บท
ตั้งค่า

บทที่ 13 ว่าที่นางแบบเด็ก (1/3)

“ไปถึง เล่าให้หมอฟัง หมอรีบตรวจและเอ็กซเรย์ทุกอย่าง ผลปรากฏว่ายัยอลิซสบายดี ไม่บาดเจ็บ ไม่มีแผล หรือฟกช้ำดำเขียวอะไรทั้งสิ้น พี่บุษกับท่านแม่เลยถูกหมอแดเนียลเอ็ดและเปิดคอร์สอบรมการเลี้ยงเด็กไปสองชั่วโมงเต็ม แต่เป็นสองชั่วโมงที่หมอแดเนียลโดนยัยอลิซตก เพราะแกนั่งฟังหมอเทศน์พี่บุษกับท่านแม่ด้วยท่าทางเหมือนจะเข้าใจทุกเรื่องที่หมอพูด ทำเอาหมอบอกว่าเดี๋ยวผมจะไปเยี่ยมแกบ่อยๆ บ้านคุณกับผมอยู่ใกล้ๆ กัน เรียกว่ายัยอลิซเสน่ห์แรงแต่เด็ก”

“พอกลับมาถึงบ้าน พี่บุษก็ถามแกว่าลงไปได้ยังไง แกพูดคำว่า ‘แมว’ ก็เลยรู้ว่าแกตามลูกแมวสองตัวที่เป็นเพื่อนเล่นลงไป แล้วพอถามแกว่าไม่เจ็บเหรอ แกพูดคำว่า ‘พี่’ และ ‘อุ้ม’ ออกมา พี่บุษกับท่านแม่แปลกใจใหญ่ว่าใครที่อุ้มแก พอถามต่อว่าพี่คนไหนเพราะตอนนั้นในบ้านก็มีแค่พี่บุษกับท่านแม่ พี่เรนทร์ไปทำงาน ยังไม่กลับ แกก็พูดว่า ‘พี่’ และ ‘สวย’ เลยแปลกใจว่าใคร ท่านแม่บอกว่าคงเป็น ‘แม่ซื้อ’[1] ที่อุ้มแกไว้”

“แล้วหลังจากไปหาหมอกลับมาไม่กี่วัน หมอแดเนียลก็พาเอ็มม่า ภรรยาของหมอ มาเยี่ยมที่บ้าน แล้วเอ็มม่าก็โดนยัยอลิซตกไปอีกคน ตอนพี่บุษกับท่านแม่พาพวกเราไปเที่ยวก็เลยมีเอ็มม่าตามมาด้วย เลยยิ่งเที่ยวสนุกกันไปใหญ่ เอ็มม่าเพิ่งแต่งกับหมอแดเนียลได้หนึ่งปี ยังไม่มีลูก ตอนนี้อยากมีลูกสาวน่ารักๆ แบบอลิซไปแล้ว” หม่อมราชวงศ์ชนิสาเล่าเสริมปนขบขัน

“ก็ดีแล้ว เที่ยวกันสนุกก็ดี” หม่อมเจ้าอิศเรศรกล่าวแค่นี้ก็ลุกออกไปดื้อๆ

“สา คุณว่าท่านพ่อจะใจอ่อนหรือยัง” หม่อมราชวงศ์อิศราหันมาถามภรรยา

“สาว่าอ่อนแล้วล่ะ แต่ก่อนน่ะ พูดถึงพี่เรนทร์ทีไร ท่านพ่อต้องโมโหทุกครั้ง ตอนนี้กลับนั่งฟังเฉยๆ แล้วคุณเห็นตอนท่านพ่อดูและฟังคลิปที่ยัยอลิซเรียก ‘ปู่’ ได้มั้ยล่ะ ท่านนั่งจ้องเป็นนานสองนานเลยนะ จากแต่ก่อนที่ท่านแม่เอายัยอลิซมาล่อหลอกท่านตั้งแต่แรกๆ ตอนนั้นอลิซยังพูดไม่ได้ด้วยซ้ำ ตอนนี้พูดได้แล้ว ขนาดท่านแม่ยังหลงแก ท่านพ่อไม่มีทางรอดมือยัยอลิซหรอก รออีกหน่อย สาว่าเดี๋ยวท่านพ่อต้องบินไปหายัยอลิซแน่นอน”

“ผมก็หวังอย่างนั้นเหมือนกัน เรื่องทั้งหมด พี่เรนทร์ไม่ผิด พี่บุษก็ไม่ผิด ยัยอลิซยิ่งไม่ผิดใหญ่เลย ถ้าท่านพ่อยอมละทิฐิได้ พี่เรนทร์แกจะได้สบายใจ เห็นพี่เรนทร์แกคุยตลก หัวเราะบ่อย ปล่อยมุขตลอด อย่าคิดว่าแกสบายใจนะ แกก็ไม่สบายใจ แต่ไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่อาศัยเวลาให้ท่านพ่อปล่อยวางได้”

“มิน่า สาก็ว่าทำไมอยู่ๆ คุณถึงสอนยัยอลิซเรียก ‘ปู่’ ที่แท้ก็วางแผนช่วยพี่เรนทร์นี่เอง”

“แน่นอน ผมมีพี่ชายคนเดียวนะ ยัยอลิซก็หลานสาวคนแรกและคนเดียว จะไม่ช่วยได้ไง”

“สานึกออกแล้วว่าจะช่วยพี่เรนทร์กับพี่บุษเรื่องการเงินยังไง สาจะเอารูปยัยอลิซที่สาถ่ายเก็บไว้ส่งไปให้เพื่อนสาที่เป็นครีเอทีฟของเอเจนซี่โฆษณา แต่ก่อนส่ง สาต้องขออนุญาตพี่เรนทร์ก่อน แกยิ่งหวงลูกสาวอยู่ด้วย ขืนไม่บอกแล้วส่งไป แล้วแกมารู้ทีหลังนี่ สาโดนพี่เรนทร์ด่าเละแน่”

“สาเชื่อว่าน่ารักอย่างยัยอลิซ ถ้าครีเอทีฟโฆษณาได้เห็น งานเข้าเพียบแน่นอน ปัญหามีข้อเดียวคือพวกนี้จะยอมทุ่มให้ยัยอลิซมั้ย เพราะถ้าจะให้อลิซถ่ายโฆษณา พวกเขาต้องส่งตั๋วเครื่องบินให้พี่บุษกับอลิซและท่านแม่ เพราะพี่เรนทร์และท่านแม่ไม่มีทางปล่อยพี่บุษมากับอลิซเพียงลำพังแน่นอน”

“ไม่ต้องส่งรูปอลิซไปหรอก เอเจนซี่โฆษณาที่ไหนจะมาเอาอลิซไปถ่าย อลิซอยู่ต่างประเทศ ไม่ได้มีชื่อเสียง เอเจนซี่ไทยไม่มีทางทุ่มให้หรอก” หม่อมราชวงศ์อมเรนทร์ปฏิเสธทันทีที่ฟังเรื่องจากหม่อมราชวงศ์ชนิสา น้องสะใภ้ ที่ลงทุน Video Call มาหา

“ก็ลองไว้ไม่เสียหายนี่คะ พี่เรนทร์ เผื่อมีคนยอมทุ่มให้อลิซจริงๆ” เธอแย้งเสียงอ่อน

“น่านะ พี่เรนทร์ ให้สาส่งให้เพื่อน ถ้าเขาไม่สนใจ เราก็ไม่ได้เสียอะไร เกิดเขาสนใจ อลิซจะได้ช่วยพี่เรนทร์หาเงินได้ พวกนี้เงินดีนะพี่เรนทร์”

“พี่ไม่หากินกับลูกพี่ อลิซเพิ่งขวบเดียว เอาไว้แกอายุสักยี่สิบค่อยมาว่ากัน ตอนนี้พี่ไม่ให้อลิซต้องไปลำบากหรอก แกอยู่ที่นี่ก็ดีอยู่แล้ว พี่เลี้ยงได้สบาย”

“ก็ได้ค่ะ” หม่อมราชวงศ์ชนิสาจำใจรับคำ ทว่า...

เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นในตอนสายของวันรุ่งขึ้น หม่อมราชวงศ์ชนิสายิ้มแก้มปริเมื่อเห็นว่าใครโทรมา นิ้วเรียวกดรับสายหากยังไม่ทันเอ่ยปาก คนติดต่อมาก็ชิงพูดเสียก่อน

“ยัยสา รูปเด็กผู้หญิงที่แกส่งมาเมื่อคืนตอนดึกๆ ลูกใครยะ น่ารักเป็นบ้า เห็นแล้ว ฉันหลงเลยนะ”

หม่อมราชวงศ์ชนิสายิ้มกว้าง สำเร็จตามแผน

“หลานฉันเอง ตัวจริงน่ารักกว่าในรูปมากๆ เลยนะ สนมั้ยล่ะ”

“สนสิ โคตรสนเลย ที่บริษัทฉันเพิ่งรับทำโฆษณาเสื้อผ้าเด็กพอดี กำลังนั่งคิด Concept ตามที่ลูกค้าต้องการอยู่ เห็นหน้ายัยหนูนี่แล้ว ไอเดียฉันบรรเจิดเลย ทำงานจบครบถ้วน เสร็จแล้วก็รีบโทรหาแกนี่แหละ”

“ดีมาก”

“แล้วนี่หลานแกอยู่บ้านรึเปล่า ฉันจะรีบซิ่งไปหา”

“อยู่บ้าน แต่ไม่ต้องมา ถึงมาก็ไม่เจอ”

“ทำไมยะ”

“หลานฉันคนนี้อยู่เมืองนอก แกอยากได้หลานฉันไปถ่ายโฆษณา แกจะยอมส่งตั๋วเครื่องบินไปกลับให้มั้ยล่ะ ตั๋วสามใบเพราะผู้ใหญ่สอง เด็กหนึ่ง”

“หลานแกอยู่ประเทศไรวะ ถ้าสักแค่มาเลเซีย สิงคโปร์ พอได้ว่ะ”

“Sorry หลานฉันอยู่นิวซีแลนด์”

“เวรกรรม ค่าตั๋วไม่ถูกนะนั่น”

“ถ้าแกสู้ไม่ไหว แกก็หาเด็กอื่นมาถ่ายก็แล้วกัน ฉันแค่ส่งให้แกดู เผื่อแกอยากสู้เท่านั้น”

เชิงอรรถ

[1] แม่ซื้อ หมายถึง เทพธิดาที่คอยดูแลรักษาเด็กทารก เชื่อว่าเด็กทุกคนที่เกิดมาต้องมีแม่ซื้อประจำวันเกิดคอยดูแล เพื่อปกปักรักษาไม่ให้เด็กเจ็บไข้ได้ป่วย ส่วนมากเป็นหญิง เชื่อว่ามี 7 ตนอยู่ประจำวันได้แก่

วันอาทิตย์ ชื่อว่า ‘วิจิตรมาวรรณ’ มีหัวเป็นสิงห์ มีผิวกายสีแดง

วันจันทร์ ชื่อว่า ‘วรรณนงคราญ’ มีหัวเป็นม้า มีผิวสีขาวนวล

วันอังคาร ชื่อว่า ‘ยักษ์บริสุทธิ์’ มีหัวเป็นมหิงสา ผิวกายสีชมพู

วันพุธชื่อว่า ‘สามลทัศ’ มีหัวเป็นช้าง ผิวกายสีเขียว

วันพฤหัสบดี ชื่อว่า ‘กาโลทุกข์’ มีหัวเป็นกวาง มีผิวกายสีเหลืองอ่อน

วันศุกร์ชื่อว่า ‘ยักษ์นงเยาว์’ มีหัวเป็นโค ผิวกายสีฟ้าอ่อน

วันเสาร์ชื่อว่า ‘เอกาไลย์’ มีหัวเป็นเสือ ผิวกายสีดำ ทุกตนทรงอาภรณ์ (เสื้อผ้า) สีทอง

ในภาคอีสานหรือภาคกลางยังจัดพิธีแม่ซื้อหรือพิธีการนำเด็กทารกมาใส่กระด้งร่อน เพื่อบอกกล่าวแก่แม่ซื้อว่ามีคนรับลูกไปเลี้ยงแล้ว โดยกล่าวให้ทราบว่า ‘สามวันลูกผี สี่วันลูกคน ลูกของใคร ใครเอาไปเน้อ’

ส่วนในภาคเหนือ ‘แม่ซื้อ’ จะหมายถึงเทวดาที่คุ้มครองเด็กแรกเกิดหรือเป็นเทวดาประจำตัวทารก ซึ่งจะมี 7 นาง แต่ละนางจะมีชื่อเรียกและการแต่งกายคล้ายทางภาคกลางที่กล่าวข้างต้น

สำหรับภาคใต้ ‘แม่ซื้อ’ เป็นสิ่งเร้นลับที่อยู่ในความเชื่อของชาวบ้าน ไม่มีตัวตน จะมีฐานะเป็นเทวดาหรือภูตผีก็ไม่ปรากฏชัด ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงของทารกตั้งแต่แรกเกิดจนอายุ 12 ขวบ มีด้วยกัน 4 ตนเป็นผู้หญิงชื่อ ผุด ผัด พัด และผล แต่ในบททำขวัญเด็กของนายพุ่ม คงอิศโร หมอทำขวัญจังหวัดสงขลา กล่าวว่าแม่ซื้อมีทั้งชายและหญิงดังบททำขวัญที่ว่า ‘แม่ซื้อสี่คน ชื่อเสียงชอบกลทั้งหญิงทั้งชายเพ็ดทูล เพ็ดพล่าน เพ็ดทนเพ็ดทาน อาจารย์กดหมาย เรียกว่าปู่ตา รักษาร่างกาย แม่ซื้อผู้ชาย เร่งคลายออกมา นางกุมารี นางเอื้อย นางอี นางนาฏสุนทรี ที่เฝ้ารักษา เชิญมาแม่มา บูชาส่าหรี’

ส่วนบททำแม่ซื้อของนายปาน เพชรสุวรรณ จังหวัดนครศรีธรรมราชบอกว่า ‘แม่ซื้อ’ เดิมเป็นเทพธิดา พระอิศวรมีบัญชาให้ ‘อันตรธานหายกลายเป็นแม่ซื้อลงมารักษาทารก แม้แม่ซื้อจะถือเป็นพี่เลี้ยงทารกแต่บางครั้งก็ให้โทษ มีการแปลงเพศพันธุ์เป็นสิ่งต่างๆ หลอกหลอนให้ทารกตกใจหรือเจ็บป่วย ดังนั้น เพื่อให้ทารกหายเป็นปกติ จึงจัดพิธี ‘ทำแม่ซื้อ’ หรือ ‘เสียแม่ซื้อ’ บางครอบครัวแม้ทารกจะไม่มีอาการผิดปกติก็ยังทำพิธีดังกล่าว เพราะเชื่อว่าจะเป็นสิริมงคลแก่เด็ก

พิธี ‘ทำแม่ซื้อ’ หรือ ‘เสียแม่ซื้อ’ หมายถึงพิธีกรรมที่จัดขึ้นเพื่อให้เด็กทารกหายจากอาการสะดุ้งผวาหรือการเจ็บไข้ได้ป่วยและได้รับการดูแลรักษาด้วยดีจากแม่ซื้อ การทำพิธีมักจะทำในวันเกิดของเด็ก หากเป็นวันข้างขึ้นก็ให้ใช้วันคี่ ข้างแรมให้ใช้วันคู่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel