บทที่ 27 ปฏิกิริยาตอบสนอง (3/3)
“ฉันเพิ่งรู้ว่าเจ้าของกองทุน Lotus Creek หล่อขนาดนี้ สง่างามอย่างกับราชา แถมยังเป็นราชาที่ร่ำรวยมากๆ เสียด้วย”
เสียงของผู้หญิงในงานเลี้ยงเริ่มซุบซิบขึ้นเมื่อการแถลงข่าวเสร็จสิ้น และเริ่มต้นงานเลี้ยงหรูที่จัดขึ้นเพื่อเปิดตัวเจ้าของกองทุน เพื่อการรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา และขอบคุณผู้ที่ให้การสนับสนุนมาตลอด
“หล่อมาดดีแบบนี้ ฮอลลีวู้ดได้มาทาบทามไปเล่นหนังแน่ๆ แต่เขาจะรับหรือเปล่านี่สิ รวยขนาดนี้แล้ว”
“ฉันอยากเห็นกล้ามเขาจังเลย ดูก็รู้ว่าใต้เสื้อสูทนั่น ต้องกล้ามใหญ่ๆ แน่นๆ แน่เลย อยากซบอกเขาจัง”
“เขามีแฟนหรือยัง แต่ถึงมี ฉันก็ไม่แคร์ ของแบบนี้ ใครดีใครได้”
“ฉันอยากขึ้นเตียงกับเขาสักหน รูปร่างแบบนี้บอกได้เลยว่าน้องชายเขาต้องถึงใจฉันแน่ๆ ถ้าได้ขึ้นเตียงกับเขา ฉันจะทำให้เขาร้องครวญครางต้องการแต่ฉัน”
“หล่อนไปจัดการคู่นอนของหล่อนก่อนเถอะย่ะ ได้ข่าวว่าเขาก็ทำให้หล่อนติดอกติดใจไม่ใช่เหรอ คุณธีออนนี่ ฉันขอก็แล้วกัน”
เสียงสาวๆ ในงานซุบซิบกันถึงธีออน แกรนด์สตรีม หนุ่มหล่อวัย 35 ปี ผู้เป็นเจ้าของกองทุนใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลก
“ต่อไปจะเป็นการแสดงระบำไทยที่เรียกว่า ‘ฟ้อนเทียนและฟ้อนเล็บ’ นะครับ ระบำสองชุดนี้ คุณเจนเซ่น เวสท์ นายกเทศมนตรีของเมืองอ๊อคแลนด์เป็นผู้จัดหามา เนื่องจากเพื่อนสนิทของภรรยาของคุณเวสท์เป็นคนไทยคือ หม่อมเจ้าภาวิดา รณเรศ เธอจึงนำฟ้อนเทียนและฟ้อนเล็บที่หาดูได้ยากมาแสดงให้ทุกท่านได้ชมและเพื่อขอบคุณกองทุน Lotus Creek ที่ช่วยเหลือดูแลสิ่งแวดล้อมทางทะเลตลอดมา” เสียงพิธีกรในงานดังขึ้น
พิธีกรอธิบายต่อถึงระบำสองชุดนี้ “ฟ้อนเทียนเป็นการฟ้อนที่อ่อนช้อยงดงาม นิยมแสดงในเวลากลางคืนเพื่อเน้นความสวยงามของแสงเทียน การฟ้อนเทียนนี้แต่เดิมเป็นการแสดงเพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สักการะเทพเจ้าที่เคารพนับถือในงานพระราชพิธีหลวง ตามแบบฉบับล้านนาของทางภาคเหนือของไทย”
“ฟ้อนเล็บ เป็นการฟ้อนชนิดหนึ่งของชาวไทยในภาคเหนือ ผู้ฟ้อนจะสวมเล็บยาว ลีลาท่ารำของฟ้อนเล็บคล้ายกับฟ้อนเทียน ต่างกันที่ฟ้อนเทียนมือทั้งสองถือเทียน ส่วนฟ้อนเล็บจะสวมเล็บที่ทำด้วยทองเหลืองทั้ง 8 นิ้ว จึงได้ชื่อว่า ‘ฟ้อนเล็บ’ ขอเชิญทุกท่านรับชมได้ ณ บัดนี้”
แสงไฟในห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ค่อยๆ หรี่ลง มองเห็นเวทีขนาดใหญ่รางๆ ด้านหนึ่งของเวทีจัดไว้เป็นที่นั่งของนักดนตรี ไม่ทราบว่านักดนตรีเข้ามาประจำที่นั่งตั้งแต่เมื่อใด พลันเสียงเพลงประหลาดก็ดังขึ้น เพลงนี้ไพเราะหวานหูนุ่มนวลอย่างยิ่ง แขกทุกคนในงานเลี้ยงต่างนิ่งฟังอย่างประหลาดใจ แสงเทียนวับแวมสิบสองดวงค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาในเวที มองเห็นนางรำหกคนแยกเป็นสองด้าน ด้านละสามคน เริ่มฟ้อนเทียนอย่างงดงาม
มือของนางรำค่อยๆ เปลี่ยนท่วงท่าและก้าวย่างแช่มช้าหากนุ่มนวลไปตามจังหวะดนตรี แสงเทียนเคลื่อนไหวไปตามการแปรเปลี่ยนของมือทั้งสิบสองข้างที่ร่ายรำอย่างพร้อมเพรียง เสียงดนตรีแว่วหวานสอดรับกับท่ารำ บรรยากาศในการร่ายรำเต็มไปด้วยความอ่อนหวาน ดื่มด่ำ สูงส่ง และศักดิ์สิทธิ์ แสงไฟบนเวทีสว่างขึ้นอีกระดับหากไม่สว่างจนเกินไปเพื่อมิให้กลบแสงเทียน เวลานี้คนทั้งงานเลี้ยงจึงมองเห็นนางรำทั้งหกคนชัดตามากขึ้น
นางรำทั้งหกสวมใส่ชุดแปลกตาอย่างยิ่ง แขกทุกคนไม่ทราบว่านี่คือการแต่งกายเช่นชาวเชียงตุงแต่ครั้งโบราณ พวกเธอสวมเสื้อสีขาวนวลแขนยาวขลิบชายผ้าด้วยผ้าสีทองปนสีเงิน สาบเสื้อด้านหนึ่งป้ายมาทางซ้าย ตัวกระโปรงเป็นผ้าที่ทอลวดลายละเอียดงามประณีต มองแว่บเดียวก็ทราบว่าต้องเป็นผ้าที่ทอขึ้นด้วยมือ ทั้งยังเป็นฝีมือที่หายากยิ่ง ผมดำยาวถูกเกล้าขึ้นสูงประดับด้วยเครื่องประดับสีทองรูปร่างแปลกตา หูสวมใส่ต่างหูทรงกลมสีทอง ข้อมือสวมกำไลที่ประดับอย่างวิจิตรข้างละสองขอน นิ้วมือทั้งแปดสวมใส่ปลอกนิ้วเรียวยาวแปลกตา ในมือถือเทียนไว้ข้างละเล่มพร้อมกับเคลื่อนไหวมือด้วยท่วงท่าอ่อนช้อย
ยามนี้นางรำทั้งหกแปรขบวนเรียงหน้ากระดาน ทุกคนจึงได้เห็นหน้านางรำชัดเจนกว่าเดิม หากธีออนนั้นตะลึงงันไปแล้ว นัยน์ตาสีน้ำเงินของเขาเบิ่งกว้างจับจ้องหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่กลางแถวราวกับถูกมนตร์สะกด
แสงเทียนอ่อนๆ จับดวงหน้านวลละอองนั้นให้ส่องสว่างราวพระจันทร์วันเพ็ญ ทั้งร่างของเธอคนนี้ราวกับจะเปล่งประกายบางอย่างอันอ่อนโยน เธอเคลื่อนไหวไปตามท่ารำและจังหวะดนตรีอย่างนุ่มนวลแช่มช้า ท่วงท่าราวกับจะลอยได้ทั้งยังจับตาจับใจเขาไปหมดสิ้น สายตาคมกริบไม่คลาดเคลื่อนไปจากเธอคนนี้ และที่สำคัญคือไม่รู้ว่าเขาไปเอาความมั่นใจมาจากไหน เพราะเขามั่นใจที่สุดว่านางรำคนนี้คือเธอคนนั้นที่เขาจุมพิตในความฝัน และเธอคือ ‘ดอกบัวแห่งมู’
แต่เหนืออื่นใดนั้น หัวใจของเขารู้สึกเต็มตื้นและปลาบปลื้มเหลือเกินราวกับเขากำลังจะได้ของรักกลับคืน ! !
ใบหน้างามน่ารักราวออกมาจากความฝันแย้มยิ้มพริ้มพรายให้ทุกคนในห้องจัดเลี้ยง เพียงเธอเผยรอยยิ้มละมุนก็สะกดทุกสายตาให้จ้องมองเพียงเธอ ละเลยคนอื่นรอบข้างไปหมดสิ้น
“โอ๊ะ ! !” ธีออนอุทานออกมาเบาๆ เขาหลุดจากภวังค์ที่จับจ้องนางรำคนนั้นทันที
“เป็นอะไร? ธีออน” โอเชียที่นั่งอยู่ใกล้เขาที่สุดถามขึ้นอย่างแปลกใจ หากธีออนไม่ตอบคำถามนี้ เขาล้วงมือเข้าไปในอกเสื้อบริเวณที่มีจี้ดอกบัวแห่งมูก่อนจะมีสีหน้าแตกตื่นยินดี
“ลุงโอเชีย ดอกบัวแห่งมูมีปฏิกิริยาครับ มันเย็นจัดมาก เย็นเสียจนผมนึกว่ามันเป็นก้อนน้ำแข็งขั้วโลก นี่เป็นครั้งแรกที่มันมีปฏิกิริยาแบบนี้” เขาบอกอย่างตื่นเต้น
“จริง?” โอเชียถามขึ้นอย่างตื่นเต้นดีใจไม่แพ้กัน
