บท
ตั้งค่า

บทที่ 22 พบกันในความฝันและทวีปแห่งมารดร (1/3)

รูปร่างของชายหนุ่มผู้นี้สูงใหญ่ กล้ามเนื้อสวย ผมสีน้ำตาลเข้ม ผิวขาว จมูกโด่ง นัยน์ตาสีน้ำเงิน หน้าตาหล่อเหลาชนิดที่เป็นดาราดังระดับโลกได้อย่างสบายๆ เขาเดินเล่นอยู่ในสวนของโรงแรมระดับห้าดาวในเมืองสจ๊วตไอส์แลนด์ (Stewart Island) ซึ่งอยู่ในเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ ข้างกายเขาเป็นหนุ่มใหญ่วัยราว 50-55 ปี รูปร่างสูงใหญ่พอๆ กับเขา แต่งตัวเช่นเดียวกับเขา

“ลุงก็คิดเหมือนแก ธีออน ดอกบัวแห่งมูต้องอยู่ที่นี่” หนุ่มใหญ่ข้างกายเขาเอ่ยขึ้น แม้แท้จริงอายุของหนุ่มใหญ่รายนี้จะปาเข้าไป 60 ปีแล้ว และจึงได้รู้ว่าชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนนี้ชื่อ ‘ธีออน’

“ลุงโอเชียว่าเธอคนนั้นน่าจะอยู่ที่เมืองไหนในนิวซีแลนด์ ตอนนี้พวกเรามีเวลาเหลือเพียงห้าปีเท่านั้นก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติกับเมืองของพวกเรา เราต้องตามหาเธอให้เจอให้ได้” ธีออนเรียกหนุ่มใหญ่คนนี้ว่า ‘โอเชีย’

“ไม่รู้จะเดายังไง ปัญหาของพวกเราคือธีออนต้องได้พบเธอเท่านั้นถึงจะรู้ได้ว่าเธอคือดอกบัวแห่งมู ไม่มีทางอื่นเลย ที่ผ่านมาผู้หญิงทุกคนที่เราคิดว่าใช่ ธีออนก็ไปพบมาหมดแล้ว กลับไม่สามารถสัมผัสพลังได้ จี้ดอกบัวก็ไม่ตอบรับ ไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ” โอเชียบ่นออกมา

“นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่เป็นเกาะ ลุงดูจากแผนที่แล้ว นิวซีแลนด์มีพื้นที่ 268,021 ตารางกิโลเมตร มีเมืองสำคัญ 30 เมือง เรามีเวลา 60 เดือนก็จริง แต่ควรใช้เพียง 48 เดือน อีก 12 เดือนหรือหนึ่งปีที่เหลือนั่น ลุงไม่อยากให้เราต้องไปถึงช่วงเวลานั้นที่เร่งควานหาดอกบัวแห่งมูอย่างบ้าคลั่ง”

“ถูกของลุง พวกเราไม่ควรไปถึงช่วงเวลานั้นจริงๆ ถ้าคำนวณจากเวลาที่ลุงบอก เท่ากับเรามีเวลาค้นหาประมาณเดือนครึ่งต่อหนึ่งเมือง หวังว่าพวกเราจะโชคดี ได้พบเธอก่อนเวลาวิกฤตินั่น”

ผ่านไปอีกสามปีกว่าๆ

“เรามีเวลาเหลืออีกเพียงปีกว่าๆ เท่านั้น แต่ยังไม่พบดอกบัวแห่งมูเลย” โอเชียเอ่ยออกมาอย่างกลัดกลุ้ม ขณะที่ธีออนก็มีสีหน้าเคร่งเครียดไม่แพ้กัน

“ก็ต้องพยายามครับ คิดในแง่ดี อย่างน้อยตอนนี้เราก็เหลือแค่เมืองอ๊อคแลนด์ เมืองวานกาเร (Whangarei) และเมืองเบย์ออฟไอส์แลนด์ (Bay of Islands) ดอกบัวแห่งมูต้องอยู่หนึ่งในสามเมืองนี้แน่นอน”

“ก็จริง งั้นธีออนเตรียมตัวให้ดี คืนพรุ่งนี้พวกเราต้องไปงานเลี้ยง Peace Wing ไม่แน่ว่างานนี้พวกเราอาจโชคดีได้พบดอกบัวแห่งมูก็ได้ ลุงอธิษฐานมาตลอดตั้งแต่ขึ้นมาบนนี้ว่าขอให้พวกเราพบดอกบัวแห่งมูทันเวลา”

อมาริสาเพ่งมองภาพตรงหน้าอย่างแปลกใจ เบื้องหน้าของเธอคือโดมแก้วใสขนาดใหญ่ที่ปกคลุมมหานครอันรุ่งเรืองด้วยวิทยาการต่างๆ เกินกว่าโลกของเธอไปอย่างทาบไม่ติด ผู้คนมากมายนอกโดมแก้วแหวกว่ายท่ามกลางสายน้ำอันลึกล้ำนี้อย่างคล่องแคล่วปราดเปรียว เหมือนว่าพวกเขาสามารถหายใจในน้ำได้ราวกับปลา บางส่วนก็นั่งอยู่บนยานพาหนะรูปทรงประหลาดที่เคลื่อนที่ได้เร็วยิ่ง

หากที่สะดุดตาเธอที่สุดกลับเป็นปิรามิดขนาดใหญ่สีขาวภายในโดมแก้ว มันตั้งอยู่ไกลออกไป ปิรามิดนี้ทอแสงสว่างเย็นตา ยอดปิรามิดเป็นดวงแสงขนาดใหญ่ที่ส่องสว่างให้กับมหานครแห่งนี้ ทั้งยังดูเหมือนเป็นแหล่งพลังงานของมหานครอันรุ่งเรืองนี้เช่นกัน เธอได้แต่คิดอย่างแปลกใจว่ามหานครนี้คือที่ใด? ปิรามิดนี้คืออะไร?

“นี่คือมหาปิรามิดแห่งมู”

เสียงทุ้มหากอ่อนโยนดังขึ้นข้างหูเธอราวกับรู้ใจว่าเธอกำลังคิดอะไร พร้อมกับที่เธอรับรู้ได้ถึงอ้อมแขนแข็งแรงและอบอุ่นที่โอบกอดจากด้านหลังด้วยความทะนุถนอมยิ่ง อมาริสาหันกลับไปมองว่าเขาเป็นใคร เพราะคล้ายว่าเธอคุ้นเคยกับอ้อมกอดนี้อย่างประหลาด จึงได้เห็นผู้ชายคนหนึ่ง รูปร่างสูงใหญ่สง่างามแต่เขาไม่ได้ให้ความรู้สึกที่น่ากลัวกับเธอ มีเพียงความรู้สึกอบอุ่น อ่อนโยน และปลอดภัยเท่านั้นที่เธอสัมผัสได้

อมาริสาพยายามเพ่งมองใบหน้าของเขาแต่กลับมองเห็นไม่ชัด สายน้ำที่รายล้อมรอบตัวเคลื่อนไหวเป็นคลื่นบดบังใบหน้าเขาไว้ให้มองเห็นเพียงรางเลือน แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็รู้สึกได้ว่าเขาต้องหน้าตาดีมากๆ เลยเชียวล่ะ และที่สำคัญที่สุดคือ เธอรู้จักเขาเป็นอย่างดี !

คำถามผุดขึ้นในใจทันที เธอไปรู้จักเขาได้อย่างไร เพราะเธอแน่ใจว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอพบเห็นเขา เรื่องประหลาดอีกอย่างคือเธออยู่ใต้ท้องน้ำ แต่เธอกลับสามารถหายใจใต้น้ำได้อย่างสบาย !

“มหาปิรามิดแห่งมู?” เธอทวนคำอย่างประหลาดใจ เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินชื่อนี้

“ใช่ มหาปิรามิดแห่งมู และมหานครเบื้องหน้าที่เจ้าเห็นคือ มหานครแห่งมู ที่มีอายุมาถึงหนึ่งหมื่นสามพันปีแล้ว”

“หนึ่งหมื่นสามพันปี ! !” เธออุทานอย่างตกใจ หากก็ต้องแปลกใจไปพร้อมกันที่เขาพูดจากับเธอด้วยถ้อยคำโบราณ แต่เธอก็ไม่รู้สึกผิดแปลกกับคำพูดเหล่านี้

“ใช่ และเวลานี้มหานครนี้แห่งนี้กำลังรอคอยเจ้า ดอกบัวแห่งมู ดอกบัวที่ข้าเฝ้าตามหามาเนิ่นนาน”

“ดอกบัวแห่งมู!? คืออะไร? ตามหาดอกบัวแห่งมู? หมายถึงคุณตามหาฉันงั้นเหรอ?”

“อีกหน่อยเจ้าก็รู้เอง อย่ากังวลไปเลย ไม่ช้าเจ้าและข้าจะได้พบกัน”

เขาบอกกล่าวเพียงเท่านี้ก่อนจะรั้งร่างบอบบางในอ้อมกอดเข้ามาชิดและก้มลงจุมพิตริมฝีปากของเธอ อมาริสาเบิ่งตากว้างอย่างตกใจ หากครู่เดียวอ้อมกอดก็แน่นหนาขึ้น มือแข็งแรงจับต้นคอของเธอไว้ เมื่อเธอพยายามเบือนหน้าหนีและผลักเขาออก จุมพิตยิ่งหนักหน่วงและลึกซึ้งกว่าเดิมจนเธอเคลิบเคลิ้ม เผลอปล่อยให้เขาจุมพิตเนิ่นนาน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel