บทที่ 16 นางฟ้าน้อยถ่ายแบบ (1/3)
พอเห็นสีหน้าของหม่อมเจ้าอิศเรศรดีขึ้น ชยพลก็รีบออกปาก “ลุงศรช่วยผมหน่อยนะครับ ช่วยพูดกับเรนทร์แล้วก็ท่านหญิงภาวิดาให้ยอมให้หนูอลิซถ่ายโฆษณาให้ผม”
“แล้วเธอจะให้อลิซถ่ายโฆษณาอะไร ได้ยินเมื่อกี้ว่าเสื้อผ้า” คราวนี้หม่อมเจ้าอิศเรศรหันมาถามชยพล
“เป็นเสื้อผ้าสำหรับเด็กตั้งแต่อายุหกเดือนถึงห้าปีครับ ยี่ห้อ Blossom เป็นแบรนด์ชื่อดังที่สุดของอังกฤษ เป็นเสื้อผ้าที่เชื้อพระวงศ์เด็กๆ ของอังกฤษสวมใส่ และลูกหลานเซเลบทั่วโลกนิยมที่สุด ผมเป็นตัวแทนนำเข้าแต่เพียงผู้เดียวในเอเชียและโอเชียเนีย (ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์) ครับ แต่เพิ่งเริ่มทำตลาด”
“ตอนนี้ผมมีร้านในไทยหนึ่งแห่ง ในจีนสองแห่ง มีร้านสาขาหนึ่งแห่งในญี่ปุ่น เกาหลี อินโดนีเซีย อินเดีย และอีกสองสาขาที่ผมเพิ่งเริ่มทำตลาดคือออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ยอดขายยังไม่มากเพราะคนในเอเชียและโอเชียเนียยังไม่รู้จักแบรนด์นี้เท่าไหร่ แบรนด์ Blossom จะดังในยุโรปและอเมริกามากกว่า โฆษณาชิ้นนี้ผมจะยิงออกไปทั้งเอเชียและโอเชียเนีย ถ้าได้หนูอลิซมาถ่ายให้ ผมมั่นใจว่าด้วยความน่ารักของแก แบรนด์ Blossom จะทำตลาดได้ไม่ยาก”
“ว่าไง คุณศร ผมว่าที่ตาพลพูดมาดีมากนะ ยัยหนูได้ถ่ายโฆษณาระดับนี้เป็นชิ้นแรก นี่ถ้าพวกโมเดลลิ่งเห็นยัยหนูเข้าคงตาลุก รีบมาคว้าตัวเข้าสังกัดไปแทบไม่ทันแน่ๆ”
หม่อมเจ้าอิศเรศรนิ่งคิดท่ามกลางความลุ้นระทึกของชยพล
“ได้ ฉันจะช่วยพูดกับเจ้าเรนทร์และท่านหญิงให้”
“ขอบคุณลุงศรมากครับ” ชยพลยกมือไหว้แทบไม่ทัน
“ลุงศรจะบินไปนิวซีแลนด์เมื่อไหร่ครับ ผมกับครีเอทีฟจะได้บินไปด้วยกัน เพราะต้องไปพูดคุยให้ชัดเจนและเสร็จแล้วจะได้ถ่ายโฆษณากันเลย”
“ไว้ให้ฉันขอวีซ่าจากสถานทูตนิวซีแลนด์ได้เสียก่อน ได้เมื่อไหร่แล้วจะโทรบอกเธอให้รู้ว่าฉันจะบินเมื่อไหร่”
ผ่านไปราวหนึ่งเดือนหม่อมเจ้าอิศเรศรก็ได้วีซ่าอายุสิบปีจากสถานทูตนิวซีแลนด์
“เรนทร์ พ่อเราเขาจะมาหา” หม่อมเจ้าภาวิดาบอกเมื่อเขากลับมาจากโรงพยาบาลที่ทำงาน
หม่อมราชวงศ์อมเรนทร์ต้องประหลาดใจอย่างที่สุดแล้วก็นึกดีใจ “ท่านพ่อจะมา?”
“ใช่ เขาเพิ่ง Video Call มาบอกก่อนเรนทร์จะกลับมาไม่นาน เห็นบอกว่าจะมาพร้อมเพื่อนสมัยมัธยมของแกด้วย”
“ใครครับ เพื่อนสมัยมัธยมของผม”
“ชยพล วีระกิตธนา”
หม่อมราชวงศ์อมเรนทร์นึกอยู่ครู่ใหญ่จึงค่อยมีสีหน้าว่านึกออก “อ๋อ ! ไอ้พลนี่เอง นึกว่าใคร แล้วมันไปรู้จักท่านพ่อได้ไงล่ะนี่ถึงจะมาด้วยกัน”
“ไม่รู้สิ พ่อเราเขาไม่ได้เล่าอะไรมาก แค่โทรมาบอกสั้นๆ ว่าจะมาหาเรนทร์ เดี๋ยวรอเขามาถึง เรนทร์ก็รู้เองนั่นแหละ”
“แล้วท่านพ่อจะมาวันไหนครับ”
“วันเสาร์นี้ เครื่องจะมาถึงสนามบินนานาชาติไครส์เชิร์ช (Christchurch International Airport: CHC) ตอนสิบโมงเช้า กว่าจะออกจากสนามบินก็คงใช้เวลาสักชั่วโมง แล้วนั่งรถยนต์ต่ออีกประมาณ 3 ชั่วโมง คงมาถึงสักบ่ายสองไม่เกินบ่ายสาม แม่ส่งแผนที่บ้านไปให้เขาแล้ว รถที่เช่ามาส่งจะได้พามาถูก”
วันเสาร์ บ่ายสองโมงครึ่ง เสียงกริ่งประตูดังขึ้น หม่อมราชวงศ์อมเรนทร์ถลาไปเปิดออกทันที
“ท่านพ่อ !” เขาเรียกออกมาเมื่อได้เห็นใครยืนอยู่หน้าประตู สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดีใจและตื่นเต้น
“จะไม่เชิญพ่อเข้าบ้านหน่อยรึไง” ผู้เป็นบิดาทักถาม
“คะ...ครับ” เขารับคำ
“เชิญท่านพ่อ...เอ่อ...นั่นแกใช่มั้ยไอ้พล” เขาทักขึ้นเมื่อเห็นว่าใครตามหลังมา
“เออ...ฉันเอง ไม่ได้เจอเสียนาน ฉันพาแฟนกับลูกมาด้วย นี่พิมพา แฟนฉัน แล้วก็ภาสกรหรือตากร ลูกชายฉัน ห้าขวบแล้ว”
หม่อมราชวงศ์อมเรนทร์พยักหน้ารับรู้ก่อนจะถามต่อ “แล้วคุณผู้หญิงนี่ล่ะ”
“นี่คุณศศิมา เพื่อนแฟนฉันเอง เขาตามมาเที่ยวด้วย”
หม่อมราชวงศ์อมเรนทร์อึ้งไปนิด ไม่คิดว่าจะมีคนนอกอย่างศศิมาตามมา
“เข้ามาก่อน ฉันเตรียมห้องไว้ให้พักแล้ว”
“บ้านกว้างขวางใช้ได้” หม่อมเจ้าอิศเรศรเอ่ยชมหลังจากมองไปรอบๆ
“บ้านคุณเรนทร์กว้างและก็น่าอยู่มากเลยค่ะ” ศศิมาเอ่ยชมอีกคน
“ผมให้ท่านพ่อพักห้องเดียวกับท่านแม่นะครับ พลกับครอบครัวพักอีกห้องหนึ่ง ส่วนคุณศศิมา ผมต้องให้พักห้องยัยหนูไปก่อน เดี๋ยวขอเวลาไปดูดฝุ่นทำความสะอาดหน่อยนะครับ เพราะไม่ได้เตรียมไว้”
“ค่ะ แต่ได้ยินว่าลูกสาวคุณเรนทร์เพิ่งขวบเดียวเองนี่คะ ทำห้องไว้ให้แกแล้วเหรอคะ”
“อ๋อ ! ผมเตรียมไว้สำหรับตอนแกโตกว่านี้ครับ แต่ก็ปิดไว้เฉยๆ ในนั้นมีแค่เตียงกับตู้เสื้อผ้าเท่านั้น ไม่ได้มีอะไร รอให้แกโตกว่านี้แล้วค่อยให้แยกห้องไปนอน ไปจัดห้องเอง แต่ห้องพักทุกห้องมีห้องน้ำให้ครับ จะได้ไม่ต้องต่อคิวกันเข้าให้วุ่นวาย”
“แล้วนี่น้องอลิซไปไหนล่ะคะ ไม่เห็นแกเลย”
“แฟนผมกับท่านแม่พาไปฉีดวัคซีนครับ หมอนัดฉีดเวลานี้พอดี เดี๋ยวก็กลับมา”
พูดยังไม่ทันขาดคำก็ได้ยินเสียง
“อ้าว ! มากันแล้ว?” เสียงของหม่อมเจ้าภาวิดาทักทายเมื่อเปิดประตูเข้ามาในบ้าน ในอ้อมแขนมีร่างเล็กน่ารัก ผิวขาวจนอมชมพูไปทั้งตัวจ้องมองมาและส่งเสียงอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นคนเต็มบ้าน
“ย่า เยอะ” สองคำสั้นๆ เป็นอันเข้าใจได้ว่าเรียกผู้เป็นย่าและบอกว่าคนเยอะ
“ใช่แล้วลูก คนเยอะ” หม่อมเจ้าภาวิดาหันไปพูดคุยกับหลานสาวตัวน้อยทันที
นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้เห็นอลิซน้อย
