ตอนที่ 48 ฉันอยากเมา
ข้อความ LINE
ลอร่า : เจนวันนี้ฉันอยากเมา
หญิงสาวกด LINE ไปหาเพื่อนสนิท
เจนนิเฟอร์ : มีอะไรหรือเปล่าว่เแก
ลอร่า : เดี๋ยวคืนนี้คุยกัน !
เจนนิเฟอร์ : อืมกี่โมงดี ?
ลอร่า : สามทุ่มเจอกัน
เจนนิเฟอร์ : โอเค รู้เรื่อง
ตอนนี้ความรู้สึกของรอล่ามันช่างน้อยอกน้อยใจราวกับคนอกหัก เมื่อเห็นสายตาเย็นชาของเจ้าชายและการกระทำที่อบอุ่นของเค้ามันหายไปไหนหมด ยิ่งคิดก็ยิ่งน้อยใจนัก หญิงสาวจึงอยากระบายเธอจึงได้แชทไปนัดกับเพื่อนสนิทเพื่อปลดปล่อยความแน่นอกให้มันได้เบาลงบ้าง
"ไง "
เสียงของคิมเบอร์ลี่ทักทายลอร่าในขณะที่หญิงสาววางกระเป๋าสะพายและนั่งลงที่ทำงานประจำตำแหน่งของตัวเอง ลอร่านั้นดูเน็ตเหนื่อยและอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด
"สวัสดีค่ะพี่คิม ไม่เจอพี่คิมหลายวันเลยนะคะ ไม่ยอมไปเที่ยวด้วยกันเลย"
ลอร่าถามคิมเบอรี่ออกไปด้วยน้ำเสียงเศร้าอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้ลอร่าคนเดิมที่เคยกระปี้กระเป๋าและแจกรอยยิ้มไปทั่วคนนั้นหายไปแล้ว เหลือแต่ลอร่าคนนี้ผู้ที่กำลังเศร้าสร้อยเหมือนคนหัวใจกำลังจะแตกสลาย
"ลอร่า อย่าหาว่าพี่ละลาบละล้วงเลยนะ เธอกับเจ้าชายมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่าหืม"
คิมเบอร์ลี่ถามหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง
"หนูก็ไม่รู้ค่ะพี่คิม หนูเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดหรือว่าทำอะไรให้เจ้าชายไม่พอใจ ทำไมอยู่ๆท่านถึงเป็นแบบนี้กับหนู หนูเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะ"
ลอร่าบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและจิตใจเลื่อนลอยอย่างเห็นได้ชัด คิมเบอร์ลี่เห็นแล้วรู้สึกสงสารและเข้าใจในสถานการณ์ได้แต่ส่ายศีรษะเบาเบา
"สู้สู้นะ ขนาดพี่เองแต่งงานกับสามีอยู่กินกันมาหลายปีแล้วบางทีเราเองก็ยังไม่เข้าใจกันเลย แต่น้องกับเจ้าชายเพิ่งจะหมั้นกันยังไงก็ผ่านมันไปให้ได้นะ อย่าสนใจคนอื่นอยากฟังเสียงคนอื่นมากกว่าเสียงหัวใจของตัวเอง พี่ได้ยินคำของคนอื่นพูดถึงลอร่ามีทั้งทางที่ดีและไม่ดี จำเอาใว้นะจ๊ะมีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด แต่เราอย่าไปฟังเสียงนกเสียงกาเลยนะ ฟังเสียงหัวใจตัวเองเถอะ"
คิมเบอร์ลี่ได้แต่ปลอบและให้กำลังใจ เมื่อได้ยินแบบนี้แล้วลอร่าเองจากที่เคยเข้มแข็งกลับอ่อนแอเสียอย่างนั้น หญิงสาวร้องไห้กับฝ่ามือของตัวเองแล้วสะอื่นออกมาเบาๆ
คิมเบอร์ลี่นั้นได้จับมือของเธอออกแล้วก็เอาไหล่ของตัวเองให้ลอร่าได้เป็นที่พึ่งพิง
ตอนนี้หญิงสาวกำลังร้องไห้อยู่กับไหล่ของคิมเบอร์ลี่
"ฮือออออ พี่คิม"
"ร้องไห้เอาความอ่อนแอมันออกมาให้หมดแล้วเราก็จะแข็งแกร่งในวันข้างหน้า"
คิมเบอร์ลี่พูดพร้อมกับลูบศีรษะรุ่นน้องเบาเบาอย่างเอ็นดูพร้อมกับตบไหล่ ลอร่านั้นร้องไห้อยู่ไม่นานหญิงสาวก็ได้ถอนตัวออกมาพร้อมกับใช้มือปาดน้ำตาทั้งสองข้างพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึกลึก เสียงน้ำมูกของเธอยังเต็มอยู่ที่จมูกเสียงเธอดังอู้อี้ไปหมด
" ฮึก ! ขอบคุณพี่คิมมากนะคะ อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิดค่ะ หนูจะไม่กลัวมันอีกต่อไปแล้ว ในเมื่อหนูอยากพูดอยากอธิบายแต่เค้าไม่ยอมฟังเลยในสิ่งที่หนูพยายามจะปรับความเข้าใจกับเขาก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ล่ะค่ะ หนูคงไม่มีอำนาจอะไรที่จะไปสั่งให้เจ้าชายผู้เอาแต่ใจคนนั้นหันซ้ายหันขวาทำตามคำสั่งเราได้หรอกค่ะ ก็คงต้องปล่อยให้มันคาราคาซังต่อไปแบบนี้ หนูก็จะอยู่ส่วนหนู เขาก็จะอยู่ส่วนเขาจะไม่มีคำว่าเราอีกต่อไปค่ะพี่คิม"
ลอร่าบอกพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเมื่อน้ำตามันไม่ไหลออกจากตาตอนนี้ทำเข้มแข็งมันเริ่มจะมาแทนที่ความอ่อนแอแล้ว
หญิงสาวตั้งตัวตรงและเปิดแฟ้มเอกสารขึ้นมาในทันที "เธอจะต้องมุ่งมั่นตั้งใจกับงานที่กองอยู่ตรงหน้าเท่านั้น" จะไม่เสียเวลาคิดเรื่องผู้ชายคนนั้นอีกต่อไป เทพธิดาในใจของหญิงสาวได้บอกแล้วสายตาของเธอและสติก็ได้จดจ่ออยู่แต่กับงานที่กองอยู่ข้างหน้า
Part เจ้าชายคามิน
"หึ ! เด็กดื้อ ต้องดัดนิสัยหน่อยละ ! ต้องโดนสั่งสอนสะบ้าง ! เจ้าชายคามินพูดขึ้นหลังจากที่หญิงสาวเดินออกไปแล้ว
"ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเราจะไม่เข้ามาที่บริษัทอีก ถ้ามีงานอะไรให้แจ้งผ่านราชิตได้เลย"
เจ้าชายคามินเดินออกจากห้องทำงานตามหลังลอร่าติดๆ ตอนนี้ท่านกำลังสั่งเลขาหนุ่มของตัวเอง
"ครับเจ้าชาย"
บูรัครับคำสั่ง เมื่อเจ้าชายคามินสั่งงานเลขาเสร็จเรียบร้อยแล้วตอนนี้ท่านก็ได้กลับไปที่วังเหนือเพื่อปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่าง
ใบหน้าคมสันของเจ้าชายคามินมองไปตามถนนหนทางด้วยความคิดอะไรบางอย่างที่แน่นหัวสมองไปหมด ข้อความใน LINE นั้นมันคอยกวนใจเจ้าชายพวกนี้มากมายเหลือเกิน ไม่มีอะไรมาลบล้างข้อความนี้ออกจากหัวสมองของเจ้าชายได้เลยตอนนี้ใบหน้าหรอกกำลังเคร่งเครียดกับเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาไม่นานจนราชิตเองที่ขับรถให้กับเจ้าชายต้องรอบมองกระจกหลังจึงได้เห็นว่าเจ้าชายคามินนั้นก็ไม่ได้มีความสุขเลยหลังจากที่กลั่นแกล้งพระคู่หมั้นของตัวเอง
เจ้าชายครับอย่าหาว่าผมละลาบละล้วงนะครับราชิตตัดสินใจพูดขึ้นในขณะที่อยู่กันสองคนบนรถโดยมีเขาเป็นคนขับให้กับเจ้าชายผู้สูงศักดิ์
เจ้าชายคามินยกมือขึ้นเป็นเชิงปรามว่าเรื่องนี้ราชิตไม่ควรจะเอ่ยอะไรอีกแต่ทหารราชองครักษ์คนสนิทคนนี้กลับพูดขึ้นอีกโดยไม่สนใจคำสั่งของเจ้าชายเลยแม้แต่น้อย
"บูรัคบอกกับกระหม่อมว่าตอนที่คุณลอร่าเธอเดินออกมาจากห้องทรงงานของเจ้าชายเธอร้องไห้ออกมา"
ราชิตตัดสินใจพูดขึ้นโดยไม่ฟังคำทัดทานของเจ้าชายเลยเพราะราชิตอยากให้เจ้าชายมีความสุขและปรับความเข้าใจกันกับพระวรชายาของตัวเอง
เมื่อได้ยินแบบนี้แล้วเจ้าชายจึงละสายตาจากท้องถนนหันไปสบตากับราชิตที่กระจกมองหลังในทันที แว๊บแรกคือเจ้าชายคามินนั้นตกใจมากรู้ตัวเองว่าเล่นใหญ่เกินไปจนทำให้หญิงสาวต้องเสียน้ำตา แต่เวลาต่อมาเจ้าชายคามินกลับคิดได้ว่านี่มันยังน้อยเกินไปกับผู้หญิงที่เอาแต่ใจไม่เคยฟังเหตุผลอย่างเธอและได้ดูหมิ่นและหยามเกียรติเจ้าชายอย่างเขาเปรียบเสมือนของตายของเล่นของเธอก็ไม่ปาน
"เจ้าชายจะไม่ทรงพูดหรือแสดงความคิดเห็นอะไรหน่อยเหรอครับ"
ราชิตถามย้ำเจ้าชายจึงได้ขยับริมฝีปากงามของตัวเองบอกกับทหารคนสนิท
"ขับรถกลับวังเหนือ...นี่แหละคือสิ่งที่เราต้องการ"
เจ้าชายบอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและดุดันบ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์ที่ราชิตบังอาจละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของท่าน
"มันสมควรแล้วแหละที่เธอจะต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้าง ในเมื่อเธอมองไม่เห็นคุณค่าในตัวเรา เราเองก็จะมองไม่เห็นคุณค่าและความสำคัญของเธอเช่นเดียวกัน"
เจ้าชายได้แต่คิดในใจตัวเองอย่างยิ่งผยอง...
