บทที่ 14 ว่าที่นางแบบเด็ก (2/3)
ณ ห้องประชุมของสาขาบริษัท Timepeak หนึ่งในสามเอเจนซี่โฆษณาใหญ่ระดับโลก
“คุณศศิมา Concept งานโฆษณาของคุณดีมากเลย ผมตกลง พวกคุณหาเด็กที่จะมาถ่ายแล้วเริ่มถ่ายโฆษณาได้เลย ผมขอเร็วที่สุด” ชยพล เจ้าของสินค้าเสื้อผ้าเด็กนำเข้าแบรนด์ ‘Blossom’ ตอบตกลงอย่างรวดเร็ว
“เอ่อ...คุณชยพลมองเด็กคนไหนไว้มั่งมั้ยคะ ทางเราจะได้เอามาถ่าย”
“ไม่มีเลย แต่จากที่คุณนำเสนอ เด็กที่ถ่ายนี่ต้องหน้าตาน่าเอ็นดูมากๆ เลยนะ คุณคงต้องเสียเวลาหาเด็กหน่อยล่ะ”
“จริงๆ งานที่นำเสนอนี่ ศศิก็ได้ไอเดียมาจากหลานของเพื่อนค่ะ แล้วก็ไปทาบทามหลานเพื่อนไว้แล้ว แต่เผอิญหลานคนนี้อยู่ต่างประเทศ หลานเขาอยู่นิวซีแลนด์ค่ะ พ่อกับแม่เขาไม่พาลูกบินมาถ่ายงานให้แน่ๆ แต่จะให้เราส่งตั๋วเครื่องบินไปให้ ก็ไม่ไหวเหมือนกัน คงต้องหาเด็กอื่นมาถ่ายจริงๆ”
“หลานเพื่อนคุณน่ารักขนาดนั้นเลย? มีรูปแกมั้ย? ขอผมดูหน่อย”
“ได้ค่ะ อยู่ในมือถือของศศิเอง สักครู่นะคะ”
ศศิมาหันไปหยิบโทรศัพท์มือถือมา นิ้วจิ้มไปบนหน้าจอสักครู่ก็ยื่นโทรศัพท์ให้ “เลื่อนดูรูปได้เลยค่ะ แกเป็นเด็กผู้หญิง อายุขวบเดียวเอง แต่น่ารักจริงๆ เห็นแล้วตกหลุมรักเลย”
ชยพลรับโทรศัพท์มาดู แค่รูปแรกที่ได้เห็น เขาก็ตาโตก่อนจะเลื่อนดูไปทีละรูป
“น่ารักมากจริงๆ ผมนึกว่าตุ๊กตาเสียอีกถ้าคุณไม่บอกว่าเป็นหลานเพื่อน” ชยพลเอ่ยชมออกมา
“เพื่อนศศิบอกว่าตัวจริงแกน่ารักกว่าในรูปมาก ศศิก็เสียดายเพราะแกอยู่ต่างประเทศ ถ้าได้แกมาถ่ายนี่ ศศิมั่นใจว่าเสื้อผ้าเด็กของคุณชยพลจะดังระเบิดและขายดีมากแน่ๆ แต่ตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้ ต้องหาเด็กคนอื่นมาถ่ายแทน”
“บริษัทแม่ของเอเจนซี่คุณมีสาขาในนิวซีแลนด์ไม่ใช่เหรอ ให้เอเจนซี่ที่นั่นถ่ายให้สิ แล้วคุณบินไปคุมงานเอง แค่นี้เราก็ถ่ายได้ตามที่คุณเสนอแล้ว” ชยพลออกปาก
“จริงของคุณชยพล ศศิลืมไปได้ไงเนี่ย” ศศิมาเอ่ยอย่างนึกขึ้นได้
“ว่าแต่เพื่อนคุณนี่ใคร? หลานสาวน่ารักจริงๆ” ชยพลถามอย่างติดใจ
“หม่อมราชวงศ์ชนิสา รณเรศ ภรรยาของหม่อมราชวงศ์อิศรา รณเรศ ชนิสาเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมของศศิค่ะ”
“รณเรศ? ผมคุ้นๆ ว่าจะเป็นราชสกุลใช่มั้ย?”
“ใช่ค่ะ คุณชยพลรู้จักด้วย?” ศศิมาถามอย่างแปลกใจ เพราะคนสมัยนี้น้อยนักที่จะรู้จักราชสกุลเก่า
“สกุลรณเรศนี่ เหมือนผมจะรู้จักจริงๆ” ชยพลขมวดคิ้วครุ่นคิด
“ใช่แล้ว สกุลรณเรศ เพื่อนเก่าผมสมัยเรียนมัธยมเลย ขอผมนึกก่อนว่าใคร” ชยพลอุทานออกมาก่อนจะนิ่งคิด ครู่หนึ่งเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือมากดโทรหาใครสักคน
"เฮ้ย ดินทร์ ฉันเอง”
“มีไรวะ ไอ้พล” เสียงปลายสายตอบกลับ
“เพื่อนเก่าเรามีใครนามสกุล ‘รณเรศ’ บ้างวะ ฉันจำได้ว่ามีนามสกุลนี้ แต่จำชื่อไม่ได้”
“แกถามทำไม”
“เออน่ะ แกบอกมาก่อน”
“นามสกุล ‘รณเรศ’ ก็มีอยู่สองคนไง เพื่อนเราที่นามสกุลนี้ชื่อ ‘อมเรนทร์’ อีกคนก็น้องชายมัน ชื่อ ‘อิศรา’ นึกออกยัง”
“เออใช่ ไอ้เรนทร์จริงๆ ด้วย นึกชื่อมันอยู่ตั้งนาน อิศราก็น้องไอ้เรนทร์ นึกออกแล้ว”
“แล้วแกถามหาไอ้เรนทร์ทำไม”
“เอเจนซี่โฆษณาน่ะสิ เอารูปเด็กผู้หญิงคนหนึ่งให้ฉันดู โคตรน่ารักเลยว่ะ ฉันเลยอยากได้มาถ่ายโฆษณา แต่เอเจนซี่บอกว่าเด็กคนนี้อยู่นิวซีแลนด์ เด็กเป็นหลานสาวเพื่อน แล้วเพื่อนคนนี้เป็นภรรยาของอิศราน้องชายไอ้เรนทร์ไง ฉันเลยสงสัยว่าเด็กคนนี้จะเป็นลูกไอ้เรนทร์”
“งั้นก็ใช่แล้วล่ะ เด็กผู้หญิงน่ารักขนาดนี้มีคนเดียวแน่นอน ยัยอลิซ ลูกสาวไอ้เรนทร์ เรนทร์มันทำงานเป็นหมออยู่ที่นิวซีแลนด์ เดี๋ยวฉันส่งรูปอลิซให้แกดูในไลน์ ว่าใช่คนเดียวกันรึเปล่า รอแป๊บนะเว้ย”
ครู่เดียวเสียงสัญญาณโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ชยพลรีบเปิดออกดูทันที
“ใช่เลยโว้ย ไอ้ดินทร์ คนเดียวกัน แต่รูปของแกเหมือนยังเล็กกว่านี้”
“ใช่ ตอนนั้นอลิซเพิ่งหกเดือน ไอ้เรนทร์ส่งรูปมาให้ดู ฉันเลยเซฟเก็บไว้”
“หกเดือนก็ว่าน่ารักแล้วนะ ขวบหนึ่งยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่ อยากได้มาถ่ายโฆษณาที่ไทยจริงๆ”
“ไอ้เรนทร์ไม่ให้ลูกมันมาหรอก มันหวงลูกจะตาย ถ้าแกอยากได้อลิซมาถ่ายให้ ก็มีสองทางเลือก ทางแรกแกส่งตั๋วเครื่องบินไปกลับให้ไอ้เรนทร์พาครอบครัวบินมาที่ไทย หรือทางสอง เอเจนซี่แกมีสาขาที่นิวซีแลนด์มั้ยล่ะ ถ้ามี ก็ให้ที่นั่นถ่ายมาให้ แต่ปัญหาคือ ต่อให้ถ่ายที่นิวซีแลนด์ ไอ้เรนทร์จะยอมรึเปล่าเหอะ อลิซยังเล็กมาก แค่ขวบเดียว ไอ้เรนทร์ไม่มีทางยอม”
“หรือต่อให้ไอ้เรนทร์ยอม ท่านย่าของอลิซจะยอมหรือเปล่า แกรู้จักหม่อมเจ้าภาวิดา รณเรศ มั้ยล่ะ เห็นท่านยิ้มแย้มใจดีอย่างงั้น แต่ถ้าเป็นเรื่องอลิซเมื่อไหร่ แม่เสือดีๆ นี่เอง แกไปคิดให้ดีก็แล้วกัน”
“แกพูดกับไอ้เรนทร์ให้ฉันหน่อยได้มั้ยล่ะ ฉันยอมส่งตั๋วเครื่องบินไปกลับให้ก็ได้”
“ปัญหาไม่ใช่ไอ้เรนทร์โว้ย ปัญหาคือท่านย่าของอลิซ หม่อมเจ้าภาวิดา แกคิดว่าท่านจะยอมมั้ยล่ะ”
“เออ จริง ตอนนี้ได้ยินว่าท่านไม่อยู่เมืองไทย”
“รู้เรื่องนี้กับเขาด้วยเรอะ ใช่ ท่านไม่ได้อยู่ไทยแต่ไปอยู่กับไอ้เรนทร์ ไปช่วยเลี้ยงอลิซ รู้อย่างนี้แล้ว แกคิดว่าแกจะไปล้วงเอาอลิซออกมาจากอกแม่เสือได้มั้ยล่ะ”
“นั่นสินะ เอาไงดีวะ แกช่วยฉันคิดหน่อยสิ ดินทร์”
“คิดไม่ออกโว้ย ปกติไอ้เรนทร์กับบุษก็หวงลูกสาวอยู่แล้ว นี่ยังเพิ่มท่านย่าเข้าไปอีกคน บอกตรงๆ กูหมดปัญญา แกไปหาทางเอาเองแล้วกัน ถ้าหาไม่ได้ ก็ตัดใจเสีย” บดินทร์ปฏิเสธแบบจนหนทางก่อนจะวางสายไป
“ดูเหมือนคุณชยพลจะหมดโอกาสนะคะ” ศศิมาทักหลังจากฟังการสนทนาจบลง
