บทย่อ
มูหรือเลมูเรีย ทวีปแห่งมารดร ทวีปแห่งอารยธรรมอันรุ่งเรืองมาเนิ่นนานตั้งแต่ 50,000-300,000 ปีก่อนอารยธรรมยุคใด สัญลักษณ์สำคัญของมูคือดอกบัว จารึกแห่งนาอะคัล (Naacal) บันทึกว่าทวีปมูจมลงสู่ก้นมหาสมุทรไปเมื่อ 13,000 ปีก่อนด้วยภัยพิบัติแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด และคลื่นสึนามิ เวลานี้ดอกบัวแห่งนิมมานรดีดอกนี้ จำเพาะต้องลงสู่โลกมนุษย์ เติบโตเป็นหญิงสาวผู้งดงามและเพียบพร้อม วันหนึ่งเธอจึงได้พบกับเขา เขาตามหาดอกบัวแห่งมูเพื่อให้ช่วยเหลือเขาในการปกป้องมหานครแห่งมูที่ซ่อนตัวอยู่ที่ใดที่หนึ่งใต้มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ มหานครแห่งมูนี้เต็มไปด้วยชาวทวีปมูที่สืบทอดเชื้อสายกันมาตั้งแต่ 13,000 ปีก่อนนั้น ดอกบัวแห่งมูเช่นเธอจะช่วยเขาได้อย่างไร ในเมื่อเธอไม่มีพลังอำนาจใดเลย หากเขาก็ยืนยันว่าต้องเป็นเธอเท่านั้น
บทที่ 1 มู ทวีปแห่งมารดร (1/3)
ทวีปมู (Mu) หรือ เลมูเลีย (LeMUria) คือ แผ่นดินที่จมลงใต้มหาสมุทรแปซิฟิกใต้เมื่อกว่า 13,000 ปีก่อน เรื่องของทวีปมูปรากฏให้เห็นเป็นครั้งแรกจากจารึกแผ่นดินเหนียวของนักบวชชาวนาอะคัล (Naacal) ที่ออกมาจากทวีปมูหรือเลมูเรียที่ค้นพบในอินเดีย จารึกแห่งนาอะคัลนี้เขียนด้วยสัญลักษณ์และอักขระนากา (Naga)
จากตำนานกล่าวกันว่า ‘เขียนขึ้นที่แผ่นดินมู’ จารึกนี้ได้ถูกนำเข้ามาที่พม่าก่อนแล้วจึงนำมาที่อินเดีย มีอายุเก่าแก่ประมาณ 15,000 ปี และจารึกโตรอาโน (Troano) ของชนเผ่ามายาที่ยูคาตันเม็กซิโก ทำให้ปัจจุบันนักโบราณคดีได้ทราบว่ามีถิ่นอารยธรรมที่รุ่งเรืองทางวิทยาการ ศาสนา ก่อนยุคสมัยสุเมเรียนที่ไทกริส-ยูเฟตริสและก่อนสมัยของอียิปต์โบราณ
‘ดอกบัว’ เป็นสัญลักษณ์ที่ใช้กันมานานประมาณ 50,000-300,000 ปีบนทวีปมู ดอกบัวสื่อถึง อาณาจักร ตราราชวงศ์ และที่ลึกซึ้งกว่านั้นคือศาสนธรรมโบราณ
ฤาษีวาลมิกิ (Valmiki) นักปราชญ์ นักโบราณคดีของอินเดีย ผู้รจนารามายณะหรือรามเกียรติ์ ระหว่าง พ.ศ.100-200 ได้รับการถ่ายทอดเรื่องราวจากการอ่านบันทึกโบราณของวัด โดยนักบวชผู้สูงศักดิ์แห่งวัดริชี (Rishi) ที่เมืองอโยเดีย (Ayhodia) ได้กล่าวถึงนักบวชนาอะคัลว่า ‘มาสู่พม่า จากแผ่นดินเกิดของพวกเขาซึ่งอยู่ทางตะวันออก’
จากนั้นเหล่านักบวชนาอะคัลได้นำความรู้วิทยาการต่างๆ ศาสนาโบราณ การบูชาเทพเจ้าดวงอาทิตย์มาสู่มายา อียิปต์ อารยัน (ก่อนชาวอารยันเปลี่ยนชื่อเป็นวิษณุเทพเมื่อครั้งลงมาอยู่ชมภูทวีป) นักบวชนาอะคัลดังกล่าวเข้าสู่อินเดียและอียิปต์ตอนเหนือโดยการเผยแพร่ศาสนาโบราณและคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์และอียิปต์ตอนใต้ที่ซาอีร์ขณะนั้น ปฏิบัติตามศาสนธรรมของเทพโธท (Thoth) บูชาเทพโอไซริส
การนับถือเทพเจ้าดวงอาทิตย์เป็นสิ่งสูงสุดของชาวอารยัน มายาในยูคาตัน ไอยคุปต์โบราณ ล้วนมาจากมาตุภูมิที่นั่นเรียก รา-มู สัญลักษณ์ผู้สร้าง นารายาณะ พญานาคเจ็ดเศียร
ขณะเดียวกัน ชาวทวีปมูกลุ่มหนึ่งอพยพไปอยู่ที่คาบสมุทรยูคาตัน (Yucatán เดิมชื่อ ‘Yucal Peten’ ใน Mayathan หรือ Mayab ‘Land of the Maya’) คาบสมุทรนี้แยกอ่าวเม็กซิโกออกจากทะเลแคริบเบียน
ที่อุกซ์มัล (Uxmal) เป็นเมืองมายาโบราณในยุคคลาสสิกที่ตั้งอยู่ในเม็กซิโกในปัจจุบัน เป็นหนึ่งในแหล่งโบราณคดีที่สําคัญที่สุดของวัฒนธรรมมายาพร้อมกับ Palenque, Chichen Itza และ Calakmul ในเม็กซิโก Caracol และ Xunantunich ในเบลีซและ Tikal ในกัวเตมาลา ตั้งอยู่ในภูมิภาค Puuc ของคาบสมุทร Yucatán ตะวันออกและถือเป็นหนึ่งในเมืองมายาที่เป็นตัวแทนของรูปแบบสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นของภูมิภาคมากที่สุด ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก
ที่นี่ชาวทวีปมูสร้างวิหารปิรามิดขึ้นจารึกว่า ‘เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่แผ่นดินตะวันตกที่ซึ่งเราจากมา’ รวมถึงปิรามิดแห่งเม็กซิโกซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเม็กซิโก ซิตี้ (Mexico City) คำจารึกของปิรามิดกล่าวไว้ว่า ‘ปิรามิดถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสาวรีย์แด่การล่มสลายของแผ่นดินแห่งตะวันตก’
บันทึกยังกล่าวถึงการล่มสลายของทวีปมูที่รู้จักกันว่าคือชนเผ่ามายา ประโยชน์ส่วนหนึ่งของวิหารปิรามิดใช้เพื่อนักบวชประกอบพิธีกรรมศักดิ์สิทธิเพื่อบูชาเทพเจ้าดวงอาทิตย์ รา รามู เทพเจ้าสูงสุด ประเพณีต่างๆ ที่มาจากที่เดียวกัน การนับถือเทพเจ้าดวงอาทิตย์ เป็นสิ่งสูงสุดของชาวอารยัน ชาวมายาในยูคาตัน อียิปต์โบราณ ล้วนมาจากมาตุภูมิที่นั่น
รา-มู คือ สัญลักษณ์ผู้สร้าง นารายาณะ พญานาคเจ็ดเศียร ความรู้เกี่ยวกับตำนานการสร้างโลก การกำเนิดจักรวาล และที่โมเสสถอดมาจากภาษาไฮโรกลิฟิกของอียิปต์โบราณ ลงสู่คัมภีร์เอซรา (Ezra) แล้วแปลลงเป็นภาษาฮิบรู เป็นพันธสัญญาเก่าและพันธสัญญาใหม่ในบทการสร้างโลก (Genesis)
สัญลักษณ์ของศาสนาโบราณแห่งทวีปมู
สัญลักษณ์ที่ 15 หมายถึง ดวงตาที่ควบคุมดูแลทุกสรรพสิ่งในจักรวาล ภายใต้สามเหลี่ยมที่ทรงพลังที่สุดที่เป็นศูนย์กลางของทุกจักรวาลรวมทั้งเอกภพทั้งหมด ทวีปมูใช้สัญลักษณ์นี้แทนพระเจ้า ‘รา’ ในอียิปต์ หมายถึง ดวงตาแห่งเทพโอไซริส ดวงตาที่สาม และยังใช้ในคริสต์ศาสนานิกายคาทอลิค และใช้กันในสมาคม Freemason ที่มีต้นสายที่ยาวนานย้อนไปได้ถึงยุคอียิปต์โบราณ (สังเกตที่ธนบัตร 1 ดอลล่าร์อเมริกา)
สัญลักษณ์ที่ 16 และ 18 หมายถึง ภาวะที่ดูแลสรรพสิ่งที่อยู่ภายใต้สมดุล
สามเหลี่ยมหัวตั้ง ซึมซับรับพลังงานทุกจิตวิญญาณในจักรวาล พลังงานในรูปแบบจิตวิญญาณและการกระทำ
สามเหลี่ยมกลับหัว ส่งคืนผลของการกระทำ จิตวิญญาณ ภายใต้ภาวะสมดุลย์ของพลังงานของทุกสรรพสิ่ง
วงกลมภายใน คือ ภาวะการหมุนเวียนจัดสรรของวงรอบ-วงกลม พลังงานที่ไหลเข้า-ไหลออก ภายใต้ภาวะสมดุลย์
วงกลมภายนอก คือ ศูนย์กลางของทุกจักรวาล รา พระอาทิตย์ดวงแม่
สัญลักษณ์ที่ 19 คือ ภาวะที่ถึงจุดกัลปวสานของทุกเอกภพก่อนเข้าสู่ยุคเริ่มใหม่ มีเพียงสามเหลี่ยมพลังงานที่ซ้อนกัน กลับกลายเป็นสภาพว่างไร้สรรพสิ่ง
สัญลักษณ์ที่ 17 คือ การก่อกำเนิดเมล็ดพืชแรกอีกครั้งหลังจากกาลสิ้นสุด เป็นการเริ่มใหม่ของทุกสรรพสิ่ง จากศูนย์กลางธรรมชาติภายใน เมล็ดพืชแรก = จุดแรกที่เริ่มต้น = พินทุ (บาลี)
สัญลักษณ์ที่ 20 คือ การรังสรรค์ การสร้างของพลังแห่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4 ในตอนเริ่มต้น
แนวคิดศาสนธรรมโบราณทวีปมูมีอยู่ว่า ในตอนเริ่มต้นนั้นมีเพียงความยุ่งเหยิง (Chaos) ทั้งจักรวาลที่มืดมิด ต่อมาภาวะทั้งหลายดำเนินไปสู่ภาวะสงัด ไร้สรรพเสียง ต่อมาผู้สร้างพร้อมด้วย ‘ความปรารถนา’ ได้บัญญัติอำนาจเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ทั้งสี่เพื่อสร้างกฏและระเบียบในจักรวาล เพื่อให้การสร้างได้เริ่มต้นขึ้น กฏและระเบียบได้ถูกสร้างเกิดโดยพลังอันศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ ตามความปรารถนาและบัญญัติของผู้สร้าง
จารึกของนักบวชนาอะคัลมีชื่อเรียกว่า ‘ข้อเขียนดลใจอันศักดิ์สิทธิ์แห่งมู (The Sacred Inspired Writing of Mu)’

