บทที่ 28 วางแผนใกล้ชิด (1/3)
“จริงครับ ที่สำคัญคือพลังในร่างของผมเกิดระลอกคลื่นและกลายเป็นเย็นเฉียบเหมือนจี้ดอกบัวแห่งมู”
“ดอกบัวแห่งมูต้องเป็นใครสักคนในห้องจัดเลี้ยงนี้แน่” โอเชียบอกออกมา ในใจกำลังนึกถึงเจ้าหน้าที่ของโรงแรม เขาจะขอรายชื่อแขกผู้หญิงทุกคนในห้องจัดเลี้ยงนี้
“ไม่ใช่ใครในห้องจัดเลี้ยงครับ แต่เป็นหนึ่งในนางรำทั้งหก ผมเพิ่งรู้สึกได้เมื่อสักครู่ตอนที่นางรำแปรขบวนเรียงหน้ากระดาน ครู่เดียวจี้ดอกบัวและพลังในร่างผมก็ตอบสนองทันที” ธีออนไม่กล้าบอกออกไปว่าจริงๆ เขาแน่ใจแล้วด้วยซ้ำว่าเป็นนางรำคนไหน หากปัญหาคือเขาไม่รู้จะเอาสิ่งใดมายืนยันความมั่นใจนี้จนกว่าจะได้อยู่ใกล้เธอคนนั้น เพื่อให้จี้ดอกบัวและพลังในร่างของเขายืนยันอย่างชัดเจน
“แล้วคนไหน แกสัมผัสได้หรือเปล่า ธีออน”
ธีออนเหลือบตามองนางรำทั้งหก สายตาอดไม่ได้ที่จะต้องลอบจับจ้องหญิงสาวคนนั้นครู่หนึ่งก่อนจะตอบออกไป
“ไม่ได้ครับ แต่มั่นใจได้ว่าเป็นหนึ่งในหกนี้แน่นอน” เวลานี้ธีออนต้องการหลักฐานยืนยัน เขาไม่อาจใช้เพียงความรู้สึกของตนเอง เรื่อง ‘ดอกบัวแห่งมู’ สำคัญเกินกว่าจะยินยอมให้มีความผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้น
“งั้นก็ง่าย ทั้งหกคนนี่เป็นคนไทย ต้องถามเมียของนายเจนเซ่น เวสท์ นายกเทศมนตรีของเมืองนี้แล้ว เพราะเพื่อนสนิทเมียแกเป็นคนไทย แต่เพื่อนคนไทยชื่ออะไร ลุงก็จำไม่ได้ ชื่อนามสกุลเรียกยากชะมัด”
“ผมก็จำไม่ได้เหมือนกัน แต่เดี๋ยวใกล้จบการแสดงนี้ พวกเรารีบไปตีสนิทนายกเทศมนตรีคนนี้กันเลย”
“ตกลง”
พวกเขาพูดคุยปรึกษากันจนฟ้อนเทียนจบลงและเปลี่ยนเป็นฟ้อนเล็บเมื่อใดก็ไม่ทราบ เวลานี้รำฟ้อนเล็บมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว นางรำทั้งหกตั้งวงจบพอดี สายตาของธีออนยังคงจับจ้องนางรำคนนั้นไม่วางตา
เสียงปรบมือดังกระหึ่มทั่วทั้งห้องจัดเลี้ยงทันทีที่การแสดงจบลง แสงไฟในห้องค่อยๆ สว่างขึ้น ระบำไทยทั้งสองชุดสร้างความประทับใจให้แขกเหรื่อในงานทุกคนเป็นอย่างมาก มองเห็นนางรำทั้งหกเรียงแถวเข้าไปด้านหลังเวทีจนลับสายตา
การแสดงชุดต่อไปไม่สามารถเรียกความสนใจจากธีออนและโอเชียได้อีกต่อไป เวลานี้เขาและโอเชียลุกขึ้นและเดินไปยืนพูดคุยกับนายกเทศมนตรีของเมืองนี้และภรรยาที่โต๊ะของพวกเขาแล้ว
“คุณนายเวสท์ ผมกับธีออนชอบการแสดงเมื่อครู่มากเลย ไม่ทราบว่าพอจะแนะนำให้ผมกับหลานชายได้รู้จักเพื่อนคนไทยของคุณได้มั้ยครับ” โอเชียเลียบเคียงอย่างแนบเนียน
“เรียกฉันว่า ‘แนนซี่’ เถอะค่ะ” ภรรยาของเจนเซ่น เวสท์ นายกเทศมนตรีบอกอย่างยินดี
“อย่างนั้นก็เรียกผมกับหลานชายว่า ‘โอเชีย’ และ ‘ธีออน’ นะครับ จะได้คุ้นเคยกัน”
“ยินดีค่ะ เพื่อนคนไทยของฉันชื่อ ‘ภาวิดา รณเรศ’ ค่ะ แต่เรียกเธอว่า ‘วีด้า’ ดีกว่า จะได้เรียกง่ายๆ การแสดงเมื่อครู่ เธอเป็นคนสอนเด็กๆ ทั้งหกคนนั้นเองค่ะ ญาติผู้ใหญ่ของเธอมีเชื้อสายเจ้าทางเหนือของไทย เธอเลยได้เรียนรู้มา และพอดีฉันกำลังมองหาการแสดงแปลกๆ แต่สามารถสร้างความประทับใจให้แขกในงานได้เลยไปปรึกษาเธอ เธอเลยเสนอการแสดงชุดนี้ให้ ฝึกซ้อมกันสามเดือนเลยนะคะกว่าจะรำได้งามจับใจขนาดนี้”
“จริงครับ รำได้สวยจริงๆ” ธีออนบอกออกมา หากในใจกลับนึกถึงแต่หญิงสาวคนนั้นที่รำได้งดงามจับตากว่าใคร และยังจับใจเขาที่สุด
“ส่วนเครื่องแต่งตัวทั้งหมดก็เป็นของวีด้าค่ะ เธอเป็นนักสะสมผ้าและเครื่องประดับโบราณตัวยงนะคะ เสื้อผ้าและเครื่องประดับที่นางรำใส่นั่นเป็นของเธอทั้งหมด ทุกอย่างเป็นของโบราณตกทอดกันมาสามสี่รุ่นทั้งนั้น บางส่วนเธอก็ซื้อหามาสะสมไว้ จริงๆ เธอหวงของพวกนี้มาก ไม่อยากเอาออกมา ยอมแค่ให้หลานสาวใส่ออกงานใหญ่ๆ เท่านั้น แต่เพราะงานนี้มีหลานสาวที่เธอรักที่สุดมารำด้วย เธอเลยยอมเปิดกรุของสะสมมาให้ทุกคนได้ใส่และได้เห็น”
ธีออนและโอเชียพยักหน้ารับรู้ และก็ยอมรับว่าเสื้อผ้าและเครื่องประดับเป็นของโบราณจริงๆ เพราะเพียงมองเห็นแต่ไกล ยังรู้สึกได้ถึงความประณีตบรรจงของของแต่ละชิ้น
“จะสะดวกมั้ยครับ ถ้าแนนซี่จะแนะนำพวกเราให้รู้จักกับวีด้า” ธีออนถามขึ้นทันที ส่วนหนึ่งก็เพราะหนึ่งในหกนั้นคือดอกบัวแห่งมู หากอีกส่วนก็เพราะอยากรู้จักเธอคนนั้น คนที่จับใจเขาไว้ได้ทั้งหมดในทันทีที่พบเห็น
“ได้เลยค่ะ ธีออน เดี๋ยวรออีกสักหน่อยนะคะ ตอนนี้วีด้ากำลังเก็บของอยู่ ไม่สะดวกจะคุยด้วยแน่”
“ได้ครับ ขอบคุณมาก”
ผ่านไปอีกเกือบชั่วโมง ธีออนและโอเชียก็มองเห็นนางรำทั้งห้าคนกลับเข้ามาในห้องจัดเลี้ยง โต๊ะของพวกเธออยู่ด้านหลังสุดของห้อง เขากวาดตามองหาหญิงสาวที่เขาสนใจไปทางห้องพักด้านหลัง ครู่หนึ่งก็มองเห็นเธอกับผู้ชายสองคนที่อายุมากกว่าเธอและผู้หญิงวัยกลางคนช่วยกันถือห่อของออกมา คาดเดาได้ว่าเป็นเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่ใช้สวมใส่ในการแสดงทั้งหมด ด้านหลังติดตามมาด้วยหญิงชราวัยราวเจ็ดสิบต้น
ธีออนและโอเชียลุกขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าหญิงสาวคนนั้นแวะทักทายที่โต๊ะที่นางรำห้าคนนั้นนั่งอยู่ แนนซี่ก็ลุกขึ้นเดินนำพวกเขาไป หญิงสาวคนนั้นพูดคุยกับนางรำทั้งห้าอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเธอค่อยเดินตามผู้ชายสองคนและผู้หญิงอีกคนออกไป และหญิงชราคนนั้นก็ตามหลังเธอไปห่างๆ เช่นกัน
แนนซี่รีบเดินไปหาหญิงชราคนนั้นทันที ตามหลังด้วยธีออนและโอเชีย
“วีด้า อย่าเพิ่งไป” เธอเรียกดังสักหน่อยพอให้ได้ยิน
ธีออนและโอเชียจึงได้ทราบว่าหญิงชราคนนี้คือ ‘วีด้า’ เธอหันมามองก่อนจะทักกลับไป
“แนนซี่นั่นเอง มีอะไร”
