ตอนที่ 41 ฉันมีคู่หมั้นแล้วคะ !
นับจากวันนั้นเป็นต้นมา เจ้าชายคามินก็คืนตำแหน่งเดิมให้กับรอล่าและยังออกประกาศขอให้ทุกคนปฏิบัติกับหญิงสาวเหมือนเดิมไม่มีตำแหน่งใดใดเกี่ยวข้องนอกจากผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด
เจ้าชายคามินทำตามความประสงค์ของหญิงสาวทุกประการและไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของเธออีกเลย จะมีบ้างที่พนักงานแอบเกรงหญิงสาวเพราะกลัวในอำนาจบารมีของเจ้าชาย แต่ลอร่านั้นก็ได้ปฏิบัติกับคนอื่นอย่างเท่าเทียมและเป็นกันเอง
คนในบริษัทนั้นต่างก็ชื่นชมหญิงสาวที่ไม่ถือตัวทุกคนต่างก็รักและชื่นชอบรอล่ากันเลยทีเดียว ทุกคนต่างก็ชื่นชมหญิงสาวว่าเหมาะสมกับเจ้าชายคามินเป็นอย่างมากทั้งสวย เก่ง ฉลาดและที่สำคัญยังเป็นกันเองกับประชาชนเหมาะสมกับพระราชินีในอนาคตเป็นอย่างมาก
และแล้ววันนี้วันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงวันที่บริษัทพาพนักงานไปท่องเที่ยวและมีกิจกรรมทางการกีฬาเพื่อละลายพฤติกรรมของพนักงาน
หลังจากที่พนักงานทุกคนเข้าไปในโรงแรมซึ่งโรงแรมแห่งนี้ก็อยู่ในเครือของเจ้าชายคามินเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ (อีกเหมือนเดิม)
หลังจากที่ทุกคนเก็บข้าวของในห้องของโรงแรมเรียบร้อยทุกคนก็ได้เปลี่ยนชุดเป็นชุดนักกีฬาโดยแบ่งออกเป็นสองฝ่ายนั้นก็คือฝ่ายทีมสีฟ้าและทีมสีชมพู
วันนี้ลอร่าได้นอนคนเดียวเนื่องจากพี่คิมขอสละสิทธิ์ไม่มาเที่ยวด้วยเพราะติดขัดเรื่องลูกและสามี
ลอร่าเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างตื่นเต้นที่จะได้แข่งกีฬาอย่างสนุกสนานภายในวันนี้ และไฮไลท์เด็ดที่สุดของงานนี้นั่นก็คือประกวดดาวเดือนของบริษัท คนที่ประกวดดาวชนะคนนั้นจะได้เต้นรำกับเจ้าชายคามิน ส่วนคนที่ประกวดเดือนชนะก็สามารถเลือกได้ว่าอยากจะเต้นรำกับใครก็ได้ สามารถเลือกได้ตามอำเภอใจและที่สำคัญที่สุดคนที่ชนะดาวและเดือนของบริษัทจะได้รางวัลเป็นรถยนต์หรูมูลค่าหนึ่งล้านบาท
"ขอให้นักกีฬาทุกคนแข่งขันกันตามกฎกติกามารยาท ด้วยความซื่อสัตย์ การแข่งขันกีฬาในวันนี้เป็นการละลายพฤติกรรมสำหรับใครที่ชื่นชอบใครและไม่ชื่นชอบใครในวันนี้หากอยู่ในทีมเดียวกันทุกคนจะต้องสามัคคีปองดองเพื่อชัยชนะ "
นั่นคือพิธีกรผู้กล่าวเปิดงานหลังจากที่เจ้าชายคามินตัดริบบิ้นแล้ว
"เข้าใจครับ///เข้าใจค่ะ"
ทุกคนได้แต่ตบมือและเสียงเฮฮาก็ดังขึ้น เสียงหวีดร้องขึ้นทั้งผู้ชายและผู้หญิงอย่างมีความสุขทุกคนดูตื่นเต้นกับงานวันนี้มากรวมถึงลอร่าด้วย
การแข่งขันอย่างแรกซึ่งเป็นไฮไลท์ของงานนี้นั่นก็คือฟุตบอล มีแขกกิตติมศักดิ์ร่วมลงแข่งด้วยนั่นก็คือเซริม อยู่ฝ่ายสีฟ้าและมีปีเตอร์ซึ่งเป็นน้องชายอยู่ฝ่ายสีชมพู (งานนี้ต้องบอกก่อนนะคะว่ามีทั้งพนักงานและมีบริษัทคู่ค้าร่วมด้วย)
เสียงสัญญาณนกหวีดดังขึ้นบ่งบอกว่าการแข่งขันกำลังจะเริ่มขึ้นตอนนี้นักกีฬาทั้งสองฝ่าย เข้ามายืนในสนามก่อนที่จะหันหน้าเข้าหากันและทำความเคารพกันตามกฎกติกามารยาท
หลังจากนั้นนักกีฬาทั้งสองฝ่ายก็เข้าประจำที่ก่อนที่กรรมการจะให้สัญญาณแล้วเตะลูกบอล ทั้งสองทีมนั้นแข่งกันลุกแข่งกันรับเชียร์ leader ที่เชียร์กันข้างสนามก็ได้แต่กรี้ดและหวีดร้องตามจังหวะการลุกรับตามทีมของตัวเอง
การแข่งขันผ่านไปฝ่ายสีฟ้าเป็นฝ่ายชนะนั่นก็คือเซริมเพราะเขาเตะเข้าถึงสามลูก ส่วนปีเตอร์ที่เป็นน้องเตะเข้าแค่ลูกเดียว เชียร์ leaderที่คอยเชียร์อยู่ข้างสนามจะเสียงดังสนั่นมากเมื่อเซลิมเป็นผู้ครองลูก
กรี้ดดดด !!!!
เซลิมสู้ๆ !!!!
ในขณะที่ชายหนุ่มเตะฟุตบอลไปเค้าก็ได้หันไปมองลอร่าเป็นระยะหญิงสาวนั้นไม่รู้ตัวเลยว่าเธอนั้นน่ารักเกินไปแล้ว เพราะหญิงสาวเป็นกองเชียร์อยู่ข้างสนามและวันนี้ลอร่าก็อยู่ทีมสีฟ้าอยู่ทีมเดียวกันกับเซริมถ้าจะไม่ให้หญิงสาวเชียร์ฝ่ายของตัวเองก็ยังไงอยู่หญิงสาวนั้นเชียร์ทุกคน แต่เซลิมนั้น คิดเข้าข้างตัวเองว่าหญิงสาวจงใจเชียร์เค้าเซริมได้แต่หัวใจพองโตและที่เค้ามาวันนี้ก็เพราะชายหนุ่มสนใจในตัวของอร่านั่นเอง
เค้าไม่รู้เลยว่าเธอนั้นเป็นพระคู่หมั้นของเจ้าชายคามินเพราะปีเตอร์น้องชายไม่ได้บอกไว้เลย เซลิมจึงคิดว่าลอร่านั้นยังโสดอยู่
หลังจากที่นักกีฬาแข่งขันกันเสร็จเรียบร้อยแล้วตอนนี้ทุกคนก็ได้วิ่งมาที่สแตนสีของตัวเองเชียร์รีดเด้อและกองเชียร์ ได้วิ่งมาถ่ายรูปกันกับเซริม บรรดาสาวโสดส่วนใหญ่ก็ได้ขอถ่ายรูปกับนักธุรกิจคนดังนั่นก็คือเซริม ชายหนุ่มนั้นเป็นกันเองมากๆจนบรรดาสาวโสดทั้งสาวแท้สาวเทียมต่างก็กรี๊ดในความหล่อและน่ารักของเซริมแทบไม่แตกต่างจากเจ้าชายคามินเลย
"ลอร่ามาถ่ายด้วยกันสิ"
นานาเป็นเพื่อนในแผนกเดียวกันดึงแขนให้ลอร่าเข้ามาร่วมเฟรมถ่ายรูปกับเซริมด้วย ชายหนุ่มได้แต่ยิ้มอ่อนให้กับรอล่าแล้วก็ส่งยิ้มไปที่กล้องมือถือโทรศัพท์
ทุกคนนั้นได้แต่ขอถ่ายรูปกับเซริมแล้วอัพลงโซเชียลในทันที ราวกับว่าชายหนุ่มนั้นเป็นดาราดังก็ไม่ปาน เซริมอยากจะขอถ่ายภาพคู่กับรอล่าแต่ก็ไม่กล้า
"คุณเซริมเก่งจังเลยค่ะ ยิงได้ตั้งสามลูกแน่ะ"
นานาชื่นชมเซริมชายหนุ่มได้แต่ยิ้มกับคำเอ่ยชม
ลใช่ค่ะเท่มากๆเลย ยิ่งตอนฟรีคิ๊กนะคะคือแบบมันแรมากเลยค่ะ "
ดาวนี่ได้จีบปากจีบคอพูดขึ้นอีกคน
"ไม่ขนาดนั้นมั้งครับ"
เซริมขยับริมฝีปากพูด แค่เค้าพูดแค่ไม่กี่คำหญิงสาวหลายๆคนที่ยืนอยู่ในที่แห่งนี้มองไปยังชายหนุ่มก็ได้หวีดร้องขึ้นมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ดังมากจนแสบแก้วหู เพื่อนของรอล่าหลายคนตอนนี้ก็ได้ทิ้งเธอแล้วเพราะทุกคนไปรวมกันอยู่แต่กับเซริม
หญิงสาวจึงค่อยค่อยเบี่ยงตัวออกมา จนในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเดินไปเล่นที่สวนด้านหลังของโรงแรม หญิงสาวเดินไปเกือบจะลับสายตาแล้วเซริมเหลือบไปเห็นจึงได้ขอตัวแล้วรีบตามลอร่าออกไป
"ผมต้องขอโทษสาวสาวทุกคนด้วยนะครับ ผมขอไปพักก่อนนะครับ"
ชายหนุ่มพูดขึ้นก่อนที่จะวิ่งตามลอร่าออกไป
"สวัสดีครับคุณลอร่า"
เสียงของเซริมดังขึ้นจากทางด้านหลังหญิงสาวจึงหันหลังกลับไปมอง
"เอ่อ .. สวัสดีค่ะคุณเซลิม"
หญิงสาวทักทายชายหนุ่มอย่างเสียไม่ได้เธอตั้งใจจะเดินไปคนเดียวแท้แท้แต่เขากลับเห็นแล้วตามมาซะนี่ เฮ้อ....หญิงสาวคิดในใจ
"ไม่เจอกันนานเลยนะครับ"
ชายหนุ่มพูดขึ้นเพราะว่าไม่ได้เจอกันจริงๆตั้งหลายเดือน
"คะ "
หญิงสาวยังคงตอบทีละคำ
"ไม่สนุกเหรอครับทำไมเดินมาที่นี่คนเดียวล่ะ"
"ก็ที่ฉันต้องเดินมาที่นี่คนเดียวก็เพราะคุณนั่นแหละค่ะ"
หญิงสาวค้อนเข้าให้
"เพราะผมอย่างนั้นนั่นเหรอ?
เซริมพูดพร้อมกับชี้ไปที่หน้าอกของตัวเอง ชายหนุ่มไม่เข้าใจในเหตุผลที่หญิงสาวบอกเลยจริงๆ
"คุณไม่รู้ตัวอีกเหรอคะว่าคุณน่ะฮอตปรอทแตตกขนาดไหน ! ยิ่งถ้าคุณมาคุยส่วนตัวกับฉันแบบนี้ฉันโดนพวกแม่สาวสาวพวกนั้นแหกอกกันพอดีค่ะ"
รอล่าพูดแล้วก็หัวเราะออกมานิดหน่อยเมื่อได้ยินแบบนี้แล้วเซริมถึงกับหัวเราะลั่น
"55555555555 จริงเหรอครับ...ผมไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย "
รอล่าเองก็ได้แต่อมยิ้มแล้วส่ายศีรษะเบาเบา
"รู้สึกว่าครั้งนี้คุณลอร่าคุยกับผมมากขึ้นกว่าเดิมนะครับ ไม่เหมือนเมื่อก่อนเลย ถามคำตอบคำตอนนี้ยังรู้จักเเซวผมแล้ว"
"ก็เจอกันหลายครั้งแล้วนี่คะ"
"อย่างนี้ไม่ถือว่าเป็นคนแปลกหน้าแล้วใช่ไหมครับ?
เซลิมสวนขึ้นมาในทันที
"คงงั้นมั้ง"
รอล่ายิ้ม
"แล้วนี่คุณจะเดินไปไหนครับ ?
"เดินไปเรื่อยๆเปื่อยๆค่ะ พอดีเห็นน้องพนักงานโรงแรมบอกว่าด้านหลังของโรงแรมมีน้ำตกธรรมชาติไหลลงมาจากภูเขาฝั่งโน้น สวยงามมากก็เลยอยากจะเดินไปดูค่ะแต่ก็ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนก็เลยเดินไปเรื่อยเรื่อยค่ะเค้าชี้มาทางนี้เดี๋ยวไม่นานก็คงจะเจอเอง"
หญิงสาวบอกพร้อมกับยิ้มน้อยๆ
"คุณลอร่าจะรังเกียจมั้ยครับถ้าผมจะเดินไปเป็นเพื่อน?
หญิงสาวไม่พูดอะไรเธอได้แต่ยิ้มอ่อนแล้วก็เดินตรงไปยังจุดที่พนักงานบอกว่ามีน้ำตกเซริมเองจึงได้เดินไปพร้อมกับหญิงสาว ด้วยหัวใจที่พองโต
"คุณลอร่าเป็นคนที่นี่เลยหรือเปล่าครับ?
เมื่อเดินคู่กันไปแล้วเซลิมจึงถามขึ้นมาเพื่อทำลายความเงียบ
"จะว่าอย่างนั้นก็คงได้มั้งคะ"
"ถ้าเกิดว่าผมอยากจะไปเที่ยวที่ไมคาด้าไม่ทราบว่าคุณพอที่จะเป็นไกด์กิตติมศักดิ์ให้กับผมได้ไหมครับ?
"ดิฉันคงไม่สะดวกค่ะต้องขอโทษด้วย"
หญิงสาวตอบในทันทีโดยไม่คิดอะไรเลย
"ไม่คิดสักนิดหน่อยเหรอครับ "
"ทำไมต้องคิดด้วยคะในเมื่อคำตอบชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่ได้ดิฉันก็ต้องปฏิเสธไปในทันทีและดิฉันเองก็ไม่ชอบให้ความหวังกับใครค่ะ เพราะเมื่อให้ความหวังกับเขาแล้วแล้วไปทำลายมันทีหลังมันจะทำให้คนนั้นเจ็บปวดและเสียความรู้สึกนะคะเพราะฉะนั้นดิฉันปฏิเสธไปในตอนแรกเลยจะดีกว่าค่ะ เพราะฉันไม่ชอบให้ความหวังลมๆแล้งกับคนอื่น"
หญิงสาวตอบอย่างมีนัยยะสำคัญเซริมนั้นได้แต่สงสัยว่าสิ่งที่หญิงสาวกำลังบอกมันคืออะไรกันนะ
ลอร่านั้น หยุดเดินในทันทีแล้วหันหน้าไปเผชิญกับเซริมอย่างจงใจ จนเขาเองต้องหยุดเดินแล้วหันมามองหญิงสาว
"คุณลอร่ามีอะไรหรือเปล่าครับ"
เซลิมถามอย่างคนวางตัวไม่ถูก
"ดิฉันขอถามคุณตามตรงนะคะ คุณกำลังจะจีบฉันอยู่หรือเปล่า ?
เซริมนั้นเหมือนน๊อคกับคำถามนั้นไปเลย ชายหนุ่มไม่คิดเลยว่าเธอจะได้ถามถามได้ตรงจุดขนาดนี้จนเค้าถึงกับหัวเราะ
"ฮ่าาาา นี่ผมแสดงออกชัดเจนขนาดนั้นเลยเหรอครับ"
ชายหนุ่มถามกลับออกไปพร้อมกับหัวเราะเบาๆ
"คุณตอบคำถามฉันมาดีกว่าค่ะ เพราะคำตอบของคุณอาจจะทำให้ฉันเดินไปที่น้ำตกคนเดียวก็ได้"
"นี่คุณกำลังจะปฏิเสธผมอย่างนั้นน่ะเหรอ ?
ชายหนุ่มถามอย่างไม่เข้าใจเค้าไม่เข้าใจหญิงสาวผู้นี้เลยจริงๆ ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกจนถึงวันนี้หญิงสาวยังคงปฏิเสธเขาตลอดเวลา
"ดิฉันจะปฏิเสธคุณได้ยังไงล่ะคะในเมื่อคุณไม่เคยขออะไรฉันเลย ได้โปรดตอบคำถามของฉันด้วยถ้าเรายังอยากเป็นเพื่อนกันอยู่"
"ใช่ครับผมกำลังจะจีบคุณ ผมขอสารภาพเลยว่าคุณเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์มาก เรื่องความสวยไม่ต้องกังขา คุณลอร่านั้นสวยมากสวยแบบธรรมชาติไม่ได้สวยแบบผู้หญิงพลาสติกศัลยกรรมทั่วไป ผมประทับใจตั้งแต่แรกเจอ ยิ่งได้คุยกับคุณยิ่งเป็นผู้หญิงที่ใจแข็งเด็ดเดี่ยวมันยิ่งทำให้ผมประทับใจในตัวคุณมากขึ้น คุณจะรังเกียจมั้ยครับถ้าผมจะเดินหน้าจีบคุณต่อไป?
เซริมบอกกับหญิงสาวด้วยความภาคภูมิใจและสารภาพต่อหญิงสาวอย่างสุภาพบุรุษพึงกระทำ
"ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ ฉันจะขอชี้แจงเลยนะคะว่าคุณอย่าจีบฉันเลย"
"อ้าวทำไมถึงตัดทอนผมอย่างนี้แหละครับ ผมยังไม่ได้จีบอย่างเป็นทางการเลย ทำไมปฏิเสธผมแล้วล่ะ ผมเจ็บปวดนะคครับเนี่ยะ"
น้ำเสียงของเซริมนั้นเศร้าอย่างเห็นได้ชัด
"ดิฉันมีคู่หมั้นแล้วค่ะ อีกไม่เกินสองสัปดาห์นี้ก็จะแต่งงานกันแล้วค่ะ ดิฉันหมั้นเมื่อต้นเดือนที่แล้วนี่เองค่ะ"
หญิงสาวบอกออกไปในที่สุด คำพูดของหญิงสาวนั้นทำให้เซริมรู้สึกอกหักห่อเหี่ยวในใจมากมาย เหมือนภูเขากำลังจะถล่มทับตัวชายหนุ่มก็ไม่ปานเขาไม่เคยถูกปฏิเสธเลยในชีวิต เค้าเป็นเพลย์บอยใช้หนุ่มเจ้าสำราญเปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่นและไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธเขาเลยมีแต่เธอคนนี้ที่เขาพยายามจะจีบเธอแต่ก็ยังไม่ทันจะได้จีบกลับโดนปฏิเสธเสียก่อน เขารู้สึกผิดหวังอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
"ทำไมผมเจอคุณช้ทจังเลยนะ ทำไมผมถึงไม่เจอคุณให้เร็วกว่านี้ ทำไมโชคชะตาไม่เข้าข้างผมเลย ผมขอสารภาพตามตรงเลยนะครับว่าผมไม่เคยชอบผู้หญิงคนไหนตั้งแต่แรกเจอเหมือนคุณมาก่อนเลยครับผมยังจำได้ดีวันที่เราเจอกันที่คลับ J"
ชายหนุ่มพูดพร้อมกับสบตาของหญิงสาว
"ดิฉันมีให้คุณได้แค่คำว่าเพื่อนนะคะ และไม่ว่าคุณจะเจอฉันช้าหรือเร็วฉันก็ไม่สามารถเป็นแฟนกับคุณได้หรอกค่ะ เพราะสามีในอนาคตของดิฉันฉันก็ไม่ได้หาเองเหมือนกัน มันคือความต้องการของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายและดิฉันเองไม่อาจปฏิเสธได้เลย "
หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงเรียบจนผู้ฟังดูไม่ออกเลยว่าคำพูดของหญิงสาวดีใจหรือว่าเสียใจกับการแต่งงานคลุมถุงชนในครั้งนี้
"สมัยนี้ยังมีการคลุมถุงชนอีกเหรอครับ"
เซลิมถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ
"มันยังคงมีอยู่ค่ะมันยังไม่หายไปจากโลกนี้แน่นอนค่ะ แต่จะทำยังไงได้ล่ะคะในเมื่อฉันเกิดมาแบบนี้ลูกของดิฉันในอนาคตก็คงจะไม่ต่างจากดิฉันหรอกค่ะ"
ยิ่งคิดหญิงสาวก็ยิ่งเจ็บปวดเมื่อรู้ว่าในอนาคตลูกลูกของเธอนั้นไม่สามารถเลือกสามีหรือภรรยาที่ตัวเองรักหรือชอบได้ เพียงเพราะคำว่าหน้าที่ ที่มีต่อประเทศชาติแท้แท้ที่ทุกคนจะต้องจับคลุมถุงชนเหมือนกับเธอและเจ้าชายคามิน
"โอเคครับ ถ้ายังงั้นผมก็จะเป็นเพื่อนที่ดีกับคุณ ถึงแม้ว่าผมจะหมดหวังแล้วก็ตาม "
