ตอนที่ 47 เจ้าชายผู้เย็นชาและเเข็งกระด้าง
เมื่อมาถึงบริษัทหญิงสาวก็ขับรถไปจอดประจำที่ก่อนที่จะคว้ากระเป๋าสะพายข้างแล้วขึ้นไปชั้นบนของท่านประธาน ตอนนี้หญิงสาวข้องใจมากคิดยังไงก็คิดไม่ตกอยากจะถามเจ้าชายให้รู้เรื่องว่าเค้าโกรธอะไรเธอถึงได้เมินเฉยกันถึงเพียงนี้
เมื่อมาถึงที่บริษัทหญิงสาวก็เดินเข้าไปที่บริษัทและเธอก็ได้เจอกับเจ้าชายคามินซึ่งท่านเองก็กำลังเข้าออฟฟิศเช่นเดียวกัน สายตาของหญิงสาวอยากจะเข้าไปถามและพูดคุย แต่ฝั่งเจ้าชายคามินนั้นเมื่อสบตากับเธอแล้วเจ้าชายก็เบือนหน้าหนีในทันที ท่านเมินเฉยเธอและทำท่าทางเย็นชาใส่อย่างไม่ใยดีราวกับว่าเธอไม่มีตัวตน
เมื่อเห็นอาการแบบนี้ของเจ้าชายแล้วหญิงสาวถึงกับชาไปทั้งตัว ใบหน้าร้อนผ่าว หน้าแตกกลางบริษัท เมื่อเธอส่งสายตาหวานซึ้งให้กับเจ้าชาย แต่ท่านกลับเมินแล้วเดินหนีเธอในทันทีพร้อมด้วยทหารคนสนิทนั่นก็คือราชิตนั้นเอง
ราชิตอยากเข้าไปถามและพูดคุยกับลอร่าให้รู้เรื่องว่าเจ้าชายและหญิงสาวกำลังโกรธและงอนอะไรกันอยู่ ราชิตนั้นอยากจะเข้าไปอยู่ตรงกลางแล้วสมานแผลให้ทั้งสองฝั่งพูดคุยกันอย่างลงตัวและปรับความเข้าใจกัน แต่ดูเหมือนกับว่าความตั้งใจของราชิตจะไม่ได้ผลเลยเมื่อเจ้าชายคนนี้ ตอนนี้กำลังใจแข็งราวหินผา ไม่ยอมลดลาวาศอกให้กับพระวรชายาเลยแม้แต่น้อย
เมื่อเจ้าชายคามินเดินหนีไปแล้วหญิงสาวยังคงยืนตัวแข็งทื่ออยู่กลางบริษัทคนทั่วไปที่เดินผ่านไปมาก็ได้แต่มองหญิงสาวที่ยืนตัวแข็งอยู่กลางบริษัทอย่างดูถูกดูแคลน เจ้าชายคามินทำราวกับว่าเธอไม่มีตัวตน ทุกคนต่างก็ได้แต่ซุบซิบนินทาลอร่าว่าเธอนั้นถูกเจ้าชายคามินเขี่ยทิ้งแล้วในตอนนี้
เมื่อตั้งสติได้หญิงสาวก็รีบวิ่งตามเจ้าชายไปในทันที ยังไงเธอกับเขาวันนี้ต้องปรับความเข้าใจกันและคุยกันให้รู้เรื่องว่าเค้าโกรธอะไรเธอ เมื่อคิดได้ดังนี้หญิงสาวเลยก้าวเท้ายาวยาวและในที่สุดก็วิ่งตามเจ้าชายไป
เมื่อเธอตามเจ้าชายทันแล้วตอนนี้เจ้าชายนั้นอยู่ในลิฟของผู้บริหารลอร่านั้นไม่ลังเลใจเลยที่จะวิ่งเข้าไปในลิฟของผู้บริหาร แต่ยังไม่ทันที่ลิฟท์จะออกเสียงของเจ้าชายคามินก็ดังขึ้นด้วย น้ำเสียงที่ดุดัน
"เป็นพนักงานไม่รู้หรือยังไงว่าที่ตรงนี้ใช้ได้เฉพาะผู้บริหารระดับสูงและลูกค้าคนสำคัญเท่านั้นทำงานมาที่นี่ก็นานมากแล้วนะยังต้องให้บอกอีกเหรอว่าเธอจะต้องใช้ลิฟท์ตัวไหน !?
เจ้าชายเอ่ยกับเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชาดุดันไม่มีอีกแล้วผู้ชายอบอุ่นนุ่มนวล เมื่อได้ยินแบบนี้แล้วราชิตจากที่กำลังก้มหน้าทำความเคารพอยู่ชายหนุ่มแหงนหน้าขึ้นมามองเจ้าชายสลับกับลอร่าไปมา
ราชิตนั้นสงสารหญิงสาวมาก ตอนนี้ดวงตากลมโตของสาวสวยผู้นี้กำลังมีน้ำตาเอ่อล้นขึ้นมาด้วยความเสียใจ ลอร่านั้นเมื่อได้ยินแบบนี้แล้วเธอก็เสียใจมากเธอไม่คิดเลยว่าเจ้าชาจะพูดเจ้าชายจะพูดกับเธอเย็นชาถึงเพียงนี้
ในเมื่อเจ้าชายเป็นคนบอกเองว่าเมื่ออยู่ด้วยกันสองคนจะต้องแทนตัวเองว่าพี่และน้องตลอดวันนี้ท่านกลับเรียกเธอว่าเธอมันช่างเป็นสรรพนามที่ห่างเหินเสียเหลือเกิน นี่เค้ากำลังทำให้เธอหัวใจหล่นตุ๊บไปอยู่ที่ตาตุ่มเป็นครั้งที่สองเมื่อได้ยินแบบนี้แล้วหญิงสาวจึงเดินถอยหลังสามก้าวเพื่อที่จะออกจากลิฟนี้
หญิงสาวจ้องไปที่ดวงตาคมของเจ้าชายคามินสายตาของเธอเต็มไปด้วยคำถามแต่เจ้าชายคามินนั้นกลับไม่สบตา ท่านกลับเมินมองไปที่ผนังลิฟท์มากกว่าที่จะมองเธอด้วยซ้ำแล้วลิฟก็ปิดลงและก็พุ่งทะยานขึ้นไปที่ห้องผู้บริหารในทันที
หญิงสาวได้แต่ยืนตัวแข็งหน้าลิฟของผู้บริหารแล้วเสียงเซ็งแซ่ดของพนักงานก็ซุบซิบนินทาดังมาเป็นระยะๆ
"นี่เธอกำลังหน้าแตกเป็นครั้งที่สองของวันนี้แล้วสินะ เจ้าชายกำลังเมินใส่เธอทำกับว่าเธอไม่มีตัวตนอีกแล้ว "
หญิงสาวได้แต่เศร้าและสุดท้ายก็เดินคอตกไปขึ้นลิฟต์ของพนักงาน ลอร่านั้นได้แต่เงยหน้าแหงนหน้าขึ้นสูงเพื่อให้น้ำตามันไหลกลับเข้าไปดังเดิม หญิงสาวไม่อาจให้น้ำตามันไหลลงมาได้เธอไม่อยากเป็นผู้แพ้ เธอไม่อยากเป็นผู้ที่อ่อนแอเลย
ในตอนนี้เพราะทุกสายตาคนที่ยืนอยู่ในลิฟกำลังจับจ้องมาที่เธอ เมื่อทุกคนออกไปในลิฟจนหมดแล้วตอนนี้เหลือแต่เธอเพียงผู้เดียวที่จะขึ้นไปที่ห้องท่านประธานใหญ่ และในที่สุดตอนนี้เธอก็ได้มาถึงหน้าห้องท่านประธานเป็นที่เรียบร้อย
"พระวรชายามาหาเจ้าชายเหรอครับ?
บูรัคถามหญิงสาวขณะที่ชายหนุ่มเห็นลอร่าออกมาจากลิฟท์
"ใช่ค่ะ เจ้าชายอยู่ในห้องใช่ไหมคะ" ลอร่าถาม
"ครับ เจ้าชายเพิ่งมาถึงเมื่อสักครู่นี้เองคุณลอร่าจะให้ผมเรียนเจ้าชายก่อนไหมครับ ? หญิงสาวพยักหน้าเบาเบาด้วยท่าทางเหงาง๋อยจนเห็นได้ชัด
"ทูลฝ่าบาทพระวรชายาค่ะขอเข้าพบครับ"
บูรัคได้โทรเข้าไปบอกเจ้าชายคามินภายในห้องทำงาน
"วันนี้เราไม่ว่าง ถ้าใครต้องการจะเจอเราต้องแจ้งล่วงหน้าและแจ้งเรื่องที่จะขอเข้าพบด้วย ไม่ใช่สุ่มสี่สุ่มห้าก็จะเข้าพบได้ทุกคน อ้อ ! อีกอย่างนะบูรัคที่นี่เป็นที่ทำงานไม่ต้องเรียกเธอว่าพระวรชายาอีกต่อไปแล้ว เพราะเธอคือพนักงานคนหนึ่งไม่มีอภิสิทธิ์ใดใดเหนือคนอื่นเข้าใจไหม !?
เมื่อพูดจบเจ้าชายก็วางสายไปในทันที เจ้าชายได้ส่งเสียงคำรามบอกบูรัคผ่านโทรศัพท์อินเตอร์คอมซึ่งมันเปิดโฟนทำให้หญิงสาวได้ยินเต็มสองรูหู
บูรัคเองก็ได้แต่สงสัยว่าเมื่อแต่ก่อนเจ้าชายเป็นคนสั่งให้เรียกหญิงสาวว่าเพราะวรชายา แต่วันนี้คำสั่งกลับเปลี่ยนไปอีกแบบ ตอนนี้เลขาหนุ่มเองก็เริ่มสับสนกับคำสั่งของเจ้าชายคามินเสียแล้ว
"เอ่อ.... "
บูรัคนั้นได้แต่พูดจาติดขัดไม่กล้าเอื้อนเอ่ยอะไรออกไปอีกเลย ได้แต่อ้ำอึ้งจนลอร่ายกมือขึ้นเป็นเชิงบอกว่าไม่ต้องพูดอะไรอีกต่อไปแล้ว
"ไม่เป็นไรค่ะคุณบูรัคทำหน้าที่ของตัวเองไปเถอะค่ะเดี๋ยวดิฉัน เข้าไปเคลียร์เอง "
เมื่อพูดจบลอร่าก็เปิดประตูเข้าไปที่ห้องทำงานของเจ้าชายเจ้าชายคามินซึ่งนั่งหันหลังให้กับประตูทางเข้าถึงกับกระตุกยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์
"หึ ! มาแล้วสินะ"
"ฉันทำอะไรให้คุณไม่พอใจหรือเปล่า ?
เมื่อร่างบางของรอล่าเดินเข้ามาหญิงสาวก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงเธอตัดสินใจถามเค้าไปในที่สุดด้วยความอยากรู้เธอจะได้ปฎิบัติตัวถูกในอนาคต
"ที่นี่เป็นที่ทำงาน จะไม่มีการพูดถึงเรื่องส่วนตัวและอีกอย่างเมื่อสักครู่นี้เราได้แจ้งเลขาของเราไปแล้วว่าเราไม่รับแขก ถ้าใครต้องการเข้าพบให้นัดล่วงหน้าไม่ใช่เดินสุ่มสี่สุ่มห้าเข้ามาแบบนี้มันแสดงถึงความไม่มีมารยาทหรือว่าเธอไม่อยากฝึกงานให้จบแต่อยากโดนไล่ออกอย่างนั้นนั่นเหรอ ?
เสียงทรงอำนาจของเจ้าชายดังขึ้นเบื้องหน้าของหญิงสาว เจ้าชายพูดและยังนั่งเก้าอี้ที่เดิมโดยหันหลังให้กับหญิงสาว
"ก็ได้ ถ้ายังงั้นตอนนี้เป็นเวลางานดิฉันจะไม่คุยเรื่องส่วนตัวก็ได้ ดิฉันจะกลับออกไปก่อน ถ้าคุณพร้อมและอยากจะคุยกับฉันเมื่อไหร่ก็ LINE มาแล้วกัน "
เมื่อพูดจบหญิงสาวก็เดินหันหลังกลับในทันทีเมื่อได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงกำลังเดินออกไปเจ้าชายคามินจึงได้พูดขึ้น
"อย่างแรกถ้าเธอไม่อยากให้เลขาของเราตกงานเธออย่าถือวิสาสะเข้ามาภายในห้องท่านประธานโดยพละการแบบนี้อีก !!
"อย่างที่สอง เราจะไม่มีทางโทรหรือ LINE หาเธออีกเพราะระหว่างเราและเธออยู่คนละตำแหน่งหน้าที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดใดในงานเลยเพราะฉะนั้นเราไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะติดต่อกับเธอ แต่ถ้าเธอต้องการติดต่อกับเราเรื่องงานก็ให้ติดต่อผ่านเลขาและไม่ต้องมาบอกกับเราให้ LINE หาเธออีกนะเพราะต่อไปนี้จะไม่มีอีกต่อไปแล้วเชิญกลับไปทำงานได้ !!
ตอนนี้ลอร่าซึ่งกำลังเดินมุ่งหน้าออกจากห้องทำงานนี้ไปหญิงสาวหยุดเดินเพื่อที่จะฟังคำสั่งจากเจ้าชาย เมื่อได้ยินคำประกาศที่ศักดิ์สิทธิ์ออกจากปากเจ้าชายผู้นี้แล้วหญิงสาวถึงกับกำหมัดแน่นด้วยความโกรธและน้ำตาใสๆก็ไหลออกมาจากตา หญิงสาวใช้มืออีกข้างปาดมันออกไปแล้วก็มุ่งหน้าเดินตรงออกจากห้องนี้ไปด้วยหัวใจที่เจ็บปวด
"ทำไมเค้าถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เพราะผู้หญิงสวยคนนั้นใช่ไหม ?
นี่คือคำถามที่อยู่ในใจของหล่อน
"ก็ได้ในเมื่อไม่อยากจะคุยต่อไปนี้ฉันก็จะไม่มาเจอคุณอีก !
หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาก่อนที่จะเดินกระแทกเสียงออกไปจากห้องทำงานของเจ้าชาย ถึงเเม้เธอจะพูดเบาๆแต่เจ้าชายกลับได้ยินมันอย่างชัดเจน
เมื่อหญิงสาวเดินออกมาบูรัคนั้นก็ได้แอบสังเกตอยู่แล้วและชายหนุ่มก็ได้เดินไปกดลิฟต์ให้กับหญิงสาวที่เพิ่งเดินออกมาพร้อมกับน้ำตา เมื่อเห็นแบบนี้แล้วเลขาหนุ่มไม่สบายใจมาก เมื่อหญิงสาวขึ้นลิฟท์ไปแล้วบูรัคโทรไปรายงานกับราชิตทันที
