีอะไรก็พูดมา” เสียงของเขาถามขึ้นคล้ายรำคาญ

“ฉันขอรบกวนเวลาส่วนตัวคุณไม่เกินสิบนาทีค่ะ” หิรัญญิการ์ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมาพูดเรื่องส่วนตัวต่อหน้าคนอื่นที่ไม่ใช่พายัพ

“ฉันเล่นกันตาละแสนและมือฉันกำลังขึ้น เธอมีไหมล่ะห้าแสนถ้ามีฉันก็จะลุกไปเสียเวลาคุยเรื่องปัญญาอ่อนกับเธอ”

แม้ภายในใจหิรัญญิการ์รู้สึกสะท้านสั่นไหว แต่ภายนอกที่แสดงออกมามันทำให้พายัพปวดหัวจี้ด ๆ แผ่นหลังเธอเหยียดตรงสองขายืนอย่างมั่นคง ดวงตาจับจ้องมองคนที่ต้องการสนทนาด้วยไม่วางตา เขารู้สึกไม่ชอบใจแววตาคู่นี้สักนิด อวดดี!

“คุยกันก่อนไหม?” เพื่อนคนที่ร่วมวงเสี่ยงดวงกับพายัพเห็นท่าไม่ดีจึงเอ่ยถามเขา เพราะเห็นว่าผู้หญิงคนนี้ตั้งมั่นเหลือเกินที่จะคุยกับเพื่อนเขาให้ได้

“จะให้กูเลิกเล่นใช่ไหม?” พอได้คำตอบจากพายัพแบบนี้ พวกเขาก็ได้แต่เงียบปากแล้ว เพราะถ้าพายัพเลิกเล่นวันนี้พวกเขาก็เจ๊ง!

“ส่วนเธอถ้าไม่มีอะไรจะพูดก็ออกไป!” พายัพตวาดออกมาเสียงดังลั่น

หญิงสาวได้แต่กำมือตัวเองไว้แน่นก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกความมั่นใจให้กับตัวเองอีกครั้ง

“ฉันชื่อหิรัญญิการ์หรือจะเรียกว่ารัญก็ได้ค่ะ” เธอแนะนำตัวพร้อมกับก้าวเดินเข้ามายืนอยู่ข้าง ๆ โต๊ะโป๊กเกอร์หรือข้างเก้าอี้ที่พายัพนั่ง

“แล้ว?” พายัพไม่แม้แต่จะปรายตามองแต่เพื่อนสามคนของเขามองเธอตาไม่กะพริบ

“ฉันเป็นน้องสาวของพุดพิชชา” เธอแนะนำตัวอย่างรวดเร็ว

“พุดพิชชามีน้องชื่อพุดน้ำษุษย์…” เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงติดรำคาญ

“ฉันเป็นน้องสาวคนสุดท้องที่ห่างกับพวกพี่หลายปี” อธิบาย...หิรัญญิการ์อธิบายให้กับคนที่ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาสนทนากันดี ๆ 

“ลูกหลงนะเหรอ?” และเมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนี้เงียบพายัพก็หัวเราะออกมา

“หรือจะเรียกว่าลูกที่พ่อแม่ไม่ต้องการดี?” เขายังคงขยี้ต่อทั้งที่ยังจัดเรียงไพ่ในมือ ทำให้เพื่อน ๆ ของเขาก็ต้องหันไปสนใจไพ่อยู่ตรงหน้าด้วยเช่นกัน แต่หิรัญญิการ์แทบหยุดหายใจเมื่อได้ยินเขาพูดออกมาเช่นนั้น

ริมฝีปากหยักลึกสีชมพูคล้ำเหยียดยิ้มทั้งที่ดวงตายังคงจับจ้องไปที่แผ่นไพ่บนมือ

พุดพิชชาคือพี่สาวคนโต พุดน้ำบุษย์คือพี่สาวคนรอง...ส่วนเธอคือน้องสาวคนสุดท้อง หรือเรียกว่าลูกหลงนั่นแหละ

หิรัญญิการ์เตรียมใจมาบ้างแล้ว เพราะเธอรู้ว่าพายัพเป็นคนค่อนข้างจะโผงผาง แต่การที่เขาพูดถึงเรื่องส่วนตัวของครอบครัวเธอต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ มันทำให้เธอรู้สึกสะอึกจนใบหน้าชาไปทั้งแถบ เขาเลวร้ายกว่าที่เธอคิดไว้เยอะเลย